ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 749
ตอนที่ 749 ให้ผมช่วยแก้แค้นไหม
แขกที่มารับประทานอาหารพากันตะลึงอย่างมากกับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้านี้ บรรดาแขกผู้หญิงกรีดร้องด้วยความตื่นเต้นและประหลาดใจ ทำให้ที่นั่นดูครึกครื้นๆมีสีสันเพิ่มขึ้น สิ่งที่ทำให้ทุกคนประหลาดใจมากที่สุดนั่นก็คือ ผู้ชายที่อยู่ตรงกลางคนนั้นคือประธานบริษัทอึนเคอ!
โจวโร่หลินเอามือขึ้นปิดปากตัวเองโดยไม่รู้ตัว เธอยืนนิ่งอยู่กับที่ไม่ขยับเขยื้อนไปไหน ทำได้เพียงยืนอยู่ที่จุดนั้นตามสัญชาตญาณและมองดูเขาเดินเข้ามาทีละก้าวๆอย่างรวดเร็วและสง่างาม
“หลินหลินครับ ขอโทษทีที่มาช้า”
ใบหน้าเรียวงามและดูดีของเขาเปิดเผยรอยยิ้มอันทรงเสน่ห์ออกมา ดอกกุหลาบในมือของเขาก็งดงามยิ่ง
โจวโร่หลินจ้องมองไปที่เขาแล้วถามว่า “คุณมาได้ยังไงกันคะ?”
เกาจิ่งอานยื่นดอกกุหลาบไปวางไว้ในมือของเธออย่างเป็นธรรมชาติ เมื่อดอกไม้วางอยู่ตรงหน้าของเธอที่สวมชุดสีขาว ช่วยเสริมให้โดดเด่นมากขึ้น
เกาจิ่งอานมองไปที่เหอหมิ่นและอากวาง จากนั้นใช้มือข้างหนึ่งของเขาโอบไปที่บ่าของเธอ เขาเข้าไปใกล้ๆกระซิบที่ข้างหูของเธอด้วยท่าทางสนิทสนมว่า “ต้องการให้ผมช่วยคุณระบายความโกรธไหม?”
เขาไม่รอให้โจวโร่หลินตอบกลับมา เกาจิ่งอานก็พูดออกมาด้วยตัวเองว่า “ช่างมันเถอะ ผมจะจัดการให้คุณเอง”
เมื่อพูดจบเกาจิ่งอานอันก็จับมือของโจวโร่หลินนำมาวางไว้ในมือของเขาเองอย่างอ่อนโยน สายตามองไปที่เธอราวกับว่าในโลกนี้มีเพียงเธออยู่เพียงคนเดียว
เขาไม่สนใจเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากคนรอบข้างและไม่สนใจว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร เพียงแต่เขาทำเรื่องนี้ให้เสร็จก็พอแล้ว
“โร่หลินครับ ผมรักคุณ คุณงดงามและโดดเด่นมาก ผมรู้ตัวว่าไม่ควรใฝ่ฝัน แต่ผมอดไม่ได้ที่จะชอบคุณและอยากจะอยู่กับคุณ”
“ความงดงามของคุณทำให้ผมรู้สึกด้อยค่านับครั้งไม่ถ้วน แต่ผมก็ยังอยากจะใช้ชีวิตร่วมกับคุณ!”
ท่าทางการแสดงความรักของเกาจิ่งอานช่างจริงใจและเป็นที่ประทับใจเป็นอย่างมาก
โจวโร่หลิน “……”
นี่คุณเตรียมเขียนบทมาล่วงหน้าหรือไง?
คนรอบข้างใกล้จะบ้าคลั่งกันแล้วไม่เห็นหรือไง? เกาจิ่งอานพูดกับผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่มีสถานะใดๆว่ารู้สึกด้อยค่าอย่างนั้นเหรอ?
ผู้หญิงคนนี้มีดีอะไรกัน?
เกาจิ่งอานพูดต่อไปว่า “โร่หลิน ถ้าคุณไม่รังเกียจผม ผมยินดีที่จะปรับปรุงตัวเพื่อคุณ ผมขอใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ของผมรักคุณ ดูแลคุณ จะพิสูจน์ให้คุณเห็นว่าผมให้ความสุขกับคุณได้”
โอ้พระเจ้า!นี่มันน่าประทับใจจริงๆ เหมาะสมกับฐานะตัวตนกับเขาแล้ว
เหอหมิ่นและอากวางที่ยืนอยู่ด้านหลังต่างตกตะลึง โดยเฉพาะเหอหมิ่นที่อยู่ในอ้อมแขนของอากวาง เธอถือโทรศัพท์มือถืออยู่ในมืออีกทั้งยังเปิดข่าวของโจวโร่หลินที่ว่าเป็นมือที่สามอยู่ด้วย
บัดนี้ข่าวในโทรศัพท์มือถือทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองดูโง่มาก
ดวงตาที่เหมือนลูกพีชของเกาจิ่งอานดูมีเสน่ห์ราวกับจะกลืนกินคนที่อยู่ตรงหน้าไปได้ เขาพูดขึ้นว่า “โจวโร่หลิน เป็นแฟนกับผมนะ!”
การเตรียมตัวที่อลังการและฉากยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ถ้าเป็นคนอื่นก็คงจะเปรียบได้กับการขอแต่งงานไปแล้ว แต่เกาจิ่งอานใช้ขั้นตอนอันยิ่งใหญ่นี้เพียงเพื่อสารภาพรักและขอความยินยอมจากผู้หญิงเท่านั้น นี่มันไม่เหมือนกับในข่าวเลยนี่!
โจวโร่หลินพูดอะไรไม่ออก เธอตกตะลึงและประหลาดใจ คล้ายกับได้บุกไปในโลกนิยายอย่างไรอย่างนั้น ถ้าเธอไม่งงนี่สิถึงจะเป็นเรื่องแปลก!
เกาจิ่งอานหยิบกล่องสีแดงกำมะหยี่ออกมาจากกระเป๋ากางเกงของเขา เมื่อเขาเปิดกล่องออกก็หยิบแหวนเพชรเม็ดโตที่อยู่ด้านในออกมา ฐานของมันหรูหรามีเพชรเม็ดใหญ่ฝังอยู่ แม้ว่าจะดูอวดความร่ำรวยไปหน่อย แต่วินาทีนั้นเพชรก็ช่างแพรวพราว
หากไม่มีการเปรียบเทียบก็คงจะไม่มีใครต้องเจ็บช้ำ เมื่อเหอหมิ่นก้มลงมองดูแหวนเพชรสองกะรัตของเธอที่เธอรู้สึกภาคภูมิใจเหลือเกิน ก็ทำให้เธอรู้สึกว่าเขาช่างขี้เหนียวจริงๆ
แหวนวงนี้พอดีกับนิ้วกลางของโจวโร่หลินและเข้ากันได้ดีกับนิ้วเรียวยาวขาวผ่องของเธอ การที่สวมได้พอดิบพอดีเช่นนี้เห็นได้ชัดว่าได้มีการวัดขนาดมาก่อน
เกาจิ่งอานพูดขึ้นว่าครั้งที่แล้วที่พี่ชายของผมไปฮันนีมูนที่บ้านพักตากอากาศ ผมก็อยากจะทำแบบนี้ แต่ระหว่างทางผมได้ยินข่าวที่พี่สาวป่วยเข้าจึงได้รีบกลับไปก่อน ผมพูดกับคุณสายเกินไป ผมขอโทษ”
วันนั้นเหรอ?วันที่เธอรอเขานานมาก……
เธออยากจะพูดออกไปเหลือเกินว่าไม่เป็นไร เพียงแค่เขามา ไม่ว่าจะสายขนาดไหนเธอก็ไม่ว่าอะไรเลย
ดวงตาที่อ่อนโยนของเขาเปลี่ยนไปในทันที เกาจิ่งอานมองไปยังเหอหมิ่นและอากวางแล้วพูดว่า “คุณไร้เดียงสาเกินไป คุณมองคนไม่ออกจึงถูกหมาแมวรังแก การที่ผมไม่สามารถปกป้องคุณได้เป็นอันดับแรก การที่ผมไม่สามารถเป็นที่พึ่งพิงของคุณได้ในอันดับแรก ผมเสียใจจริงๆ แต่นับจากวันนี้เป็นต้นไปคุณคือผู้หญิงของเกาจิ่งอาน!”
“หมาที่ไหนกัดคุณ ผมจะเตะมันเอง ส่วนคนไหนที่รังแกคุณ ผมจะฆ่าเขาเอง!”
เกาจิ่งอานพูดประโยคนี้ออกมาทำให้ทุกคนที่อยู่ในที่นั้นตกใจกลัวจนขาสั่น เพราะเขารู้ดีว่าเกาจิ่งอานนั้นเป็นคนเด็ดขาดและหยิ่งผยองมาตลอด เขาไม่คิดจะปล่อยศัตรูของเขาไป และจะจัดการศัตรูอย่างตรงไปตรงมาเสมอไม่อ้อมค้อมใช้กลเม็ดใด
ดังนั้นทุกคนจึงมองไปที่อากวางด้วยความเห็นอกเห็นใจ พวกเขาล้วนแต่นึกในใจว่า ตายแน่!!!
ในที่สุดโจวโร่หลินก็ได้สติกลับคืนมา เธอตื่นจากฝัน จับมือของเกาจิ่งอานแล้วถามว่า “เมื่อสักครู่ที่คุณพูดจริงไหมคะ?”
เกาจิ่งอานรีบชูนิ้วขึ้นและสาบานกับฟ้าดินว่า “ทุกคำพูดมาจากก้นบึ้งของหัวใจผม ทุกคนในที่นี้เป็นพยานได้ ถ้าผมรังแกคุณขอให้ผม……”
“ฉันเชื่อคุณค่ะ!”
โจวโร่หลินพุ่งตัวเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของเขา เธอโอบเอวเขาเอาไว้แน่น ปล่อยให้น้ำตาที่กักเก็บมานานไหลออกมาโดยไม่ปิดกั้นเอาไว้อีก “เกาจิ่งอาน ฉันเชื่อคุณค่ะและฉันก็รักคุณ!”
เกาจิ่งอานแข็งทื่อไปทั้งตัว “คุณ……เมื่อสักครู่คุณพูดว่าอะไรนะ พูดใหม่ได้ไหมครับ!”
โจวโร่หลินทำตาหยี เธอยิ้มขึ้นแล้วทุบไปที่หน้าอกของเขาเบาๆพูดว่า “ฉันรักคุณ! ฉันรักคุณ!ฉันรักคุณค่ะ!”
เกาจิ่งอานมีความสุขมาก เขาโน้มตัวลงมากอดโจวโร่หลินเอาไว้ แล้วหมุนตัวเธอคล้ายกับเจ้าหญิงภายใต้แสงเพลงและกลีบดอกไม้
ผู้คนที่อยู่รอบข้างพากันตื่นตาตื่นใจ พวกเขาตกตะลึงไปชั่วขณะจากนั้นจึงได้ส่งเสียงปรบมือลั่นดังออกมา
เนิ่นนานทีเดียว เกาจิ่งอานจึงปล่อยโจวโร่หลินออกจากอ้อมอกของเขาอย่างเสียดาย “คุณรักผมจริงๆเหรอครับ?”
นี่มัน เขารู้สึกเหมือนกำลังฝันไป นี่มันเกินความเป็นจริง ทำเขารู้สึกไม่มีความมั่นคงเลย
โจวโร่หลินหัวเราะออกมาเบาๆ ใบหน้าที่เปียกปอนไปด้วยน้ำตาของเธอ เธอเม้มริมฝีปากเขย่งเท้าขึ้นไปจะจูบเขา แต่เกาจิ่งอานสูงเกินไปเธอเอื้อมไม่ถึงริมฝีปากของเขา จึงได้พูดออกมาว่า “คุณ ก้มลงหน่อยได้ไหม?”
ฮ่าๆ! เกาจิ่งอานหัวใจพองโต
เขาโน้มตัวลงมาแล้วประกบริมฝีปากของตัวเองไปที่ริมฝีปากอันอบอุ่นของเธอ เขาค่อยๆสัมผัสอย่างอ่อนโยน จากนั้นก็สำรวจเข้าไปด้านใน เขาชื่นชมอย่างช้าๆ ด้วยความหลงใหล
หมิงเม้ยและคนอื่นๆปรบมือกันเสียงดังฮือฮา บ้างก็พากันผิวปากไม่ขาดสาย
เนิ่นนานทีเดียว เกาจิ่งอานจึงได้ถอนริมฝีปากออกจากเธอ “ขอบคุณมากครับโร่หลิน”
โจวโร่หลินเหม่อลอย วันนี้เธอรู้สึกว่าตัวเองกำลังลอยอยู่บนกลีบเมฆ มันช่างเหมือนกับความฝันจริงๆ
“เรื่องของผมกับหมี่น่าผมจะต้องอธิบายให้คุณฟัง ขอบคุณที่คุณยอมรับผมโดยที่ไม่ใส่ใจเรื่องนั้น” เกาจิ่งอานยิ้มขึ้นอย่างมีเลศนัย
เหอหมิ่นหัวเราะเหอะๆ “แหมพูดอยู่ตั้งนาน! สุดท้ายก็แค่จะเล่นสนุกกับเธอสินะ อากวางคะผู้หญิงแบบนี้เป็นได้แค่ตัวสำรองเท่านั้นแหละค่ะ”
เกาจิ่งอานได้ยินดังนั้นก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที!
โจวโร่หลินไม่ใช่ว่าไม่สนใจเรื่องนั้น แต่เมื่อสักครู่สมองของเธอไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ต่างหาก
ติ๊ง!
ติ๊ง!
เสียงโทรศัพท์ของคนในร้านอาหารดังขึ้นทีละคน เกาจิ่งอานขึ้นแล้วพูดว่า “พี่สาวของเราจัดการเรื่องราวได้เร็วจริงๆดูนี่สิครับ”
“หมี่น่าขี้โกงจริงๆ เลวมาก! ถ้าดียังไงมาบอกประธานกล่าวว่าท้อง เธอมันจอมโกหก โกหกเพื่อที่จะได้ไต่เต้าขึ้นไป ทุกคนดูข่าว”เข้าสิ หมี่น่าผู้หญิงคนนั้นกำลังเอ่ยขอโทษต่อหน้าสาธารณะ”
“หน้าด้านไร้ยางอายจริงๆ วิธีการแบบนี้ก็ยังเอามาใช้ได้ เป็นเธอต่างหากที่คอยขัดขวางความรักของคนอื่น!”
“คอยดูนะฉันจะไปประจานเธอในWeibo!”
เสียงคำด่าทอทำให้โจวโร่หลินจัดการกับสติของเธอให้กลับมา เธอยิ้มอย่างมีความสุขแต่ก็ตกตะลึงเช่นกัน คนที่เสียหายคือเธอเป็นเธอต่างหากล่ะ!
“ฉันเข้าใจคุณผิดไป ขอโทษนะคะ”โจวโร่หลินดึงแขนเสื้อของเขาและก้มหัวลงพูด
เกาจิ่งอานเอื้อมมือไปแตะที่ศีรษะของเธอ แล้วโน้มตัวลงมาจูบที่หลังมือของเธออย่างสุภาพบุรุษ “นางฟ้าของผมจะผิดได้ยังไงครับ?คุณถูกเสมอ”
ทุกคน “……”
ไม่ต้องหวานขนาดนี้ได้ไหม!
โจวโร่หลินหน้าร้อนผ่าว “เอ่อ คือว่า ฉันตอบรับคุณแล้ว งั้นพวกเรากลับกันได้ไหมคะ?”
กลับเหรอ ยังไม่ถึงเวลาหรอก!
เกาจิ่งอานดึงโจวโร่หลินมาไว้ในอ้อมแขนของเขาด้วยท่าทีที่แข็งแกร่ง สายตาของเขามองไปยังอากวางแล้วพูดว่า “ที่รักครับ คุณจะให้ผมจัดการกับหมาคู่นี้ หรือจะให้ผมฆ่าก็เขาวันอื่นดี?”
พระเจ้า ฆ่าอย่างนั้นเหรอ?
คนที่สามารถพูดแบบนี้ในที่สาธารณชนได้ก็คงจะมีแต่เกาจิ่งอานเท่านั้นแหละ
โจวโร่หลินหัวเราะออกมาแล้วลูบไปที่ดอกกุหลาบสีแดงในมือของเธอ “เขาไม่ต่างอะไรไปกับสุนัขก็จริงค่ะ แต่ถ้าคุณจะฆ่าพวกเขาก็ทำให้มือสกปรกเปล่าๆฉันทำใจไม่ได้หรอก”
เกาจิ่งอานยิ้มตรงมุมปากเล็กน้อย เขาเลือกผู้หญิงไม่ผิดไปจริงๆเธอรีบเปลี่ยนบทบาทได้อย่างรวดเร็ว
“พบกันอีกแล้วนะครับ คุณชื่อว่าอะไรกัน?”เกาจิ่งอาน ชี้ไปที่เหอหมิ่น
เขาคิดไม่ถึงว่าเธอจะเป็นผู้หญิงจอมหยิ่งผยองในร้านขายเครื่องประดับคนนั้น บัญชีเก่าและใหม่คิดพร้อมกันเลยแล้วกัน
เหอหมิ่นสะดุ้งแล้วทรุดลงไปในอ้อมแขนของอากวาง “ฉัน คือ ฉันขอโทษค่ะคุณเกา! ฉัน ฉันผิดไปแล้ว คำพูดของฉันเมื่อสักครู่ฉันพูดกับคนอื่น ฉันไม่ได้คิดจะทำร้ายแฟนของคุณเลยนะคะ ฉันขอโทษ!”
เกาจิ่งอานพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “เอาเถอะพอได้แล้ว ผมไม่อยากจะฟังคำพูดที่ออกมาจากปากของคุณ กลิ่นเหม็นเน่ายิ่งกว่าอุจจาระซะอีกน่าขยะแขยง!”
ทุกคน “……”
หมิงเม้ยที่ยืนอยู่ข้างๆโจวโร่หลิน เธอพูดขึ้นมาว่า “คุณเกาคะ เมื่อสักครู่เรื่องที่โจวโร่หลินถูกพวกเขารังแก คุณจะให้ฉันเล่าให้ฟังอีกครั้งหนึ่งไหม?”
“ไม่เป็นไรครับ” ไม่จำเป็นที่ต้องให้เธอมาพูดย้ำ เกาจิ่งอานเดินหน้าออกไป เขาใช้ความได้เปรียบจากสถานการณ์ในตอนนี้กดขี่อากวาง “คนคนนี้……วันนั้นที่หลินหลินของผมสนใจคุณ เนื่องจากเธอยังเด็กไม่รู้ประสีประสา คุณไม่รักษาเธอไว้ให้ดี กลับไปยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงน่ารังเกียจแบบนี้ คุณนี่มัน! คุณว่าผมจะจัดการกับคุณยังไงดี?”
อากวางสีหน้าเปลี่ยนไปเป็นซีดเผือด เขาผลักเหอหมิ่นออกจากตัวแล้วพูดอย่างตื่นตระหนกว่า “คุณเกาครับไม่ใช่อย่างนี้ คือว่าผม……”
“แหม ผู้หญิงที่คุณเลือกมาเองกับมือ มาผลักเธอออกไปง่ายๆอย่างนั้นเหรอ? ถ้าใช้คำว่าสาระเลวกับคุณผมเกรงว่าจะทำให้คำนั้นต้อยต่ำลงไปอีก”
เกาจิ่งอานพูดอย่างดูถูกเหยียดหยาม เขาพูดออกมาว่า “คุณชื่ออากวางใช่ไหม?ผมจำได้ว่าพ่อของคุณเปิดบริษัทชื่ออะไรนะ อ๋อบริษัทฉี่หมิงใช่ไหม กลับไปบอกพ่อของคุณซะ ไม่ต้องดิ้นรนกับบริษัทนี้อีกต่อไปแล้ว ผมจะจัดการให้อย่างสะอาดเรียบร้อยเชียว”
“คุณเกาครับ ผมขอโทษ!อย่าทำแบบนี้เลย ให้โอกาสผมเถอะนะครับ ผมรู้ตัวว่าผิดไปแล้ว ผมขอโทษจริงๆ ผมขอโทษจากใจ”อากวางรีบเข้ามาคว้ามือของโจวโร่หลินเอาไว้แล้วขอโทษออกมาอย่างไม่ขาดสายด้วยความอ้อนวอน
โจวโร่หลินรู้สึกว่าฉากนี้ช่างไม่น่ามองจริงๆ
“อากวาง เรื่องในครอบครัวของฉัน หัวหน้าครอบครัวเป็นคนตัดสินใจ คุณขอร้องฉันก็ไม่มีประโยชน์หรอก” โจวโร่หลินสะบัดมือของเขาออกแล้วมองไปด้วยสายตาเย็นชา
เกาจิ่งอานลูบศีรษะของเธอด้วยความพอใจ “ดีมากครับที่รักของผม”
เมื่อพูดจบเขาก็หันไปเอ่ยกับเสริมเหอหมิ่นว่า “บริษัทคุณพ่อของคุณอยู่ที่อเมริกาใช่ไหม? กลับไปบอกเขานะว่าถ้าต้องการจะมีชีวิตอยู่ก็ให้รีบเก็บหางไว้ซะ อย่าให้โผล่ออกมาเกะกะผม ส่วนเรื่องสาขาในประเทศ คนอย่างคุณจะไปจัดการบริษัทอะไรได้ ผมจัดการให้เลยละกัน อ้อ!ไม่จำเป็นต้องขอบคุณ!”
“อะไรนะ?”
เหอหมิ่นทรุดลงไปนั่งที่พื้น เธอยังไม่ทันหายดีจากความตกตะลึงที่อากวางผลักเธอออกไปเมื่อสักครู่ เธอก็คล้ายกับถูกตบหน้าเสียจนชาไปทั้งตัว
“คุณเกา ในวันนี้ฉันไม่ดีมีเจตนาจะทำให้คุณขุ่นเคืองแม้แต่นิดเดียว เรื่องในร้านจิวเวลรี่ฉันผิดเองฉันขอโทษ แต่คุณก็ซื้อมันไปได้แล้วไม่ใช่เหรอ?”
เมื่อโจวโร่หลินนำเรื่องราวทุกอย่างมาปะติดปะต่อกัน ถ้าเช่นนั้นสร้อยที่คอของเธอเส้นนี้เกาจิ่งอานซื้อให้เธอใช่ไหม?รวมทั้งชุดและรองเท้าด้วย?
GOD!
เกาจิ่งอานยกมือขึ้นโบก เขาไม่อยากจะมองไปทางเธออีกด้วยซ้ำ เขาหันไปพูดกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ยืนอยู่ด้านหลังว่า “เอาตัวคนที่สร้างความไม่สงบสุขออกไปจากที่นี่ วันนี้ผมอยากจะทานอาหารเย็นกับแฟนที่นี่”
เหอหมิ่นและอากวางยังคงดิ้นรนพยายาม แต่เกาจิ่งอานไม่ได้เอาคำพูดของพวกเขามาใส่ใจแม้แต่นิดเดียว
หัวใจของโจวโร่หลินคล้ายกับกระพือปีกออกมา เท้าของเธอเบาหวิว “เกาจิ่งอานคะ คุณนี่เล่นเก่งจริงๆ”
เกาจิ่งอานทำหน้ามุ่ยแล้วบอกว่า “ผมอาจจะเล่นมาตั้งแต่เล็กจนโตๆ แต่ในครั้งนี้ผมตั้งใจจริงนะครับ ผมเสียใจจัง”
ให้ตายสิ!