ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 741
ตอนที่ 741 รักโดยไม่มีเหตุผล
มือของเธอสั่นคลอน โจวโร่หลินรู้สึกคล้ายกับมีค้อนหนักๆทุบลงมาบนหัว
เธอจะรับดีหรือไม่?
หากเธอรับก็คงจะตาย แต่หากไม่รับก็ตายเช่นกัน! บางทีหากเธอรับสายอาจจะสามารถคัดค้านเขาได้บ้าง ถ้าหากไม่รับละก็ เพียงนึกถึงแววตาอันเยือกเย็นของลั่วหาน เธอก็แทบจะกลายเป็นเถ้าถ่าน
ดังนั้นโจวโร่หลินจึงกัดฟัน หันทิศทางจ้องเล็งไปที่โต๊ะ เธอคำนวณเวลาและทิศทางไว้อย่างดี จากนั้นวิ่งตรงออกไป
เกาจิ่งอานคล้ายกับเห็นภาพใครบางคนวิ่งผ่านไป เขารู้สึกงุนงงอยู่ชั่วครู่ เมื่อได้กลิ่นหอมของดอกกุหลาบเขาก็จินตนาการไปต่างๆนานา จากนั้นภาพในจอประสาทตาของเขาก็ปลุกสั่งให้สมองตื่นตัวในทันใด
พระเจ้า!คนที่วิ่งออกไปเมื่อสักครู่ไม่ใช่โจวโร่หลินเหรอ?
ลั่วหานมองเห็นโจวโร่หลินวิ่งออกไปเช่นนั้น เธอก็จ้องตาเขม็ง “ว้าว!เริ่มแล้วสินะคะ!”
หลงเซียวคิดไม่ถึงเช่นกันว่าโจวโร่หลินจะมีความสามารถเพียงนี้ เขาหัวเราะออกมาแล้วพูดว่า “บริษัทแล้วน่าจะจัดกีฬาสีสักหน่อยนะครับ”
ลั่วหานหัวเราะเหอะๆแล้วมองตามหลังเธอไป “เธอต้องการหลบหน้าเกาจิ่งอานเหรอคะ หรือว่าจะกลัวเขาจริงๆ?ไม่น่าจะกลัวถึงขนาดนี้นี่!”
หลงเซียวเลิกคิ้วขึ้นแล้วพูดว่า “ไม่ต้องรีบไปหรอกครับ”
แม้เขาจะพูดว่าไม่รีบ แต่เมื่อมองไปก็พบว่าเกาจิ่งอานวิ่งตามออกไปอย่างรวดเร็ว ความเร็วของเขาไม่แพ้โจวโร่หลินเลย
ลั่วหาน “……”
หลงเซียว “……”
ในมุมเล็กๆที่ไม่โดดเด่นด้านนอกประตู
โจวโร่หลินใช้เป็นที่หลบภัย เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดและพยายามหายใจให้เป็นจังหวะ จากนั้นรับสายพูดว่า “ท่านประธานคะ มีอะไรหรือเปล่า?”
หลงเซียวมองไปด้านนอกประตูตรงที่เกาจิ่งอานยืนอยู่ด้วยความสนใจ เขาพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า “โจวโร่หลิน คุณอยู่ที่ไหน?”
ลั่วหานได้ยินดังนั้นก็เอามือขึ้นกุมศีรษะ……เขาถามอะไรเนี่ย!
โจวโร่หลินเลียริมฝีปากที่แห้งผากของเธอ จะให้เธอบอกว่าตัวเองกำลังนั่งยองๆหลบอยู่ข้างหลังกำแพงอย่างนั้นเหรอ?!
“เอ่อ……คือ ฉันอยู่ตรงแถวๆลานกว้างตรงร้านอาหารค่ะ วันนี้มีการเจรจาทางธุรกิจไม่ใช่เหรอคะ? ฉัน คือ…..ฉันกำลังรอเขามาอยู่”
เดี๋ยวนะ!
ความคิดหนึ่งในสมองของโจวโร่หลินแล่นเข้ามา เรื่องการเจรจาในวันนี้เป็นเรื่องโกหก! ทุกสิ่งทุกอย่างแอนดี้ร่วมมือกับเกาจิ่งอานหลอกเธออย่างนั้นเหรอ?
พี่แอนดี้นะพี่แอนดี้ เสียแรงที่ฉันเชื่อในตัวคุณ มาหักหลังเพื่อนกันซะได้ เชอะ!!!
แต่หลงเซียวเดาออกถึงเรื่องราวเบื้องหลังนี้ เกาจิ่งอานมีความสัมพันธ์ที่ดีกับแอนดี้ และแอนดี้ก็ค่อนข้างจะใกล้ชิดกับโจวโร่หลิน งานในคืนนี้แอนดี้เป็นคนจัดขึ้นนั่นเอง
“ถูกต้องครับ ในคืนนี้พวกเรามีการเจรจาทางธุรกิจที่สำคัญจะต้องจัดการ และคุณจะต้องให้ความร่วมมือกับเราอย่างเต็มที่” หลงเซียววางแขนของเขาไว้บนเก้าอี้อย่างสบายอารมณ์
โจวโร่หลินตกใจ รีบยืนขึ้นมาแล้วพูดว่า “จริงเหรอคะ?มีบริษัทตรงข้ามที่จะทำสัญญาจริงๆใช่ไหมท่านประธานคุณไม่ได้”
กำลัง……โกหกฉันใช่ไหม? เธอจะกล้าพูดต่อได้ยังไง “คุณแน่ใจว่าวันนี้ที่นี่เหรอคะ?”
“ถูกต้อง ที่นี่แหละ ตอนนี้ลูกค้ามาถึงแล้วกำลังรอคุณอยู่” หลงเซียวพูดน้ำเสียงเรียบง่ายจนฟังไม่ออกถึงความผิดปกติใดๆ
ลั่วหานที่นั่งอยู่ข้างๆยกนิ้วให้เขา เขาช่างแสดงเก่งจริงๆเธอนับถือจากใจ
โจวโร่หลินมองขึ้นไปบนท้องฟ้ายามค่ำคืนด้วยหัวใจสีเทาของเธอ แล้วพูดว่า “ท่านประธานคะ บอกฉันหน่อยได้ไหมว่าอีกฝ่ายหนึ่งเป็นใคร?” ไม่ใช่โจวโร่หลินใช่ไหม สิ่งศักดิ์สิทธิ์โปรดคุ้มครองลูกด้วย
โจวโร่หลินน้ำตาแทบไหล
ลั่วหานได้ยินเสียงเธอที่แทบจะร้องไห้ออกมานั้นก็อยากจะหัวเราะจริงๆ สองคนนี้เล่นอะไรกันอยู่เนี่ย!
หลงเซียวพูดอย่างใจเย็นว่า “ประธานบริษัทอึนเคอ”
เปรี้ยง!!!
หัวใจของโจวโร่หลินคล้ายกับถูกสายฟ้าฟาด
ตายแน่ๆ!เธอตายแน่ๆ!อยากจะเอาหัวชนกำแพงจริงๆ!
หลังจากที่โจวโร่หลินวางสายลงด้วยความระมัดระวัง เธอก็ชนหัวเข้ากับกำแพงเบาๆหลายที
ชาติที่แล้วทำบุญด้วยอะไรเนี่ย?ทำไมต้องมาตามรังควานฉันขนาดนี้ เบื้องบนต้องการเล่นตลกอะไรกับฉันกัน!
ทำไมต้องเป็นเขา เป็นคนอื่นไม่ได้หรือไง?
เมื่อระบายออกมาเรียบร้อยแล้ว โจวโร่หลินก็สูดหายใจเข้าลึกๆ “ตายเป็นตาย เขาเป็นคนเข้ามายุ่งเกี่ยวกับฉันก่อน ทำไมฉันต้องไปกลัวเขาด้วย ฉันโจวโร่หลินไม่ได้ทำผิดอะไร ฉันไม่กลัว!”
ลั่วหานปรบมือให้แปะๆ “คุณชายหลงคะ พวกเราไปเปิดบริษัทการแสดงกันไหม? หรือบริษัทถ่ายทำหนังก็ได้ค่ะ ถ้าคุณเป็นผู้กำกับ คาดว่าคงมีคนซื้อตั๋วมากมายแน่!”
หลงเซียวชื่นชอบคำพูดของเธอไม่น้อย เขาลูบไปที่ผมของเธอแล้วพูดว่า “นี่คือข้อเสนอแนะของเจ้านาย?หรือว่าคำแนะนำจากภรรยาครับ?”
ลั่วหานขมวดคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ “ต่างกันตรงไหนคะ?”
หลงเซียววางมือถือลง เขานั่งชื่นชมภรรยาของเขา “หากเป็นอย่างแรก ผมจะให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องไปทำแบบสำรวจด้านการแสดง แล้วให้ฝ่ายการเงินจัดสรรงบประมาณ ให้ฝ่ายสถานที่จัดหาสถานที่ประกอบฉากที่เหมาะสม หลังได้ผลสรุปแล้วผมจะรายงานคุณ””
หืม! นี่เขาคิดจะเอามาทำเป็นงานจริงๆหรือ?
“แล้วถ้าเป็นอย่างที่สองล่ะคะ?” ลั่วหานถาม
หลงเซียวยื่นหน้าเข้ามากระซิบข้างๆหูเธอ “ถ้าหากว่าเป็นอย่างหลัง ผมจะรีบไปทำเดี๋ยวนี้”
ลั่วหานรู้สึกจั๊กจี้ตรงหู “กะล่อนจริงๆนะ!”
“เจ้านาย คือความสัมพันธ์ด้านความร่วมมือ จะต้องมีรายงานการตลาดและผลตอบแทน แต่สำหรับภรรยา……ผมยอมทำทุกอย่างได้โดยไม่มีเหตุผลครับ” มือของเขาเอื้อมมากอดลั่วหานไว้แน่น
ลั่วหานหัวเราะออกมา “ฉันได้ความรู้ใหม่เยอะทีเดียว ขอบคุณนะคะ!”
“แล้วยังไงล่ะครับ?” ริมฝีปากของเขาเข้ามาใกล้เรื่อยๆ แผ่รังสีข่มเหงออกมากดขี่เธอไว้
ลั่วหานรีบชี้นิ้วไปยังโจวโร่หลิน “ตัวเอกกลับมาแล้วค่ะ รีบดูต่อเถอะ”
หลงเซียวยังไม่ละสายตาไปจากเธอ “คุณถึงจะเป็นตัวเองของผม คนอื่นๆเป็นเพียงตัวประกอบเท่านั้น”
ลั่วหาน “……” ให้ตายสิ!
หลงเซียวขมวดคิ้วขึ้น “ลั่วลั่ว คุณคงไม่ได้ลืมสัญญาที่เราทำเอาไว้เมื่อกี้สินะ? ผมเรียกคนมาให้แล้ว คุณควรจะตอบตกลงข้อเสนอผมไม่ใช่เหรอ?”
นิ้วมือเรียวงามของลั่วหานจับเข้าที่คางของเขา แล้วบอกว่า “หลังทุกอย่างเสร็จสิ้นลง รับรองว่าจะไม่ให้คุณเสียเปรียบแน่ แต่ตอนนี้เรื่องราวยังไม่จบ คุณหลงไม่ทราบเหรอคะว่าทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปได้เสมอ”
หลงเซียวกระแอมออกมาแล้วนั่งหลังตรง “ครับ ก็ได้ งั้นผมจะรอดู”
ลั่วหานหัวเราะเขา เธอนับถือเขาจริงๆ ตอนที่เขาอ้อนนี่ไม่ต่างจากเด็กหนุ่มวัยแรกรุ่นเลยจริงๆ
โจวโร่หลินกัดฟันเดินกำมือกลับมา เธอมองไปยังเกาจิ่งอานที่ถือดอกไม้ไว้ในมือ เบ้ปากแล้วยิ้มให้เขาอย่างไม่ยินดีนัก “สวัสดีค่ะ ท่านประธานบริษัทอึนเคอ ดิฉันเป็นตัวแทนฝ่ายการเงินของบริษัทฉู่ซื่อ และเป็นตัวแทนในการเจรจาทางธุรกิจในวันนี้ค่ะ”
เดิมทีเกาจิ่งอานเตรียมคำพูดไว้ถามเธอเมื่อเจอหน้า ปรากฏว่าถูกคำพูดเมื่อครู่ของเธอทำให้สะอึก เขาถามกลับไปว่า “โจวโร่หลิน คุณเป็นอะไรหรือเปล่า?”
เมื่อพบว่าเขาไม่จับมือตอบ โจวโร่หลินก็ชักมือกลับแล้วเอ่ยถามด้วยท่าทีจริงจังว่า “ท่านประธานเกาคะ ดิฉันมาเพื่อเจรจาทางธุรกิจ คุณว่าดิฉันเป็นอะไรงั้นหรือคะ?”
เกาจิ่งอานเลิกคิ้วด้วยความสงสัย “โจวโร่หลิน ทำไมคุณต้องหลบผมด้วย?”
ลั่วหานและหลงเซียวยืนดูละครอยู่ข้างๆอย่างสนใจ ลั่วหานหยิบถั่วขึ้นมาแกะกิน “โจวโร่หลินปากเก่งจริงนะคะ คุณให้เธอไปอยู่ฝ่ายประชาสัมพันธ์น่าจะไม่เลว”
หลงเซียวเองก็หยิบเมล็ดถั่วขึ้นมา เมื่อเขาแกะเปลือกออกแล้วก็ส่งให้ลั่วหาน จากนั้นพูดขึ้นว่า “ข้อเสนอของคุณไม่เลวนะครับ แต่คงไม่เหมาะสม ไม่ว่าจะในฐานะเจ้านายหรือภรรยา”
ลั่วหานกินเมล็ดถั่วเข้าไปแล้วยิ้มว่า “คุณจับBUGได้ทั้งที น่าจะใช้ให้เป็นประโยชน์หน่อยสิคะ!”
หลงเซียวยังคงปอกเปลือกถั่วต่อไป จากนั้นวางมันลงไปในจาน “ใครใช้ให้ภรรยาของผมเพียบพร้อมขนาดนี้เล่าครับ กว่าจะจับBUGได้ทั้งที ผมต้องทะนุถนอมอยู่แล้ว”
ลั่วหาน “……” เธอไม่รู้จะคุยกับเขาต่ออย่างไรแล้ว เธอถูกชายผู้มีไอคิวสูงกว่าเอาชนะได้อย่างราบคาบ!
โจวโร่หลินยังคงยืนกรานว่า “ไม่นะคะ! ฉันจะไปกล้าหลบหน้าท่านประธานเกาได้ยังไงกัน? คุณคือลูกค้าคนสำคัญของบริษัทเรานะคะ ดิฉันจะเข้าไปเอาอกเอาใจเสียมากกว่า”
เชอะ!
เกาจิ่งอานวางดอกไม้สีแดง99ดอกลง “โจวโร่หลิน ผมชอบคุณ คุณก็คงจะรู้ดี!” เขาพูดแล้วนั่งลง
โจวโร่หลินก็นั่งลงเช่นกัน ขาทั้งสองข้างของเธอสั่น เธอใช้มือทั้งสองข้างจับขาเอาไว้ “ฉัน……รู้เหรอคะ? ฉัน……ไม่รู้มาก่อนเลย ประธานเกาอย่าล้อดิฉันเล่นเลยนะคะ พวกเราเป็นเพียงความร่วมมือทางธุรกิจเท่านั้น ไม่ได้มีความคลุมเครือใดๆ”
“แม่งเอ๊ย!” เกาจิ่งอานอยากจะเปิดสมองเธอออกดูจริงๆ!
“โจวโร่หลิน พวกเราเป็นแค่ความสัมพันธ์ของผู้เจรจาทางธุรกิจงั้นเหรอ?! คุณคิดดูให้ดีๆ!” เขาตั้งใจจะลงไม้ลงมือแล้ว
เอ่อ……ไม่ใช่สินะ
“เหอะๆๆๆ ประธานเกาคะ คุณหมายถึงเรื่องที่ทำให้ฉันต้องเสียหายนั่นเหรอคะ? ฉันไม่ถือสาหรอกค่ะ การที่คุณกัดไม่ปล่อยนี้ เป็นใครกันแน่ที่ผิด? คุณลองคิดดูดีๆก่อนนะคะ” โจวโร่หลินยืดหลังตรง
เกาจิ่งอานกำมือแน่น เขาร้องตะโกนอยู่ในใจ จากนั้นเขาก็นึกได้ว่าเขาสัญญากับหลงเซียวไว้ว่าจะไม่พูดความจริงออกไป ให้ตายเถอะ! ต้องทนสินะ!!!
“ถ้าอย่างนั้นพวกเราคงเป็นความสัมพันธ์แบบว่าเคยนอนด้วยกัน ไม่เพียงแค่การเจรจาทางธุรกิจเท่านั้น เอาล่ะ ตอนนี้ผมจะขอบอกคุณว่าผมชอบคุณ และต้องการคบกับคุณแบบเปิดเผย” ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเกาจิ่งอานจึงยังคงใจเย็นได้ขนาดนี้ หากเป็นเมื่อก่อนเขาคงระเบิดไปนานแล้ว
เขาจีบสาวมานับไม่ถ้วน กลวิธีต่างๆมากมาย แต่สุดท้ายต้องมาติดกับแม่สาวคนนี้ มันน่าโมโหจริงๆ
โจวโร่หลินหัวใจเต้นโครมคราม ดวงตาของเธอเบิกกว้าง “ประธานเกาคะ อย่ามาล้อฉันเล่นได้ไหม? รอบๆกายคุณมีหญิงสาวมากมาย คุณคงจะพูดแบบนี้กับทุกคนสินะคะ? อย่าเอาฉันไปเป็นตัวตลกเลยค่ะ ไม่จำเป็น”
เธอรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย นี่มันเป็นเพราะอะไรกัน?
เกาจิ่งอานพูดว่า “ผู้หญิงคนที่คุณเห็น ผมยอมรับว่าเมื่อก่อนผมเคยดีกับเขา แต่ตอนนี้เราขาดกันแล้ว เธอเพียงต้องการเงิน ผมก็เลยเขียนเช็คให้เธอก็เท่านั้น แล้วเราก็ตัดขาดกัน”
โจวโร่หลินเบิกตากว้าง “ให้เธอไปเท่าไหร่คะ?”
เกาจิ่งอานเริ่มหงุดหงิด “ไม่มาก ล้านหนึ่ง”
พระเจ้า! เงินหนึ่งล้านเขาบอกว่าไม่มาก! เธอต้องทำงานกี่ปีกัน!”
โจวโร่หลินกระแอมออกมา เธอมองไปที่เกาจิ่งอานอย่างตั้งใจก่อนจะพูดออกมาว่า “ประธานเกาคะ คุณก็ลองให้ฉันสักหนึ่งล้านสิ ฉันรับรองว่าจะหายไปจากชีวิตคุณชนิดที่ว่าจะไม่ให้คุณเห็นอีกสักวินาทีเดียว! จริงๆนะคะ”
เกาจิ่งอาน “……”
ลั่วหานและหลงเซียว “……”
หมับ!
ในที่สุดเกาจิ่งอานก็หมดความอดทน เขาใช้แรงจับเข้าให้ที่แขนของโจวโร่หลิน “โจวโร่หลิน!คุณมันมีสมองไหมเนี่ย! แต่เล็กจนโตคุณกินอะไรมากัน!”
โจวโร่หลินตกใจจนทำอะไรไม่ถูก “ฉัน……กินข้าวค่ะ……”
“ฮ่าๆๆๆ!”
ลั่วหานกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ เธอพิงไปที่บ่าของหลงเซียวแล้วขำขึ้นเสียงดัง
เกาจิ่งอานเองก็อดไม่ไหวเช่นกัน “ให้ตายสิ! โจวโร่หลิน คุณเรียนการเงินมาจริงๆเหรอเนี่ย! คุณน่าจะวางแผนระยะยาวนะ?”
โจวโร่หลินกัดริมฝีปากตัวเอง ทำเป็นไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูด “ประธานเกาคะ คุณหมายความว่าคุณจะลงทุนในระยะยาวเหรอคะ? แรกเริ่มเท่าไหร่กัน? เป็นฝากออมทรัพย์หรือฝากประจำ?ลงทุนตัวไหนดีคะ”
เกาจิ่งอานอยากจะพลิกโต๊ะนี้จริงๆ!
“ผมซื้อคุณ! ตลอดชีวิต! ว่าไง?”
เกาจิ่งอานตะโกนออกมาเสียงดัง ทำให้กลายเป็นจุดเด่นของร้านอาหารสไตล์ตะวันตกที่ค่อนข้างเงียบสงบไปทันที แขกทุกคนมองมาที่พวกเขาทั้งสอง
ฉากที่ชายหนุ่มถือช่อดอกไม้ช่อโตประกาศรักกับหญิงสาว ในขณะที่หญิงสาวเจ้าก็ทำท่าทีปฏิเสธอย่างเขินอาย
“ตกลง!”
“ตกลง!”
“ตกลง!”
เสียงปรบมือเป็นจังหวะพร้อมเสียงเชียร์ดังสนั่น แขกชายหญิงในร้านอาหารอีกทั้งพนักงานต่างพากันให้กำลังใจ
ลั่วหานยัดเมล็ดถั่วให้หลงเซียวแล้วพูดว่า “เกาจิ่งอานกล้าหาญมากนะคะ อาจจะมีหวัง”
หลงเซียวเองก็รู้สึกว่าน่าจะเป็นไปได้ “เพียงแค่โจวโร่หลินชอบเขา เขาทำให้เธอขนาดนี้เธอคงจะตกลง”
โจวโร่หลินจ้องมองไปยังเกาจิ่งอาน มองดูแล้วเขาน่าจะถึงขีดจำกัดแล้ว ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาแฝงไปด้วยความอึดอัดใจ
โจวโร่หลินสงบสติอารมณ์แล้วพูดว่า “คุณ……ปล่อยฉันก่อนได้ไหม?”
ไหล่ฉันจะหลุดอยู่แล้วนะคุณ!
เกาจิ่งอานรู้สึกว่าตนเองใช้แรงมากเกินไป จึงได้ปล่อยเธอแล้วถามอย่างเป็นห่วงว่า “คุณเจ็บหรือเปล่า?”
เกาจิ่งอานถอนหายใจออกมาแล้วถามว่า “ที่คุณพูดเมื่อสักครู่……จริงเหรอคะ?
“ครับ จริงมาก จริงที่สุดยิ่งกว่าคำไหนๆ ผมชอบคุณมาก เป็นแฟนกับผมนะ ผมอยากแต่งงานกับคุณ” เกาจิ่งอานมองไปที่บ่าของเธอ ไม่รู้ว่าทำเธอเขียวช้ำหรือเปล่า
แม้เขาจะเปิดเผยความในใจออกมาอย่างนี้ แต่โจวโร่หลินก็ยังรู้สึกไม่มั่นใจ เมื่อนึกถึงว่าเธอกับเขาแตกต่างกันราวฟ้าดิน เธอคิดว่าความรักนี้คงเป็นไปได้ยาก……
“เกาจิ่งอาน!”
ในขณะที่เธอกำลังลังเลอยู่ ก็พบว่ามีผู้หญิงสวมชุดเซ็กซี่สุดแซ่บเดินตรงเข้ามาคว้าแขนเขาไว้ด้วยความรวดเร็ว
ลั่วหาน “……”
หลงเซียวขมวดคิ้วขึ้น “พระเจ้า!ผู้หญิงคนก่อนๆของเกาจิ่งอาน”
ลั่วหาน “……”
โจวโร่หลินเอ่ยถามขึ้นทันใดว่า “คุณเป็นใครคะ?”
หญิงสาวคนนั้นเชิดหน้าขึ้นพูดว่า “นางบ้านนอกนี่ใครกัน? ฉันเป็นแฟนของเกาจิ่งอาน!”
คนหนึ่ง
เกาจิ่งอานสบถออกมาว่า “นี่หมี่น่า คุณมาทำอะไรเนี่ย! พวกเราตัดขาดกันแล่วนะ ไปซะ!”
ผู้หญิงคนที่ชื่อว่าหมี่น่าหยิบเช็คในกระเป๋าออกมา ใส่คืนไปที่กระเป๋ากางเกงของเกาจิ่งอานแล้วพูดว่า “ที่รักคะ ฉันไปคิดดูแล้วการที่ฉันรักคุณไม่ใช่เพราะเงิน แต่การที่ฉันต้องการอยู่กับคูณเพราะฉันท้องลูกของคุณนะคะ คุณลูบดูสิ”
หือ!!!
อะไรนะ???
ลั่วหานอ้าปากค้าง หลงเซียวก็เช่นกัน
บทละครนี่มันพลิกผันเร็วเกินไปหรือเปล่า?
โจวโร่หลินยกแก้วกาแฟขึ้นแล้วสาดกาแฟไปที่เกาจิ่งอาน “สารเลว!”
โจวโร่หลินโมโหมาก เธอมองไปที่ท้องของผู้หญิงคนนั้นแล้วพูดว่า “ขอให้พวกคุณมีลูกเต็มบ้านมีหลานเต็มเมืองนะคะ!”
“……”
เกาจิ่งอานเช็ดกาแฟบนใบหน้า จากนั้นใช้แรงสะบัดแขนจองหมี่น่าออก “คุณคอยดูนะว่าผมจะจัดการคุณยังไง!”
พูดจบก็วิ่งตามออกไป “เกาจิ่งอาน! คุณฟังผมก่อนสิ!มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะ!”
ลั่วหานเอามือกุมขมับ “ฉันรู้สึกว่าเข้าร่วมแสดงละครน้ำเน่าโดยไม่รู้ตัวแล้วสิคะ”
หลงเซียวรู้สึกว่าประโยคนี้คุ้นหูมาก “ครับ ถ้าอย่างนั้นคุณควรจะยอมรับผลได้หรือยัง? โจวโร่หลินกับเกาจิ่งอานไม่ได้คู่กัน คุณแพ้แล้ว”
ลั่วหาน”……”
เธออยากจะแปลงร่างเป็นนางฟ้าแล้วบินหนีไปจริงๆ!