ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 857
ตอนที่ 857 กัดกันเอง
ถูกข้อความของถังจิ้นเหยียนบำบัด เจิ้งซิ่วหยาไม่ง่วง ไม่เหงาหงอยแล้ว ร่าเริงเป็นอย่างยิ่ง!
โจวจั่นมองดูการเปลี่ยนแปลงของเธออย่างเงียบๆอยู่ตลอด มุมริมฝีปากได้แต่ยิ้มเล็กน้อยอย่างปวดใจ ให้ความร่วมมือกับอารมณ์ที่ดีของเธอ “ลูกพี่ เธอกับหมอถัง…”
“พวกเราเตรียมตัวหมั้นน่ะสิ จากนั้นแต่งงาน ฉันจะให้ขนมในวันแต่งงานกับเธอสองชุด สำหรับเงินใส่ซอง เธอดูเอาก็แล้วกัน” เจิ้งซิ่วหยาตอบทั้งหมดไปตรงๆ
โจวจั่นยิ้มแหยๆ “งั้นก็ดี…ขนมในวันแต่งงานสองชุด พอให้ฉันกินจนกรดไหลย้อนแล้ว”
“มาแล้ว!”
เจิ้งซิ่วหยาเห็นรถยนต์หลายที่นั่งสีดำคันหนึ่งเคลื่อนตัวมาจากระยะไกลจนใกล้จากภายในกล้องส่องทางไกล รถคันนั้นดูเหมือนธรรมดา แต่ฟิล์มป้องกันการแอบมองติดได้โอเวอร์มากจนเกินไป มีพิรุธอย่างเห็นได้ชัด
โจวจั่นไม่ต้องใช้กล้องส่องทางไกลก็มองเห็นรถคันนั้นขับมาถึงหน้าประตูบ่อนพนัน “มีความเป็นไปได้อย่างมากที่จะเป็นเหลียงหยู้คุน!”
เจิ้งซิ่วหยาทิ้งกล้องส่องทางไกล “แม่งเอ๊ย ไม่เปล่าประโยชน์ที่ฉันรอนานขนาดนี้ คืนนี้ฉันจะทุ่มสุดชีวิตกับเหลียงหยู้คุน แม่ง ไม่ให้มันหนี
ไปได้อีก!”
“มันหนีไม่รอด” โจวจั่นกัดฟันแน่น
พูดไม่ถูกว่าเป็นความแค้นที่มีต่ออาชญากร หรือว่าความหึงภายในจิตใจกลายเป็นความโมโห เขาไม่สบอารมณ์เป็นอย่างยิ่ง ต้องการระบายด่วน
เป็นไปอย่างที่คิดเอาไว้จริงๆ คนที่ลงมาจากรถก็คือเหลียงหยู้คุน บอดี้การ์ดสี่คนล้อมหน้าล้อมหลัง เหลียงหยู้คุนประคองพุงใหญ่ๆเดินอยู่ตรงกลาง มองไกลๆราวกับพระพุทธรูปที่เคลื่อนไหว
เจิ้งซิ่วหยามองดูตัวจริงของเหลียงหยู้คุน แล้วมองดูรูปภาพอีกครั้ง “อื้อหือ!เหลียงหยู้คุนไม่กี่เดือนกินจนอ้วนขึ้นเป็นตุ่ม? หรือว่า…รูปของมันใช้โฟโต้ชอป?”
บรรยากาศที่แต่เดิมน่าตื่นเต้นมาก ถูกเธอทำจนค่อนข้างที่จะน่าขำ
เหลียงหยู้คุนเดินเข้าไปในบ่อน หันข้างออกคำสั่งกับบอดี้การ์ดเบาๆ “ให้คนของเราเฝ้าอยู่ที่หน้าประตู เห็นบุคคลที่น่าสงสัยจับน็อคทันที”
“ครับพี่ใหญ่”
บอดี้การ์ดสองคนถอยออกมาที่ด้านนอกประตู อีกสองคนเดิมตามเขาเข้าไป จากนั้น ก็มีคนสามคนเดินออกมา สวมใส่ยูนิฟอร์มของบ่อน
โค้งตัวลงอย่างเคารพนบนอบมีมารยาท “พี่คุน มาแล้วหรอครับ”
เหลียงหยู้คุนพยักหน้า “ขึ้นชั้นบน”
ชายหนุ่มที่นำอยู่ด้านหน้าพยักหน้า “ยังคงเป็นห้องรับรองพิเศษของพี่?”
“ไร้สาระ”
ชายหนุ่มยิ้มตอบอย่างสุภาพ สั่งใส่สายไมโครโฟนภายใน “ห้องรับรองพิเศษของพี่คุน”
เหลียงหยู้คุนพาบอดี้การ์ดสองคนตรงไปขึ้นลิฟต์วีไอพี
ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นกับผู้ช่วยสองคน “ดูหน่อย พี่คุนคือแขกคนสำคัญ อย่าเกิดเรื่องเกิดราว”
ตำรวจติดอาวุธที่แฝงตัวเข้าไปเชื่อมต่อสัญญาณ “เหลียงหยู้คุนขึ้นไปชั้นบนแล้ว ลิฟต์หยุดอยู่ที่ชั้นสามสิบห้า”
“ทราบแล้ว” เจิ้งซิ่วหยามองดูนาฬิกาข้อมือแวบหนึ่ง “หลังจากนี้สิบนาที ดึงสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้ให้ดังขึ้น คนของเราอาศัยความวุ่นวายปะปนเข้าไป ตรงขึ้นไปชั้นที่สามสิบห้า”
“ครับ ทางนี้จะจัดการอย่างเหมาะสมและเรียบร้อย รอพวกคุณเข้ามา”
เจิ้งซิ่วหยาเหลือบมองดูเวลาอีกทีหนึ่ง “ระวังหน่อย ดูแลความปลอดภัย”
โจวจั่นนำประตูรถเปิดออกเล็กน้อย สะดวกต่อการพุ่งออกไปในเวลาแรก “ลูกพี่ อีกเดี๋ยวฉันอยู่ด้านหน้า เธออยู่ด้านหลัง”
เจิ้งซิ่วหยาล้วงเอาปืนพกออกมา นำปืนเข้าช่องยิง “พูดไร้สาระอะไร ฉันคือลูกพี่ของเธอ แน่นอนว่าฉันต้องพุ่งออกไปด้านหน้าที่สุด เธออย่าแสดงว่าตัวเองแข็งแกร่งกว่าคนอื่น”
“ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับลูกพี่ไม่ลูกพี่” โจวจั่นพึมพำหนึ่งประโยค เจิ้งซิ่วหยาได้ยินได้ไม่ชัดเจน
ภายในบ่อน ชั้นสามสิบห้า
ร่างกายที่อ้วนท้วนกำยำของเหลียงหยู้คุนนั่งอยู่บนโซฟา ทำให้โซฟายุบลงไปเป็นหลุมขนาดใหญ่ เขาจุดซิการ์ “ธุรกิจภายในประเทศช่วงนี้ทำยาก ดังนั้น…พวกเราจำเป็นจะต้องยืมใช้ท่าเรือของบริษัทMBK ”
ริมฝีปากของเหลียงหยู้คุนปลิ้นออก คาบซิการ์เอาไว้เคลื่อนไหวเนื้อไขมันขึ้นลง
ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามรูปร่างผอมเซียว สวมใส่ชุดสูทที่เรียบร้อย เป็นระเบียบ เสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาด เขาประคองแว่นสายตาขึ้นเล็กน้อย ยิ้มตอบอย่างสุภาพ “คุณเหลียง ช่วงนี้บริษัทMBKเกรงว่าจะไม่สามารถสนับสนุนท่าเรือให้กับคุณได้”
ดวงตาสีดำของเหลียงหยู้คุนหรี่ลงเกินครึ่งอย่างกะทันหัน “พูดอะไร?!แกแม่งพูดอะไร?”
ชายหนุ่มยังคงแนบรอยยิ้มตามฟอร์มเดิมเอาไว้ นั่นคือทักษะเงียบสงบที่ฝึกฝนเป็นเวลานานจนสำเร็จบนโต๊ะเจรจาต่อรอง “บริษัทMBKช่วงนี้กำลังปรับปรุงท่าเรือ ไม่ยอมรับการแทรกแซงจากฝ่ายที่สาม นอกจากนี้ ภายในประเทศกำลังพยายามปรับปรุงทางเข้าออกอย่างสุดความสามารถ ตอนนี้ธุรกิจทำยากครับ”
“เพี้ยะ!”
มือใหญ่ที่อ้วนหนาของเหลียงหยู้คุนตบลงอย่างรุนแรง แรงสั่นสะเทือนของเนื้อกับหน้าโต๊ะกระจกส่งเสียงดังมหาศาลออกมา “แกแม่งเหลวไหล!บริษัทMBKกิจการที่ใหญ่ขนาดนี้ ท่าเรือปรับปรุงก็ไม่ทำธุรกิจแล้ว? ไร้สาระ!”
เผชิญหน้ากับความโมโหของเหลียงหยู้คุน ชายหนุ่มยังคงสงบเยือกเย็นอย่างไม่เหลือทิ้งร่องรอยอะไรบนใบหน้าให้เห็น “คุณเหลียง ความหมายของท่านประธานก็คือเช่นนี้ ผมเพียงแต่รับผิดชอบส่งข่าว คุณเหลียงมีข้อสงสัยใดๆ สามารถติดต่อกับท่านประธานได้โดยตรง”
“แกรอก่อน!แกรอก่อน!” เหลียงหยู้คุนชี้ตรงไปที่สันจมูกของชายหนุ่ม หากไม่ใช่ว่าเขาเป็นลูกน้องของหลงถิง เหลียงหยู้คุนจะกดหัวเขาลงในโถส้วมให้กลั้นใจตายอย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย!
เหลียงหยู้คุนต่อสายโทรศัพท์ไปหาหลงถิง หมายเลขที่อยู่บนหน้าจอสว่างไสว แต่ฝ่ายตรงข้ามกับแสดงผลไม่สามารถติดต่อได้
ลองอีกหลายครั้ง ยังคงล้มเหลว
“เกิดอะไรขึ้น?” เหลียงหยู้คุนมองดูหน้าจออย่างร้อนอกร้อนใจ เช็คให้ชัวร์ว่าตัวเองไม่ได้ต่อสายผิด
ชายหนุ่มเปิดกระเป๋าเอกสารออก ดึงเอาเอกสารฉบับหนึ่งออกมา “คุณเหลียง สุขภาพของท่านประธานไม่ค่อยดี กำลังพักฟื้น ดึกขนาดนี้
ท่านน่าจะนอนหลับแล้ว เอกสารฉบับนี้คือเอกสารที่ท่านประธานสั่งให้ผมมอบให้กับคุณ คุณลองดู”
พักฟื้น?
ไม่เช้าไม่ดึก ก็คืนนี้?
เหลียงหยู้คุนวิเคราะห์อย่างสงสัย ลับลมคมใน เขารู้สึกไม่ค่อยสงบ
เปิดเอกสารออก เขาดูแวบเดียวจบ หลังจากที่ดูจบก็โยนทิ้งไปกลางอากาศในทันที กระดาษหลายแผ่นบินว่อนกระจายไปทั่ว “เช่าใช้?!
ยังให้ฉันเซ็นสัญญาเช่า!นี่แม่งหมายความว่าอะไรกัน!”
ชายหนุ่มยิ้ม “ท่าเรือของบริษัทMBKไม่เปิดให้กับบุคคลภายนอกมาโดยตลอด ท่านประธานเห็นแก่มิตรภาพที่มีกับคุณเหลียงมานานหลายปี ยินยอมให้คุณเช่าในราคาต่ำ ถือเป็นสิทธิพิเศษแล้ว”
“สิทธิพิเศษอะไรกัน!ที่ฉันต้องการคือใช้ฟรี!ฉันทำงานให้กับท่านมากมายขนาดนั้น คิดไม่ถึงว่าท่านจะเล่นลูกไม้นี้กับฉัน!” เหลียงหยู้คุนใช้เท้าเหยียบบดขยี้สัญญา ฝ่าเท้าขยี้จนกระดาษสีขาวยับยู่ยี่
หากเขายอมรับสัญญาการเช่า เซ็นชื่อลงไป ถ้างั้นต่อไปธุรกิจผิดกฎหมายที่เขาทำก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับบริษัทMBK เกิดเรื่องเขาแบกรับความรับผิดชอบคนเดียว บริษัทMBKเป็นเพียงแค่ “เจ้าของบ้าน” “ผู้เช่า” ทำอะไรต่างก็โยงไปไม่ถึงตัวเขา
หลงถิงกัดกันเอง คิดจะเอาตัวเองเบี่ยงออกจนสะอาดหมดจด
จิ้งจอกแก่ตัวนี้!
“คุณเหลียง คำพูดจะพูดซี้ซั้วไม่ได้ ไม่มีหลักฐานถือว่าหมิ่นประมาท ท่านประธานได้ไว้หน้าคุณเหลียงมากแล้ว คุณเหลียงเห็นดีก็รับเอาไว้ได้”
“ไม่มีทาง!ฉันจะติดต่อท่านด้วยตัวเอง!แกไสหัวไป!”
เหลียงหยู้คุนโมโหจนไม่อาจควบคุมตนเองเอาไว้ได้ ชายหนุ่มกลับยืนขึ้นมาอย่างไม่ช้าไม่เร็วเป็นธรรมชาติ เขาจัดชุดสูทให้เรียบร้อย “คุณเหลียง คำพูดไม่น่าฟังขอพูดเอาไว้ก่อน สัญญาฉบับนี้วันนี้คุณไม่เซ็น งั้นก็ไม่มีครั้งหน้าแล้วนะครับ”
ความโมโหในใจของเหลียงหยู้คุนชั่วพริบตาระเบิดออกมา หลงถิงเล่นข้ามแม่น้ำได้แล้วรื้อสะพานทิ้งกับเขา?!
เขาถูกใช้ผลประโยชน์เสร็จ คิดไม่ถึงว่าจะถีบกระเด็น!
“กริ๊งงงงงงง….กริ๊งงงงงงง….!”
สัญญาณแจ้งเตือนไฟไหม้ดังสนั่นขึ้นมาอย่างกะทันหัน เสียงออดที่ดังลั่นกังวานจนสนั่นไปทั่วทั้งอาคารใหญ่
“พี่ใหญ่!สัญญาณแจ้งเตือนไฟไหม้ ไฟไหม้แล้ว!”
เหลียงหยู้คุนกำลังเลือดขึ้นหน้า ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด่าคน “แม่งเอ๊ย!”
ชายหนุ่มได้กลิ่นผิดปกติภายในอากาศ โน้มตัวลงเก็บเอกสารทั้งหลายแผ่นขึ้นมา ยัดเข้าไปในกระเป๋าเอกสารทั้งหมด “วันนี้ดูเหมือนไม่เหมาะสมที่จะคุยงาน วันหลังแล้วกันครับ!”
“แกยืนอยู่ตรงนั้น!”
ชายหนุ่มกลับรักษาความมีมารยาทอย่างสุภาพ “คุณเหลียง อย่าไปกันไม่ได้กับชีวิต หากไฟไหมขึ้นมา ไม่ต้องพูดถึงท่าเรือ
แม้แต่หัวเตียงคุณก็ลูบไปไม่ถึง”