ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 734
ตอนที่ 734 กำเดาไหลด้วยความตื่นเต้น
ณ บาร์โบ๋จีนฮ่านกง
เจิ้งซิ่วหยาเอามือถือของถังจิ้นเหยียนไปสอดไว้ใต้หมอนอย่างเท่ รอยยิ้มที่ใสสะอาดไม่มีเครื่องสำอางแต่กลับดูสวยเป็นธรรมชาติ“หมอถัง ตอนนี้ฉันเป็นแฟนของคุณอย่างเป็นทางการแล้วนะ ฉันมีความต้องการอย่างหนึ่งที่สมเหตุสมผล คุณต้องเติมเต็มให้กับฉัน”
เพิ่งจะขึ้นไปนั่งบนบัลลังก์ในฐานะของแฟนก็เริ่มใช้อำนาจบงการทันที เจิ้งซิ่วหยารีบใช้สอยทรัพยากรอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ไม่ให้สูญเปล่าไปแม้แต่นิดเดียว
ถังจิ้นเหยียนวางเสื้อคลุมอาบน้ำให้เธอก่อน“ได้ คุณจะให้ผมทำอะไร?”
เจิ้งซิ่วหยาใช้สองมือจับคาง ยิ้มอย่างเบิกบานสุดๆ“ไข้ของฉันเพิ่งจะหายดี ทั้งเนื้อทั้งตัวไม่มีเรี่ยวแรง ดังนั้นคุณต้องอุ้มฉันไปอาบน้ำ”
ใบหน้าของถังจิ้นเหยียนแดงขึ้นด้วยความรู้สึกเขินอาย เลนส์แว่นตาไม่ได้ช่วยปกปิดความอึดอัดของเขา“คุณใส่เสื้อคลุมอาบน้ำก่อน เดี๋ยวผมอุ้มคุณไปเอง”
“คุณหมอถัง หยุดเสแสร้งได้แล้ว เมื่อคืนสิ่งที่ไม่ควรจะมองคุณก็มองไปหมดแล้ว สิ่งที่ไม่ควรจะลูบคุณก็ลูบแล้ว ตอนนี้คุณจะมาสงวนอะไรอีก?
พวกเราอยู่กินด้วยกันมาแล้วนะ”
เจิ้งซิ่วหยาพูดอย่างสบายๆ ทั้งสองก็ใช้ชีวิตเหมือนกับสามีภรรยากันมาตั้งนานแล้ว แต่ในใจของถังจิ้นเหยียนยังรู้สึกกระดากใจอยู่ไม่น้อย
“ซิ่วหยา ตอนนี้พวกเรายังเร็วเกินไป คุณให้เวลากับผมสักหน่อยได้ไหม?”ถังจิ้นเหยียนดันๆแว่นสายตาสั้นที่อยู่บนสันจมูก สายตาไม่กล้ามองเจิ้งซิ่วหยา
แล้วก็ยิ่งไม่กล้ามองเธอที่ตั้งใจถกผ้าห่มลงต่ำเผยให้เห็นสิ่งที่ขาวบริสุทธิ์
“ฮ่าๆ!”เจิ้งซิ่วหยารู้สึกขบขันกับท่าทางเขินอายของเขา“นี่คุณหมอถัง คุณสุดได้เท่านี้เหรอ? คุณนี่จริงๆเลยนะ ทำยังไงดีล่ะ คุณหน้าแดงง่ายขนาดนี้ ฉันก็ยิ่งอยากแกล้งคุณขึ้นไปอีก คุณไม่รู้เหรอ? ว่าฉันคนนี้ชอบรังแกคนที่อ่อนแอกว่าสุดๆเลยล่ะ”
ถังจิ้นเหยียนยัดเสื้อคลุมอาบน้ำให้กับเธอ ให้เธอรีบใส่มันเร็วๆ ส่วนตนเองเบี่ยงหน้าไปทางอื่นไม่มองเธอ พร้อมเปลี่ยนเรื่องพูดขึ้น“ผมจะโทรหาพนักงานก่อน เสื้อผ้าที่ส่งซักแห้งไปน่าจะแห้งหมดเแล้ว”
เจิ้งซิ่วหยาหอบเสื้อคลุมอาบน้ำที่ถูกมือของเขากุมไว้จนอุ่น ก่อนจะเดินเข้าไปยิ้มอย่างสนุกสนานกว่าเดิมข้างหลังของเขา“ถังจิ้นเหยียน คุณนี่มันน่ารักจริงๆ!ถ้าฉันรักคุณมากกว่าเดิมจะทำยังไง?”
ถังจิ้นเหยียนหยิบมือถือขึ้นมา หลังแข็งทื่อราวกับกำแพง“คุณยังไม่ไปอาบน้ำอีก? เมื่อวานจับกุมคนร้ายได้แล้ว วันนี้ก็ต้องกลับไปรายงานผลที่สถานีตำรวจไม่ใช่หรือไง?”
“อื้ออื้อ!ใช่แล้ว ต้องเป็นแบบนั้นแหละ ถ้าอย่างนั้นฉันไปอาบน้ำก่อนล่ะ”เจิ้งซิ่วหยาถกผ้าห่มออก เอาผ้าขนหนูมาห่อที่ตัวอย่างสบายๆ ก่อนจะเดินไปข้างหลังของเขา
“ถังจิ้นเหยียน?”
ถังจิ้นเหยียนตกใจทันที จู่ๆก็หันหน้ามา“หือ?”
ใครจะไปรู้ พอหันกลับมาก็ตกหลุมกับดักอีกแล้ว เจิ้งซิ่วหยาสวมเสื้อคลุมอาบน้ำหลวมๆ ช่วงหน้าอกเผยให้เห็นเนื้อหนังกว้างๆ แถมจากมุมที่สูงกว่าของถังจิ้นเหยียนมองลงไปแล้ว ทำให้สามารถมองเห็นร่องลึกๆ
ถังจิ้นเหยียนหันหน้าไปที่กำแพงอย่างรวดเร็วราวกับถูกไฟฟ้าช็อต สิ่งที่กระแทกมาที่ตาเมื่อตะกี้ จู่ๆโพรงจมูกของเขาก็อุ่นๆร้อนๆ เหมือนกับกำลังมีอะไรบางอย่างไหลออกมา
“ฮ่าๆๆๆ!คุณลุงถัง พวกคุณอายุเท่านี้กันแล้วยังสงวนกันขนาดนี้อยู่อีกเหรอ? ไม่ปล่อยวางขนาดนี้ เนื้อหนังมาอยู่ตรงหน้าขนาดนี้ก็ยังไม่เอา!”
เจิ้งซิ่วหยาหัวเราะอย่างแรง เสียงหัวเราะที่ใสแจ๋วดังฟังชัดขึ้นมาทั่วห้อง ตื่นเต้นจนอดไม่ได้ที่จะกระทืบเท้าเสริมเพื่ออรรถรส สนุกสนานอยู่คนเดียว
ถังจิ้นเหยียนบีบจมูกอย่างหดหู่ พบว่าที่มีเลือดกำเดาติดที่นิ้วมือ……
“เอาล่ะๆ ฉันไม่แกล้งคุณแล้ว ฉันให้เวลาคุณในการยอมรับฉัน ฉันไปอาบน้ำก่อนล่ะ”เจิ้งซิ่วหยาเลียริมฝีปาก พร้อมกับมองแผ่นหลังที่สูงใหญ่ของถังจิ้นเหยียน พอคิดว่าตอนนี้เขาเป็นแฟนของตัวเองแล้ว ในใจก็รู้สึกตื่นเต้นจนแทบจะบินขึ้นไป
ในที่สุดก็กลั้นใจไว้ไม่ไหว เข้าไปสวมกอดเอวเขาจากข้างหลัง เรียวแขนขาวนวลยื่นไปด้านหน้าตัวเขา สิบนิ้วประสานกันแน่น แก้มแนบลงที่แผ่นหลังของเขา พร้อมกับพูดขึ้นอย่างออดอ้อน“คุณหมอถัง การกระทำแบบนี้ฉันอยากจะทำมาตั้งนานแล้ว ดีจริงๆเลย”
ถังจิ้นเหยียนรีบใช้มือบีบจมูกเอาไว้ สัมผัสที่นุ่มนวลตรงหลัง เป็นสัมผัสที่ราวกับหมอนยางพาราที่แสนนุ่มนวล……
“ซิ่วหยา คุณทำแบบนี้ จะทำให้ลุงตกใจได้นะ”ถังจิ้นเหยียนขมวดคิ้ว ลุง? เอาเถอะ ดูกันตามอายุแล้ว เขาแก่กว่าซิ่วหยาอยู่พอสมควร
เจิ้งซิ่วหยาพยักหน้า“ฉันก็แค่ตื่นเต้นเท่านั้นเอง ถ้าอย่างนั้นฉันไปอาบน้ำจริงๆแล้ว คุณรอฉันออกมาก็แล้วกันนะ”
“อื้อ……”ถังจิ้นเหยียนพยักหน้า
เจิ้งซิ่วหยากระโดดโลดเต้นเข้าห้องน้ำไป ถังจิ้นเหยียนรีบดึงกระดาษสองสามแผ่นออกมาเช็ดจมูก เป็นเลือดกำเดาอย่างที่คิดไว้จริงๆด้วย……เมื่อคืนตอนที่เขาได้อยู่ด้วยกันกับเจิ้งซิ่วหยาแค่อยากจะช่วยรักษาเธอให้หายดีเท่านั้น ในใจไม่ได้คิดอกุศลอะไรเลย หรือจะบอกว่าเป็นห่วงมากซะจนไม่ได้ถึงเรื่องอะไรแบบนั้นเลยก็ว่าได้
แต่วันนี้ เจิ้งซิ่วหยาที่มีชีวิตชีวามายั่วเย้าล่อตาล่อใจโดยตรงขนาดนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายปกติทั่วไปคนไหนก็ล้วนแต่อดใจไว้ไม่อยู่แน่นอน
ถังจิ้นเหยียนเช็ดจมูกจนสะอาด ในใจบอกกับตนเองตรงๆว่าไม่มีการพัฒนาเลยจริงๆ
เจิ้งซิ่วหยาไม่ได้เลือดออก แต่กลับเป็นเขาที่มีเลือดออกแทน
ถังจิ้นเหยียนวางสายลง เรื่องที่เอาเสื้อผ้าไปซักแห้งอะไรนั่นเป็นแค่ข้ออ้างเท่านั้น แม้แต่พนักงานที่จะมาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้กับเจิ้งซิ่วหยายังหาไม่เจอ แล้วจะเอาคนที่ไหนมาซักเสื้อผ้าให้เขาล่ะ
หมดหนทาง ถังจิ้นเหยียนทำได้แค่โทรไปหาเบอร์ของหลงเซียว
แม้ว่าไม่เต็มใจยอมรับ แต่ในบรรดาเพื่อนที่อยู่ที่เมืองหลวงของถังจิ้นเหยียนในตอนนี้ นอกจากเพื่อร่วมงานที่โรงพยาบาลแล้ว ก็เหลือแค่หลงเซียวคนเดียวเท่านั้น
คิดไม่ถึงเลยสักนิด ว่าเขาจะโทรหาหลงเซียวด้วยเรื่องแบบนี้ พอคิดๆดูแล้ว……ก็น่าขำสิ้นดี
ตอนที่หลงเซียวรับสาย เขายังอยู่ที่บ้าน กำลังเตรียมตัวที่จะออกไปทำงาน พอเห็นว่าเป็นเบอร์ของถังจิ้นเหยียน หลงเซียวก็พูดขึ้น“มีการเปลี่ยนแปลงชั่วคราวหรือไงกัน?”
ถังจิ้นเหยียนนวดๆหัวคิ้ว พยายามสงบสติอารมณ์ไว้อย่างสุดความสามารถ“ให้ผู้ช่วยของคุณส่งเสื้อผ้ามาให้ผมที่บาร์โบ๋จีนฮ่านกงหนึ่งชุดหน่อย”
พอหลงเซียวได้ยินแบบนั้น ปฏิกิริยาที่ตอบสนองมาเป็นอันดับแรกคือหัวเราะ หัวเราะออกมาอย่างไร้ความปราณี“ได้ เลขห้องล่ะ?”
“2304 วางไว้หน้าประตูก็ได้”ถังจิ้นเหยียนใช้ความกล้าหาญอย่างมากที่สุดในชีวิตนี้ ถึงยังไงเขาก็ไม่เต็มใจยอมรับอยู่ดี ว่าเขาไปขอช่วยหลงเซียว!
“อื้อ ไซส์เสื้อล่ะ?”หลงเซียวเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม มองไปยังลั่วหานกำลังสับสนมึนงงด้วยสายตาอบอุ่น
ถังจิ้นเหยียนถูกเขาถามซะแทบอยากจะอัดหน้าให้“ไซส์ของพวกเราไม่ต่างกัน”
หลงเซียวออกประตูไปอย่างไม่รีบร้อน สวมรองเท้าหนังอย่างช้าๆ“ผม? ผมรูปร่างดีสวมเสื้อแล้วดูผอมแต่ถอดออกแล้วก็มีกล้ามเนื้อ เกรงว่าพวกเราสองคนจะไม่เหมือนกันน่ะสิ”
ถังจิ้นเหยียนกำหมัดแน่น“หลงเซียว ผมจงใจสินะ!”
หลงเซียวใบหน้ายิ้มแย้มอย่างมีความสุข“การที่หมอถังอุตส่าห์มาขอความช่วยเหลือจากผมมันไม่ใช่หาได้ง่ายๆเลย ผมก็เลยต้องทำให้คุณพึงพอใจแน่นอนอยู่แล้ว เอาแค่ชุดของผู้ชายเหรอ? คุณตำรวจเจิ้งไม่ต้องการเสื้อผ้าเหรอ? ไหนๆก็เปียกไปทั้งตัวแล้ว เสื้อผ้าก็ต้องเปลี่ยนไม่ใช่หรือไง?”
หลงเซียวจงใจพูดย้ำคำว่าตัวเปียกสองคำนี้อยู่หลายครั้ง ทำให้หน้าของถังจิ้นเหยียนร้อนผ่าวขึ้นมาอีกครั้ง
“ตามนี้แล้วกัน ผมจะรอคนของคุณมา”ถังจิ้นเหยียนไม่เต็มใจที่จะถูกหลงเซียวพูดล่วงเกินอีกแล้ว จึงวางสายลงทันที
ลั่วหานเดินเข้ามา“ถังจิ้นเหยียนโทรมาสินะ คุณไปพูดกับเขาขนาดนั้น กลัวว่าเขาจะรับไม่ไหวน่ะสิ เขาเป็นคนที่ซื่อตรง ล้อเล่นอะไรไม่เป็นหรอก”
หลงเซียวโค้งตัวดึงเข็มขัดให้แน่น แล้วเงยขึ้นมาจูบเส้นผมของลั่วหาน“ผมกำลังสอนให้เขาเป็นผู้ชายที่น่าสนใจอยู่ ผู้ชายจะหัวโบราณเกินไปไม่ได้ ถ้าเชยเกินไปจะไม่มีเสน่ห์ โดยเฉพาะที่เขากำลังคบกับเจิ้งซิ่วหยา ความต่างระหว่างอายุ ถ้าเกิดตามความคิดของหญิงสาวไม่ทันก็จะกลายเป็นคุณลุงที่น่าเบื่อได้ง่ายๆเลยน่ะสิ”
ลั่วหานชักปาก“หลงเซียว ฉันว่าคุณรู้เยอะจริงๆนะ!คุณเปิดโรงเรียนอบรมเลยก็ได้นะแบบนี้!”
หลงเซียวหยิบกุญแจรถออกมา“ความสามารถแบบนี้ ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเรียนรู้ได้ ต้องดูที่ความสามารถในการตระหนักรู้ของคนคนนั้นด้วย”
“แค่ชมเข้าหน่อย คุณก็คิดจริงจังซะงั้น รีบไปทำงานเถอะ อีกเดี๋ยวฉันจะไปโรงพยาบาลสักหน่อย วันนี้หวังเค่ยจะพาเถียนเถียนมาตรวจครั้งที่สอง ฉันจะไปดูผลหน่อยน่ะ นอกจากนี้ แผนการการรักษาครั้งต่อไปของแม่ออกมาแล้วด้วยนะ ใช่แล้ว แม่เป็นยังไงบ้างแล้วล่ะ?!”
หลงเซียวพยักหน้า“เธอถึงนิวยอร์กแล้ว มีหมอตามไปด้วย จะรายงานอาการของเธอกับผมได้ทุกเมื่อ คุณวางใจได้”
วางใจ? ทำไมถึงพูดซะง่ายขนาดนั้น?
ลั่วหานทำได้เพียงแค่ฝืนพยักหน้า“ค่ะ ฉันรู้แล้ว คุณไปบริษัทเถอะ ตอนนี้มีเรื่องให้จัดการเยอะแยะเต็มไปหมดเลยนี่คะ”
ใช่น่ะสิ มีเรื่องเยอะมากมายเต็มไปหมด เรื่องของเมืองเจียงเฉิงน่ะ
หลงเซียวจับคางของเธอขึ้นมาจูบลงไปที่ริมฝีปากของเธอ“เจอกันตอนค่ำนะ คุณภรรยา”
——
หลงเซียวมาถึงบริษัท จี้ตงหมิงกับแอนดี้พากันเดินตามเข้ามา
แอนดี้ยกแก้วกาแฟมา วางไว้ที่มุมโต๊ะทำงานของเขา ก่อนจะถอยหลังกลับไปหนึ่งก้าว แล้วออกไปจากห้องทำงาน
จี้ตงหมิงมองตามหลังแอนดี้ที่เดินออกไปข้างนอกหลายเมตรด้วยสายตาที่ควบคุมอารมณ์ความรู้สึกไว้ไม่อยู่ ถูกหลงเซียวเห็นจนหมด
หลงเซียวยกกาแฟขึ้นมาดื่มไปหนึ่งคำ ก่อนพูดยิ้มๆ“ทำไม? อยู่ด้วยกันทั้งวันทั้งคืนยังไม่พออีกหรือไง?”
จี้ตงหมิงไอกระแอม ก่อนจะยื่นเอกสารมาข้างหน้าด้วยรู้สึกอึดอัด“เปล่า เปล่าครับ”
หลงเซียวเปิดเอกสารหนึ่งฉบับออก ดูพลางพูดขึ้น“ไม่ต้องอธิบาย ฉันเข้าใจแล้ว แต่พวกนายน่าจะคิดเรื่องแต่งงานได้แล้วไม่ใช่เหรอ?”
จี้ตงหมิงยิ้มโง่ๆ“เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมมีปัญหาอยากจะขอให้คุณช่วยแนะนำหน่อยน่ะครับ ผมอยากจะซื้อแหวนแต่งงานสักหนึ่งวง ไม่รู้แบบไหนดี ทองขาวดีไหมครับ? หรือว่าเพชรดี?”
หลงเซียวเปิดเอกสารไปหนึ่งหน้า“คำถามนี้นายต้องไปถามเธอ หรือไม่ก็ตรวจดูปฏิกิริยาของเธอ จริงๆแล้วง่ายมาก พาเธอไปร้านจิวเวลรี่สักครั้งสิ สายตาของเธอ สายตาของเธอจับจ้องอยู่ที่เครื่องประดับอันไหนเกินสามวินาทีขึ้นไป โดยทั่วไปแล้วก็อันนั้นแหละ”
“จริงเหรอครับ? ถ้าอย่างนั้นผมจะลองดูแล้วกัน!”จี้ตงหมิงยิ้มแย้มอย่างดีใจสุดๆ
หลงเซียวชี้นิ้วไปที่ตัวอักษรบรรทัดหนึ่งบนเอกสารพลางพูดขึ้น“พวกนี้นี่มันอะไรกัน?”
จี้ตงหมิงรีบเปลี่ยนเรื่องในหัวอย่างรวดเร็ว“โปรเจกต์ของเมืองเจียงเฉิงมีวัสดุหนึ่งล็อตที่มันแปลกแต่งต่างจากอันอื่น หลังจากที่ประธานกู้และประธานไป๋เข้าเจรจากับตัวแทนของMBKก็ไม่เห็นพ้องต้องกัน ดังนั้นมันจึงติดขัดอยู่ชั่วคราวครับ”
หลงเซียวเพิ่มคำอธิบายประกอบที่เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดหนึ่งบรรทัดไว้ข้างหลังของวัสดุ วัสดุสังเคราะห์แบบใหม่ล่าสุด“ใช้อันนี้ นายส่งข้อเสนอแนะที่เหมือนกันแบบนี้ไป ถ้าเกิดสินค้ายังต่างกันอยู่อีก ให้พวกเขามาพบฉันโดยตรง”
“รับทราบครับ บอสแม้แต่วัสดุคุณก็เข้าใจเหรอ?”จี้ตงหมิงยกนิ้วโป้งขึ้นมา ชื่นชม
หลงเซียวเปิดสัญญาออกดู“ฉันอยู่ที่MBKมาสิบปี นายนึกว่าอะไรอีกล่ะ?”
จี้ตงหมิงหัวเหอะๆ“บอส พูดถึงMBK ช่วงนี้มีเรื่องเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยอยู่หนึ่งเรื่อง อยากจะมาแชร์ให้คุณฟังสักหน่อย”
“ว่ามา”หลงเซียวอ่านๆดูๆเอกสาร เซ็นชื่อของตัวเองลงไป
จี้ตงหมิงพูดข่าวซุบซิบท่าทางอย่างกับคนแก่เรียน“คนสองรุ่นของตระกูลหลงไม่ลงรอยกัน อันดับแรกหลงถิงไล่พี่ชายแท้ๆของตัวเองออกจากตระกูล ไม่ให้พวกเขาอาศัยอยู่ในบ้านวิลล่าของตระกูลหลง ต่อมา หลงเซิ่งเนื่องจากความคับแค้นใจ จึงไม่ได้ไปเข้าร่วมงานเลี้ยงของMBKครั้งที่ผ่านมา”
“นี่มันถือว่าเป็นเรื่องเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเหรอ?”หลงเซียวเซ็นชื่อที่เอกสารฉบับที่สามเสร็จแล้วก็วางลง
จี้ตงหมิงยิ้มๆอย่างมีเลศนัย“นี่ยังไม่ใช่จุดสำคัญ จุดสำคัญก็คือ หลงเซิ่งไปดื่มกับคนคนหนึ่ง ดูท่าจะดื่มเยอะไป เลยพูดออกมาในงานเลี้ยงว่าหลงถิงเพื่อที่จะได้ครอบครองMBK……อะแฮ่มๆ มอบผู้หญิงที่ตัวเองเลี้ยงหนึ่งคนให้กับเขาไป ใช้กลยุทธ์หญิงงามยังไงล่ะ!”
หลงเซียวขมวดคิ้ว“นายคิดว่าฉันมีความสนใจเรื่องแบบนี้เหรอ?”
จี้ตงหมิงเอ่อ“บอสไม่รู้สึกว่า พวกเราสามารถใช้เรื่องเรื่องนี้มาวางแผนการอะไรสักหน่อยได้เลยเหรอ?”