ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 864
ตอนที่ 864 ขิงหนึ่งแง่ง ต้นหอมหนึ่งต้น
หลงจื๋อไม่สามารถลุกได้ ไม่ใช่ว่าพละกำลังของเขาต่อต้านพ่อแท้ๆไม่ได้ แต่เป็นเพราะเขารู้ตัวว่าน้ำหนักของสองมือที่กดอยู่บนไหล่ตัวเองมีอะไรอยู่ด้วย
หลงถิงถอนหายใจอยู่ด้านหลังเขา น้ำเสียงไม่ดังแต่พลังโน้มน้าวคนแข็งแกร่งมาก “เสี่ยวจื๋อ ไฟดับได้ตลอดเวลา น้ำมันลุกไหม้หมดสิ้นได้ตลอดคนล่ะ…..สักวันหนึ่งก็ต้องแก่ ต้องตาย ฉันก็ไม่ยกเว้น”
หลงจื๋อหูแดง
ไม่ต้องสงสัย คำพูดพวกนี้ที่หลงถิงพูดได้กระตุ้นประสาทเขาแล้ว แต่ว่าเขาพยายามสงบสติอารมณ์ เตือนตัวเองห้ามหลงกลง่ายๆ
“พ่อริเริ่มสร้างMBK ใช้เวลาตลอดชีวิต จากไม่มีจนมี จากยากจนล้าหลังจนมาถึงขอบข่ายตอนนี้ เดินผ่านเส้นทางคดเคี้ยวมากมายและก็ทำเรื่องที่ไม่ดีมาไม่น้อย คนเลวให้พ่อเป็นเองคนเดียว ที่เหลือ แกก็ไม่ต้องกังวลแล้ว”
มือของหลงจื๋อที่หล่นจับราวเก้าอี้สั่นเทาเขาเอ่ยขึ้นมาว่า “พ่อพูดเรื่องพวกนี้กับผม ไม่ใช่ว่าอยากให้ผมเป็นเหมือนกับพ่อหรอ?”
“ไม่ พวกเราไม่เหมือนกัน ฉันก็ไม่ได้หวังว่าแกจะเหมือนกับฉัน ฉันใช้วิธีมากมาย อยากให้แกเปลี่ยนเป็นฉันคนที่สอง แต่ว่าฉันได้ล้มเหลว เสี่ยวจื๋อแกเป็นลูกที่ดี แกเดินบนเส้นทางของฉันไม่ไหว ฉันจะใช้กำลังบังคับแกแล้ว”
เขาผิดหวังจึงหัวเราะเย้ยหยันตัวเอง เพราะตัวเองจนปัญญามากที่จะอบรบสั่งสอนลูกชายให้กลายเป็นแบบตัวเอง
หลงจื๋อหัวเราะเงียบๆ “ดังนั้นล่ะ? อยู่ๆพ่อมาพูดเปิดอกตรงๆกับผม จุดประสงค์คืออะไรกันแน่?”
“ที่แท้ในใจแกพ่อก็คือคนแบบนี้ พูดอะไรทำอะไรล้วนมีจุดประสงค์หมดสินะ”หลงถิงตบไหล่ของเขาแทนความโศกเศร้าตัวเอง
หลงจื๋อแยกไม่ออกว่าเวลานี้เขาจริงใจหรือเสแสร้งจึงเอ่ยว่า “ระหว่างพวกเราไม่ต้องพูดวกไปวนมาแล้วสิครับ? พ่อคิดจะให้ผมทำอะไร? พ่อพูดมาตรงๆ ส่วนผมสามารถยอมรับได้ไหม ผมจะตอบต่อหน้าพ่อ ผมไม่จำคำพูดวกไปวนมาของพ่อ แต่บางเรื่องพูดตรงไปตรงมาก็ไม่เลวจริงๆ”
หลงถิงส่งเสียงเหอะเหอะ “ใช่ ตรงๆเลยก็ดีเหมือนกัน ดีจริงๆ…..เสี่ยวจื๋อ เก้าอี้นี้ ฉันอยากให้แก”
คำพูดที่มีน้ำหนักล้ำค่า ขาพูดอย่างสบาย เก้าอี้พับได้ที่สำคัญที่เคยใช้ทุกกลอุบายและการเดินหมากให้ได้กำไรมา เขาต้องการเปลี่ยนมือให้หลงจื๋อและก็ไม่ได้รู้สึกสักนิดว่าคำพูดของตัวเองเหมือนเขย่าขวัญมาก
“ประธานของMBK? น่าสนมาก”สายตาหลงจื๋อเปลี่ยนไป “ผมเกรงว่าจะจ่ายค่าตอบแทนที่พ่อต้องการไม่ไหว”
“แกเป็นลูกของฉัน ของฉันก็คือของแก ไม่มีค่าตอบแทนอะไร”
ในที่สุดหลงจื๋อก็ลุกขึ้นเดินห่างจากเก้าอี้ที่ลวกมือนั้นแล้วเอ่ยว่า “ตอนแรกพ่อเอาตำแหน่งนี้วางตำแหน่งที่อยู่ร่วมโลกกันไม่ได้ให้ผมกับพี่ผมครั้งแล้วครั้งเล่า รอยแผลยังไม่หายดี ยังคงเจ็บปวดอยู่ ผมไม่ลืม”
ภายในใจหลงถิงรู้สึกหนาวเย็นชั่วครู่ บนใบหน้ายังคงสงบเยือกเย็น “พ่อไม่อยากให้แกถูกเขาหลอก และยิ่งไม่อยากให้ทรัพย์สมบัติของตระกูลหลงเปลี่ยนไปอยู่ในมือเขา MBKเป็นความพยายามของพ่อมาตลอด ให้ได้แค่แก”
นิ้วหลงจื๋อปัดเก้าอี้เจ้านายหมุนเป็นวงกลมรอบหนึ่ง แล้วเอ่ยว่า “พ่อ ที่นี่มีเพียงแค่พวกเราสองคน พ่อทำไมไม่พูดความจริง? ครอบครัวสิบกว่าคนพี่ใหญ่ผม ตายยังไงกันแน่ พ่อไม่น่าลืมนะ?”
แววตาของหลงถิงเคร่งขรึมฉับพลัน “เสี่ยวจื๋อ! แกอย่าได้คืบจะเอาศอก!”
“ตระกูลมู่ถูกเลือดนองชั่วข้ามคืน สักพักพ่อก็ยึดทรัพย์สมบัติของตระกูลมู่และยังแต่งงานกับคู่หมั้นของมู่เส้าเอินอย่างราบรื่น ก็คือแม่ของผมตอนนี้!แม่แท้ๆของพี่ใหญ่ผม!
“พ่อ เรื่องมันผ่านไปสามสิบปีแล้วและกลับมาเกิดที่อเมริกาอีก พ่อคิดว่าไม่มีคนรู้และไม่มีคนพูดถึงเรื่องเก่าอีกแน่นอน แต่ว่าพ่อต้องจำเอาไว้ เหนือเรายังมีพระเจ้าอยู่ ความจริงมักจะเปิดเผยขึ้นมา”
หลงจื๋อพูดน่าตื่นเต้นมาก พูดถึงคดีฆาตกรรม ชีวิตคน การค้าขายธุรกิจ ความจริงที่สกปรก ใบหน้าเขาก็กระตุก เส้นเลือดที่หน้าผากกระตุกอย่างบ้างคลั่ง เขาควบคุมอารมณ์โมโหของตัวเองไม่อยู่ ควบคุมไม่ไหว!
ที่น่าแปลกใจคือ ครั้งนี้หลงถิงไม่ได้ยื่นมือมาตบเขาแล้วก็ไม่ได้แสดงอารมณ์โกรธเป็นฟืนเป็นไฟและตื่นตระหนก เขามองไปที่หลงจื๋ออย่างสงบมากเหมือนเสือมองลูกหมาป่าที่แยกเขี้ยวยิงฟัน
“แกอยากให้ฉันเป็นยังไง? มอบตัว? ยอมรับความผิด? ยอมยกMBKให้หลงเซียว? บอกทุกคนว่าของที่ฉันได้รับมาจากมู่เส้าเอิน?”
เขาเดินย่างก้าวเข้าไปใกล้หลงจื๋อ พร้อมกับระยะห่างใกล้ชิดระหว่างคนสองคน แรงกดอากาศต่ำที่แข็งแกร่งกดทับลงไปบนหัวของหลงจื๋อ ข่มกลั้นโรคหอบหืดของเขา
“หรือว่า แกอยากให้ฉันยอมรับว่าเรื่องในตอนนั้นฉันเป็นคนทำ?”
แรงสยบที่น่าตกใจเหมือนคลื่นแม่น้ำ คลื่นยักษ์ฤดูหนาวแสนครึ้มที่แสกหน้าอุดอากาศหายใจที่ปลายจมูก หลงจื๋อก้าวถอยไปข้างหลังครึ่งก้าวแล้วเอ่ยว่า “หรือว่าไม่ควร?”
“ได้งั้นก็จะลองบอกแก ผลที่ทำขนาดนี้”
หลงถิงเอามือจับหน้าผาก ร่างกายของเขาไม่ค่อยดีจริงๆ ในตอนนี้สีหน้าเปลี่ยนเป็นซีดเซียว เท้าสั่น โซเซอย่างคนจนตรอก
“พ่อ?”
หลงจื๋อเข้าไปพยุงเขาเอาไว้ รอเขายืนมั่นคงแล้วจึงรีบปล่อย
การกระทำนี้ ทำให้หลงถิงดูออกถึงขอบเขตของเขา
“MBKเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ บริษัทมาถึงระดับนี้ ไม่ได้เรียบง่ายเป็นกรุ๊ปการค้า แต่เป็นธุรกิจ แม้กระทั่งกิจการประเทศ ทิศทางของแผนการ ถ้าหาก MBKระเบิดข่าวอื้อฉาวออกมา หุ้นของบริษัทจะตกฮวบทำให้ถูกฝ่ายควบคุมตรวจสอบ เรื่องที่ตามมาคือผู้ถือหุ้นหายไปสุดท้ายจำเป็นต้องล้มละลาย”
เขาแยกแยะระเบียบแบบแผนชัดเจนจึงเอ่ยว่า “MBKกับธนาคารสิบกว่าแห่งมีสินเชื่อธุรกิจที่แน่นแฟ้นกันมาตลอด มากกว่าหมื่นล้าน น้อยกว่าพันล้านถ้าหากMBKล้มละลาย หนี้ธนาคารที่ต้องชำระก็จะไม่มีวิธีตามกลับได้ แกรู้ผลลัพธ์คืออะไร?”
หลงจื๋อกัดฟัน เขารู้ แต่ว่าเขาไม่ยอมตอบ อุโมงค์นี้ลึกเกินไป
“นอกจากนี้ แกเป็นผู้อำนวยการของMBK เห็นสถิติตัวเลขทุกวันก็ไม่แปลกสินะ? MBKเลี้ยงดูพนักงานหลายแสนคน มีอยู่ทุกที่บนโลกบริษัทล้มละลายพวกเขาจะทำยังไง? สภาพแวดล้อมสมัครงานตอนนี้ แกคิดว่าจะมีตำแหน่งอะไรที่สามารถรับพวกเขาเข้าอย่างสมบูรณ์คุ้มครองการรักษาพยาบาล ชีวิตหลังเกษียณทุกด้าน?”
หลงจื๋อได้ยินเลือดของตัวเองกำลังรินไหล……
“สุดท้าย ฉันถามแกคำถามหนึ่ง สมมติ แม้ว่าโศกนาฏกรรมของตระกูลมู่เป็นเพราะฉัน แต่ว่า ฉันทำธุรกิจมาสามสิบกว่าปี รักษาตลาดอสังหาริมทรัพย์ ช่วยนิสิตหลายหมื่นคน สร้างโรงเรียนประถมสิบกว่าแห่ง ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ได้เลี้ยงดูพนักงานล้านคน”
เขายิ้มเจื่อนๆ “ช่วยหนึ่งชีวิต บุญกุศลยิ่งกว่าสร้างเจดีย์เจ็ดชั้น พ่อทำขนาดนี้ หรือว่ายังไม่พอชดใช้คืนให้?”
คำพูดของเขาลึกซึ้งมากก้าวซึมเข้ามา มีความจริงใจ มีเหตุผล มีความซื่อสัตย์ ที่พูดมา หลงจื๋อไร้ซึ่งคำตอบชั่วขณะ
พูดบทความที่ยาวมากจนจบ หลงถิงคล้ายกับพูดวิงวอนขึ้นมาว่า “เสี่ยวจื๋อ พอก็อยู่ได้ไม่กี่ปีแล้ว หลังจากรอพ่อตายพวกแกก็บริสุทธิ์แล้ว”
เป็นลูกชายแท้ๆ รู้ดีว่าครอบครัวที่เลือดข้นกว่าน้ำ แม้ว่าตำแหน่งที่แยกแยะผิดถูกชั่วดีได้ชัดเจนจะกั้นความดีความชั่ว หลงจื๋อยังคงสามารถรู้สึกถึงจิตใจของผู้เป็นพ่อ
พ่อ ยังไงก็เป็นพ่อตลอดไป
ภายในใจหลงจื๋อต่อสู้ขัดแย้งกันจนแทบจะระเบิด “พ่อเหนื่อยแล้ว พักผ่อนเถอะครับ”
หลงจื๋อหันหลัง เสียงของหลงถิงก็ดังขึ้นมาอีกครั้งว่า “วันที่เริ่มโครงการชานเมืองหลวง ก็คือวันที่แกรับหน้าที่เป็นประธานMBK แกเตรียมตัวดีๆ ฉันไม่ได้ปรึกษาหารือกับแก ไม่ช้าก็เร็ววันนี้ก็ต้องมาถึง ก็คือตอนนี้แล้ว”
หลงจื๋อหยุดชะงักไปหลายวิ ฟังเขาพูดจบก็เดินออกมาจากประตูใหญ่
โทรศัพท์ของเขาดังขึ้นพอดี
สายของโฉหวั่นชิง
หลงจื๋อเหลือบมองแล้วก็ตัดสายไม่รับ
ด้านใน หลงถิงนั่งปวดหัวอยู่บนโซฟาหอบหายใจหนัก หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาติดต่อหาคนฉุกเฉินอย่างเหนื่อยล้า
“เข้ามา”