ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 755
ตอนที่ 755 คุณผู้หญิงแอบหนีออกไปแล้ว
ชีวิตของลั่วหานอยู่ในกฎมาก ปฏิบัติตัวเป็นหญิงตั้งครรภ์ที่ดี ทุกวันทานข้าว ออกกำลังกาย อ่านหนังสือ เดินเล่น ส่วนใหญ่ก็ประมาณนี้
ลู่ซวงซวงหอบถุงเล็กถุงใหญ่มาเยี่ยมเธอ ลั่วหานกำลังฝึกโยคะอยู่ที่ห้องฟิตเนสของหลงเซียว ลู่ซวงซวงผลักประตูเข้ามา เห็นเธอกำลังทำถึง “ท่าอาสนะ”พอดี
ขาสองข้างยืนตรง เข่าเหยียดตรง แขนสองข้างยกขึ้นสูงเหนือศีรษะ สองมือประกบเข้าหากัน หายใจเข้าลึกๆ
เธอสวมชุดโยคะที่มีความยืดหยุ่น ท่อนแขนและขาสองข้างยังคงเรียวและได้สัดส่วน เพียงแต่ท้องโตขึ้นมาก ดูเหมือนจะระเบิดออกมาแล้ว
“ลั่วลั่ว ลั่วลั่ว โอ๊ยตายแล้ว เธอก็ขนาดนี้แล้ว ยังจะทำโยคะอะไรอีก ฉันกลัวจริงๆว่าเด็กจะระเบิดออกมา เธอหยุดพักก่อนดีไหม”
ได้ยินเสียงดังราวกับจะฆ่าหมูของลู่ซวงซวง ลั่วลั่วเก็บแขนทั้งสองข้างลงช้าๆ และยุติการเล่น
“ฉันกลับอยากให้เขารีบออกมา ช่วงนี้เอวฉันปวดจนแทบจะหักแล้ว ตั้งครรภ์นี่ลำบากจริงๆ เธอไม่เข้าใจหรอก ยังดีที่ฉันยังพยายามออกกำลังกายเล่นโยคะ ไม่งั้นพอคลอดแล้ว ฉันคงจะกลายเป็นยัยอ้วน”
ลู่ซวงซวงเดินขึ้นไปยังเครื่องวิ่ง กดปุ่มทำงาน เลือกสามกิโลเมตรต่อชั่วโมง เดินเล่นช้าๆอยู่บนนั้น “ช่างตื่นตัว ช่างสุนทรีย์ ฉันว่านะ หลังจากท้องแล้วเธอต้องกลายเป็นแม่บ้านอยู่ติดบ้านแน่เลย จะไปออกจากบ้านเลยหรือเปล่า”
“ต้องออกไปข้างนอกอยู่แล้ว ฉันอยู่บ้านไม่ได้หรอก เพียงแต่ออกจากบ้านตอนนี้…รอบข้างอย่างน้อยห่างสามคน เธอคงเข้าใจ เธอคงเข้าใจแทบจะเป็นคนพิการไปแล้วครึ่งหนึ่ง”
ฟังดูน่าสงสาร เธอไม่ท้องจะดีกว่า
“ช่วงนี้ผู้ชายของเธอมีความเคลื่อนไหวไหม สำเร็จไหม” ลู่ซวงซวงกะพริบตาปริบๆ
“อะไรนะ”
“ห้างที่ตระกูลโม่ปิดไป ถูกครอบครัวของเธอปรับปรุงเป็นร้านขายสินค้าแม่และเด็กไฮเอนด์ สินค้าที่มาวางขายล้วนเป็นแบรนด์ดังทั้งนั้น แค่นมผงกระปุกเดียวอาจจะเป็นหนึ่งถึงสองพันเลยก็ได้แบบนั้น เมื่อก่อนฉันเดินผ่านมีสิ่งขวางกั้นอยู่มองไม่เห็น วันนี้ไปซื้อของขวัญให้เธอเลยได้เดินผ่านทางนั้น แผงกั้นถูกเอาออกไปแล้ว ทาด้า! นี่รูปฉันถ่ายมาให้เธอดู”
ลู่ซวงซวงยื่นโทรศัพท์ให้ลั่วหาน
ลั่วหานจำโลโก้สีโรสโกลด์ขนาดใหญ่เหนือประตูบานใหญ่ได้ ที่แท้เป็นตัวอักษรangelที่เธอเขียนเล่นๆไปเท่านั้น
ลั่วหานอดหัวเราะไม่ได้ “ซวงซวง มีเรื่องหนึ่ง ร่วมมือกันหน่อยไหม”
ลู่ซวงซวงเพียงมองสายตาของเธอ เท้าพลันลื่นเกือบตกลงจากเครื่องวิ่ง “โอ๊ยๆ พูดก็พูดสิ อย่าใช้สายตามาฆ่าฉัน”
“พาฉันออกไปเดินเล่นหน่อย เด็กดี พี่ไม่เอาเปรียบเธอหรอก ที่นั่งแบบไม่ต้องจองในร้านอาหารมิชลินเป็นไง” ลั่วลั่วพิงอยู่ที่พักแขนของเครื่องวิ่ง เล่นหรูเล่นตาใส่ลู่ซวงซวง
ลู่ซวงซวงยิ้มแห้ง “เหอะเหอะ ลั่วลั่ว คนคนนี้เดิมก็ไม่มีความต้านทาน อาหารอร่อยบวกกับคนสวย ฉัน…ได้ โอเค”
……
ลู่ซวงซวงเพิ่มเกราะกำบัง พาลั่วหานหนีออกมาได้สำเร็จ ทั้งคู่นังอยู่บนออดี้A4สีชมพูของลู่ซวงซวง มุ่งไปยังเขตการค้าอย่างมีความสุข
ลู่ซวงซวงบังคับพวงมาลัย พูดไม่หยุด “ว้าว ลั่วลั่ว ฉันพบว่าฉันตกหลุมพรางของเธอแล้ว ถ้าหลงเซียวรู้ว่าภรรยาของเขาไม่อยู่แล้ว คงถลกหนังฉันแน่ ให้ฉันไปส่งเธอกลับคืนดีไหม”
ลั่วลั่วนั่งอยู่ที่นั่งข้างคนขับอย่างสบาย เอนพิงไปด้านหลังสูดอากาศบริสุทธิ์แห่งอิสรภาพ สัมผัสถึงหัวใจที่เต้นแรง อารมณ์ดีเป็นพิเศษ
“ตอนนี้เธอกลับไปเขายิ่งจะถลกหนังเธอ วางใจเถอะ เขาไม่รู้หรอก รอเราเล่นจนพอใจแล้วค่อยกลับไป”
มุมปากของลู่ซวงซวงกระตุก “ลั่วลั่ว เธอเป็นคนท้อง ไม่ใช่นักโทษ ออกไปข้างนอกแบบนี้ มันดีจริงๆเหรอ”
ลั่วลั่วลูบท้องโต “อยากรู้จริงๆหรอ อยากดูคนสวีทกันไหม”
ลู่ซวงซวงคิดอยู่ชั่วครู่จากนั้นส่ายหน้า “ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ งั้นไม่ต้องหรอก ฉันว่าฉันรู้แล้ว”
รถมาถึงอาคารหัวชิวแล้ว ลั่วหานลงรถตรงหน้าประตูก่อน ลู่ซวงซวงเอารถไปจอด ลั่วหานที่อาวุธครบมือสวมแว่นกันแดดอันใหญ่ ครึ่งใบหน้าด้านล่างพันผ้าพันคอสีแดง แดงแบบนี้ขนาดแม่ก็คงจำไม่ได้
ต้องขอบคุณชุดนี้ ลั่วหานมองเห็นกลุ่มหญิงสาวหนึ่งสวมรองเท้าส้นสูงในนั้นมีโม่หรูเฟยที่พูดคุยกันสนุกสนาน เธอเดินเข้ามา ท่าทางเย่อหยิ่งจองหอง
หนึ่งในนั้นคือหมี่น่าที่มีเรื่องอื้อฉาวเมื่อครั้งก่อน นอกนั้นก็ไม่ได้แปลกตาเท่าไหร่ นอกจากจมูกที่คล้ายกับฉีดมา สิ่งที่เหมือนกันก็คือคนพวกนั้นล้วนเคยมีปัญหากับลั่วหานหรือคนรอบข้างของลั่วหานทั้งนั้น
เหอะ
โม่หรูเฟยก็ไม่ธรรมดาเลยนี่ ถึงได้สร้างกลุ่มรวบรวมคนที่มีความแค้นแบบนี้
“หมี่น่า เธอน่าสงสารจังเลย โจวโร่หลินนับว่าเป็นอะไรกัน คนบ้านนอกที่ออกมาจากหมู่บ้าน ไม่ช้าก็เร็วเดี๋ยวคุณชายเกาก็จะเบื่อ จากรสของเขา เดี๋ยวก็คงกลับไปหาเน็ตไอดอล เธอก็แค่ไก่ป่าคิดอยากจะขึ้นบนฟ้า ไม่ช้าก็เร็วเดี๋ยวก็สลัดเธอทิ้ง”
“ให้ฉันพูดนะ เธอเองก็โง่ แกล้งอะไรไม่แกล้งไปแกล้งท้อง โดนจับได้ง่ายจะตาย”
“ก็ใช่น่ะสิ อย่าว่าแต่แกล้งเลย ถึงจะท้องจริงๆก็คงจะไม่เหมือนกัน ตอนนั้นพี่เฟยเฟยเองก็…” หญิงสาวพูดมาได้ครึ่งหนึ่ง สายตาโม่หรูเฟยกวาดไป จนหญิงสาวต้องรีบเปลี่ยนคำพูด “ขอโทษค่ะพี่เฟยเฟย ปากฉันมันไม่ดีเองค่ะ”
“แต่เฟยเฟย เธอได้รับความไม่เป็นธรรมขนาดนี้ แล้วจะปล่อยไปแบบนี้หรอ” หมี่น่าแสร้งทำเป็นห่วงใย
โม่หรูเฟยจึงด่า “ผู้หญิงคนนั้น…ท้องโตขนาดนั้นยังเป็นได้แค่แม่เลี้ยงเดี่ยว เดี๋ยวความคิดเห็นของสังคมก็จะทำให้เธอตรอมจนตาย”
ดวงตาภายใต้กรอบแว่นของลั่วหานโค้ง โม่หรูเฟยเป็นคนเปลี่ยนสันดานได้ยากจริงๆ วันนี้ได้เจอแล้ว ก็คงต้องลงมือสักหน่อย จะปล่อยให้เธอแผลหายแล้วลืมรสชาติของความเจ็บปวดไม่ได้
“แต่ตอนนี้ไม่มีใครกล้าธรรมข่าวเรื่องไม่ดีของเธอเลยนะ พวกสำนักที่พูดความจริงเหล่านั้นก็ถูกหลงเซียวจัดการหมดแล้ว”
“ข่าวบนเน็ตลบออกไปได้ แต่หลงเซียวคงไม่สามารถตัดลิ้นของคนได้หรอก ฉันไม่เชื่อหรอกว่าฉู่ลั่วหานจะอวดเก่งไปจนสิ้นสุด”
ลั่วหานหัวเราะ งั้นก็มาลองกันหน่อยไหมโม่หรูเฟย
ลู่ซวงซวงจอดรถเสร็จก็รีบเข้ามา “ว้าว ที่เข้าไปเมื่อสักครู่นี่โม่หรูเฟยใช่ไหม ฮ่าๆ พวกเธอสองคนชั่งมีพรหมลิขิตจริงๆ”
“ใช่ มีชะตากรรมต้องมาเจอกับคนแพศยา” ลั่วหานทิ้งเสียงคำว่าแพศยาหนัก หัวเราะ
“ว้าว ลั่วลั่วเธอเป็น 007เหรอ ถึงได้แต่งตัวแบบนี้”
“007เป็นสองคนรวมร่างกันใช่ไหม ฉันคือ008”
ลู่ซวงซวงมองท้องใหญ่ของเธอ คำนับเธอด้วยความนับถือ “เธอชนะแล้ว เธอชนะ 008 ฮ่าๆ”
บริษัทฉู่ซื่อ ห้องประชุม
โทรศัพท์หลงเซียวที่วางอยู่บนโต๊ะสั่นขึ้น
เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา บนแผนที่ขึ้นจุดสีแดง ตำแหน่งคืออาคารหัวชิว
หลงเซียวดูเวลา “เอาแบบนี้ก่อน เลิกประชุม”
ทั้งห้องประชุมมองเขาด้วยความงงงัน นี่พึ่งเริ่มประชุมไปยี่สิบห้านาที เลิกประชุมแล้วเหรอ เลิกประชุม มีอะไรผิดพลาดไปหรือเปล่า
จากนั้น ท่านประธานก็เดินออกจากห้องด้วยความกระวนกระวายใจ
จี้ตงหมิงกระแอม “ทุกท่าน ไม่แปลกไม่แปลก นิ่งไว้”
ทุกคนต่างคิด โอเค เข้าใจแล้ว แต่เวลาแบบนี้ ร้อยเปอร์เซ็นต์คงเกี่ยวข้องกับภรรยาคนก่อนของท่านประธานแน่
“ประธานวังครับ คุณว่าทำไมจนถึงตอนนี้ท่านประธานถึงยังไม่แต่งานกับนายหญิงอีกรอบครับ”
“เรื่องนี้…คงจะเพราะไม่มีกระดาษแผ่นนั้น แต่ยังก็มีประโยชน์กับความรู้สึก คุณไม่รู้สึกเหรอว่าช่วงนี้รอยยิ้มของท่านประธานมีมากขึ้นทุกวัน”
“ใช่ใช่ ตอนฉันไปส่งรายงาน ท่านประธานยิ้มให้ฉันด้วย เฮ้ย เมื่อก่อนไม่ได้ต้อนรับดีขนาดนี้หรอกนะ”
หลงเซียวเดินมาที่ระเบียง ต่อสายหาที่บ้าน
“ป้าหลัน นายหญิงไปไหน”
ป้าหลันมองไปด้านบน “อยู่ด้านบนค่ะ”
“ไปดูหน่อย”
อาเซียงวิ่งขึ้นไปดู จากนั้นจึงรีบวิ่งลงมา “ป้าหลันคะ นายหญิงไม่เจอแล้ว”
ป้าหลันใบหน้าซีดเซียว ไม่เห็นแล้ว
หลงเซียวยกยิ้มมุมปาก “ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมจัดการเอง”
ลั่วลั่วของเขาช่างชอบเล่นจริงๆ จนกล้าหนีออกมาเที่ยวข้างนอก เยี่ยมไปเลย
——
ชั้นบนสุดของอาคารหัวชิว ห้องอาหารฝรั่งเศสสามดาวมิชลิน
เป็นที่ที่ดีจริงๆ
มือซ้ายของลู่ซวงซวงถือมีด มือขวาถือส้อม อุปกรณ์ทั้งสองชิ้นขวางอยู่ตรงหน้า “ที่รัก พวกโม่หรูเฟยสั่งอาหารแล้ว”
ลั่วหานพลิกหน้าเมนูอาหาร เลือกอาหารที่อยากทานสองสามอย่าง “ดูต่อไป”
“กำลังคุยกัน อาหารเรียกน้ำย่อยมาถึงแล้ว”
“อาหารหลักก็ถึงแล้ว ที่รัก เราจะรออยู่แบบนี้เหรอ”
“รีบอะไร อาหารของเราก็มาแล้ว ทานข้าว”
ลู่ซวงซวงงงแล้ว “เทพธิดา เธอคิดจะทำอะไรกันแน่ ทำหัวใจฉันเต้นแรงเลย กระตุ้นแปลกๆ”
“สิ่งที่ยิ่งกระตุ้นนั้นอยู่ด้านหลัง”
ผ่านไปประมาณสิบนาที ลั่วหานกวักมือเรียกพนักงาน ใช้ภาษาฝรั่งเศสคล่องแคล่วบอก “ช่วยเสิร์ฟของหวานให้โต๊ะห้าคุณโม่หรูเฟยที ฉันอยากเซอร์ไพรส์เพื่อนของฉัน”
ลู่ซวงซวงกลืนน้ำลาย “เซอร์ไพรส์อะไร”
“รอดูสิ”
ฝั่งโม่หรูเฟยทานข้าวสนุกสนาน บริกรนำเนยถั่วมาวางไว้บนโต๊ะ “คุณโม่ครับ นี่เป็นของเพื่อนคุณเตรียมเอาไว้ให้คุณครับ หวังว่าคุณจะชอบ”
หญิงสาวบนโต๊ะอาหารต่างส่งเสียงแซว “ที่รัก ตอนนี้ยังได้รับความนิยมสูงอยู่เลยนะ ห่างหายไปหลายปีแล้วยังมีแฟนคลับอีก”
โม่หรูเฟยเชิดหน้าขึ้น “ทำไงได้ ช่วงนี้ยังมีคนเรียกร้องให้ฉันกลับมาอยู่เลย”
“รีบชิมดูสิ”
โม่หรูเฟยใช้ช้อนเงินเล็กตักเอาเนยเข้าปาก เนยโพรวองซ์บวกกับเฮเซลนัสอิตาลี่ แน่นอนว่ารสชาตินั้นพิเศษ และงดงาม แต่ว่า โม่หรูเฟยทานไปไม่กี่คำสีหน้าพลันเปลี่ยน “นี่ใส่อะไรบ้าง” มือของเธอเขี่ยเค้กเปิดออกวุ่นวาย จากนั้นมองเห็นเมล็ดสนด้านใน ร่างทั้งร่างโง่ขึ้นมาทันใด
“ผงเมล็ดสน”
เมื่อคำพูดจบลง สองมือของเธอประคองใบหน้าเอาไว้ คร่ำครวญด้วยความเจ็บปวด “หน้าของฉัน เจ็บ รีบโทรศัพท์ ฉันแพ้ผงเมล็ดสน”
ลู่ซวงซวงหัวเราะ “ที่รัก เธอรู้ได้ยังไงว่าเธอแพ้ผงเมล็ดสน”
ลั่วหานหั่นมาการองสีชาเข้าปาก “รู้ตั้งแต่ก่อนแล้ว แค่เธอทานเม็ดสนเข้าไปเล็กน้อย ใบหน้าก็จะบวมขึ้นเป็นสองเท่า เฮอะ เหมือนหมูเลย”
“ฮ่าๆ จริงเหรอจริงเหรอ ฉันจะไปถ่ายรูป”
อีกด้าน เหล่าหญิงสาวต่างพากันตกใจทำอะไรไม่ถูกเมื่อมองเห็นใบหน้าที่บวมเป่งแทบจะมองไม่เห็นตาของโม่หรูเฟย
แก้มทั้งสองข้างงของโม่หรูเฟยบวมมาก แก้มทั้งสองข้างราวกับเนื้อจะแตกออกมา เหมือนร่างกายมันสัมผัสไปหมด
“ว้าว โม่หรูเฟย นักแสดงโม่หรูเฟยก็อยู่ที่นี่เหรอเนี่ย”
ลู่ซวงซวงตะโกนเสียงดังคนเกือบครึ่งร้านรีบวิ่งเข้ามาดูสถานการณ์ มองเห็นโม่หรูเฟยที่กุมแก้มอยู่ที่พื้น ถ่ายรูปสนุกสนาน
“ใบหน้าโม่หรูเฟยเสียหายแล้ว”
“ว้าว ขี้เหร่จริงๆ”
“ฉันกินข้าวไม่ลงแล้วเนี่ย”
ลู่ซวงซวงมีปฏิกิริยาตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว ฉู่ลั่วหาน ต้องเป็นเธอแน่ๆ มีเพียงเธอเท่านั้นที่รู้ว่าตัวเองนั้นแพ้ผงเมล็ดสน และคนที่ตั้งใจวางกับดักเธอแบบนี้นอกจากฉู่ลั่วหานแล้วยังจะมีใคร
โม่หรูเฟยโกรธหนัก ลุกขึ้นยืน “ฉู่ลั่วหาน แกออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ แกลุกออกมาเดี๋ยวนี้”
เมื่อเธอทำแบบนี้ ใบหน้าไม่ได้ปกปิด ใบหน้าส่วนที่บวมน่าเกลียดเผยให้เห็นได้ชัดเจน น่าเกลียดเป็นที่สุด
ลั่วหานยกยิ้มมุมปาก ลุกขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ เดินเข้าไปหาไม่ช้าไม่เร็ว ถอดแว่นและผ้าพันคอออก เผยใบหน้างดงามให้เห็นได้ชัด
“หรูเฟย หาฉันเหรอ”
โม่หรูเฟยใช้สายตาที่แทบจะติดเข้าหากันจ้องมอง “ฉู่ลั่วหาน เธออยากทำอะไรกันแน่ มากำกับฉันแบบนี้ทำไม”
ลั่วหานแสร้งทำท่าทางตกใจ “เฮ้ย หน้าเธอเป็นอะไรนั่น ปกติก็บอกเธอแล้วให้ทานรกแกะให้น้อยลง ไปฉีดให้น้อยลง นี่ฉีดไปเยอะเกินไปใช่ไหม ทำไมถึงได้กลายเป็นแบบนี้”
ฮ่าๆ ลู่ซวงซวงหัวเราะท้องแข็ง “ลั่วลั่ว โรงพยาบาลของเธอมีบริการดูดไขมันไม่ใช่เหรอ ส่งเธอไปสักคอร์สไหม”