ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 858
ตอนที่ 858 แม่ง คิดไม่ถึงว่าจะมีทางหนีทีไล่
ตึกบ่อนการพนันที่สูงตระหง่านเทียมฟ้า ในวินาทีที่สัญญาณแจ้งเตือนไฟไหม้ถูกดึงให้ดังขึ้น ก็ตกอยู่ในความบ้าคลั่งวุ่นวาย คนที่รักตัวกลัวตาย แรงกระตุ้นของสัญชาตญาณการมีชีวิตรอด ความปรารถนาอันแกร่งกล้าที่อยู่ภายใต้การดึงดูดยั่วเย้าของทรัพย์สินเงินทอง…
เหตุผลมากมายรวมเข้าไว้ด้วยกัน หน้าฉากได้สูญเสียการควบคุมไปโดยสมบูรณ์แบบ
โจวจั่นและเจิ้งซิ่วหยากระโดดลงจากรถพร้อมกัน สามคนที่นั่งอยู่ทางด้านหลังก็กระโดดลงตามกันมาติดๆ ทั้งห้าคนสวมใส่ชุดนอกเครื่องแบบ พยายามเบียดออกมาเป็นช่องทางที่แคบภายในกลุ่มผู้คนจำนวนมหาศาลที่เคลื่อนตัวไปอีกทาง
เจิ้งซิ่วหยาเบี่ยงไหล่หันข้างกระทบกับไหล่ของคนที่เดินตรงข้ามเข้ามาอย่างรุนแรง หลายครั้งมากที่ถูกชนจนเซ โจวจั่นต่างก็ปกป้องเธอเอาไว้ได้ทันเวลาทั้งหมด
เจิ้งซิ่วหยาหัวเราะขึ้นเล็กน้อย “ปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วใช้ได้นะ”
โจวจั่นก็หัวเราะขึ้นมาเล็กน้อยเช่นเดียวกัน “แล้วแต่คน”
สำหรับเธอ พลังในการตอบสนองของกล้ามเนื้อของฉันตัวฉันเองก็ยังตกใจ แต่หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น คาดว่าคงจะไม่ได้แล้วล่ะมั้ง
ในขณะที่ในใจคิดเช่นนี้ ทั้งห้าคนได้แบ่งออกเป็นสองกลุ่ม โดยสารลิฟต์ที่ลงมารอบแรกขึ้นไป เจิ้งซิ่วหยาและโจวจั่นรอรอบที่สอง เพื่อป้องกันเหลียงหยู้คุนลอบหนี
“เหลียงหยู้คุนยังอยู่ที่ชั้นบน!สัญญาณแจ้งเตือนไฟไหม้หลอกได้ไม่นานเท่าไร พวกคุณรีบขึ้นมา ดูท่าเหลียงหยู้คุนคิดจะหนี” เพื่อนร่วมทีมที่ลงงานในสถานการณ์จริงอยู่ด้านบนรายงานสถานการณ์ล่าสุด
“รอก่อน!”
เจิ้งซิ่วหยาพยักหน้าให้กับโจวจั่น ทั้งสองคนกระโดดเข้าไปในลิฟต์ การเคลื่อนตัวขึ้นของลิฟต์รวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง ประมาณไม่ถึงหนึ่งวินาทีก็ขึ้นไปได้หนึ่งชั้น อีกทั้งยังรู้สึกไม่ถึงแรงสั่นสะเทือนใดๆอีก
โจวจั่นและเจิ้งซิ่วหยาถือปืนพกเอาไว้ ทั้งสองคนสบตา พยักหน้าให้กันและกัน ใช้สายตาของมืออาชีพชี้เรื่องที่ฝ่ายตรงข้ามจะต้องไปทำ
ประตูลิฟต์เปิดออก เจิ้งซิ่วหยามองเห็นเพื่อนร่วมทีมที่ขึ้นมาล่วงหน้า คนสามกลุ่มหลังจากที่รวมตัวกันมีทั้งหมดเจ็ดคน ทั้งหมดมีเจิ้งซิ่วหยาเป็นผู้ออกคำสั่ง
เจิ้งซิ่วหยาโบกมืออย่างคล่องแคล่วชัดเจน ตำรวจติดอาวุธที่ติดอาวุธครบมือสองคน ถือปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติเอาไว้ย่อตัวแนบชิดติดประตู
คนหนึ่งอยู่กับที่รวบรวมกำลังทั้งหมด “ปึ้ง!”
ทีเดียวถีบประตูไม้แท้ของห้องชุดด้านนึงเปิดออก
“อย่าขยับ!ตำรวจ!”
ในวินาทีที่เปิดประตู คนที่อยู่ด้านในตกใจอย่างเห็นได้ชัด…
เหลียงหยู้คุนกำลังจะออกนอกประตู บอดี้การ์ดที่อยู่ทางด้านหลังมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างรวดเร็วภายในหนึ่งวินาที หนึ่งในนั้นหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาจะติดต่อคนอื่นๆ แต่ตำรวจติดอาวุธที่นำอยู่ด้านหน้ายกขาสูงอย่างสวยงาม แตะโทรศัพท์มือถือของชายหนุ่มกระเด็น
เพล้ง!
โทรศัพท์มือถือกระแทกไปบนพื้น แตก
ริมฝีปากที่อวบหนาของเหลียงหยู้คุนขยับสองสามทีด้วยความช็อก “พวกแกทำอะไร?”
เจิ้งซิ่วหยาถือปืนพก ปากกระบอกปืนสีดำขลับจ่อแม่นอยู่ตรงกลางระหว่างหัวคิ้วของเหลียงหยู้คุน “ตำรวจเมืองหลวงมาเยี่ยมเยียน คุณเหลียง ให้ความร่วมมือสักหน่อยเถอะค่ะ!”
เหลียงหยู้คุนแวบเดียวก็ดูผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าออก ก็คือผู้หญิงที่เขาต้องการกำจัด!
แม่งเอ๊ย คิดไม่ถึงว่าจะถูกหล่อนลงมือก่อนแล้ว!
เหลียงหยู้คุนประคองพุงใหญ่ๆเอาไว้ไม่ขยับซี้ซั้วอย่างรู้กาลเทศะเป็นอย่างมาก “คุณตำรวจเจิ้ง มีอะไรพูดกันดีๆ อย่าใช้มีดใช้ปืน ตอนนี้คือสังคมที่มีกฎหมายนะครับ”
สายตาที่เหลือของเจิ้งซิ่วหยามองโจวจั่นแวบหนึ่ง คนที่อยู่ด้านหลังเข้าใจในทันที
“หยุดพูดมาก พาตัวไป!”
โจวจั่นก้าวยาวๆขึ้นมาข้างหน้าก้าวหนึ่ง ล้วงเอากุญแจมือที่เย็นเฉียบสะท้อนแสงออกมาจากกระเป๋ากางเกงทางด้านหลังดังกรุ๊งกริ๊ง “เหลียงหยู้คุน แกถูกจับกุมแล้ว”
เหลียงหยู้คุนหัวเราะหึ ถอยหลังไปครึ่งก้าวในทันที
บอดี้การ์ดสองคนถือโอกาสขึ้นไปข้างหน้า ใช้ร่างกายของตนเองบดบังเหลียงหยู้คุนเอาไว้ ฟึ่บ ทั้งสองคนชูปืนขึ้น ปากกระบอกปืนประจัญหน้ากับตำรวจ
“ฮ่าๆ!” เจิ้งซิ่วหยาหัวเราะขึ้นมา เธอพยักหน้าส่งสัญญาณให้พวกเหลียงหยู้คุนมองออกไปด้านนอกหน้าต่าง “อย่าขัดขืนเลยเหลียงหยู้คุน สี่ด้านแปดทิศล้วนคือคนของพวกเรา แกกล้าขยับหัวสักหน่อย ตำรวจก็มีสิทธิ์วิสามัญได้ในทันที”
เหลียงหยู้คุนออกแรงกำมือใหญ่จนกลายเป็นหมัด “แม่งเอ๊ย!กล้าขายฉัน!”
ตำรวจติดอาวุธสามคนจ่อเล็งไปบนหัวของบอดี้การ์ด “วางอาวุธลง!”
บอดี้การ์ดไม่ทันได้ขอความช่วยเหลือ ฝ่ายตรงข้ามเป็นตำรวจพวกเขาไม่กล้าต่อต้านอย่างเปิดเผย ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันวางอาวุธลง
ขาที่เรียวยาวของตำรวจติดอาวุธยื่นออกไป ปลายเท้าตวัดปืนพกเอาไว้เตะออกไปทางด้านนอกหลายเมตรอย่างคล่องตัว “จับหัว หมอบลง!”
กึก!
กุญแจมือล็อกลงบนข้อมือของเหลียงหยู้คุนอย่างราบรื่น “เหลียงหยู้คุน คิดไม่ถึงว่าแกก็จะมีวันนี้เหมือนกันล่ะสิ?” โจวจั่นใช้ด้ามปืนกระทุ้งไปยังพุงใหญ่ๆที่ยื่นออกมาของเหลียงหยู้คุน ยิ้มจนตาโค้ง
เหลียงหยู้คุนกระตุกมุมริมฝีปากเล็กน้อย รอยยิ้มมืดหม่นเย็นยะเยือก “ฉันไม่ได้ทำผิดกฎหมาย อาศัยอะไรมาจับฉัน”
“แกทำผิดกฎหมายหรือไม่ พวกเรากลับไปค่อยๆคุยกัน…พาตัวไป!” เจิ้งซิ่วหยาออกคำสั่ง คนทั้งหลายดำเนินการอย่างรวดเร็ว
การดำเนินการจับกุมง่ายและรวดเร็วกว่าที่คิดเอาไว้มาก เจิ้งซิ่วหยาแทบจะซาบซึ้งในแผนการของตนเองเข้าให้แล้ว
ในขณะเดียวกันกับที่ล็อกตัวเหลียงหยู้คุนเอาไว้ได้ เสียงสัญญาณแจ้งเตือนไฟไหม้ก็หยุดลง เสียงที่แสบแก้วหูหายไป เงียบจนค่อนข้างที่จะแปลกผิดปกติ
โจวจั่นและเจิ้งซิ่วหยาเดินอยู่ที่ด้านหลัง ตำรวจติดอาวุธคุมตัวเหลียงหยู้คุนกับลูกสมุนคนอื่นๆเดินอยู่ที่ด้านหน้า โจวจั่นผลักเจิ้งซิ่วหยา
เล็กน้อย “ลูกพี่ นี่ก็คือโครงสร้างภายในของบ่อนการพนันในมาเก๊าหรอ หรูหราจริงๆ”
เจิ้งซิ่วหยากวาดตามองแวบหนึ่ง “พอได้ เทียบกับลาสเวกัสยังแย่กว่านิดนึง”
“เธอเคยไป?”
“ปฏิบัติภารกิจ”
“ฉันก็ไม่ได้คิดจะพูดว่าเธอไปแทงพนันสักหน่อย” โจวจั่นแฮปปี้ จัดการกับเหลียงหยู้คุนความวุ่นวายอันดับหนึ่งคนนี้ได้ เรื่องที่เหลือก็สามารถดึงออกปอกเปลือกออกมาทีละชั้นๆได้แล้ว
เจิ้งซิ่วหยาล็อกคอโจวจั่น ดึงเขาให้ต่ำลงมาเล็กน้อย “เธอรู้ได้ยังไงว่าฉันไม่เคยไปแทง?”
โจวจั่นถูกทำให้ตกใจอย่างแรง “เธอเคยไปจริงๆ? เคยไปแทงจริงๆ?”
เจิ้งซิ่วหยาเรียนหนังสือที่อเมริกา ประเทศอเมริกาส่วนใหญ่ถูกเธอเที่ยวไปหมดแล้ว อีกทั้ง ตอนเด็กๆอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ก็ไปสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในอเมริกาไม่ได้น้อย บ่อนพนันของลาสเวกัสงั้นหรอ…แน่นอนว่าไม่มีทางพลาด
“เคยแทง แต่โชคไม่ดี แพ้แล้ว” เจิ้งซิ่วหยายักไหล่อย่างไม่สนใจ
โจวจั่นไอแค่กๆ “แพ้ไปเท่าไร?”
เรื่องผ่านมานานมากจนเกินไป เจิ้งซิ่วหยาจำไม่ค่อยได้แล้ว คิดอยู่ครู่หนึ่ง “ประมาณก็สองสามหมื่นดอลลาร์ล่ะมั้ง พ่อฉันเป็นคนให้ฉันเล่น
บอกว่าแพ้ถือว่าเป็นของเขา ชนะถือว่าเป็นของฉัน ต่อมาค้นพบแล้วว่าโชคฉันแย่มาก ก็ไม่ให้ฉันเล่นอีก”
โจวจั่นลองคำนวณดู สองสามหมื่นดอลลาร์ เปลี่ยนเป็นเงินหยวนก็ต้องเป็นแสนแล้วล่ะมั้ง?
“เธอ…ตอนนั้นอายุเท่าไร?” โจวจั่นรอคอยคำตอบอย่างลุ้นระทึก
“อืม…สิบขวบ? สิบเอ็ดขวบ? จำไม่ค่อยได้แล้ว โอ๊ย ถามอันนี้ทำไม? ต่อมาฉันไม่เคยแทง ยังไงซะก็รู้ว่าตัวเองโชคมือไม่ดี”
เจิ้งซิ่วหยาพูดถึงเรื่องเหล่านี้ด้วยใบหน้าสบายๆ ไม่รู้สึกตัวเลยแม้แต่น้อยว่า ความสงบเยือกเย็นของเธอสร้างเกลียวคลื่นที่ใหญ่แค่ไหนให้กับโจวจั่น
เด็กอายุสิบกว่าขวบ รวดเดียวแพ้ไปสองสามหมื่นดอลลาร์คิดไม่ถึงว่าอย่างกับเล่นๆ ดังนั้น…พื้นหลังครอบครัวของเธอจะต้องดีมาก
ถ้างั้น…เธอกับถังจิ้นเหยียนคือคู่ที่เหมาะสมกันที่สุดจริงๆ คู่ควรกัน เคียงคู่กัน แล้วเขาล่ะ?
โจวจั่นในใจสิ้นหวัง เขาก็คือคนจนๆคนหนึ่ง เมื่อก่อนตอนที่แอบรักระมัดระวังเป็นอย่างยิ่งแต่บางครั้งก็ยังรู้สึกว่างดงาม ตอนนี้เหลือเพียงแค่ความระมัดระวังและความรู้สึกต่ำต้อย
“ปังๆๆๆๆๆ!!”
เสียงรัวปืนพุ่งเข้ามาแบบไม่ทันให้ได้ตั้งตัวอย่างกะทันหัน กระสุนและโลหะกระทบเสียดสีจนกลายเป็นประกายไฟที่แสบตาออกมา กระสุนทรงลูกมะกอกแทงทะลุเข้าไปในโซฟา ฉากกั้นไม้ จากนั้น มือปืนสิบกว่าคนก็ล้อมเข้ามา กระสุนที่ไม่มีตาโจมตีเข้ามาแบบอุตลุด กราดยิงอย่างบ้าคลั่งอยู่ภายในห้องบอลรูมขนาดใหญ่
“แม่ง!”
เจิ้งซิ่วหยาและโจวจั่นดึงปืนพกออกมาอย่างรวดเร็ว แต่รัศมียิงและความแม่นยำในการยิงของปืนพกมีขีดจำกัดมากจนเกินไป เหมาะสมในการยิงโจมตีเป้าหมายระยะใกล้ ไม่เหมาะสมที่จะต่อสู้กับมือปืนที่ถือปืนไรเฟิลเป็นอย่างยิ่ง!
“คนของเหลียงหยู้คุน!” เจิ้งซิ่วหยาดูยูนิฟอร์มสีดำทั้งตัวของพวกเรามันออก กำลังเสริมของเหลียงหยู้คุนมาถึงแล้ว ปฏิกิริยาตอบสนองเร็วจริงๆ
โจวจั่นป้องกันเจิ้งซิ่วหยาเอาไว้ “ลูกพี่ ฉันคุ้มกันเธอ จัดการพวกมัน!”
“แน่นอน!”
คุ้มกันเกรงว่าจะรอไม่ทันแล้ว เจิ้งซิ่วหยาพุ่งตัวกระโดดไปถึงด้านหลังโซฟา กระสุนทะลุโซฟาตามมาติดๆ กระสุนรัวติดต่อกัน เล็งเป้าหมายมาที่ทิศทางของเจิ้งซิ่วหยา ท่าทีจงใจจะฆ่าให้ดับคาที่
เจิ้งซิ่วหยาหลังพิงโซฟา สงบลมหายใจ มือขวาถือปืน มือซ้ายประคองด้ามปืนเอาไว้แน่น หากตายอยู่ที่นี่แบบนี้ ช่างเป็นการตัดสินที่ไม่เป็นธรรมจริงๆ
โจวจั่นเห็นว่าเป้าหมายหลักที่ฝ่ายตรงข้ามโจมตีคือเจิ้งซิ่วหยา ก็กัดฟันแน่น กระสุนปังๆๆๆส่งยิงไปอย่างแม่นยำ…
พรวด!
กระสุนทะลุเข้าไปในเนื้อ มือปืนสองสามคนล้มลงไปกับพื้นตามเสียง
ตำรวจติดอาวุธสามคนปล่อยเหลียงหยู้คุน ถือปืนกวาดยิง กระสุนพุ่งออกไปตามเสียง…ปัง!ปัง!
หน่วยสวอทที่ปกติฝึกฝนมาโดยตลอด กระสุนทุกนัดตรงเป้า สังหารมือปืนห้าคนคาที่ แต่สิ่งที่ตามมาหลังจากนั้นก็คือมือปืนจำนวนมหาศาลกระโจนกลับเข้ามาราวกับไม่เอาชีวิตยังไงอย่างงั้น
เจิ้งซิ่วหยาใช้โซฟาเป็นเกราะกำบัง ช่วยโจวจั่นจัดการมือปืนที่เตรียมจะลอบโจมตีหลายคน “เรียกกำลังเสริม!”
“เรียกแล้ว!กำลังจะมาถึง!ลูกพี่เธออดทนอีกหน่อย!”
“ฉันไม่เป็นไร!พาคนไป อย่าให้พวกมันช่วยเหลียงหยู้คุนหนีไปได้เด็ดขาด!”
มุมริมฝีปากของเหลียงหยู้คุนที่ถูกล็อกด้วยกุญแจมือเฉียงขึ้น “ไม่ใช่ว่าชอบเล่นหรอกหรอ? วันนี้กูจะตั้งใจเล่นกับพวกมึงทั้งหลาย”
พูดจบ เหลียงหยู้คุนก็พยักหน้าให้กับลูกน้อง ส่งสัญญาณให้พวกมันไม่จำเป็นต้องไว้ชีวิต
เจิ้งซิ่วหยาคิดจะยิงอีก คลังกระสุนว่างเปล่า “แม่ง!”
เพล้ง!
ในวินาทีที่ปืนตกลงพื้น เท้าที่มองไม่เห็นเตรียมจะถีบลงบนหน้าอกของเจิ้งซิ่วหยา เธอเสียศูนย์ล้มลงบนโซฟา หน้าอกเจ็บแน่นขึ้นมาระลอก เธอดึงพนักเก้าอี้พลิกตัวยืนขึ้นมาในทันที
ขาข้างหนึ่งกวาดไปด้วยความรวดเร็ว ปลายเท้าตวัดเก้าอี้ตัวหนึ่งเอาไว้ “ปึ้ง” กระแทกตรงไปยังช่วงท้องของคนๆนั้น
“นังโสเภณี!”
ชายหนุ่มจากความอับอายกลายเป็นความโมโห ปืนที่อยู่ในมือชูขึ้นสูงอย่างกะทันหัน เล็งไปที่ศีรษะของเจิ้งซิ่วหยาอย่างไร้คู่ต่อกรใดๆ
“ใครกล้าขยับ กูจะยิงมันให้ตาย!”