ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 827
ตอนที่ 827 ทนายที่แอบหล่อ แต่ว่าไม่ได้อยู่ในบทนี้
พนักงานอัยการและผู้พิพากษาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ด้านบนมีเวลาประมาณสามสิบวินาที
ปลายนิ้วมือของ Rosa เคาะที่ขอบโต๊ะไปมาอย่างไร้เสียง
สามสิบวินาที แสดงว่าพวกเขามีโอกาสผ่านรอบแรก ต่อไปรอบที่สอง…..ก็เป็นหลักฐานในรอบที่สองแล้ว
กู้เยนเซินมองไปทางหลงเซียวด้วยความไม่มั่นใจ “คุณชายหลง ภรรยาคุณจะไม่เป็นไรนะ?”
ปฏิกิริยาของหลงเซียวแน่นิ่งมาก ไม่มีความหวั่นไหวแม้แต่น้อย
ลั่วหานเกิดความรู้สึกดึงดันในใจของตนเองขึ้นมา
หลังจากจบการหารือรอบแรกไป
ผู้พิพากษาเคาะค้อนไม้ลงไป “ยึดตามเนื้อหาที่ได้กล่าวเมื่อครู่ หมอฉู่ลั่วหานต้องมีความรับผิดชอบต่อเรื่องนี้จริงๆ แต่ไม่สามารถจะบอกได้โดยตรงว่าเธอเป็นเหตุผลให้สามีของคุณเสียชีวิตลง”
คุณนายหลัวโมโหขึ้นมา “ไม่ใช่ผู้ที่ฆ่าสามีฉันโดยตรง? พวกคุณกำลังล้อเล่นอะไรกันอยู่? สามีของฉันฟื้นตัวได้อย่างดีแท้ๆ ถ้าหากเธออยู่ที่โรงพยาบาลแสดงความรับผิดชอบแล้ว อย่างน้อยมาถึงก่อนสิบนาที สามีฉันก็คงไม่เสียชีวิตลง! ตอนนั้นเธอไม่อยู่ ผู้ช่วยของเธอหมดปัญหาจึงโทรศัพท์หาเธอ แต่ว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่? หมอผู้สูงส่งกลับลงไปแข่งรถกับกลุ่มคนพวกนั้น!”
เมื่อพูดเช่นนี้ออกมา ผู้ที่มารับฟังเป็นพยานก็เริ่มนั่งกันไม่ติด พวกเขาเข้าใจถึงจิตใจของผู้ได้รับผลกระทบจริงๆ แน่นอนว่าเกี่ยวข้องกับความแค้นในใจด้วย คนมีเงินมักจะไม่ใช่คนดีอะไร
คนมีเงิน เงินมาจากไหน? สร้างเงินจากสองมือเปล่า? รวยจนถึงหลายล้าน?
หยุดเพ้อเจ้อเถอะ!
มีแต่ผีเท่านั้นที่จะเชื่อ
ลั่วหานพยายามสงบสติลง ไม่ขยับเท้าไปมา
Rosaพูดเรียบๆ “คุณนายหลัว คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าถ้าหากหมอฉู่อยู่ตรงนั้น สามีของคุณจะไม่เสียชีวิต?”
“เธอเป็นถึงหมอที่ฝีมือดีที่สุดในโรงพยาบาลหวาเซี่ย นอกเหนือไปจากถังจิ้นเหยียน”
“ถ้าเช่นนั้นก็ดี ระหว่างถังจิ้นเหยียนกับฉู่ลั่วหาน ใครมีฝีมือทางการแพทย์ที่สูงกว่ากัน?”
“เรื่องนี้…..ฉันก็ไม่ทราบเหมือนกัน คงจะพอๆ กัน”
“ดีมาก ถ้าอย่างนั้นขอถามคุณนายหลัว คุณหมอถังจิ้นเหยียนได้เคยให้คำสัญญาว่าจะรักษาสามีคุณให้ได้หายจนเป็นปลิดทิ้งไหม?”
คุณนายหลัวหลุบสายตาลง
“ตอบคำถามฉันมาตรงๆ! คุณนายหลัว” น้ำเสียงที่สูงขึ้นของ Rosa มีพลังบาดลึกยิ่งไปกว่าเสียงของทนายผู้ชาย ดุจเข็มตะปูที่ทิ่มลงไป
“ไม่……ไม่เคยพูด” คุณนายหลัวกัดฟันแน่น
Rosa พยักหน้า “ศาลที่เคารพ ดิฉันหมดคำถามแล้ว ขณะเดียวกัน พวกเราสามารถพลิกแพลงคำร้องข้อแรกได้ ผู้ยื่นคำร้องได้ตราหน้าว่าจำเลยเป็นฆาตกร”
รอยยิ้มของเธอบางมาก ราวกับไม่ได้ตั้งใจ จนแทบจะมองไม่ออก
ข้อกล่าวหาข้อแรกถูกตีตกไป
“โจทก์ยื่นคำร้องข้อที่สอง เล่นระเริงไม่เคารพหน้าที่ ใช้เวลางานไปขับรถแข่งบนถนน” หลังจากอ่านจบ อัยการเอ่ยต่อ
“ทางฝั่งของโจทก์ คุณสามารถส่งมอบหลักฐานชิ้นที่สองขึ้นมาได้”
หลักฐานชิ้นที่สองเรียบง่ายมาก คลิปวิดีโอ รูปภาพ มีครบทุกอย่าง
เมื่อฉายภาพบนหน้าจอ รถคันสีขาวเงินคันนั้นถูกเร่งออกไปราวกับบินได้ ลมหายใจของถูกคนหยุดราวกับถูกเธอพลัดพรากจากไป
คนส่วนมากจะรู้จักแค่หมอฉู่ที่สวมชุดสีขาวสะอาด แต่ไม่ค่อยมีใครเห็นเธอขับรถบ้าคลั่งขนาดนี้มาก่อน
ระหว่างประชันกับคู่แข่งบนทางโค้งนั้น ทุกคนล้วนภาวนาเป็นเสียงในใจ หมอฉู่!
นี่เป็นครั้งแรกที่ลั่วหานเห็นภาพตนเองแข่งรถ หลังจากนั้น……
ลั่วหานยกมือขึ้นมาปิดใบหน้าครึ่งหนึ่งของตน
เป็นเพราะหลงเซียวนั่งอยู่เยื้องๆ ที่ด้านหลังเธอ ผู้นำระดับสูงของโรงพยาบาลก็อยู่เช่นกัน
ยังไม่พูดถึงว่าหลงเซียวจะมีปฏิกิริยาอะไร ลั่วหานกลัวว่าคณบดีเฉินจะลืมพกยาแก้ตกใจมา
เธอเป็นหมอ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือมือคู่นี้ แต่เธอกลับ……
ใช้มือที่ใช้สำหรับทำมงกุฎ มาใช้ตกแต่งไม้กวาด!
ใจของคณบดีเฉินนั้น เต้นไม่หยุด กลัวว่าเธอจะพลาดแม้แต่ช่วงเดียว อย่าได้ทำให้มือคู่นี้ต้องพังเชียว
กู้เยนเซินและไป๋เวยรู้สึกอยากจะเป็นแฟนบาร์ขึ้นมาทันที
จอขนาดไหนดีแบบนี้นี่เอง หน้าจอคอมเทียบไม่ได้เลย ถ้าหากเปลี่ยนเป็นหน้าจอIMAX3Dล่ะก็……
ริมฝีปากของหลงเซียวปรากฏรอยยิ้มขึ้นมาเพียงชั่ววินาทีสั้นๆก่อนจะจางหายไป
“ว้าว!”
เมื่อรถของลั่วหานขับเข้าเส้นชัยไปนั้น เด็กผู้หญิงคนหนึ่งกระโดดร้องเสียงดังขึ้นมา ก่อนจะมีสติกลับมาได้และนั่งสงบสติอารมณ์
หลังจากถึงเส้นชัย ลั่วหานหันไปโบกมือให้กับสาวที่แต่งกายเซ็กซี่คนหนึ่ง
ภาพจบอยู่เพียงเท่านี้
แค่วิดีโอเพียงไม่กี่นาทีก็ทำให้ทุกคนรับรู้ได้ถึงความช่ำชองในการแข่งรถของลั่วหาน
แม้แต่ฝั่งทางโจทก์ก็ดูลุ้นไปด้วย
คนแบบนี้ เป็นหมอเหรอ? แบบนี้……ทำห้องผ่าตัดเป็นที่แข่งรถ ใช้ท้องของคนไข้เป็นที่แข่งรถจะเกิดอะไรขึ้น?
งานอดิเรกของหมอไม่ใช่เป็นงานจัดดอกไม้และทำสปาหรอกเหรอ?
แต่รูปภาพพวกนี้ จับภาพที่ลั่วหานขับรถแข่งด้วยฝีมือเต็มที่ไว้ได้ ใบหน้าเคร่งขรึม ดวงตาร้อนแรงประดุจมีไฟร้อนแผดเผาขึ้นมา
ที่จริงแล้วนี่เป็นผลจากการที่เธอกังวลว่าคนไข้จะเกิดเรื่องถึงได้รีบร้อนขนาดนั้น
ทนายทางฝั่งโจทก์ลุกขึ้นมากล่าว “ทางจำเลยมาทำกิจกรรมคลุกคลีกับคนกลุ่มนี้ในเวลางาน ฝ่าฝืนกฎแรงงานของประเทศเราเป็นอย่างมาก ควรจะตัดสินให้ออกจากตำแหน่งงานตามกฎหมาย”
ใช้กฎหมายแรงงานในการไล่ออก?
Rosa ยังไม่แสดงอะไรออกมา “ถ้าเช่นนั้นลองบอกมาหน่อย จำเลยของฉันเข้างานสายยี่สิบห้านาที ต้องรับบทลงโทษอะไร?”
คณบดีเฉินพูดออกมาทันที: รางวัลโบนัสความขยันของเราคือให้เงินคนละห้าร้อยหยวน แต่ระดับหมอฉู่แล้ว……ไม่มีรางวัลนี้นะที่จริงแล้ว
ไม่ยุติธรรมจริงๆ!
Rosa เอ่ยออกมาอย่างใจเย็น “ตามกฎของโรงพยาบาลแล้ว ถ้าหากมาสายหนึ่งครั้งจะหักเงินรางวัลห้าร้อยหยวนไป ถ้าหากมาสายต้องเสียค่าปรับแล้ว อย่างมากก็เป็นจำนวนเงินหนึ่งเดือนเต็ม? ถ้ามากกว่านั้นพวกเราสามารถเขียนร้องเรียนโรงพยาบาลเรื่องปฏิบัติอย่างไม่ยุติธรรมได้ ตามมาตราของ 《กฎหมายสาธารณรัฐประชาชนจีน…….》หน่วยงานที่หักเงินเดือนพนักงานตามอำเภอใจ อาจโดนปรับ หรือมีโทษถึงจำคุกได้”
คณบดีเฉินเอ่ย “ตกลง ตกลง”
เมื่อแสดงมาถึงจุดนี้แล้ว ลั่วหานก็เข้าใจขึ้นมา ทนายที่หลงเซียวหามาให้คนนี้ช่างฉลาดเฉลียวจริงๆ! คำพูดแบบนี้ให้หลินเค่อเฟยพูดก็คงจะพูดออกมาไม่ได้แน่
“ทนายทางฝั่งจำเลยย้ำเรื่องการมาสายจนมากเกินไป คดีความครั้งนี้ไม่ใช่แค่มาสายปกติ แต่เป็นการมาสายที่ส่งผลต่อชีวิตคน”
คนที่มารับฟังก็ไม่ได้โง่ ผู้พิพากษาก็ไม่ได้โง่
ทนายทางฝั่งโจทก์รีบซ้ำเติมเข้ามาอีก “เป็นเพราะว่าตัวจำเลยรักสนุกเล่นจนลืมความรับผิดชอบต่อหน้าที่ไป ส่งผลต่อเรื่องภายหลังที่คาดการณ์ไม่ได้ ต้นตอของเหตุการณ์นี้ไม่ควรให้เธอรับผิดชอบเหรอ?”
Rosa เอ่ยก่อนจะยิ้มออกมา “จำเลยไม่ใช่รักการเล่นสนุก และละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่ สงวนตัวเองภายใต้กฎหมายหรือจะบ้าคลั่งกับงาน เรื่องนี้เป็นคนละเรื่องกัน——พาตัวพยานออกมา”
ลั่วหาน:“……”
ทำไมถึงเป็นพวกเขาไปได้?
คนกลุ่มหนึ่งพยายามโบกมือทักทาย ดูเหมือนว่าเขินอาย แต่ก็พยายามจะทำเป็นจริงจังกันขึ้นมา แต่การแต่งตัวที่สบายๆ นั้น ทำให้อดยิ้มออกมาไม่ได้
Rosa เน้นย้ำขึ้นมา “ประวัติของทั้งสามคนนี้อยู่ในมือของทุกท่านแล้ว ไม่มีประวัติอาญากรรมใดๆ ไม่เคยมีความขัดแย้งใดๆ หรือแม้แต่บัตรเครดิตก็ไม่เคยไปเปิดใช้บริการ——คนวัยรุ่น!”
พวกเขาสารภาพว่าพวกเขาบังคับฉู่ลั่วหานไปโดยไม่รู้เหตุของความร้ายแรง สภาพความสำนึกผิดนั้นทำได้ดีไปอีก
ลั่วหาน:“……”เกิดอะไรขึ้น?
Rosa หัวเราะเบาๆ “ศาลที่เคารพ คนกลุ่มนี้บังคับให้จำเลยลงแข่ง จำเลยตัวคนเดียวไม่มีทางเลือก ทำได้เพียงรับฟังและทำตาม ผู้หญิงใช้ความฉลาดปราดเปรื่องเพื่อรักษาไว้ซึ่งความปลอดภัยของตน ไปขัดต่อกฎหมายข้อไหนเข้า?”
เห็นได้ชัดว่าจุดนี้ไปจี้จุดสำคัญของ Rosa เข้าให้แล้ว
แน่นอนว่า ลั่วหานเข้าใจถึงเหตุผลในการช่วยว่าความคดีนี้ของเธอแล้ว
ต่อมา พักศาล
ลั่วหานคล้องแขนหลงเซียวไปแบบโล่งใจ “นายไปรู้จักคนพวกนี้ได้อย่างไร? ที่จริงแล้ว ตอนนั้นจะบอกว่าโดนบังคับคงไม่ได้”
ถ้าหากเธอหมุนตัวและเดินจากไป ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้
แต่แมวมีทางเดินของมัน หมามีทางเดินของหมา อาชีพนี้ของเราก็มีกฎเกณฑ์เช่นกัน
หลงเซียวยกมือขึ้นมาปิดปากเธอ “ชู่ คำพูดของทนายคุณกล้าที่จะไม่ฟังด้วยเหรอ? แต่ก่อนปากของคุณดีนักนะ ตอนนี้เจอคู่แข่งแล้วเหรอ?”
ลั่วหานไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ “อาจจะเป็นแค่เพื่อนหรือเปล่า?”
หลงเซียวดึงเนื้อระหว่างคิ้วของเธอขึ้นมา “ไม่กลัวศัตรูความรักเหรอ?”
ลั่วหานคิดไปคิดมา “จริงๆ เลย ถ้าอย่างนั้น……ไม่ไปศาลแล้ว ฉันจะพาคุณกลับบ้านเลย!”
อย่าให้พากลับไม่สำเร็จล่ะ
หนึ่งชั่วโมงหลังจากนี้ คดีความถูกไถ่ถามต่อ
หลังจากทั้งสองให้หลักฐานและพูดโต้แย้งกันไปมา คำตัดสินของคดีความก็เป็นรูปเป็นร่างขึ้น
ข้อหาฆ่าคนตายนั้นไม่มีทางเป็นไปได้เลย ส่วนเรื่องเข้างานสายนั้นเป็นเพียงแค่เรื่องเข้าใจผิดกัน
ที่จริงแล้ว……ไม่มีทางจะตั้งข้อหาอะไรเลย!
“……ขอประกาศคำพิพากษาของศาล ถูกตั้งข้อหาข้อที่สองของจำเลยถูกปัดตกไป”
ลั่วหานถอนหายใจออกมา ถ้าอย่างนั้นคงจะไม่มีเรื่องอะไรแล้ว รีบจบรีบกลับบ้านเถอะ จู่ๆ เธอก็คิดถึงลูกสาวขึ้นมา
จู่ๆ ก็คิดถึงมากๆ
จิตใจของเด็กไร้เดียงสาขนาดไหนกัน ไม่เหมือนกับโลกของผู้ใหญ่ที่มีแต่ความเจ้าเล่ห์เพทุบาย
ทนายของโจทก์มองไปยังคุณนายหลัว และขณะนี้คุณนายหลัวก็แทบจะสติแตกแล้ว!
“คนโกหก! โกหกทั้งสิ้น! พวกเธอโกหกทั้งสิ้น เธอ……” เธอชี้ไปยังทนายก่อนจะเตรียมด่าขึ้นมา เห็นได้ชัดว่าทนายต้องการจะปกปิดบางอย่างไว้ ก่อนจะเอ่ยเสียงดัง “ผมสงสัยว่าโจทก์จะได้รับความกระตุ้นทางอารมณ์จนไร้ซึ่งการควบคุม ขอยื่นเรื่องให้ปิดการขึ้นศาลแต่เพียงเท่านี้!” แน่นอนว่าคดีความนี้ก็จบลงเช่นนี้
ง่ายกว่าที่ลั่วหานคิดเยอะเลย!
คนพวกนั้นออกมาเป็นพยานให้? แล้วยังบอกอีกว่าเป็นใยมาท้าดวลเธอก่อน? แทบจะไม่อยากเชื่อเลย!
ลั่วหานจับมือไปกับหลงเซียว ทั้งสองเดินไปขอบคุณ Rosa ด้วยความเต็มใจ “ขอบคุณคุณมาก ที่หาจุดหักมุมโต้แย้งได้ดีตลอด และตอบโต้อย่างตรงประเด็น ฉันคิดว่าจะต้องใช้เวลาอีกหลายวันซะอีก”
Rosa กลับไม่ได้แสดงออกถึงความดีใจอะไรออกมา แต่กลับเห็นความจริงใจ อิจฉาและความปรารถนาวาดฝันออกมาจากดวงตานั้น
วาดฝัน……ความรักที่สวยงามเช่นนี้
สื่อสารต่อไม่กี่คำ ก่อนที่จะแยกย้ายกันไป
ลั่วหานเอ่ยขึ้น “ผู้หญิงคนที่ชื่อ Rosa นี้เป็นใครกัน?”
“ลูกศิษย์ของหลินเค่อเฟยน่ะ ตอนนี้ยังเรียนกฎหมายอยู่ที่อเมริกาอยู่เลย ตอนที่เธอทำงานเป็นแบบนี้ แต่ชีวิตส่วนตัวเป็นเหมือนเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น”
กฎหมาย? นักศึกษามหาลัย?
“คุณพูดล้อเล่นอะไร? ฉันไม่เชื่อ!”
พูดอยู่ หลงเซียวก็ขยี้ผมเธออย่างเอ็นดู “เธอมีอายุน้อยกว่าคุณนิดหนึ่ง แต่ว่าคุณดูวัยรุ่นกว่าเขา และสวยกว่าด้วย”
ลั่วหานไปไม่เป็นกับคำพูดนี้ “ฉันต้องส่งข่าวดีนี้ต่อให้พวกเขา ที่โรงพยาบาลคงจะวุ่นกันหมดแล้ว”
หลงเซียวพูดตกลง ก่อนจะเปิดประตูข้างคนขับด้วยตนเอง “ผมขับรถไปส่งคุณที่โรงพยาบาลเอง คณบดีเฉินและพวกพ้องกลับไปแล้วน่ะ ข่าวดีคงใกล้ถึงแล้วแน่ๆ”
“คุณไม่ไปบริษัทเหรอ?”
“วันนี้ไม่มีธุระอะไร” วันนี้ไม่มีธุระอะไรจริงๆ เมื่อวานโหมงานดึกห้าชั่วโมง
ใครจะไปรู้ว่า ตอนที่รถRolls-Royceคันสีดำขลับของหลงเซียวกำลังจะออกตัวไปนั้น ชายผู้สวมชุดเครื่องแบบกลับเข้ามาขวางทางไว้
เขาเปิดอ่านป้ายจากศาลขึ้นมา “ฉู่ลั่วหาน คุณใช้รถแข่งลงลานที่ไม่ใช่สนามแข่ง และขับเร็วเกินกำหนด ฝ่าไฟแดงและกฎจราจรมากมาย ตอนนี้ต้องไปโรงพักกับผมเดี๋ยวนี้”
ตำรวจพูดอย่างตั้งใจ ลั่วหานรู้สึกเห็นด้วย “ได้เลย ฉันจะตามคุณไปเอง”
หลงเซียวเอ่ยถาม “คุณตำรวจ อยู่สน.ไหนเหรอ?”
ตำรวจรีบขึ้นไปนั่งบนมอเตอร์ไซค์ “คุณชายหลง นี่เป็นคำสั่งของร้อยโท ต้องขอโทษ……”
หลงเซียวกำลังจะโทรสายหาร้อยโท แต่เขากลับโทรเข้ามาก่อน “หลงเซียว ครั้งนี้คุณต้องเข้าใจผมจริงๆ คลิปวิดีโอและรูปภาพมีเกลื่อนอยู่ทุกที่ แฟนบาร์ของภรรยาคุณคงชอบแน่นอน แต่ผมต้องจัดการสิ เรื่องแบบนี้”
หลงเซียวยิ้มมุมปากขึ้น “ถ้าเช่นนั้นก็ออกข่าวใหม่ ถนนเส้นนั้น เปลี่ยนเป็นสนามแข่งรถ ผมจะลงทุนสร้างใหม่เอง”
สร้างถนนใหม่?
“หลงเซียว……นาย……” ร้อยโทหมดคำจะพูดแล้ว!
“รบกวนคุณแล้วร้อยโท ภรรยาผมเก่งขนาดนี้ ผมก็ลำบากใจเช่นกัน ขอให้เข้าใจผมด้วย”