ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 82
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
ตอนที่ 82 ที่ฉันต้องการ ก็แค่นี้
“ขอโทรศัพท์ให้ฉันหน่อย”
ฉู่ลั่วหานแบมือขอโทรศัพท์ เธออยากเช็กดูว่าเธอหายไป ทั้งคืนแบบนี้หลงเซียวได้โทรหาหรือส่งข้อความมาบ้างไหม
ลู่ซวงซวงพึมพำรับก่อนจะยื่นโทรศัพท์ส่งให้ ฉู่ลั่วหานสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วเปิดดู พบหน้าจอว่าง เปล่า ไม่มีแจ้งเตือนสายโทรเข้าหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น
หน่วงลึกในใจ ชีวิตคู่เธอกับหลงเซียวเดินมาถึงปลายทาง แล้วใช่ไหมนะ
แต่ทำไมเธอถึงยังทำใจยอมรับไม่ได้?
ต่อให้รู้ดีว่าถ้าหากเดินกลับทางเดิมต้องเจอกับความเย็น ชาและเจ็บปวดเหมือนแต่ก่อน เธอก็ยังตัดใจไม่ได้อยู่ดี
“จริงสิลั่วลั่ว ทำไมเธอถึงถูกวางยาได้ล่ะ เมื่อคืนเครื่องดื่ม เราก็ดื่มเหมือนกัน พวกเราไม่เห็นเป็นอะไร ทำไมเธอถึงกลาย เป็นแบบนี้ไปได้ล่ะ?”
ลู่ซวงซวงถามถึงประเด็นสำคัญ
จริงสิ เธอถูกวางยาได้ยังไง?
เธอพยายามนึกถึงเรื่องราวเมื่อคืนอย่างละเอียด มันเกิด อะไรขึ้นกันแน่? ยานั่นเขาไปในร่างกายเธอได้อย่างไร? แล้ว ใครเป็นคนทำเธอ?
“ฉันก็ไม่รู้
“เธอคงไม่ปล่อยไปทั้งแบบนี้หรอกใช่ไหม? ต่อให้เธออยากปล่อยเลยตามเลยฉันก็ไม่ยอมอยู่ดี เธอต้องลากคนที่ ทำกับเธอแบบนี้มารับผิดชอบให้ได้ เธอพักผ่อนเถอะ ฉันจะ กลับไปเช็กดูกล้องวงจรปิดที่ผับ ต้องจัดการล้างแค้นให้ สาสม!”
“เธออย่าใจร้อนสิ คนที่ผับพวกนั้นไม่น่ายุ่งด้วย ดีไม่ดีจะ สร้างปัญหาให้ตัวเองเปล่าๆ เธอเองก็เป็นผู้หญิงจะถูกรังแก เอาเปล่าๆ”
“ถ้าอย่างนั้นต้องทำยังไงล่ะ แจ้งความ? ตำรวจพวกนั้น ล้วนไม่ได้เรื่อง ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง…อีกอย่างเรื่องนี้เธอ จะบอกหลงเซียวไหม?”
เขา
คู่ลั่วหานส่ายหน้า “ไม่ต้องบอกหรอก ระหว่างเรามีเรื่องให้ เกี่ยวข้องกันน้อยสุดจะดีกว่า เธอไปหาอะไรกิน กลับไป เปลี่ยนชุดก่อน แล้ววานไปเอาเสื้อผ้าฉันที่อพาร์ตเมนต์สักชุด สองชุดให้หน่อยสิ ลำบากเธอแล้วนะที่รัก”
“ที่รัก ต้องไม่ลำบากอยู่แล้ว สิ แบบนี้จะมอบใจให้ฉันได้ หรือยัง?”
“เอาสิ ไปจดทะเบียนกัน!”
“แหวะ เธออยากจดทะเบียนซ้ำซ้อนหรือไง?”
ให้ตายสิ! พูดผิดไปแล้ว!
คู่ซวงซวงออกจากห้องไป
ประโยคนั้นของเธอประโยคเดียวเหมือนปลุกคนที่ยังติด อยู่ในความฝันให้ตื่น
จริงสิ ต่อให้เธอคิดอยากจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ ยอมรับถังจิ้นเหยียน..อย่างน้อยเธอควรได้รับอิสรภาพโดยได้รับใบ ทะเบียนการหย่าร้างมาก่อน
เกือบสี่ปีแล้วสำหรับการแต่งงานครั้งนี้ที่เธอเหมือนเดินบน- แผ่นน้ำแข็งบางๆ มาตลอดทาง ที่เธอต้องสะกดอารมณ์ใน ทุกๆ วัน เธออยากให้ตัวเองได้หายใจหายคอได้อย่างสะดวก บ้าง
ไปจากหลงเซียว เธอถึงจะเริ่มต้นใหม่ได้ ในตอนนั้นเองโทรศัพท์ในมือฉู่ลั่วหานก็สั่น
บนหน้าจอแจ้งเตือนเป็นสายของหลงเซียว!
ทำไมเขาถึงได้โทรมาในเวลานี้?
ฉ่ลั่วหานเม้มปาก พยายามจัดการหัวใจและจังหวะหายใจ ให้เป็นปกติ แล้วคิดหาคำพูดก่อนจะกดรับสาย
ทันทีที่เธอยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหู ก็ได้ยินเสียงแข็งๆ ที่ทั้ง ทุ้มต่ำทั้งเย็นชาแทรกเข้ามาทันที “คิดหาข้ออ้างอะไรอีกล่ะสิ ถึงได้นานนัก?”
น้ำเสียงแดกดันที่หากฟังดูดีๆ แล้ว ในน้ำเสียงโมโหนั้น แสดงถึงความรังเกียจอย่างชัดเจน เขาคงต้องคิดว่าเธอออก มาก่อเรื่องอะไรอีก?
แต่จะว่าไปเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดก็เพราะเธอ “แอบ” ออก
มา
ทำไมแม้ว่าเธอจะตกอยู่ในสภาพนี้แล้ว ในใจกลับรู้สึกว่า เธอเองที่เป็นคนผิด? ฉู่ลั่วหานเกลียดตัวเองที่รู้สึกด้อยกว่า หลงเชียวอยู่เสมอ !
เธอกัดฟันตอบ “หลงเซียวที่คุณอยู่กับผู้หญิงของคุณที่บ้านทั้งคืน ฉันจะมีธุระส่วนตัวข้างนอกไม่ได้เลยหรืออย่างไร ฉันเป็นภรรยาคุณแค่ในนามไม่ได้หมายความว่าคุณจะมีสิทธิ มาเจ้ากี้เจ้าการฉันยังไงก็ได้ แล้วก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะ เอาสถานะของคุณมาสั่งอย่างไรฉันได้”
เหอะ!
เขาถามไปแค่ประโยคเดียวเธอเถียงกลับยาวขนาดนี้ เทียบกับเมื่อสามปีก่อนถือว่าเธอพัฒนาขึ้นมากเลยทีเดียว!
ยิ่งเวลาผ่านไปยิ่งปีกกล้าขาแข็ง ยิ่งเวลาผ่านไปในใจเธอ
ยิ่งไม่ถือว่าเขาคนนี้เป็นสามี !
หลงเซียวไม่มีทางยอมให้ฉู่ลั่วหานทำท่าทางอวดดีต่อ หน้าเขาแน่ๆ เขามองต้นไม้ต้นใหญ่ที่อยู่ด้านข้างนอกหน้าต่าง ของห้องหนังสือพลางเคาะนิ้วมือลงบนโต๊ะเป็นจังหวะ
บรรยากาศกดดันแผ่กระจายไปรอบๆ
“ผมไม่สนว่าตอนนี้คุณจะอยู่ที่ไหน รีบกลับมาเดี่ยวนี้ แล้ว อย่าคิดที่จะเอางานของคุณมาอ้าง ถ้าคุณยังบอกว่าติดงาน ผมจะทำให้คุณโดนไล่ออก ไม่สิ…ปิดโรงพยาบาลไปเลย”
เขาไม่ได้กำลังคุยกับเธอแต่กำลังหาเรื่องเธอต่างหาก นี่ เป็นคำขู่ของหลงเซียว ถ้าหากเธอยังไม่ยอมทำตามที่เขา ต้องหาวิธีมาจัดการเธอได้แน่
“หลงเซียว คุณอย่ามาทำแบบนี้ คุณกำลังล้อเล่นกับชีวิต ของหลายๆ คน” ฉู่ลั่วหานพูดเสียงแหบแห้งรู้สึกถึงกลิ่นคาว เลือดที่ซึมอยู่ในลำคอ
นิ้วเรียวของหลงเซียวยกขึ้นกุมขมับ ใบหน้าคมคายมีร่อง รอยความเหนื่อยล้า ท่านเซียวจำไม่ได้แล้วว่าเมื่อคืนเขาเดิน เข้าออกห้องรับแขกกี่ครั้งและยังนอนไม่หลับตลอดทั้งคืน ถ้าเป็นอย่างที่เธอพูดจริง เขาที่สามารถตรวจสอบตารางเวรเธอ ได้และเมื่อคืนเขาก็ได้ทำเรื่องที่โง่ที่สุดในชีวิตลงไป เขาตรวจ ดูตารางเข้าเวรของเธอจริงๆ แต่กลับพบว่าเมื่อวานเธอเลิก งานตามปกติ เธอไม่ได้อยู่ที่โรงพยาบาลตั้งแต่แรก
จะไม่ให้เขาหัวร้อนได้อย่างไร?
“หมอฉู่ในเมื่อคุณเป็นห่วงเป็นใยคนป่วยขนาดนั้นก็ไปเจอ
กันที่วิลล่าเดี่ยวนี้ ไม่อย่างนั้นละก็….” “หลงเซียว คุณต้องการอะไรกันแน่?” ฉู่ลั่วหานไม่อยาก ทนฟังเขาพูดอะไรอีกต่อไปแล้ว หลงเซียวมีความสามารถ
ทำร้ายความรู้สึกเธอได้ทุกครั้งที่อ้าปากพูด
ใบหน้าหล่อเหลาของหลงเซียวที่ตอนนี้สามารถเห็น เส้นเลือดบริเวณหน้าผากของเขาได้อย่างชัดเจน เปิด หน้าต่างให้ลมโกรกเข้ามา ทั้งที่ตอนนี้เป็นช่วงฤดูร้อนแต่กลับ รู้สึกถึงความเย็นเยียบบางอย่างโรยรอบตัวเขา
“ผมต้องการอะไร ผมจะบอกต่อหน้าคุณเอง” เขาแค่ต้องการจะให้เธอกลับไปที่วิลล่าที่ไม่มีทางหนีทีไล่
ฉู่ลั่วหานหลับตาลง กัดฟันเตรียมพร้อมจะตอบโต้กลับ ได้ยินเสียงหวานแทรกเข้ามาเสียก่อน
ออดอ้อนอ่อนโยนเป็นเสียงของโม่หรูเฟย
“พี่เชียว งานวันนี้ฉันใส่ชุดนี้สวยไหม?” โม่หรูเฟยทาบชุด เดรสยาวบนร่างไม่แม้แต่จะเคาะประตู
โม่หรูเฟยทาบชุดเดรสยาวบนร่าง ไม่แม้แต่จะเคาะประตู เดินเข้ามาหมุนตัว เดรสบางที่ด้านหน้าแหวกลึกลงจนสามารถ เห็นร่องอกได้อย่างไม่ต้องพยายามมอง
ถ้าเป็นผู้หญิงของตัวเองสวมชุดแบบนี้ออกไปข้างนอก กลัวว่าพวกผู้ชายคนใดก็จะถือสา ทว่าหลงเชียวกลับตอบแค่ ว่า “สวยดี” แค่คำว่าสวยคำเดียว โม่หรูเฟยดีใจยิ้มหน้าแดง “ฉันเชื่อพี่เซียว ในงานมีนักข่าวมากมายถึงตอนนั้นฉันจะเลือก รูปที่สวยๆ กลับมา” หลงเชียวถือโทรศัพท์ไว้ท่าเดิมถือสาย ค้างไว้หนำซ้ำไม่แม้แต่จะปิดไมค์ “อึม”
เขาตอบโม่หรูเฟยแค่สามคำ
ในใจฉู่ลั่วหานเหมือนเกิดมวลคลื่นขึ้นมากมาย
สวยดี สองคำนี้หลงเชียวไม่เคยพูดกับเธอ เมื่อก่อนเธอยัง มีใจแต่งตัวมีอยู่ครั้งหนึ่งที่เธอไปร่วมงานเลี้ยงตระกูลหลง เธอ เลือกเดรสยาวที่เปิดแผ่นหลังอย่างตั้งใจมาชุดหนึ่ง ยังไม่ทัน ที่จะได้ขอความเห็นจากเขา หลงเซียวก็ปฏิเสธเสียงเย็นชา “สวมชุดอะไรของเธอ ไปเปลี่ยนซะ!”
หลังจากนั้นเธอไม่เคยขอความคิดเห็นเรื่องการแต่งตัว จากเขาอีกเลย
แน่นอนว่าหลังจากนั้นเสื้อผ้าออกงานของเธอ เขาเป็นคน
จัดการหมด
เขาไม่เคยเห็นดีเห็นงามด้วยตั้งแต่แรก
“ผมให้คุณแค่หนึ่งชั่วโมงหวังว่าคงจะพอ”
พูดจบหลงเซียวก็ตัดสายไป คู่ลั่วหานมองหน้าจอมืดสนิท ก่อนจะยิ้มเย็น “หลงเซียว ชาติก่อนฉันติดหนี้อะไรคุณไว้เห
รอ”
ตัดฟ้อเสร็จฉู่ลั่วหานดึงสายเติมน้ำเกลือออกก่อนจะลุกลง จากเตียง
“หมอฉู่ เกิดอะไรขึ้น?”
ถังจิ้นเหยียนรีบก้าวเข้ามาหลังจากที่ไปเปลี่ยนทั้งเสื้อผ้า และรองเท้า ล้างหน้าเรียบร้อยแล้ว แต่รอยคล้ำใต้ตายังคง ปรากฏชัดเจนบนใบหน้า
“ฉันไม่เป็นไร แต่ต้องออกจากโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้” ฉู่ลั่ วหานก้มตัวลงหยิบรองเท้า แต่พอเธอก้มหน้าก็รู้สึกวิงเวียน หน้ามืดแถมยังปวดหัวเหมือนจะแตกเป็นเสี่ยงๆ
ถังจิ้นเหยียนรีบคว้าเธอไว้ “เกิดอะไรขึ้น?”
“เรื่องที่บ้านค่ะ หลงเซียวให้ฉันรีบกลับไป”
ฉู่ลั่วหานไม่มีสติมากพอที่จะทันได้คิดหลุดพูดถึงเรื่อง บ้านให้ถังจิ้นเหยียนฟัง พอพูดจบเธอกระอักกระอ่วนรีบ เปลี่ยนเรื่อง “ฉัน..ฉันขอสวมรองเท้า”
ถังจิ้นเหยียนผละออกมาพยักหน้ามองเธอ “ให้ผมไปเป็น เพื่อนไหม?”
เขาดีใจที่เธอระบายความอัดอั้นออกมาบ้าง
“ไม่เป็นไร ฉันไปเองได้…เมื่อกี้คุณทำเป็นเหมือนไม่ ได้ยินก็ได้”
สายน้ำไม่หวนคืน!
นิ้วขาวสะอาดของถังจิ้นเหยียนจิ้มลงระหว่างคิ้วของเธอ “คุณทำเหมือนไม่เคยพูดก็ได้ แต่ผมทำเหมือนไม่เคยได้ยินมา ก่อนไม่ได้ ถ้าต้องการผมเมื่อไหร่ให้บอกผมทันที อย่าแบกไว้ คนเดียวโอเคไหม?”
จู่บรรยากาศอบอุ่นปกคลุมทั้งสองคน ในใจฉู่ลั่วหาน สับสน คำพูดของซวงซวงย้อนกลับเข้ามาในสมอง ผู้ชายที่ดีอย่างถังจิ้นเหยียน..
ไม่ได้สิ ตอนนี้เธอยังคิดมากไม่ได้
“ผมไม่สนว่าคุณมีธุระอะไร ต้องกลับมาภายในสามชั่วโมง ฤทธิ์ยาตกค้างในร่างกายของคุณยังระบายออกไม่หมด ถ้า เลยเวลาอาจจะอันตรายถึงชีวิต”
“ฉันรู้ค่ะ”
อย่าลืมสิ เธอก็เป็นหมอ
มองตามหลังฉลูรั่วหานที่เดินออกไป ถังจิ้นเหยียนกลับ
รู้สึกสับสน
เธอ ยังไม่เปิดใจให้เขา
ร่างกายอ่อนแอเหมือนจะล้มลงได้ตลอดเวลา โชคดีที่เธอ เรียกรถได้พอดี
เมื่อถึงวิลล่าฉู่ลั่วหานเปิดประตูเข้ามายังไม่ทันได้เปลี่ยน รองเท้าให้เรียบร้อยดี ก็มีเงาดำของร่างร่างหนึ่งที่เคลื่อนตัว จากห้องนั่งเล่นมาประชิดตัวเธอด้วยความเร็วอันน่าทีั่ง
นิ้วแข็งแรงราวกับคีมเหล็กคว้าขอมือของเธอแน่น ดึงเธอ ให้ลุกขึ้นมา
ร่างกายแข็งแกร่งลากเธอเดินอ้อมห้องนั่งเล่นไปตามทาง เดินยาวด้วยความเร็วที่เท้าเธอแทบจะไม่ติดพื้น หลังเสียงดังปีง เธอก็ถูกหลงเซียวเหวี่ยงลงบนที่นอน
แผ่นหลังของเธอถูกกระแทก เจ็บจนคิ้วขมวดเข้าหากัน เกือบส่งเสียงร้องออกมา “ทั้งคืนไม่กลับบ้าน คุณลืมไปแล้วเหรอว่าตัวเองเป็นใคร”
ที่เขาเอ่ยไม่ใช่ตำหนิ แต่เป็นน้ำเสียงตัดพ้ออย่างจนใจ แต่ลั่วหานไม่มีสติมากพอจะพิจารณาน้ำเสียงของเขา ดันตัวลุกขึ้น “พูดมาเลยว่าคุณต้องการอะไรกันแน่?”
ร่างสูงใหญ่ของหลงเซียวยืนตระหง่านหันหลังให้หน้าต่าง แสงกระทบร่างเขาจากทางด้านหลังทำให้มองไม่เห็นสีหน้า ของเขาที่จมอยู่ในความมืด
“บอกผมมาว่าคุณต้องการอะไรกันแน่?” เขาไม่ได้ตอบ คำถามเธอแล้วแต่ย้อนถามกลับ
ฉ่ลั่วหานขยำผ้าปูที่นอน ลมตีขึ้นแน่นหน้าอกจนต้องสูด ลมหายใจเข้าออกอยู่สักพัก “ท่านเซียว ที่ฉันต้องการก็แค่ใบ หย่า ไม่ต้องการเงินของคุณสักแดงเดียว สถานะของคุณ ชื่อ เสียง สมบัติ ฉันไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น หย่าให้ฉัน ฉันต้องการ แค่นั้น”
อย่างนั้นเหรอ!
“อย่าให้ผมได้ยินคำว่าหย่าอีก อยากหย่างั้นเหรอ….ชีวิตนี้ อย่าหวังเลย” หลงเซียวกำหมัดแน่น แววตาที่เยือกเย็นแสน เย็นชาคู่นั้นฉายแววความเจ็บปวดในความมืด
แต่เธอมองไม่เห็น
ลั่วหานยิ้มเยาะ “คุณแค่คิดว่าฉันตายไปแล้ว ไม่ได้เห หลงเซียวสาวเท้าเข้ามาใกล้เธอทีละก้าว “ฉู่ลั่วหาน เธอ
รอ?”
มันผู้หญิงไม่มีหัวใจ!”
ฉู่ลั่วหานเงยหน้าขึ้นเผชิญหน้ายิ้มเยาะโดยไม่เกรงกลัว ทั่วทั้งร่างรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่คุ้นเคยและไม่เคยหนีพ้นเธอกัดฟันจนทนความเจ็บก่อนจะเอ่ย “คุณอยากผ่าดูไหม ท่านเซียว”
เขาใช้นิ้วเรียวยาวปีบคางเธอด้วยความโกรธ ไม่ว่าจะ โกรธจนอยากบีบเธอให้ตายยังไง! แต่….นิ้วกลับชะงักแรง สีหน้าของเธอซีดขาวราวกับหิมะ ริมฝีปากซีดแตกไม่มีสีเลือด ราวกับหุ่นกระดาษ
“คุณเป็นอะไร?”