ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 842
ตอนที่ 842 ชุดนอนผ้าไหมพร้อมไวน์แดง
นิวยอร์ก สนามบิน
เจิ้งซิ่วหยากอดถังจิ้นเหยียนแน่น ใบหน้ากว่าครึ่งมุดอยู่ในอ้อมกอดของเขา “ลุงถัง กลับมาแล้วอย่าลืมคิดถึงฉันนะ ห้ามลืมฉันนะ”
เธอน้อยใจทั้งตัดใจไม่ลง พูดไปก็น้ำตาจะไหลไป
ถังจิ้นเหยียนลูบผมของเธออย่างเอ็นดู ดมกลิ่นผมของเธอ “คิดถึงคุณ ถึงจะลืมกินลืมนอนแต่ก็จะไม่ลืมคุณแน่”
“นั่นก็ไม่ได้! คุณต้องกินข้าวดีๆ นอนให้เต็มอิ่ม ดูแลตัวเองดีๆ! กินอิ่มนอนหลับถึงจะมีแรงคิดถึงฉัน” เจิ้งซิ่วหยารู้สึกเกลียดที่ตัวเองแปลงร่าง แยกร่างไม่ได้ หลบไปซ่อนในกระเป๋าเดินทางของเขาตามเขาขึ้นเครื่องบินไปไม่ได้
ถังจิ้นเหยียนทำอะไรไม่ถูกเพราะโดนเจิ้งซิ่วหยาออดอ้อนแอ๊บแบ๊ว ในใจพองโตอย่างตื้นตันใจ ใบหน้าของเขาตึงเครียดอย่างหนักและจริงจังเล็กน้อยในตอนท้าย “ฉันควรไปจุดตรวจความปลอดภัยแล้ว พอฉันลงเครื่องแล้วจะติดต่อคุณ ดีไหม?”
“ไม่ดี” เจิ้งซิ่วหยาแบะปาก พูดว่าไม่ดีพลางใช้แรงดึงถังจิ้นเหยียนเข้าไปในอ้อมแขนตัวเอง ไม่กล้ากอดแน่นเกินไป แต่ก็ใช้ความแข็งแรงของตัวเองทั้งหมด ใช้ท่าทางภายนอกแสดงความรักอาวรณ์ของตัวเองออกไป
ถังจิ้นเหยียนจนปัญญา ได้แต่ก้มหน้า กอบกุมแก้มของเธอ จูบริมฝีปากของเธออย่างไม่สบอารมณ์ “โอเคยัง?”
เจิ้งซิ่วหยาเขย่งเท้าสูง เงยคางให้เขา “ไม่ได้ จูบอีก!”
ถังจิ้นเหยียนยิ้มขืน “โอเค จูบอีก จูบแล้วก็กลับไปอย่างเชื่อฟังนะ”
กลีบปากพลันร้อน ถังจิ้นเหยียนประทับจูบที่มุมปาก เจิ้งซิ่วหยาโอบคอของเขาอย่างเอาแต่ใจ จูบลึกซึ้งยิ่งขึ้น
สัมผัสหวานๆ ราวกับหิมะบนต้นดอกเหมย ไหลลงตามกลีบดอกไม้ หล่นลงมายังเกสรดอกไม้
การประทับจูบอันยาวนานในที่สุดก็จบลง เจิ้งซิ่วหยาสะบัดผมด้วยแผนการสำเร็จ “จำได้รึยัง? ครั้งหน้าต้องทำแบบนี้!”
ถังจิ้นเหยียน: “……”
เขาไม่รู้จริงๆ ว่าควรจะตอบยังไง
ที่นี่คืออเมริกา เปิดกว้างในทุกๆ ด้าน คู่รักรอบๆ ล้วนกอดจูบอยู่ด้วยกันเช่นเดียวกับพวกเขา แต่ถังจิ้นเหยียนก็ยังคงไม่สบายใจ อึดอัดจนอยากมุดเข้าไปในสายพานของจุดตรวจความปลอดภัย
“คุณทำคดีที่อเมริกา ต้องระวังความปลอดภัยด้วย ถ้าอยู่ในสถานการณ์พิเศษก็อย่าอวดเก่ง ต้องใช้สมองให้เยอะๆ อย่าเอาแต่ใช้กำลัง”
ถังจิ้นเหยียนจิ้มหัวของเธอ เตือนเธอว่าต้องเสริมพัฒนาตรงนี้
เจิ้งซิ่วหยาดึงมืออบอุ่นแห้งๆ ของเขา “คุณยังไม่ไปเหรอ? ถ้ายังพูดมากอีกฉันก็ไม่ให้คุณกลับไปแล้ว”
ประโยคนี้ได้ผลอย่างชัดเจน ถังจิ้นเหยียนเดินเข็นรถเข็นกระเป๋าก้าวใหญ่ๆ ไปที่จุดตรวจความปลอดภัยของสายการบินระหว่างประเทศ
มองส่งถังจิ้นเหยียนเข้าจุดตรวจความปลอดภัยจนลับสายตาไป เจิ้งซิ่วหยาก็เดินก้าวหนึ่งหันกลับไปมองอีกสามรอบออกจากสนามบินไป
นอกสนามบิน จวงหยู่รออยู่นานแล้ว
“เจิ้งซิ่วหยา ทางนี้! เชี่ย ไปส่งคนนานอะไรขนาดนี้ ฉันนึกว่าคุณขึ้นเครื่องตามเขาไปแล้วซะอีก!”
จวงหยู่จิ้มนาฬิกา แสดงความไม่พอใจของตัวเองออกมาด้วยความโกรธ
“เพี๊ยะ!”
เจิ้งซิ่วหยาไม่ไว้หน้าเขาแม้แต่น้อย ตบหัวเขาไปทีหนึ่ง “พูดมากจริงๆ! ฉันให้คุณมาเพราะมีเรื่องเฉพาะ คุณนึกว่าฉันให้คุณมารับฉันกลับไปเหรอ?”
จวงหยู่ลูบหัวเจ็บๆ ที่ถูกเธอตบ “เวร! คุณไปหาเรื่องใครมา? เพิ่งทำงานข้างนอกเสร็จก็มาเป็นคนขับรถไล่ตามคนให้คุณ แถมยังตบฉัน! นอกจากคุณจะเอาเปรียบฉันแล้ว ยังจะมีเรื่องเฉพาะอะไรอีก?”
เจิ้งซิ่วหยาเตะประตูรถ “ให้ฉันขึ้นไปก่อนสิ! หนาวจนจะแข็งตายแล้ว”
จวงหยู่รู้สึกหงุดหงิดจริงๆ “เวร คุณมีสองบุคลิกรึเปล่า พอบอกเปลี่ยนหน้าก็เปลี่ยนหน้าได้เลย เล่นละครเสฉวนอยู่เหรอ?!”
“เล่นละครสงครามต่อต้านญี่ปุ่น! ละครสยองขวัญ! ยังไม่รีบอีก?”
“ได้ได้ได้ ฉันไม่เถียงกับผู้หญิงจีนที่เพิ่งไปส่งแฟนมาหรอกนะ ขึ้นรถ ขึ้นรถ!”
เจิ้งซิ่วหยาขึ้นนั่งเบาะข้างคนขับ จริงๆ แล้วเธอไม่ได้อยากโมโห แต่ในใจเธอรู้สึกปวดร้าว อยากจะระบายเล็กน้อย แต่จวงหยู่นั้นโชคร้ายเป็นคนได้รับการระบายจากเธอไป
ในรถมีฮีตเตอร์เพียงพอ ผ่านไปครู่ก็อุ่นแล้ว เจิ้งซิ่วหยาถูมือ หยิบโทรศัพท์ออกมา “ทางตำรวจจีนมีข้อมูลแล้ว เหลียงหยู้คุนอยู่ใกล้ๆ กับกาสิโนในมาเก๊า ส่วนใหญ่จะไปกาสิโนทุกวันพุธ เพียงพวกเราวางแผนให้รอบคอบ วันพุธก็จะเป็นวันตายของเขา”
จวงหยู่ถุยน้ำลาย “ตำรวจจีน? ทำไมฉันรู้สึกไม่น่าเชื่อถือสักเท่าไหร่ล่ะ? พวกข่าวด้านลบเกี่ยวกับตำรวจจีนเยอะเกินไปแล้ว ให้ดีที่สุดคุณต้องตัดสินใจดีๆ อย่าไปถูกโน้มน้าวเอาตอนท้าย”
“เชี่ย! พูดอะไรน่ะ! ตำรวจจีนใช่ว่าคุณจะไปมุทะลุไปเรื่อยได้เหรอ? ไอ้หนุ่มอย่าทำเป็นพวกปีศาจต่างประเทศ กินข้าวจีนไปตั้งยี่สิบกว่าปี ใส่กางเกงเหมือนกันก็แยกไม่ได้แล้ว”
เจิ้งซิ่วหยาส่งข้อความหาถังจิ้นเหยียน “ที่รัก คิดถึง! คิดถึงคุณ!”
จวงหยู่มองท้องฟ้าอย่างกลัดกลุ้ม “ใครกินข้าวจีนมายี่สิบกว่าปี? ฉันมาอเมริกาตั้งแต่อายุยี่สิบแล้ว แล้วก็ เกี่ยวอะไรกับใส่กางเกงแยกไม่ได้?”
เจิ้งซิ่วหยาใช้นิ้วดันคางจวงหยู่ “หุบปาก ขับรถไป”
บรื๊นบรื๊น
ข้อความจากถังจิ้นเหยียนส่งเข้ามาที่โทรศัพท์ของเจิ้งซิ่วหยาพอดี “ฉันก็คิดถึงคุณ”
พอดิบพอดี จวงหยู่ก้มหน้าแล้วเห็นเนื้อหาข้อความบนหน้าจอ ปากกระตุกเกร็ง ปวดๆ ในใจ “ฉันว่านะเจิ้งซิ่วหยา คุณกับถังจิ้นเหยียนนี้ มาจริงดิ?”
“เกี่ยวอะไรกับนาย!”
จวงหยู่ขับรถอย่างหมดอารมณ์ “คุณต้องคิดให้ชัดเจนจริงๆ นะ เขาแก่กว่าเธอหลายปีแน่ะ ตอนนี้ผู้ชายส่วนใหญ่ตายเร็วกว่าผู้หญิง หลังจากนี้คุณต้องอยู่เป็นม่ายแน่”
“เพี๊ยะ!”
เจิ้งซิ่วหยาตบเขาไปทีอย่างไม่มีความเกรงใจแม้แต่น้อย จนหัวเอียงไปอีกทาง
“มึงแม่งพูดจาดีๆ ไม่เป็นก็ไม่ต้องพูด!”
จวงหยู่บ่นงึมงำเสียงเบา ก็ผู้ชายตายเร็วกว่าตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วนี่ เพราะงั้นให้ดีที่สุดฝ่ายหญิงก็ต้องหาผู้ชายอายุเท่ากัน หรือว่าจะเป็นรักแบบผู้หญิงแก่ผู้ชายเด็กก็ไม่เป็นไร
แต่ว่าไปหาลุงแก่นี่……ชัดเจนแล้วว่าจะต้องอยู่คนเดียวในห้องแน่ๆ
จากนั้น จวงหยู่ก็คิดอะไรออก “จริงสิ ถ้าเกิดคุณกลายเป็นแม่ม่าย มาอาศัยกินข้าวกับฉันได้ คุณชายอย่างฉันทนลำบากได้ จะนั่งเก้าอี้โยกเล่าเรื่องอยู่เป็นเพื่อนคุณอะไรแบบนี้”
เจิ้งซิ่วหยากำหมัดชก จนเกือบจะต่อยจวงหยู่ออกจากที่นั่งคนขับ “ลงรถ!”
จวงหยู่กำลังทุกข์ทรมานอย่างไม่อาจเอ่ย พลันโทรศัพท์ของทั้งคู่ก็ดังขึ้นพร้อมกัน
เจิ้งซิ่วหยาคว้าโทรศัพท์ “หัวหน้า!”
จวงหยู่เองก็ตะโกนคำหนึ่ง “sir”
เฉินเจายืนอยู่ท่ามกลางท้องฟ้าของเมืองหลวง ในปากคาบบุหรี่ “ข่าวล่าสุด เหลียงหยู้คุนนัดคนมาคุยธุรกิจ วันพุธนี้ที่กาสิโนในมาเก๊า คุณเดินทางมาจากอเมริกา โจวจั่นจะพากำลังคนเดินทางจากเมืองหลวง พวกคุณรวมตัวกันที่มาเก๊า ตำรวจของที่นั่นจะให้ความร่วมมือกับพวกคุณอย่างสุดกำลัง”
เจิ้งซิ่วหยาเลือดพลุ่งพล่านขึ้นมาทันที “ค่ะ! หัวหน้า!”
เฉินเจาไม่วางใจ “ระวังความปลอดภัย ดูแลตัวเองด้วย”
เจิ้งซิ่วหยาใจรุ่มร้อน “วางใจเถอะค่ะหัวหน้า ฉันรู้ว่าต้องทำยังไง”
“ฉันไม่วางใจจริงๆ”
จวงหยู่ได้ยินประโยคสุดท้ายอย่างชัดเจน ทั้งคู่วางสาย จวงหยู่เหลือบตาหัวเราะเธอ “ถูกหัวหน้าของคุณสงสัยเหรอ?”
“ไสหัวไป! ความสามารถของพี่ไม่ต้องให้นายมาสงสัย ขับรถให้พี่ดีๆ เจ๊จะไปกินข้าวก่อนสักมื้อ” เจิ้งซิ่วหยารู้สึกกระวนกระวายในใจเล็กน้อย เหลียงหยู้คุนน่ะ……ไม่ใช่ตัวละครเล็กๆ
เพราะงั้นเธอต้องหาอะไรกันสงบใจสักหน่อย
จวงหยู่กระซิบกระซาบ “เดี๋ยวก่อนพี่สาว เดี๋ยวก่อน คุณอยากจะผูกความสัมพันธ์เป็นญาติของผมเหรอ?”
เจิ้งซิ่วหยา “……ชิท รูกลวงในสมองคุณใหญ่จริงๆ”
เมืองหลวง รีสอร์ทหยีจิ่ง
วันนี้ฉู่ลั่วหานไม่ผ่อนคลายอย่างมาก รู้สึก……กดดันอย่างมาก
กินมื้อเย็นแล้ว อาบน้ำเสร็จ บำรุงผิวพรรณเสร็จ แล้วก็ทำเป็นเปิดหนังสืออ่านอยู่กี่หน้า แต่ยังคงคิดไม่ออกว่าจะคุยเรื่องนั้นกับหลงเซียวยังไง
หลงเซียวอาบน้ำเสร็จ พันผ้าขนหนูออกมา ก็ช็อกเพราะทัศนียภาพตรงหน้า
โคมระย้าในห้องนอนถูกปิด เปิดเพียงโคมสีเหลืองนวลบนกำแพง แสงสลัวๆ มัวๆ บนหัวเตียงมีกุหลาบตูมกำลังบานสีสดใส ดอกกุหลาบส่งกลิ่นหอม ผสมกับกลิ่นจางๆ ของครีมอาบน้ำกลายเป็นกลิ่นห้องที่มอมเมา
ฉู่ลั่วหานสวมชุดนอนผ้าไหมคอวีสำหรับฤดูร้อน ชายเสื้อชุดนอนลื่นเนียนอ่อนบางพลิ้วลอยขึ้นมา เผยให้เห็นขาขาวเรียวสวย
มือขวาของเธอถือแก้วไวน์แดง นั่งเอียงตัวอยู่บนโซฟา ภายใต้ไฟมืดสลัว มือซ้ายก็เกลี่ยผมยาวๆ ผมยาวเรียบลื่นชุ่มชื่นสยายพาดบ่า และผิวขาวก็ก่อให้เกิดผลกระทบทางสายตาที่รุนแรง
หลงเซียวกลืนน้ำลายลง เสียงแหบแห้งอย่างไม่รู้ตัว “ลั่วลั่ว……”
ลั่วหานที่สวยหยาดเยิ้มยกมุมปากขึ้น ตั้งใจใช้ริมฝีปากที่ชุ่มด้วยไวน์ แดงระเรื่อราวสีชาด “คุณสามี……มานี่สิ”
เรียกแบบนี้ ความสวยงาม ความนิ่มนวล ความเซ็กซี่ ความยั่วยวนเหล่านี้ช่างมอมเมาใจคนจนควบคุมตัวเองไม่ได้
หลงเซียวเดินก้าวเข้าไปใกล้ กลิ่นไวน์ราวต้องมนต์ กลิ่นพวกนี้รวมกับกลิ่นกายของผู้หญิงแล้ว ช่างจับใจของขาเหลือเกิน
“วันนี้เป็นวันพิเศษอะไรรึเปล่า?”
ลั่วหานยื่นแก้วไวน์ส่งให้เขา เสียงชนแก้วดัง “กิ๊ง” ไวน์แดงในแก้วของเธอกระเพื่อม
“ไม่ใช่วันพิเศษอะไร แค่อยากดื่มกับคุณสักแก้ว” ดวงตาของลั่วหานเป็นประกายใสแล้วมองเขาอย่างออดอ้อน ตัวอิงแนบไปกับไล่ของเขา เส้นผมลาดยาวไปตามหน้าอกเนียนของเขา อย่างกับมือของเธอ กำลังปลุกปั่นอะไรบางอย่างไปทั่ว
หลงเซียวหายใจติดขัด “ลั่วลั่ว คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับฉันหรือเปล่า?”
ลั่วหานเอ่ยในใจมีแน่นอน! ฉันถึงกับใช้พิศวาสไปหมดแล้ว มีเรื่องใหญ่เลย!
“ไม่มีนี่ ฉันจะมีเรื่องอะไรได้? ก็แค่อยากปรับชีวิตบ้างเท่านั้น มา ดื่มไวน์ ลิ้มรสหน่อยว่าเป็นยังไง ฉันตั้งใจให้เกาจิ่งอานช่วยหามาเลยนะ คอลเลกชันจากปราสาทฝรั่งเศส”
หลงเซียวเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ดื่มไวน์ด้วยจิตใจที่ฟุ้งซ่าน ตามองอย่างไม่เชื่อฟังไปที่คอเสื้อที่ลั่วหานจงใจดึงต่ำให้เห็น คอที่ขาวราวหิมะ เห็นเป็นร่องหนึ่ง ดึงดูดคนให้เข้าไปด้านในลึก
ลั่วหานเม้มจิบไวน์แดง แขนเหยียดยืดไปที่หลังคอของเขา แล้วไล่ตามคอมาที่กระดูกไหปลาร้า หน้าอกแข็งแกร่งและแน่น “คุณสามี วันนี้ฉันสวยหรือเปล่า?”
หลงเซียวเกร็งหลัง ตรงใต้ท้องเริ่มบวมโตขึ้น นิ้วมือได้ไล่ไปไปที่คอเสื้อของเธออย่างรีบร้อน ดึงออก “สวย”
ไอความร้อนอันคลุมเครือรดไปที่ผิวกายของเธอ ดั่งไวน์แดงที่ร้อนแรง
ลั่วหานหนาวสั่นอย่างไม่คาดคิด “คือนั่น……คุณอย่าเพิ่งรีบ ใจเย็นก่อน”
หลงเซียวรอเล้าโลมไม่ได้ ร่างกายสูงใหญ่ปีนขึ้นมาบนขาสองข้างของเธอ แล้วดันตัวเธอลงกับโซฟาอย่างง่ายดาย ริมฝีปากตกลงบนหน้าอกของเธอเหมือนเหล็กร้อน “รอไม่ไหวแล้ว จะเอาตอนนี้”
ลั่วหานกัดฟัน ไม่ดี เล่นแรงไปหน่อย!
“รอก่อนรอก่อน สามี คุณให้ฉันพูดจบก่อนแล้วค่อยเริ่ม เดี๋ยวเดี๋ยวเดี๋ยว คุณปล่อยมือก่อน ย๊า ปล่อยมือ!”
ร่างกายด้านหน้าเจ็บเล็กน้อย ชุดนอนผ้าไหมนุ่มหายไปทันที ส่วนที่ไม่มีสิ่งปกป้องถูกเขายึดครองอย่างเอาแต่ใจ ไม่เหลือสิทธิ์ในการเริ่มเองอีกแล้ว
มือใหญ่ที่อยู่ไม่สุขของหลงเซียวลอยไปมาระหว่างยอดภูเขา “หืม? พูดอะไร?”
ลั่วหานถูกเขากระทำจนหอบแฮ่กๆ “เกี่ยวกับฟู้กุ้ย……ฉันคิดว่า คิดว่ายังมีอีกวิธีหนึ่งสามารถแก้ไขได้”
หลงเซียวขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์ “ภรรยา เวลาสำคัญ อย่าให้สัตว์พวกนั้นทำลายความสนใจ เป็นเด็กดี ไม่ต้องพูดแล้ว”
“หลงเซียว คุณ……คุณ……อย่ารีบร้อนสิ. อย่ารีบร้าน คือนั่น ฉันอยากพูดว่า เจมส์……เฮือก!”
ถือทันได้พูดแค่ชื่อของเจมส์ การกระทำของหลงเซียวทำให้เธอต้องเก็บคำพูดกลับไป ลั่วหานไม่มีแรงจะเจรจากับเขาต่อแล้ว