ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 742
ตอนที่ 742 ฉันเป็นพี่สาว เขาคือลุง
หลงเซียวแววตาเป็นประกาย เขายิ้มขึ้นแล้วพูดว่า “อะไรกันคุณจะโกงงั้นเหรอ?”
แววตาของลั่วหานย้ายจากหลงเซียวแล้วมองไปที่เก้าอี้ เธอเปิดกระเป๋าอย่างช้าๆแล้วหยิบธนบัตรสีแดงใบหนึ่งยื่นออกมา “นี่ค่ะ ฉันแพ้แล้ว เอาไป 100 หยวน!”
ลั่วหานสีหน้าเปลี่ยนไปทันที เขามองไปที่ธนบัตรนั้นและมองไปที่ท่าทางของลั่วหานที่แสนทะเล้น “ผมไม่ได้หมายถึงสิ่งนี้ ผมทำให้เกาจิ่งอานและโจวโร่หลินเดทกันสำเร็จ สิ่งที่คุณติดค้างเอาไว้น่าจะคืนผมได้หรือยัง?”
ลั่วหานทำท่าทีครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างรอบคอบ จากนั้นพูดออกมาว่า “แต่การเดทของเกาจิ่งอานและโจวโร่หลินไม่สำเร็จนี่คะ แล้วตอนนี้ทั้งสองก็ทะเลาะกันอยู่ด้วย คุณเองก็ควรจะรับผิดชอบหน่อยไม่ใช่หรือไง?”
หลงเซียวยื่นหน้ามาใกล้ๆ “ครับ ผมรับผิดชอบแน่”
ลั่วหานไม่เข้าใจความหมายของเขา “คุณจะรับผิดชอบยังไงคะ?”
ลั่วหานพูดว่า “ผมจะรับผิดชอบทำให้โจวโร่หลินเข้าใจเกาจิ่งอานมากขึ้น จากนั้นจะให้เกาจิ่งอานทบทวนความผิดของตัวเองดู เขามักยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงไปเรื่อย คิดไว้แล้วว่าสักวันคงต้องเจอเข้าแบบนี้ หากเขาสามารถจัดการความขัดแย้งในครั้งนี้ได้ก็คงจะเป็นการดีสำหรับเขา
ส่วนเรื่องโจวโร่หลินนั้น ในเมื่อเธอชอบเกาจิ่งอานก็ควรจะรู้ว่าเขาเป็นคนอย่างไร การที่จะรักใครสักคนไม่เพียงแต่จะชื่นชอบความดีของ อีกฝ่ายหนึ่งต้องยอมรับข้อเสียของกันและกันด้วย”
“ถูกต้องค่ะ เกาจิ่งอานเป็นเพลย์บอย ถึงเวลาที่เขาจะต้องจัดการกับตัวเองแล้ว เพียงแต่ผู้หญิงที่บอกว่าท้องเนี่ย ฉันไม่รู้ว่าจะจัดการกับเธอยังไงดี” เมื่อลั่วหานเห็นว่าหมี่น่าวิ่งตามหลังไป มันไม่ต่างจากหนังรักสามเส้าเลย
“แล้วยังไงครับ?” หลงเซียวถามต่อ
ลั่วหานยกมือของเขาขึ้นมาแล้วชี้ไปที่นาฬิกาพูดว่า “ถึงเวลากลับบ้านแล้วค่ะ”
หลงเซียว “……”
ทั้งสองคนเดินทางออกจากร้านอาหารไป ด้านนอกร้านอาหารยังคงมีผู้คนมากมายเสียงดังครึกครื้น ประกอบกับดอกไม้ไฟสวยงามรอบกายทั้งสอง ทำให้รู้สึกดียิ่งนัก
มือของลั่วหานถูกหลงเซียวกุมเอาไว้ เอวของเธอก็ถูกเขาโอบกอดไว้เช่นกัน คล้ายกับกลัวว่าเธอจะหายตัวไปหรือกลัวว่าจะถูกใครเดินชนเข้าอย่างไรอย่างนั้น
ที่สวนสาธารณะดูมีชีวิตชีวาขึ้นกว่าเมื่อสักครู่มาก มีพ่อค้าแม่ค้าจำนวนมากยืนถือตะกร้าขายแท่งไฟ หูกระต่ายเรืองแสง เครื่องบินลำเล็ก แน่นอนว่าจะขาดดอกไม้ไปไม่ได้ อีกทั้งยังมีงานฝีมือต่างๆ ทำให้จัตุรัสกว้างแห่งนี้กลายเป็นตลาดนัดเล็กๆไปในทันที
ในขณะที่พวกเขากำลังเดินอยู่ ก็มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งถือตะกร้าดอกไม้เดินเข้ามา แม่หนูน้อยยกตะกร้าในมือขึ้น ด้านในมีดอกกุหลาบ ดอกลิลลี่ ดอกเดซี่และดอกคาร์เนชั่นอยู่ เด็กหญิงตัวเล็กๆคนนั้นยิ้มขึ้นอย่างมีความหวังแล้วถามว่า “พี่สาวอยากได้ดอกไม้ไหมคะ?”
บรรดาพ่อค้าแม่ค้าทั้งหลายจะจ้องมองไปที่คู่รักหรือสามีภรรยาที่เดินมาด้วยกัน จากนั้นจะพยายามขายดอกไม้ในมือของพวกเขาให้ได้ เขาจะใช้ประโยชน์จากความรักของชายหนุ่มทำเงินให้กับตนเอง
ลั่วหานกลับคิดว่าเด็กผู้หญิงคนนี้กล้าหาญมากจริงๆ เธอมองไม่ออกถึงลักษณะท่าทางอันน่าหวาดกลัวของหลงเซียวหรือไงกัน?
“ขอบคุณนะคะ พี่ไม่ต้องการ” ลั่วหานยิ้มแล้วปฏิเสธ
เด็กน้อยคนนั้นไม่ยอมละความพยายามอย่างง่ายๆ เธอมองออกว่าลูกค้าคนนี้มีเงินมาก ดังนั้นจึงได้รวบรวมความกล้าที่หลงเหลืออยู่ตั้งเป้าไปที่หลงเซียวผู้เย็นชาแล้วพูดว่า “คุณลุงคะ! คุณลุงคะซื้อดอกไม้ให้พี่สาวหน่อยสิคะ ดอกไม้หอมมากจริงๆนะ!”
ลุงอย่างนั้นเหรอ?
ลั่วหานอดหัวเราะไม่ได้ เธอมองไปยังหลงเซียวที่ทำหน้ามืดขรึมอยู่ข้างๆ เธอก้มตัวลงไปแล้วเอ่ยถามว่า “น้องสาว เมื่อกี้เรียกเขาว่าอะไรนะ?”
หนูน้อยคนนั้นเขินอายแล้วพูดว่า “คุณลุงค่ะ”
ลั่วหานหัวเราะออกมาเสียงดัง “เรียกฉันว่าพี่ แต่พี่เขาว่าลุงอย่างนั้นเหรอ?”
เด็กน้อยคนนั้นรู้ตัวว่าตัวเองพูดผิดไปแล้ว ดวงตาเธอเบิกกว้างแล้วพูดว่า “คุณลุงหน้าตาหล่อมากเลย พี่สาวก็สวยมากเหมือนกัน คุณลุงซื้อดอกไม้ให้พี่สาวหน่อยนะคะ แค่10หยวนเอง!”
“ฮ่าๆๆ” ลั่วหานหัวเราะจนแทบเป็นตะคริว เธอเอามือกุมที่ท้องแล้วมองไปยังหลงเซียว
ใบหน้าอันเย็นชาของเขาหนาวเย็นกว่าอากาศในคืนนี้เสียอีก เขาค่อยๆก้มตัวลงไปมองที่เด็กน้อยคนนั้นแล้วถามว่า “เรียกผมว่าอะไรนะ?”
เด็กหญิงคนนั้นตกใจกลัวจนตัวสั่น ใบหน้าน้อยๆของเธอแดงเรื่อแล้วพูดว่า “หนู……หนู……คุณพี่ชาย!”
หลังจากพูดจบ เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนนั้นก็คล้ายกับจะหมดแรง เธอยืนอยู่ตรงนั้นไม่กล้าขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย เหมือนกับกำลังรอโทษประหาร
แววตาของพี่ชายคนนี้น่ากลัวจริงๆ แม้จะหน้าตาดีก็จริงแต่ว่าก็ทำให้ตกใจได้ แม่จ๋า……หนูอยากกลับบ้าน!
เมื่อลั่วหานเห็นว่าหลงเซียวอาจจะทำให้เด็กน้อยคนนั้นตกใจกลัวจนร้องไห้ได้ จึงรีบดึงมือของเขาไว้ ยิ้มแล้วพูดว่า “ดอกไม้พวกนี้พี่ซื้อหมดเลยดีไหม?”
เด็กน้อยคนนั้นยังไม่กล้ามองไปที่หลงเซียว และไม่กล้าพูดอะไรออกมา เธอปิดปากหลับตาปี๋ แม้แต่ความกล้าที่จะพยักหน้ายังไม่มี
ลั่วหานอยากจะหัวเราะออกมาจริงๆแต่เธอก็อดกลั้นเอาไว้แล้วพูดว่า “ดอกไม้ทั้งหมดนี้10 หยวนได้ไหม?”
เมื่อเด็กน้อยคนนั้นเห็นว่าเธอกำลังจะควักเงินออกมาจริงๆก็ตกใจ รีบจ้องมองดูเธอและพยักหน้าเพราะกลัวว่าเธอจะกลับคำ “ค่ะ!ได้ค่ะ!”
ลั่วหานนำเงิน100หยวนที่ถูกหลงเซียวปฏิเสธไปเมื่อสักครู่ใส่เข้าไปในตะกร้าดอกไม้ นึกไม่ถึงว่าเธอยังไม่ทันจะนำเงินใส่ลงไป มือของหลงเซียวก็ยื่นออกมารั้งเธอเอาไว้!
ลั่วหาน “……”
เด็กน้อยคนนั้นร้องไห้เสียงดังลั่น “ฮือๆๆๆๆ!”
ใบหน้าของหลงเซียวเคร่งขรึมขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าในทันที เขาหยิบกระเป๋าตังค์ออกมาอย่างไม่เต็มใจนัก ในขณะที่เด็กน้อยกำลังร้องไห้อย่างไม่ลืมหูลืมตาเขาก็พูดขึ้นว่า “ใบนี้เป็นของพี่นะ ทั้งสองใบนี้ให้หนูหมดเลย”
ในขณะนั้นเธอรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังนั่งรถไฟเหาะ เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งด้วยน้ำตาที่เอ่อล้นแล้วถามว่า “จริงเหรอคะ?”
หลงเซียวยื่นเงินไปให้เธอแล้วตอบว่า “ใช่!”
“ขอบคุณพี่ชายมากนะคะ!” เด็กน้อยคนนั้นยื่นช่อดอกไม้ทั้งหมดให้ลั่วหานอย่างเบิกบานใจ แล้ววิ่งไปราวกับจะเหาะบิน
ครั้งนี้ลั่วหานหัวเราะออกมาเสียงดัง “หลงเซียว หน้าตาของคุณทำให้เด็กตกใจกลัวได้ขนาดนี้เชียวเหรอคะ? ฉันว่าเด็กน้อยเมื่อสักครู่คงจะกลัวคุณไปตลอดชีวิตเลยล่ะ!”
หลงเซียวมองไปเล่นแก้มแดงของเธอแล้วพูดว่า “สวยจริงๆ”
ลั่วหานหยุดหัวเราะลงแล้วตอบว่า “ใช่ค่ะ ดอกไม้สวยมากจริงๆ”
“ผมหมายถึงคุณ ไม่ใช่ดอกไม้”
ลั่วหานกระแอมออกมา ใบหน้าของเธอแดงเรื่อโดยไม่ได้ตั้งใจ ให้ตายสิ!เขาชอบทำให้ตัวเองใจสั่นอยู่ตลอดเวลา
หลงเซียวนำดอกกุหลาบสีแดงสดขึ้นมา เขาใช้มือข้างหนึ่งลูบไปที่ก้าน เมื่อมั่นใจว่าไม่มีหนามแล้วจึงยื่นให้กับเธอ
ลั่วหานตกตะลึง เธอยื่นมือไปรับดอกกุหลาบนั้นมาดม “อืม หอมจังค่ะ”
หลงเซียววางกระเช้าดอกไม้อื่นๆไว้บนแท่นคอนกรีตในสวนสาธารณะ และมอบให้ลั่วหานเพียงแค่ดอกกุหลาบดอกเดียว
“หอมจริงๆ” หลงเซียวก้มหน้าลงตรงบริเวณผมของเธอแล้วพูดออกมา
หัวใจของลั่วหานเต้นรัวอย่างไม่เป็นจังหวะ พระเจ้า! เธออยู่มาเกือบ30ปีแล้ว เธอคิดมาเสมอว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่ง แม้เธอจะหย่าแล้วแต่ยังได้พบกับความรู้สึกเหมือนสาวแรกแย้มนี่มันไม่ถูกต้องนี่นา!
ลั่วหานหันมองดูตะกร้าดอกไม้ที่ถูกเขาทิ้งเอาไว้แล้วถามว่า “ทำไมไม่เอาแล้วคะ?”
หลงเซียวยักไหล่แล้วตอบว่า “ผมมีมือแค่สองข้าง ข้างหนึ่งจับมือคุณไว้ อีกข้างหนึ่งจับเอวคุณไว้ คุณคิดว่าผมจะเอามือที่ไหนมาถือตะกร้ากัน?”
ลั่วหาน “ฉันถือเอง……”
เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะพูดยังไงต่อไป เพราะทุกสิ่งที่พูดไปก็ถูกเขาตอบกลับมาอย่างไปต่อไม่ถูก
“ไม่ได้ เมื่อสักครู่ผมได้ถือดูแล้ว มันหนักเกินไป! ตอนนี้คุณกำลังตั้งครรภ์นะจะใช้แรงได้ยังไงกัน?” หลงเซียวอธิบายอย่างจริงจัง
ตอนนี้อารมณ์ของลั่วหานเหมือนกับเรือที่ถูกคลื่นซัดเข้าใส่อย่างแรง แค่ตะกร้าดอกไม้จะหนักขนาดไหนกัน?มันก็แค่ตะกร้าดอกไม้เท่านั้นนะ!
“แล้วทำไมเมื่อสักครู่คุณไม่ให้ฉันนำเงิน100หยวนนั้นให้เขาคะ?” ลั่วหานเปลี่ยนหัวข้อคุย
หลงเซียวเบะปากแล้วตอบว่า “ถ้าผมจำไม่ผิดละก็ เงิน100หยวนเมื่อสักครู่คุณใช้เป็นเดิมพันกับผม สิ่งของที่ภรรยาให้ผมจะเอาไปให้คนอื่นได้ยังไง?”
หลงเซียวนำเงิน100หยวนใส่ลงไปในกระเป๋าของเขาอย่างระมัดระวัง ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้กำลังใส่เงินลงไป100หยวน แต่คล้ายกับใส่สมบัติหายากอะไรอย่างนั้น
ลั่วหาน “……”
แพ้อย่างราบคาบ!
เมื่อกลับไปถึงบ้าน ในคืนนั้นหลงเซียวใช้เวลาช่วงที่ลั่วหานไปอาบน้ำหยิบธนบัตรใบละ100หยวนนั้นออกมาพับเป็นรูปหัวใจ
แล้วใส่ลงไปในขวดแก้วใสที่เคยมอบให้กับลั่วหานตอนที่พับนกและพับดาวในครั้งนั้น
เมื่อลั่วหานอาบน้ำออกมาก็เพราะว่าหลงเซียวเดินออกจากห้องนอนไปยังห้องหนังสือแล้ว เธอก็ทำการเช็ดผมจนแห้ง
เธอมองไปที่หัวเตียงแล้วพบว่าในโหลแก้วนั้นมีรูปหัวใจสีชมพูเพิ่มมา 1 ดวง
คล้ายกับหัวใจของเธอที่ไม่เคยเปิดออกอย่างจริงใจ บัดนี้อยู่ท่ามกลางดวงดาว
อีกทั้งดอกกุหลาบสีแดงสดที่วางอยู่ข้างๆ ทำให้ลั่วหานยิ้มออกมา
……
เกาจิ่งอานวิ่งตามโจวโร่หลินไม่ทัน เขากระทืบเท้าลงด้วยความรำคาญ โจวโร่หลินวิ่งเร็วจริงๆ! เธอวิ่งขึ้นรถแท็กซี่จากไปแล้ว ส่วนเกาจิ่งอานไม่ทันที่จะโบกรถคันต่อไปได้ เขาโมโหจนแทบจะฆ่าใครได้สักคนได้เลยทีเดียว
หมี่น่าวิ่งตามหลังเขามา ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้มแล้วพูดว่า “จิ่งอานคะ คุณยอมแพ้เถอะ!พวกคุณไม่เหมาะสมกันหรอกพวกคุณไม่ควรที่จะอยู่ด้วยกัน พวกคุณมันคนละโลกกันด้วยซ้ำ!”
บัดซบ!
เกาจิ่งอานหันหลังกลับมา เขาส่งสายตาอันคมกริบเหมือนมีดไปยังเธอแล้วพูดว่า “ไสหัวไปซะ!”
หมี่น่ายังคงยิ้มอย่างอดทนและนุ่มนวล “ผู้หญิงคนนั้นมองดูก็รู้ว่าโง่ ถ้าตกหลุมรักใครสักคนก็จะมอบให้อย่างสุดหัวใจ ส่วนคุณเป็นพวกเพลย์บอยที่ชอบหยอกเล่นกับผู้หญิงไปเรื่อย การที่คุณรั้งเธอไว้แบบนี้มีแต่จะทำให้เธอเจ็บปวด”
“จิ่งอานคะ ฉันขอพูดตรงๆนะว่าคนแบบคุณและฉันไม่ใช่คนดีอะไร อย่าไปทำร้ายพวกคนบริสุทธิ์อย่างนั้นเลย!”
เกาจิ่งอานกับฟันกรอด มือใหญ่ของเขาบีบไปที่คางของเธอแล้วพูดว่า “หุบปาก!ผมไม่อยากจะเห็นหน้าคุณอีก!”
หมี่น่าถูกเขาบีบเสียจนสำลัก เธอพยายามแกะมือเขาออก “จิ่งอาน ฉันท้องจริงๆ!”
เกาจิ่งอานก้มลงมองเธอและสะบัดหน้าเธออย่างไม่สงสาร เขาถามขึ้นว่า “ครั้งนี้ต้องการเท่าไหร่ คุณพูดมาตรงๆเลย ให้มันจบภายในครั้งเดียว!”
หมี่น่าโอบเอวของเขาไว้แน่นแล้วพูดว่า “จิ่งอานคะ ฉันไม่ต้องการเงิน ฉันต้องการเพียงคุณ!”
เกาจิ่งอานเงยหน้ามองท้องฟ้า เขาใช้มือแกะนิ้วของหมี่น่าออกจากตัวแล้วพูดว่า “ไปเถอะ!ไปเอาออกซะ!”
หมี่น่าขมวดคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย “จิ่งอานคะ คุณบอกว่าคุณเป็นเพียงผู้ชายคนเดียวในตระกูลเกาไม่ใช่เหรอ?คุณจำเป็นจะต้องมีทายาทสืบสกุลนะคะ เด็กคนนี้มาได้ตรงเวลาพอดี เขาเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตระกูลเกา ทำไมคุณถึงไม่ต้องการ?”
เกาจิ่งอานมองไปที่ท้องของเธออย่างไม่ไยดี “ท้องอย่างนั้นเหรอ? เลือดเนื้อเชื้อไขของตระกูลเกาเหรอ?หมี่น่าคุณกล้าดีขึ้นทุกวันทุกวันแล้วนะ คิดยังไงเอากลอุบายนี้มาหลอกผม เชื่อไหมว่าเพียงคำพูดประโยคเดียวจะทำให้คุณตายยิ่งกว่าหมา!”
หมี่น่าไม่กลัวเขาแม้แต่น้อย เธอกลับยิ้มออกมาด้วยซ้ำ เธอจะต้องกลัวอะไรกัน?เธอเป็นถึงดาราแนวหน้าระดับสาม ไม่มีวันพ่ายแพ้แน่!
หากชนะก็จะได้นั่งในตำแหน่งของคุณนายเกา แต่หากเธอแพ้เธอก็จะใช้โอกาสนี้สร้างชื่อเสียง
“นี่คือผลตรวจค่ะ คุณดูเอาเองเถอะ เวลาตรงกับครั้งสุดท้ายที่เรานอนด้วยกัน” หมี่น่ายื่นผลตรวจที่พับไว้ให้กับเขา
เกาจิ่งอานรู้สึกว่าใบผลตรวจนั้นร้อนยิ่ง เขาไม่กล้าจะเปิดมันออกดู
ในฐานะเพลย์บอย เขาไม่เคยกังวลว่าจะมีผู้หญิงคนไหนมาผูกมัดกับเขาได้ และทุกครั้งเขาก็จะระมัดระวังไม่ให้เกิดความผิดพลาดได้ แต่ครั้งที่แล้ว……
ครั้งที่แล้วหลังจากงานเลี้ยงสังสรรค์ เขาดื่มมากเกินไปอีกทั้งถูกแฟนเก่าของโจวโร่หลินกระตุ้นเขา เขาจึงไม่อาจบังคับตัวเองได้
หมี่น่าเงยหน้านำมือของเธอโอบไปที่มือของเขาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนว่า “ครั้งที่แล้วที่คุณ……กระทำกับเรือนร่างของฉันอย่างหนัก แต่คุณกลับเรียกชื่อผู้หญิงคนนั้นออกมา คุณจำไม่ได้แล้วเหรอ? จิ่งอานคะ ฉันรู้ว่าคุณเบื่อกับชีวิตตอนนี้เต็มทีและต้องการที่จะเปลี่ยนรสชาติบ้าง ไม่เป็นไรหรอกค่ะฉันเข้าใจดี ใครฉันรักคุณเข้าล่ะ”
อย่างนั้นเหรอ?เขาเรียกชื่อโจวโร่หลินออกมาเหรอ?
เกาจิ่งอานไม่ได้สนใจหญิงสาวในอ้อมแขนของเขา เขามองไปยังทิศทางที่รถแท็กซี่คันนั้นแล่นออกไปและยิ้มขึ้น
เขามั่นใจแล้ว! มั่นใจมากๆ! ว่าเขารักโจวโร่หลินอย่างสุดหัวใจ