ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 774
ตอนที่ 774 คนหนึ่งคนกระทบหนึ่งกระดาน
ฟังถึงตรงนี้เส้นที่อยู่ในใจของลั่วหาน ก็คลายออก ไม่เจอปัญหาไม่เติบโต หลงจื๋อโตขึ้นแล้วจริงๆ บางทีอาจเป็นเพราะการกระทำของหลงถิงทำร้ายจิตใจของเขา ดังนั้นจึงไม่ยอมหลงตัวอีก
ดีเหลือเกิน……เขาสามารถก้าวออกมาจากกรงได้ ช่างดีจริงๆ ลั่วหานผลักประตูออกไปพูดด้วยเสียงที่อ่อนโยน “เสี่ยวจื๋อ อยากจะลงไปดูเด็กหน่อยไหม?”
หลงจื๋อรีบเช็ดตาที่ยังมีรอยน้ำตาอยู่ ก่อนนำกระเป๋าเงินสอดเข้าไปในกระเป๋ากางเกง “ได้สิ ผมก็คิดถึงนางฟ้าตัวน้อยอยู่พอดี ผมจะไปดูเธอสักหน่อย คือ…..พี่สะใภ้ ผม……ขอโทษ” เขาพูดอย่างตะกุกตะกักอยู่หลายคำ แต่ลั่วหานรู้ว่าเขาหมายถึงอะไร จึงยิ้มแล้วพูดตอบ “ขอโทษอะไร?”
หลงจื๋อลูบมหา “ไม่ ไม่มีอะไร ผมไปดูที่ชั้นหนึ่งนะ พี่สะใภ้ดูแลพี่ใหญ่ต่อเถอะ เขาตื่นแล้วพี่บอกผมด้วยนะ”
หลงจื๋อลงไปดูเด็กเป็นเวลาเดียวกับที่ป้าหลันกำลังอุ้มเด็กน้อยไปยังห้องรับแขกเพื่อป้อนนม ลั่วหานที่เห็นเขาไปถึงห้องรับแขกแล้ว จึงหมุดตัวเดินกลับเข้าห้องไป พร้อมกับปิดประตูห้องนอน
หลงเซียวลืมตา ยิ้มขึ้นเล็กน้อย “ได้ยินหมดแล้วใช่ไหม?”
“คุณรู้ได้อย่างไรว่าฉันอยู่ข้างนอก?” เธอก็ไม่ได้ส่งเสียงอะไร
หลงเซียวยื่นมือเขาออกไปข้างหนึ่ง เพื่อดึงมือของเธอให้นั่งลง “เป็นสามีภรรยากันนานขนาดนี้ ไม่ควรเป็นให้เสียเปล่า แม้แต่เล่ห์เหลี่ยมของคุณถ้าผมยังไม่รู้อีก ก็ไม่ใช่สามีของคุณแล้ว”
ลั่วหานอาเจียนอยู่ในใจ ตอนนี้นายก็ไม่ใช่อยู่แล้วนี่?
ปากกลับพูดออกไปอย่างว่าง่าย “ได้ ได้ คุณเข้าใจฉันที่สุด เมื่อครู่ที่เสี่ยวจื๋อพูดฉันล้วนได้ยินหมดเเล้ว ฉันตกใจมาก และประหลาดใจมากด้วย ดูแล้วความคิดของเสี่ยวจื๋อกับฉันจะตรงกัน ภาพลักษณ์ของหลงถิงในใจของเขานับว่าพังทลายหมดแล้ว”
“แต่ว่า สำหรับเสี่ยวจื๋อแล้วแรงกระทบนี้ไม่เบาเลย ถ้าเขาเป็นเพราะเรื่องนี้จึงต้องมองหลงถิงใหม่ คนที่ต้องเจ็บตัวต้องเป็นเขาแน่ คนแบบหลงถิง ไม่แม้แต่ที่จะสนใจไยดีความสัมพันธ์พ่อลูก ในสายตาของเขา ความสัมพันธ์ทางสายเลือด จะมีค่าอะไรเมื่อเทียบกับผลประโยชน์ล่ะ?”
หลงเซียวถอนหายใจเบาๆ ใช้นิ้วนวดเบาๆตรงขมับ
ลั่วหานที่เห็นเขามีท่าทางไม่ค่อยดีนัก จึงค่อยๆขยับใกล้ๆเขา มือคู่นั้นจึงช่วยเขากดตรงขมับและหน้าผาก “คุณนี่ ฉันไม่รู้จริงๆว่าควรจะชมคุณหรือด่าคุณกันแน่! ตัวเองเป็นถึงขนาดนี้แล้ว ฟื้นขึ้นมาแล้วยังจะทำงานอีก”
เป็นเวลานานกว่าหลงเซียวจะลืมตาขึ้น พร้อมพูดติดตลกว่า “จะไม่ทำงานได้ไงกัน? ผมเป็นคนหาเงิน ถ้าบอสไม่พอใจละก็ ผมอาจเสียชามข้าวไปได้นะ เมียไม่ดีใจแม้กระทั่งเตียงนอนผมก็อาจเสียไปได้”
ลั่วหานมองท้องฟ้า “คุณเห็นฉันเป็นลัทธิฟาสซิสต์ แล้วใช่ไหม?”
“ไม่ใช่แน่นอน ประเด็นสำคัญคือ มีชีวิตเพิ่มมาอีกหนึ่งชีวิต เงินในการเลี้ยงดูลูกนั้นสูงแค่ไหน ไม่หาเงินค่านมผงนั้นไม่ได้” มือขวาของหลงเซียวดึงมือลั่วหาน มาประทับไว้ข้างๆหน้าของตัวเอง แนบชิดกับกายเขา สายตาแห่งความรักใคร่นั้นค่อยๆพาเธอจมดิ่งลงไป
เอ่อ?
ลั่วหานทำใจรับไม่ได้กับความอ่อนโยนของเขาจริงๆ หัวใจร้อนจนใกล้จะหลอมละลายแล้ว จึงได้รีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนาทันที “เงินจำนวนนี้ที่เสี่ยวจื๋อให้คุณไว้ คุณวางแผนจะทำอย่างไร?”
“วางไว้อย่างนั้นแหละ ไม่ใช้ ไม่ต้องใช้เงินของเขาหรอก เงินประธานของบริษัทไห่ลุนกับเงินทุนของคุณชายกู้ ผมจะใช้อย่างไม่เกรงใจเลย” หลงเซียวยกมุมปากขึ้น
ลั่วหานอุทานขึ้นครู่หนึ่งก่อนพูด “คุณให้บริษัทไห่ลุนกับคุณชายกู้ ช่วยคุณซื้อหุ้นบริษัทฉู่ซื่ออย่างลับๆ พอขุดลงไปลึกๆแล้ว ก็นับว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง”
“ขนาดการหย่าปลอมๆผมยังทำมาแล้ว ไม่รังเกียจที่จะเพิ่มอีกข้อหานึงหรอก” เขาแนบลำตัวเข้าไปใกล้ มือก็คว้าลำคอของลั่วหานไว้อย่างรวดเร็วพร้อมกับยกคางขึ้นเล็กน้อย แล้วจึงประทับจูบลงไปบนปากของเธอ
พูดมาก ต้องรักษา
——
ยามเช้าของวันต่อมา
จี้ตงหมิงตื่นขึ้น พึ่งจะดูโทรศัพท์มือถือก็เห็นฟีดข่าวเด้งขึ้นมาเต็มหน้าจอโทรศัพท์แล้ว!
“ส่วนแบ่งหุ้นบริษัทฉู่ซื่อเกิดการเปลี่ยนแปลง สุขภาพร่างกายของหลงเซียวทำให้เกิดการเปลี่ยนทิศทางการลงทุนของผู้ถือหุ้น ไม่รู้ว่ากัปตันเรือของบริษัทฉู่ซื่อจะมีความสามารถในการควบคุมเรือต่อไปหรือไม่?” (รูปภาพ)
“จากเรื่องที่รู้มา หลงเซียวเกิดอุบัติเหตุขึ้นอย่างกะทันหัน คุณหมอเคยออกใบแจ้งอาการที่น่าเป็นห่วง”
“ผู้สื่อข่าวได้อยู่ที่หน้าบ้านพักส่วนตัวของหลงเซียว ซึ่งได้เห็นคุณหมอเดินเข้าออก แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เห็นหลงเซียวปรากฏตัว จะเป็นไปตามคำเล่าลือที่ว่าหลงเซียวนอนไม่ขยับตัวอยู่บนเตียงหรือไม่?”(กลุ่มภาพ)
จี้ตงหมิงขยี้ผมอันยุ่งเหยิงหลังจากตื่นนอน สวมรองเท้าแตะพร้อมกับเดินออกไปจากห้องนอน แอนดี้ที่ตื่นนอนแล้วก็ได้ ทำอาหารสไตล์ตะวันตกไว้สองที่
“เห็นข่าวหรือยัง? วันนี้แนวทางมติชนยังคงคิดว่าร่างกายของบอสไม่ไหวแล้ว คาดว่าคนจำนวนมากยังคงขายหุ้นของบริษัทฉู่ซื่ออยู่ ผู้ถือหุ้นตอนนี้ยอมที่จะยอมรับว่าตัวเองโชคร้าย ยังดีกว่าที่จะรอให้บริษัทฉู่ซื่อเปลี่ยนบอสคนใหม่ นายว่าคนเหล่านี้เป็นบ้ากันไปแล้วหรือไง?”
แอนดี้เช็ดมือ ถอดผ้ากันเปื้อนออก ทำปากยื่นก่อนพูด “นี่ไม่ได้เรียกว่าบ้า เรียกว่าความงมงาย พวกเขาทำกับประธานราวกับเป็นเทพเจ้าตลาดหุ้น คิดว่าถ้าหากยังมีประธานอยู่ ถึงแม้หุ้นจะตกจนเละเป็นก้อนก็ยังเป็นทองคำอยู่ กลับกัน ถ้าประธานวางมือไม่สนใจ ราคาหุ้นก็เหมือนกระดาษที่ใช้ประโยชน์ไม่ได้”
จี้ตงหมิงมองอาหารสไตล์ตะวันตกที่วางอยู่บนโต๊ะอาหาร และหันกลับไปมองแอนดี้อีกครั้ง “นายยังกินลงได้อยู่เหรอ?”
“ได้สิ ทำไมจะกินไม่ลง? วันนี้บริษัทฉู่ซื่อยังต้องทำศึกต่อไป กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ดังนั้นฉันจะต้องกินดื่มให้อิ่ม ถึงจะมีแรงไปสู้ที่บริษัทได้” จี้ตงหมิงยกนิ้วให้เขาเป็นการใหญ่ และกลับมาขยี้ผมอีกรอบ
“ฉันไปล้างหน้าแปรงฟันก่อนนะ”
แอนดี้ที่กำลังรับประทานแซนด์วิชอยู่นั้น อยู่ๆโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น เป็นไป๋เวยที่ส่งข้อความมาให้เขา
“ก่อนแปดโมงครึ่งต้องถึงบริษัท ก่อนจะเข้าประชุมการเปิดกระดาน ต้องคอยเอาใจคนของคณะกรรมการ ก่อน ปล.บอกผู้ชายของคุณด้วย”
“ได้ ฉันจะรีบไปบริษัทเดี๋ยวนี้”
โทรศัพท์มือถือของจี้ตงหมิงก็ดังขึ้นเช่นกัน เขาโกนหนวดไปพลาง เปิดโทรศัพท์ไปพลาง เป็นข้อความจากกู้เยนเซิน “ให้ตายเถอะ! นายรู้ไหมการอยู่กับภรรยาที่บ้างานนั้นเป็นอย่างไร? ขนาดนอนละเมอยังพูดแต่แผนการของงาน ช่างน่ากลัวจริงๆ อีกอย่าง ลำบากจนถูกภรรยาลากมาทำงานที่บริษัท”
จี้ตงหมิง “…………”
ผ่านไปไม่ถึงนาที กู้เยนเซินก็ได้ส่งข้อความมาอีกรอบ “อีกอย่าง ความอยากของคุณชายหลงนั้นช่างมหาศาลนัก เงินที่ฉันหลอกเอามาจากพ่อถูกเขากวาดไปจนเรียบแล้ว ช่างไม่ทันระวังตัวในการคบเพื่อนจริงๆ”
จี้ตงหมิง “………..”
ไม่มีใครฟังกู้เยนเซินบ่นหรือไง ถึงได้ลากเขามาเป็นคนฟัง?
ผ่านไปสิบวินาทีกว่าๆ กู้เยนเซินส่งข้อความมาอีก “มีภรรยาก็นับว่ายังดีอยู่ บนรถยังเตรียมอาหารเช้าให้ ดีที่คนอย่างพี่ฉลาด จึงจ้างคนขับรถ ฉันกินอาหารเช้าแห่งความรักก่อนนะ”
จี้ตงหมิง “………..”
ช่วงเช้าแบบนี้ คุณชายกู้กำลังเตรียมที่จะปรับบรรยากาศที่น่าเบื่ออยู่หรือ?
เป็นไปตามที่จี้ตงหมิงคิดไว้ บรรยากาศของวันนี้นั้นไม่ดีจริงๆ การประชุมคณะกรรมการ ก็ถูกพวกผู้ถือหุ้นรายใหญ่ชักจูงไป ในการประชุมทุกคนต่างโมโหที่เงินในกระเป๋าตัวเองจะหายไป เกือบจะล้มโต๊ะกันในที่ประชุมแล้ว
โธ่เอ๊ย เป็นการสู้รบจริงๆ
ที่อยากจะบ้าตายที่สุดก็คือ เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้บอสโผล่หน้ามาไม่ได้ คุณหญิงก็กำลังอยู่เดือนไม่สามารถมาดำเนินการควบคุมด้วยตัวเองได้ การประชุมคณะกรรมการ นับว่าคือไป๋เวยที่เป็นคนควบคุมทั้งหมด
ถึงแม้ว่าเธอจะคอยระงับอารมณ์ของพวกคณะกรรมการ จนสุดความสามารถ แต่ว่ากลับไม่สามารถระงับอารมณ์โกรธที่พลุ่งพล่านออกมาของพวกเขาได้จริงๆ สุดท้ายทั้งห้องประชุมเกือบระเบิดออกมาแล้ว
เรื่องน่าเศร้ายิ่งกว่าคือ เพิ่งจะเริ่มประชุมไปครึ่งหนึ่ง ตลาดหุ้นก็เปิดกระดานแล้ว วันนี้หุ้นของบริษัทฉู่ซื่อยังคงตกต่ำอย่างน่าใจหาย ราคาหุ้นในมือของพวกเขายังคงตกลงไปเรื่อยๆ ได้ทำลายความสนใจในด้านการลงทุนของพวกเขาอย่างโหดร้าย
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของวงจรอุบาทว์อย่างนี้คือ ถ้าหากจัดการไม่เรียบร้อยละก็จะเกิดผลที่ตามมาอย่างบ้าคลั่งของการล่มสลาย เหมือนกับไพ่ทาโรต์ ล้มหนึ่งใบเท่ากับล้มทั้งแถบ เมืองทั้งเมืองก็จะล้มลง
ในที่สุดก็จบการประชุม พวกคณะกรรมการ ทั้งหลายต่างพากันแยกย้าย ไป๋เวยและกู้เยนเซินและตนอีกจำนวนหนึ่งยังคงนั่งอยู่ในห้องประชุม พร้อมกับพ่นลมหายใจยาวออกมาพักใหญ่
ไป๋เวยกุมขมับอย่างเศร้าหมอง “ให้ตายเถอะ เป็นหมาป่าตาขาวที่เลี้ยงไม่โตจริงๆ เวลาปกติทำดีกับพวกเขาแค่ไหน พอเกิดเรื่องที่ทนเห็นเงินของตัวเองจะหายไป กลับสะบัดหน้าใส่ เมื่อก่อนฉันคิดแค่ว่ามีแค่คนของบริษัทMBKเท่านั้นที่จะเป็นพวกไม่ดี ตอนนี้ต้องยอมรับแล้วว่า ทุกเรื่องถ้าหากเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ส่วนตัว ที่ไหนก็ล้วนเหมือนกันหมด”
แอนดี้เอนตัวพิงพนักเก้าอี้ ยิ้มเยาะพร้อมกับพูดขึ้น “ดังนั้นยามตกทุกข์ให้ดูที่คน จะพบเพื่อนในยามทุกข์ ตอนนี้ได้เข้าใจแล้ว อยากจะให้คนในที่ประชุมคณะกรรมการ อยู่มั่นคงละก็ มีแต่ให้พวกเขาหาเงิน”
จี้ตงหมิงพูด “แผนการนี้ของบอส ระยะนี้คงต้องปะทะกับอันตราย อดทนอีกหน่อยแล้วกัน”
กู้เยนเซินลากเก้าอี้พร้อมกับลุกขึ้นยืน “ผ่าตัดขูดกระดูกไหนเลยจะไม่เจ็บ? ไปกันเถอะทักคน ในฐานะที่เป็นโล่กันกระสุน พวกเราต้องเล่นละครนี้ให้จบสิ เฮอ เฮอ เฮอ ช่างน่าอิจฉาคุณชายหลงเสียจริง ที่มีเพื่อนที่ดีอย่างนี้!” กู้เยนเซินจัดชุดสูทก่อนจะดึงเนคไทขึ้น แล้วจึงวางท่าเดินออกไปจากห้องประชุม
จี้ตงหมิงกระแอมไอ “พูดแบบนี้แล้ว ฉันก็อิจฉาบอสเหมือนกัน อีกอย่าง……มีผู้ช่วยที่ดีอย่างฉัน”
แอนดี้และไป๋เวยมองตากันแล้วหัวเราะ “พวกเราก็อิจฉา!”
บ่ายสามของวันนี้ จี้ตงหมิงได้รับโทรศัพท์จากหลงเซียวอย่างกะทันหัน ใจความเรียบง่าย “แจ้งสื่อ อาการป่วยของฉันดีขึ้น พ้นขีดอันตรายแล้ว”
จี้ตงหมิงพูด “จะเร็วเกินไปหรือเปล่าครับ? ตลาดหุ้นยิ่งตกต่ำ คุณต้องการยกราคาหุ้น ผู้ถือหุ้นยังจะปล่อยหุ้นอีกเหรอครับ?”
“ทำตามที่ฉันสั่ง”
“ครับ บอส!”
สิบนาทีผ่านไป จี้ตงหมิงได้ปล่อยประกาศลงไปบนเว็บไซต์ของบริษัทฉู่ซื่อ “หลงเซียวประธานของบริษัทฉู่ซื่อมีอาการดีขึ้น แพทย์ได้บอกว่า เขาแค่ต้องพักรักษาตัวอีกไม่กี่วันก็จะหายเป็นปกติ ประธานได้อยู่ที่บ้านตอบปัญหาของทุกท่าน”
เมื่อข่าวได้แพร่ออกไป ก็ดึงความสนใจจากผู้ถือหุ้นและตลาดหุ้น ในเวลาห้านาทีเว็บไซต์ของบริษัทฉู่ซื่อ ได้ถูกค้นหาอย่างบ้าคลั่งโดยผู้ถือหุ้น โดยที่เว็บไซต์ไม่ล่ม
ตามคาดเมื่อข่าวได้ถูกประกาศออกไป มีใครบางคนที่นั่งไม่ติดจริงๆ
ห้องทำงานของ ประธาน บริษัทMBK
หลงถิงได้โยนเมาส์ทิ้ง หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา โทร.ไปหาเบอร์ของเหลียงหยู้คุน “มันเกิดอะไรขึ้น! ไม่ใช่ว่าเขาใกล้ตายแล้วหรือไง! ทำไมถึงดีอีกครั้ง?”
เหลียงหยู้คุนก็สับสนอยู่ “ผมก็ไม่เข้าเหมือนกันนะพี่ใหญ่! คนของผมบอกว่าเขาได้รับบาดเจ็บ อีกอย่างก็สาหัสมากด้วย จะดีขึ้นได้อย่างไร?”
หลงถิงกดวางสายด้วยความโกรธ จึงให้เหลียงจ้งซุนเข้ามา
“นายไปดูหลงเซียวที่รีสอร์ทหยีจิ่งในนามของฉัน ดูว่าหลงเซียวอยู่หรือตายกันแน่ ฉันสงสัยว่าเพื่อที่จะช่วยบริษัทฉู่ซื่อ เขาจึงปล่อยระเบิดควันออก”
“ครับ ท่านประธาน”
ขณะเดียวกัน บริษัทซุนซื่อ
เดิมทีซุนปิงเหวินผู้นั่งดูบริษัทฉู่ซื่อค่อยๆล้มละลายอย่างมีความสุขนั้น กลับหัวเราะไม่ออก “สมควรตาย! กลับมามีชีวิตรอดอีกครั้ง?”
โม่หรูเฟยพูดขึ้น “ความเป็นตายของเขานั้นกระทบไปทั้งตลาดหุ้นอย่างง่ายดาย นี่สิถึงจะเป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุด”
ซุนปิงเหวินพูด “ถ้าหากหลงเซียวตายแล้วจริงๆ จะน่ากลัวยิ่งกว่านี้อีก”