ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 845
ตอนที่ 845 น้องชายมีแค่คนเดียว แกล้งไม่ได้
ลางสังหรณ์ทำพิษ ถังจิ้นเหยียนและเกาจิ่งอานหันไปมองที่มุมทางเลี้ยว ก็เห็นหวังเค่ยที่อยู่มุมนั้น
หวังเค่ยที่แต่งตัวอย่างเหมาะสม หน้าตาสะอาดสะอ้าน เพิ่งถูกเกาจิ่งอานลดคุณค่าจนไม่เหลือแม้แต่แดงเดียว เขาคงท่าทางสุภาพบุรุษไว้ พยักหน้ายิ้มส่งให้ทั้งสองคน ราวกับเมื่อครู่ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
“หมอถัง คุณเกา พวกคุณอยู่ที่นี่กันหมดเลย”
หวังเค่ยหิ้วถุงชอปปิ้งใหญ่ๆ สองถุง ด้านในล้วนเป็นของที่คัดสรรมาอย่างใส่ใจ แต่ไม่ว่าของขวัญของเขาจะราคาแพงขนาดไหน ในมุมมองของเกาจิ่งอานก็เป็นแค่ขยะไม่มีค่าให้พูดถึง
เกาจิ่งอานไม่ได้ไว้หน้าเขาเท่าไหร่ “พี่สาวฉันพักอยู่ คุณเข้าไปสิ”
ถังจิ้นเหยียนเข้าไปช่วยถือถุงหนึ่ง “ในเมื่อคุณหวังมาแล้ว ก็ไปเยี่ยมข้างในเถอะ”
เกาจิ่งอานเหลือบมองถังจิ้นเหยียนอย่างไม่พอใจ โมโหที่เขาเข้ามายุ่งมากเกินไปอย่างชัดเจน “หมอถัง คุณไม่ยุ่งเหรอ? ไม่ไปดูคนป่วยหรือไง?”
ถังจิ้นเหยียนทำเป็นไม่รู้ไม่เข้าใจ “วันนี้ไม่ยุ่ง”
เกาจิ่งอานโกรธจนกัดฟัน มองไปที่พิจารณาหวังเค่ยด้วยสายตาเย็นชาอย่างไม่เกรงใจ ไม่ว่าจะมองตรงไหนของหวังเค่ยเขาก็ไม่ถูกชะตาทั้งนั้น ยิ่งมองยิ่งรังเกียจ คนแบบทำจะมาข้องเกี่ยวกับเขาได้ไง?
หวังเค่ยส่งของเยี่ยมทั้งหมดให้ถังจิ้นเหยียนอย่างรู้จักวางตัว “ฉันยังมีงานที่บริษัท ไม่เข้าไปดีกว่า รบกวนหมอถังเอาของพวกนี้ให้คุณเกาทีนะครับ ฝากขอบคุณแทนฉันด้วย”
หวังเค่ยก้มหัวให้เกาจิ่งอานอย่างมีมารยาทถ่อมตัว
เกาจิ่งอานกำหมัดแน่น “ไม่ส่ง”
ความรังเกียจเผยออกมาอย่างชัดเจน ไม่มีปกปิดแม้แต่น้อย ไม่คิดจะให้บันไดกับหวังเค่ยเลย ถ้าเกิดเป็นคนอื่น ก็คงวางตัวไม่ถูกไปนานแล้ว
หวังเค่ยถอยไปก้าวหนึ่งอย่างปล่อยวาง “ไม่ต้องส่งหรอกครับ คุณเกาเชิญยุ่งต่อเถอะ”
ไม่ได้มีอาการต่อต้าน ไม่ได้รู้สึกไม่สบายใจ หวังเค่ยออกไปจากสนามรบเงียบๆ
หลังจากเขาจากไป ถังจิ้นเหยียนก็เอาถุงสองถุงในมือให้เกาจิ่งอานทั้งหมด “เห็นหรือยัง? หวังเคยมีบุคลิกและมีน้ำใจกว่าที่คุณคิดซะอีก คุณพูดกับเขาแบบนี้ เขายังไม่เอาไปใส่ใจเลยสักนิด”
เกาจิ่งอานเกร็งคอ “เขาไม่กล้าแน่ๆ! เขาอายุเท่าไหร่เชียว? ฉันจะบังให้นะถังจิ้นเหยียน พี่ของฉันชอบคุณ ไม่ได้หมายความว่าคุณจะทำตามอำเภอใจยังไงก็ได้ ที่นี่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับคุณแล้ว คุณกลับไปเถอะ”
“ครับ”
ถังจิ้นเหยียนหมุนตัวเดินจากไป เกาจิ่งอานกลับห้องคนไข้
เมื่อเดินออกจากห้องคนไข้ เกาจิ่งอานเหยียบที่เปิดฝาถังขยะ ปากถังขยะปากอ้า เขายกแขนขึ้นสูงแล้วถือถุงชอบปิ้งในมือค้างกลางอากาศไว้อย่างนั้น
“แม่ง!”
ค้างไว้อย่างนั้นไม่นาน เกาจิ่งอานก็หยิบมันลง ปล่อยออกจากที่เหยียบ ปากถังขยะปิดลง
ถังจิ้นเหยียนที่ยืนอยู่หน้าลิฟต์ เห็นภาพนั้นก็ยิ้มออกมาไม่รู้ตัว
บริษัทฉู่ซื่อ ออฟฟิศประธานคณะกรรมการบริหาร
กู้เยนเซินบีบไหล่นวดหลังของตัวเองและบ่นอย่างเกินจริง “คุณชายหลง ช่วงนี้คุณสั่งฉันเป็นวัวเป็นม้าสบายเกินไปแล้วรึเปล่า? ฉันผอมไปรอบหนึ่งแล้วเนี่ย”
หลงเซียวเซ็นเอกสารที่เขาส่งมาทีละอันๆ “ใครเป็นคนพูดเองล่ะว่าจะเป็นวัวเป็นม้าให้ตอบแทนฉัน?”
“แม่ง! ตั้งแต่เมื่อไหร่! ฉันพูดเหรอ?”
ทำไมเขาจำไม่ได้ซะแล้วล่ะ!
หลงเซียวพยักหน้า “คุณพูด เมื่อชาติที่แล้ว”
กู้เยนเซินอ้าปาก คำหยาบที่เตรียมมาเต็มท้องถูกกลืนลงไป “คุณ……คุณช่าง! ข้ออ้างประเภทนี้ยังพูดออกมาได้”
หลงเซียวเปิดลิ้นชัก นำกล่องสีดำกล่องเล็กออกมา ส่งให้กู้เยนเซินโดยมีโต๊ะคั่น “ให้คุณ”
กู้เยนเซินไม่ได้รู้สึกเซอร์ไพรส์อะไรทั้งนั้น เขากลับกระชับเกร็งซี่โครงของเขาอย่างระมัดระวัง “ติดสินบนฉันเหรอ? อยากให้ฉันทำเรื่องไร้คุณธรรมอะไรอีกหรือไง?”
หลงเซียวเซ็นหมดทุกตัวอักษรแล้ว ปิดฝาปากกา “ลองเปิดดูก่อนว่าชอบหรือไม่ชอบ”
กู้เยนเซินยกมุมปาก “ทำดีหวังผล……” ปากก็พูดแซะ มือก็เปิดกล่องออก เมื่อเห็นสิ่งของด้านใน ใบหน้าของกู้เยนเซินก็เหมือนมีต้นซากุระงอกออกมาไปชั่วขณะ
“เอามาจากไหน! คุณเอามันมาได้ยังไง?!”
ด้านในเป็นแหวนเพชรเจียระไนสีชมพูระดับสูงสุดของแอฟริกาใต้หกสิบสี่เม็ด ราวๆ สามกะรัต ขนาดกำลังพอเหมาะ ไม่ดูเหมือนคนบ้าเห่อเพิ่งรวยเกินไป ทั้งดูเหมือนไม่ของของธรรมดาๆ
ที่สำคัญคือ โลโก้ด้านในกล่องบอกเขาว่า แหวนนี้มาจากนักออกแบบอัญมณีระดับสูงอย่างLARIS คนคนนี้เป็นราชาแห่งความจู้จี้ราศีกันย์อันโด่งดัง ปีหนึ่งออกแบบแหวนเพียงวงเดียว เครื่องประดับก็ล้วนเป็นของสั่งจองลิมิเต็ด คนใหม่ที่อยากนัดเธอต้องต่อแถวตั้งแต่รอบเมืองรอบที่สามของทิศเหนือไปจนถึงรอบเมืองรอบที่สี่ของทิศใต้ ขอร้องคุณปู่คุณย่าก็อาจจะสั่งจองไม่ได้
ที่สำคัญที่สุดคือ ไป๋เวยชอบนักออกแบบคนนี้มาก
กู้เยนเซินตาเป็นประกายระยิบระยับ ถูกดึงดูดสายตาไปอย่างไม่มีทางละ
หลงเซียวให้ของขวัญอย่างใจกว้าง ตอบอย่างผ่อนคลายสบายใจ “ขั้นตอนความเป็นมาไม่สำคัญ บอกมาก่อนว่าชอบรึเปล่า”
กู้เยนเซินเข้าใจแล้ว “อยากให้ฉันทำอะไร? พูดมาเลย ฉันรับของขวัญนี้แล้ว เอาไปเป็นแหวนแต่งงานให้ภรรยาได้พอดี”
หลงเซียวลงไพ่ใบนี้ มิฉะนั้นเขาจะไม่สามารถแย่งชิงแหวนที่ออกแบบโดยLARISให้คนอื่นได้ หากไม่ใช่เพราะตกลงที่จะสนับสนุนงานแถลงข่าวไตรมาสถัดไปของเธอ แหวนวงนี้ก็ไม่มีทางตกถึงมือกู้เยนเซินได้
“สองวันนี้ที่บ้านฉันจะมีแขกมา เป็นผู้ชาย คุณรับผิดชอบพาเขาไปทานอาหารเที่ยวเล่น ให้ดีก็พาเขาไปค้างคืนข้างนอก ค่าใช้จ่ายทั้งหมดฉันเบิกให้”
กู้เยนเซินลุกขึ้นช้าๆ เดินอ้อมโต๊ะไปครึ่งรอบ “บ้านคุณจะมีแขกผู้ชาย? ผู้ชายแบบไหน?”
หลงเซียวหมุนแล็ปท็อปไปหาเขา บนหน้าจอเป็นไป๋ตู้วิกิพีเดีย หัวข้อมุมขวาบนเป็นรูปผู้ชายผมฟ้าตาน้ำข้าว ตัวอักษรสีดำพิมพ์ตัวหนาเขียนไว้ว่า——เจมส์·เบรสต์ เจ้าชายประเทศM
“โอ้ก้อด! เขาจะไปบ้านของคุณ! นี่แม่งไม่ใช่คนรวยธรรมดาๆ แล้ว เขาเป็นเจ้าชายอย่างถูกต้องเลยนะ ราชาสำรองทหาร หลังจากนี้ต้องไปเป็นกษัตริย์” กู้เยนเซินตกใจจนหน้าเปลี่ยน จ้องหลงเซียวอย่างอาฆาตแค้น
หลงเซียวตอบรับเสียงเรียบ “ฉันรู้ เพราะงั้นเลยต้องให้คุณช่วย”
“ไม่! ถ้าเกิดไปทำอะไรให้เขาไม่พอใจเข้า ฉันก็คงไม่มีชีวิตรอดแน่ ร้ายดียังไงฉันก็เป็นเจ้าชายของบริษัทมหาชนจำกัดที่มีชื่อเสียงในอเมริกา ต้องคอยปรนนิบัติติดตามคุณถูกขูดรีดก็ช่าง อยากได้เงินก็ให้ได้ แต่อยากเอาชีวิตไม่มีทางให้!”
ท่าทางเหมือนกระต่ายตื่นตูมของกู้เยนเซิน เขาคู้ตัวอยู่บนโซฟากล่าวสาบาน
“คุณชายกู้ไม่เต็มใจ?”
หลงเซียวหยิบแหวนไปอย่างง่าย เล่นกล่องในมือ โยนไปรอบ ๆ
หัวใจของกู้เยนเซินเต้นแรงมากตามการเคลื่อนไหวนิ้วของเขา “คุณ…เหี้ย!ทำไมต้องให้ฉันไปทำ?น้องชายคุณล่ะ ดูเหมือนเสี่ยวจื๋อจะทำได้ดีกว่านี้”
หลงเซียวคว้าแหวนไป แล้วยังปิดฝากล่องเสียงดัง “เสี่ยวจื๋อเป็นน้องชายของฉัน งานอันตรายแบบนี้ฉันไม่ให้เขาไปทำอยู่แล้ว”
“เหี้ยหลงเซียว! ไม่อยากให้เขาไป แต่มาให้ฉันไปเนี่ยนะ! ได้ ฉันอดทนแล้ว เกาจิ่งอานล่ะ? ทำไมไม่ให้แฟนคลับสุดแสนจะเทิดทูนของคุณไปล่ะ?”
ด้านมืดในใจกู้เยนเซินค่อยสะสมจนระเบิดออกมาสิบเท่า
“แฟนคลับสุดแสนจะเทิดทูนมีแค่คนเดียว ถ้าเกิดมีเรื่องไม่คาดคิดขึ้นมาฉันก็ไม่มีแฟนคลับแล้ว” หลงเซียวส่งยิ้มอ่อนให้กู้เยนเซินอย่างเห็นอกเห็นใจ
กู้เยนเซินอ้าปากช้าๆ เอ่ยปากด่าช้าๆ “เชี่ยเอ๊ย——คุณไม่กลัวว่าฉันตายแล้วคุณจะไม่มีพี่น้องบ้างเหรอ?!”
“ไม่หรอก ฉันมีเสี่ยวจื๋อเป็นพี่น้อง เกาจิ่งอานก็นับด้วย”
“คุณไม่ทำให้คนอื่นเขาโกรธ คุณจะตายหรอ? ฉันไปหาเรื่องใครมา! คุณ……” กู้เยนเซินจ้องหลงเซียวเก็บกล่องแหวนเขม็ง “รอฉันแป๊บ!”
“ตกลงแล้วเหรอ?”
เสียงสองเสียงในหัวของกู้เยนเซินกำลังก่อสงครามครั้งสุดท้ายอย่างร้อนแรง:
ฝั่งหนึ่งเป็นแหวนที่ภรรยาในอนาคตชอบมากที่สุด เอาไปเซอร์ไพรส์ได้อย่างยิ่งใหญ่ อนาคตเอาไปโม้ได้อีกหลายปี:
อีกด้านหนึ่งเป็นเจ้าชายของประเทศM ถ้าเกิดปรนนิบัติไม่ดีก็ตายโหง บางทีอาจลามไปถึงชีวิตของคนในครอบครัว เป็นไปได้ที่จะถูกสับหัวกันหมด
แต่ว่า……ไม่แน่ก็อาจจะไม่ตาย?
แต่เขาอยากแต่งงานนานแล้ว กำลังเป็นทุกข์เพราะไม่มีหัวเลี้ยวหัวต่อ
“ได้! ฉันตกลง ใครใช้ให้ฉันเป็นพี่น้องกับคุณล่ะ คุณขุดหลุมฉันก็กระโดด” กู้เยนเซินยื่นมือออกคว้าแหวนมา แต่ช้าไปก้าวหนึ่งหลงเซียวลุกขึ้นยืน แล้วกดรหัสล็อก
“คุณชายกู้ทำภารกิจเสร็จแล้ว แหวนนี้ก็จะยกให้คุณแบบคงสภาพเดิมไม่มีใครมาแตะต้อง”
“แม่งแม่งแม่ง! คบเพื่อนไม่ระวัง!”
กู้เยนเซินเอ่ยตำหนิไม่รู้จักจบเดินออกมาจากออฟฟิศ กลับไม่คิดว่าจะเจอถังจิ้นเหยียนที่ยืนอยู่นอกประตู ดึงสติ นึกว่าตัวเองเห็นภาพลวงตา
“หมอถัง? คุณมาหาคุณชายหลง?”
“อื้ม เขายุ่งอยู่หรือเปล่า?” ถังจิ้นเหยียนกล่าวอย่างมีมารยาท ไม่เหมือนกับนิสัยโฉ่งฉ่างของกู้เยนเซินแม้แต่นิด เขาเพิ่งยืนอยู่ไม่กี่นาที คนที่นั่งทำงานรอบๆ ไม่น้อยก็มองมาตรงๆ
กู้เยนเซินโอบคอเขา พูดกำชับเสียงหนักแน่น “หมอถัง แนะนำให้คุณดูแลตัวเองดีๆ อย่าไปเผลอหาเรื่องไอ้เจ้านายนี่เข้า เขารังแกคนเก่งเกินไปแล้ว”
“โอเค ขอบคุณประธานกู้มากที่เตือนกัน”
โรงพยาบาลหวาเซี่ย
เมื่อลั่วหานได้รับโทรศัพท์ ก็เกือบจะทำรายชื่อเคสผู้ป่วยปลิวหาย
“คุณ……คุณขึ้นเครื่องบินแล้ว? ถึงกี่โมง?”
ข่าวคราวของเจมส์มาอย่างกะทันหันมาก กะทันหันเกินไปแล้ว!
คู่สาย เจมส์คงจะขึ้นเครื่องบินแล้ว เธอได้ยินเสียงสั่นสะเทือนของเครื่องบิน
“พรุ่งนี้เช้าสิบโมงครึ่งเวลาเมืองหลวง สนามบินนานาชาติเมืองหลวง แล้วเจอกัน”
“เอ่อ……” ลั่วหานจับแฟ้มประวัติผู้ป่วยแน่น จนแฟ้มเกือบจะหัก
เจมส์กลับตื่นเต้นราวกับเด็กที่เพิ่งเคยออกจากบ้านอย่างไรอย่างนั้น “หมอแอนน่า จะได้เจอฉันแล้วนะ เฝ้ารออย่างมีความสุขเลยใช่ไหม?”
เหอะเหอะ ไม่ย่ะ
“ห้องที่ฉันอยู่จัดการเรียบร้อยรึยัง?”
อาหะ ฉันลืมไปแล้ว
“ฟู้กุ้ยคิดถึงฉันรึเปล่า? ฉันรู้สึกเหมือนมันกำลังบอกว่าคิดถึงฉันเลย”
ความมั่นใจนี่ไม่รู้ไปเอามาจากไหน แต่ว่า……เหมือนจะตรงอยู่นะ
“เจ้าชายเจมส์ เดินทางปลอดภัย” ลั่วหานพูดเปลี่ยนเรื่อง เตรียมจะกดวางสาย
“angelน้อยต้องชอบฉันมากแน่ๆ! ฉันก็เองต้องชอบเธอแน่ๆ!”
ลั่วหานหัวโตขึ้นอีกสามเท่า “เธอยังเด็กมาก ไม่รู้เรื่องอะไรหรอก”
ในที่สุด ลั่วหานก็รับมือกับเจมส์เสร็จ ด้านหลังก็รู้สึกหนาวขนลุก วางสายด้วยความรู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก ไม่รอให้เสียเวลา เธอส่งข้อความหาหลงเซียวทันที
ตอนที่หน้าจอโทรศัพท์สว่างขึ้น ถังจิ้นเหยียนก็เพิ่งพูดจบ
เขานั่งนิ่งไร้เสียงอยู่ตรงหน้าหลงเซียว ราวห้องกว้างทะลักล้นไปด้วยความ
ดีที่มีเสียงแจ้งเตือนข้อความมาทำลายสถานการณ์นี้
ท่ามกลางความเงียบงันทั้งคู่กลับคืนสติ หลงเซียวพลิกโทรศัพท์ “คุณไม่ควรเป็นคนพูดคำขอโทษนี้”
“พ่อของฉันยังหมดสติอยู่”
“งั้นก็รอให้เขาตื่นแล้วมาขอโทษด้วยตัวเอง แล้วก็ หนี้ที่ตระกูลถังติดตระกูลมู่ของฉันไว้ ไม่ได้ไม่แค่คำขอโทษประโยคเดียว ยังมีความบริสุทธิ์ของคนทั้งกลุ่มตระกูลมู่”
เรื่องนั้นก็ส่วนเรื่องนั้น ถึงคราวของความแค้นของตระกูลหลงเซียวไม่ยอมปล่อยแน่
ถังจิ้นเหยียนเตรียมใจไว้อยู่แล้ว “ฉันจะเกลี้ยกล่อมให้พ่อของฉันออกมายืน ถ้าเขายังคงยืนได้