ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 730
ตอนที่ 730 เธอยังอ่อนเกินไป
ดวงตาของเจิ้งซิ่วหยาถูกปกคลุมไปด้วยหมอกหนา ความแข็งแกร่งของร่างกายถูกดึงออกไปจากร่างกายอย่างรวดเร็วเหมือนดินพังทลาย ความตื่นตระหนกและความสิ้นหวังกดเธอ การตอบสนองแรกคือ แม่เอ๊ย ต้องตายเพื่อประเทศชาติแล้ว
ผู้ชายดิ้นรนที่จะยืนขึ้นจากพื้นดิน เดินโซเซล้มลงบนโซฟา มือออกแรงบีบนวด แต่ข้อมือของเขามัดแน่นเกินไป ลองหลายรอบก็ล้มเหลว ผู้ชายโกรธ เตะลงไป “ตุ้บ” ถีบลงไปบนท้องของเจิ้งซิ่วหยา
อื้อ!
เจิ้งซิ่วหยาเจ็บท้อง ส่งเสียงออกมาจากลำคอ เธอใช้แรงทั้งหมดในการลืมตา บอกให้ตัวเองว่าห้ามนอน ห้ามนอน!
ผู้ชายอยากแย่งปืนพกแต่ท่าทางไม่สะดวก ในความโกรธ ก็เตะลงบนตัวของเจิ้งซิ่วหยาอีกครั้ง “แม่เอ๊ย! ฉันก็ว่าทำไมหน้าคุ้นๆ มึงเป็นตำรวจไง!”
สติของเจิ้งซิ่วหยาหย่อนยาน เธอกัดปลายลิ้นแรงๆ การรู้สึกเสียวซ่าของลิ้นของเธอทำให้เธอมีสติสุดท้ายได้ กลิ่นคาวในปากกระจายไปทั่วปาก เธอแสยะยิ้มเย็น “ปล่อยฉัน! แกกล้าแตะผมเส้นเดียวของฉัน ฉันฆ่าแกแน่!”
หัวเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ คอไม่สามารถรับน้ำหนักของหัวได้ สายตาการมองเห็นก็ลดลง แม้แต่เสียงก็เบาลงอย่างไม่สามารถควบคุมได้
เจิ้งซิ่วหยากัดริมฝีปากแน่น ความกระตือรือร้นและสัญชาตญาณของตำรวจทำให้เธอนึกถึง ในเหล้าเธอที่ยา
สัตว์ร้ายตัวนี้!
โจวจั่นด่าทอ “หัวหน้า เธอมีอันตราย!”
“สอง สาม หก ขึ้นไป!” เฉินเจาสั่งให้ตำรวจที่ซุ่มอยู่ในบาร์แอบเข้าไปที่ชั้นบนสุด ทุกคนตอบพร้อมกัน “รับทราบ” เร็วๆ นี้ เฉินเจาพูดต่อ “ล้อมรอบห้อง ดึงสัญญาณเตือนไฟไหม้”
โจวจั่นสะดุ้ง “ใช่! ดึงสัญญาณเตือนไฟไหม้! สลายฝูงชน! หัวหน้าให้ฉันเข้าไปก่อน!”
เฉินเจาดูกล้องวงจร ระงับอารมณ์ให้คงที่ ในเวลาเดียวกันเขาก็คลิกเพื่อติดตั้งปืนพก “โจวจั่น นายอย่าเพิ่งขยับ นายกับอาหยาเข้ากันได้ดีที่สุด นายรอฟังคำสั่งที่เดิม มีที่ต้องการนายมากกว่า แปด กลุ่มที่สอง เริ่ม!”
“รับทราบ!”
เจิ้งซิ่วหยาได้ยินเพียงคำสั่งทุกประเภทในหูของเธอ ทำตามคำสั่ง เสียงถกเถียง แต่เสียงมากเกินไปปะทะกัน เธอกลับแยกไม่ออกว่าพวกเขากำลังพูดอะไร
ปวดหัวเหมือนโดนค้อนทุบลงนับครั้งไม่ถ้วน ความเจ็บปวดและความมึนงงที่น่าเบื่อเคลื่อนไปมา มันกำลังจะเอาชนะเส้นลมปราณทั้งหมด
ทั้งตัวของเจิ้งซิ่วหยาเปราะบาง ในใจกลั้นแรงไว้ แต่เธอไม่สามารถใช้พลังของหมัดได้
ผู้ชายแสยะยิ้มร้าย เขาแก้มัดได้สำเร็จ หยิบปกพกขึ้นมาจากพื้น โลหะนั้นมุ่งเป้าไปที่หน้าผากของเจิ้งซิ่วหยา มืออีกข้างหยิบมือถือขึ้น “สู้กับฉัน เธอยังอ่อนเกินไป!”
โจวจั่นกระทืบเท้า “หัวหน้า! ตั้งใจสติหน่อย! เธออยู่ห้องไหน! ห้องไหน?”
ห้องชั้นบนสุดของบาร์นั้นเป็นทางโค้งไปมา อย่าน้อยก็มีหลายสิบอัน ให้หาทีละห้อง รอพวกเขาเจอคน ก็สายไปแล้ว
เจิ้งซิ่วหยาอ้าปากอย่างกินแรง “s……” เธอเพิ่งออกเสียงตัวแรกของอักขระสามตัว หมัดหนักๆ ก็ฟาดเข้าที่ศีรษะอย่างกะทันหัน!
“ตุ้ม!” ความเจ็บปวดที่แรงมากทำให้หัวของ เจิ้งซิ่วหยากระแทกกับพื้น โลกกำลังหมุนไปต่อหน้าต่อตาเธอ เจิ้งซิ่วหยากัดริมฝีปากแรงๆ คาวเลือดเปื้อนริมฝีปากแดง แต่ความเจ็บปวดแบบนี้เห็นได้ชัดว่าไม่สามารถทำให้ดึงสติกลับมาได้
“หัวหน้า! หัว……”
ป๊าป!
ฝ่ามือตบลงบนหน้า เจิ้งซิ่วหยาเพียงรู้สึกว่ามีเสียงคำรามในหูของเธอ เสียงกรีดร้องของโจวจั่นขาดหายไป เครื่องสื่อสารของเธอถูกทำลายแล้ว
เฉินเจาใจกระตุก “แย่แล้ว ตอนนี้เธอขาดการติดต่อกับพวกเราแล้ว เพิ่มความเร็ว เตะประตู!”
“ครับ!”
โจวจั่นรีบร้อนจนกัดฟันกระทืบเท้า “หัวหน้า ข้างในเป็นยังไง อีกเจ็ดคนล่ะ!”
“ตามและสกัดกั้น!” เฉินเจาออกคำสั่ง กระโดดออกจากประตู นำทีมบุกเข้าไปในทีม
วู–วู–
ทันใดนั้นเสียงสัญญาณเตือนไฟก็ดังขึ้นในบาร์ขนาดใหญ่ รีบเร่ง สัญญาณเตือนไฟไหม้ที่รุนแรงเป็นเหมือนวังวนสีดำที่รบกวนทั้งสถานที่ มีเสียงกรีดร้องโหยหวนบนฟลอร์เต้นรำของกลุ่มที่กำลังเต้นรำ เสียงกรีดร้องของผู้หญิง แก้วไวน์ โต๊ะเก้าอี้ ถาด ฝูงชนแตกแยกกระจัดกระจายวุ่นวาย
หลินซีเหวินและแพทย์คนอื่น ๆ ได้ยินเสียงเตือน เบิกตาโต มองดู “โอ้ ไม่หรอกมั้ง? ฉันมาใช้บริการที่นี่ครั้งแรก ก็เกิดไปไหม้เลยเหรอ?”
หมอซุนดื่มไปไม่น้อย ในมือยังจับลูกดอกที่ยังไม่ได้ปา บ่นอย่างเบื่อหน่าย
หลินซีเหวินสะอึก “จนถึงตอนนี้หมอถังยังไม่มีกลับ คงไม่ใช่เพราะความแรงของเหล้าแล้วเผาบาร์ของคนอื่นใช่ไหม?”
หวาเทียนเทเหล้าเข้าปาก สังเกตเห็นว่าในแก้วไม่มีเหล้าแล้ว “ทุกคน เสียงเตือนดังขนาดนี้แล้ว พวกเรากลับกันเถอะ”
หลินซีเหวินยักไหล่ หน้ามุ่ย “ผิดหวังจริงๆ ฉันยังสนุกไม่พอเลย แต่ว่า เกิดไฟไหม้ ไม่ต้องจ่ายได้ไหม? ฮ่าๆๆ!”
หวาเทียนหยิบเสื้อกันหนาวบนโซฟา “เฮอะๆ เธอฝันเหรอ ไปเถอะ ที่นี่เป็นแอลกอฮอล์นะ ถ้าเกิดไฟไหม้จริงๆ เดี๋ยวก็ไหม้ขึ้นมา ฉันยังไม่แต่งงานเลย ไม่อยู่กับทุกคนแล้วนะ”
“อ้าว! หมอหัวนายไม่จริงใจเลย! ไปไปไป ไปด้วยกัน!”
หลินซีเหวินมองซ้ายขวา ก็ยังไม่เห็นถังจิ้นเหยียน “โอ้ หมอถังดื่มจนเมาแล้วสลบในห้องน้ำหรือเปล่า? ฉันโทรศัพท์หาเขาก่อน”
หลินซีเหวินเดินออกมาและโทรศัพท์หาถังจิ้นเหยียน แต่โทรศัพท์แจ้งว่าไม่มีใครรับสาย
เจ้าของมือถือหลับตา ยืนอยู่ใต้เลขที่หลงเซียวให้เขา ชินประตูฟังเสียงข้างใน
ปั้ง!
มีบางอย่างล้มลง ทำเสียงดังโครมลงพื้น
ถังจิ้นเหยียนหมุนลูกบิดประตู แต่ว่าประตูล็อกจากด้านใน
“ปั้ง! ปั้ง!” ถังจิ้นเหยียนใช้ไหล่ชนประตู แต่ประตูไม่ขยับแม้แต่นิด
ผู้ชายที่อยู่ด้านในได้ยินเสียง สายตาน่ากลัวกว่าเดิม มือใหญ่บีบคางของเจิ้งซิ่วหยา “เธอกล้าพาตำรวจมา! ฉันเอาแกตาย!”
เจิ้งซิ่วหยาไม่มีสติ เลือดที่มุมปากค่อยๆ จางลงใต้จมูก เธอแค่หัวเราะเยาะ “เฮอะ……”
ผู้ชายดึงประกันลง ปืนสีเข้มและเย็นเฉียบกระทบหน้าผากของเจิ้งซิ่วหยา ล็อกคอของเธอด้วยแขนข้างเดียว “อยากจับฉัน? เฮอะ!”
ด้านนอก
ถังจิ้นเหยียนหยิบถังดับเพลิง เล็งไปที่ลูกบิดประตูแล้วทุบลง
“ปั้ง!”
ทุบลองสามสี่ครั้ง ลูกบิดประตูถูกเขาทุบไปด้านข้าง แผ่นหลังของถังจิ้นเหยียนเต็มไปด้วยเหงื่อ ใบหน้าที่สง่างามแดงก่ำด้วยความตึงเครียดและความโกรธ ยกถังดับเพลิงขึ้นอีกครั้ง ใช้แรงสุดท้าย
“ซิ่วหยา!”
ถังจิ้นเหยียนพังประตูเข้าไป สิ่งที่รอเขาอยู่กลับเป็นฉากเจิ้งซิ่วหยาถูกจับกุม ถังจิ้นเหยียนจับถังดับเพลิงไว้ ร่างกายแข็งทื่อ
เจิ้งซิ่วหยาไม่สามารถมองออกผู้ที่มา สายตามีเพียงเงาเหมือนหมอกภูเขาที่ห่างไกล ท่อนบนเป็นเสื้อเชิ้ตสีขาว แต่มันกลายเป็นความขาวโกลาหล ท่อนล่างเป็นกางเกงสีดำ แต่เป็นสีดำโคลนที่เละ
ผู้ชายคิ้วขมวด “นายเป็นตำรวจเหรอ?”
ถังจิ้นเหยียนสวดแว่นตาสีทอง ท่าทางอ่อนโยน ไม่เหมือนตำรวจแม้แต่นิด
“ฉันไม่ใช่” ถังจิ้นเหยียนมองเจิ้งซิ่วหยา เธอบาดเจ็บ รอยเลือดอยู่บนเสื้อผ้า หน้าผากมีรอยแผลอย่างเห็นได้ชัด เลือดเปื้อนครึ่งหน้า รอยช้ำที่หัวเข่า เหมือนสัตว์ที่ไม่มีกระดูก
เมื่อดูถึงที่นี่ถังจิ้นเหยียนเข้าใจแล้ว เธอติดพิษ
“ไม่ใช่? ก็ไสหัวไปซะ!” จู่ๆ ปืนที่อยู่ในมือของผู้ชายก็เล็งมาที่คิ้วของถังจิ้นเหยียน “มิฉะนั้น ฉันจะฆ่าแกก่อน”
ถังจิ้นเหยียนกำหมัดแน่น “ปล่อยเธอ ตัวประกันที่นายอยากได้ เอาฉันไป”
“แก? แกมองว่าฉันโง่เหรอ? ไสหัวไป!”
ถังจิ้นเหยียนทิ้งถังดับเพลิง “ฉันเป็นแฟนหนุ่มของเธอ ฉันยอมเปลี่ยนกับเธอ ปล่อยเธอ ฉันไปกับนาย”
……
“หัวหน้า! ยังไม่เจอคนของพวกเรา ผมขอบุกเข้าไป!”
ปั้ง!
โจวจั่นเพิ่งพูดจบ จู่ๆ ในบาร์ก็มีเสียงปืนดังขึ้น มีคนยิงปืนแล้ว
เฉินเจาด่า “ใครยิงปืน!”
“หัวหน้า ไม่ใช่คนของพวกเรา พวกเขาได้รับข่าว กำลังสู้กลับ ทั้งเจ็ดคนถือปืนอยู่!” ตำรวจที่รับผิดชอบการอพยพรายงานเสียงดัง ทันใดนั้นมีเสียงปืนที่บ้าคลั่งและวุ่นวายมากขึ้น เสียงกรีดร้อง
“บุกเข้าไป!”
“ครับ!”
ในห้องพิเศษ หลินซีเหวินกับหวาเทียนและคนอื่นๆ ได้ยินเสียงปืนอย่างกะทันหัน วิ่งออกไปทีละคน แต่ไม่รอให้พวกเขาวิ่งออกไปจากทางเดินยาว จู่ๆ กระสุนก็บินมาจากด้านหลัง กระสุนพุ่งทะลุตู้ปลาขนาดใหญ่ด้านหน้า กระจกแตกกระจาย ปลาทองหลากสีตกลงพื้นตามน้ำ ดิ้นรน
จู่ๆ เท้าของกลุ่มแพทย์ก็ถูกแช่แข็ง ไม่มีใครกล้าขยับ
“ใครยังกล้าหนี! จับหัว! นั่งลง!” คำขู่ของคนที่อยู่ข้างหลังเขาถูกส่งออกไปพร้อม ๆ กับกระสุน แม้จะมีฝีเท้าที่ยุ่งเหยิงและการหายใจหนัก ๆ
หลินซีเหวินแอบด่าในใจ
จับหัว? นั่งลง? บ้านแกสิ!
แตะ–
จู่ๆ ปืนก็กดเข้าที่ศีรษะ หลินซีเหวินชะงัก
“หมอหลิน อย่ากลัว อย่ากลัว” หวาเทียนนำทางไม่ให้หลินซีเหวินตกใจ แต่ต่อมาหัวของตัวเองก็ถูกปืนพกกดไว้เช่นกัน
แม่เอ๊ย”
ผ่านไปไม่ถึงครึ่งนาที เจ็ดคนจับตัวประกันแล้วเดินออกจากทางเดินใหญ่ สิ่งที่ต้อนรับพวกเขาคือตำรวจยืนถือปืนอยู่นอกประตู
หลินซีเหวินมีสติครึ่งหนึ่ง กะพริบตาปริบๆ “โอ้ ถ่ายละครเหรอ!”
“อยู่นิ่งๆ”
เธอเพิ่งพูดจบ ผู้ชายที่เหยียดศอกออกแรงกดศีรษะ เจ็บจนหลินซีเหวินมีสติกว่าเดิม
แม่เอ๊ย ไม่ใช่ถ่ายละคร เป็นของจริง
“ใจเย็นๆ! ปล่อยตัวประกัน!” เฉินเจายืนอยู่ข้างหน้าสุดของกำลังตำรวจ มือทั้งสองข้างจับปืนพกแน่น เล็งไปที่หน้าผาก ส่งสายตาเตือน หัวใจเต้นเร็ว
ผู้ชายหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “ฮ่าๆๆ! ปล่อย? นายฝันไปเถอะ!”
ปั้ง!
“อ๊าก!!”
ผู้ชายยิงปืนขึ้นไปบนเพดาน โคมไฟคริสทัลเอียงลง โซ่เหล็กขาดไปหนึ่งข้าง
หลินซีเหวินร้องเสียงดัง ขาสองข้างอ่อน แม่เจ้า……เดิมทีนึกว่าตัวเองเป็นฮีโร่ กระสุนลูกเดียวก็เผยนิสัยแท้จริงออกมา
ปากกระบอกปืนของผู้ชายที่มีควันสีขาวกดศีรษะที่สั่นเทาของหลินซีเหวิน “เฉินเจา ล้วนเป็นคนรู้จักเก่ากันแล้ว. วางปืนลง ให้คนของนายอยู่นิ่งๆ! มิฉะนั้น หัวของผู้หญิงคนนี้คงไม่อยู่แล้วนะ