ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 865
ตอนที่ 865 ทางของคู่กัดก็คือทางแคบ
เป็นเหลียงจ้งซุนที่วิ่งเข้ามา เห็นหลงถิงก็ไม่กล้าพูด เปิดขวดยาหนึ่งแล้วเทออกมาสามเม็ดยัดเข้าไปในปากเขา
“ท่านประธาน คุณต้องไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล เลื่อนต่อก็เสียเวลารักษาตัวแล้วนะครับ”เหลียงจ้งซุนรับแก้วน้ำกลับไปวางไว้
หลงถิงมือปิดหน้าอกหอบหายใจแรงอยู่จึงเอ่ยว่า “เสี่ยวจื๋อไม่มั่นคง ฉันไม่สามารถเดินไปได้”
“ท่านประธาน…..อาการป่วยของคุณ บอกคุณชายสองไหมครับ?”
“ไม่ได้ พูดไม่ได้”
โรงพยาบาลหวาเซี่ย
ลั่วหานเดินมาถึงนอกห้องผู้ป่วยเกาหยิ่งจือ ลังเลสักพัก ได้ยินเสียงของเกาจิ่งอานและโจวโร่หลินที่อยู่ข้างใน เธอจึงเคาะประตู
เกาจิ่งอานเปิดประตูเห็นลั่วหานก็กอดอย่างตื่นเต้น “พี่สะใภ้! ในที่สุดพี่ก็มาแล้ว!”
โจวโร่หลินกระแอมไอ “จิ่งอาน เธอเป็นพี่สะใภ้คุณ
เกาจิ่งอานดันสันจมูกของตัวเอง “ขอโทษครับพี่สะใภ้ เมื่อกี่ตื่นเต้นดีใจเกินไปหน่อย! ส่วนใหญ่พี่ไม่ค่อยจะมาบ่อยๆ ผมคิดถึงพี่!”
“พูดมากน้อยๆหน่อย! ระวังฉันจะแทงเข็มให้นาย”ลั่วหานดันไหล่ของเขาให้หลีกทางแล้วเดินเข้าห้องผู้ป่วย
เกาจิ่งอานไหล่สั่นเอ่ยขึ้นว่า “ก็ได้ ขอแค่เพียงเป็นพี่สะใภ้แทงให้ผมด้วยตัวเอง!”
โจวโร่หลินมองบนไม่มีความก้าวหน้า!
“หมอเกา รู้สึกเป็นยังไง? ดีขึ้นไหม?”ลั่วหานช่วยให้กลูโคสดีดสายยางยืดเธอและชื่นชมดอกไม้สดที่ห้องของเธอ
ต่อมา ลั่วหานเห็นอาหารเสริมที่ข้างโต๊ะ มุมปากก็ปรากฏรอยยิ้มบางๆ
ไม่กี่วันก่อน หวังเค่ยขอคำปรึกษาเธอเป็นพิเศษ ร่างกายอ่อนแอ ผู้หญิงที่เสียเลือดควรกินอะไรดี เธอแนะนำอาหารเสริมให้เขาไปสองสามอย่าง
สุดท้ายทั้งหมดมากองอยู่ห้องผู้ป่วยของเกาหยิ่งจือแล้ว
“ฟื้นตัวดีขึ้นแล้ว หรือว่าฉันค่อนข้างเหมาะกับดินฟ้าอากาศประเทศจีน”เกาหยิ่งจือหัวเราะ ไม่เป็นกันเองและไม่สนิท รักษาความใกล้ชิดได้ก้าวหนึ่งอยู่และระยะที่ห่างเหินกันได้ไม่กี่ก้าว
ลั่วหานก็จับจุดได้แม่นมาก “อาหารเสริมพวกนี้ ดีจริง เหมาะต่ออาการของเธอมาก ต้องกินต่อเนื่อง ใครซื้อให้หรอ? ใส่ใจมาก”
เกาจิ่งอานหลบตาเอ่ยว่า “กินอยู่ทุกวัน พี่สาวฉันให้ความร่วมมือมาก”
ลั่วหานมุมปากขยับเล็กน้อย เกาจิ่งอาน แม้แต่หวังเค่ยก็ไม่ยอมพูดถึง ไม่ชอบมากสินะ
“ฉันได้ยินมาว่านายกับโร่หลินใกล้แต่งงานกันแล้ว?”อยู่ๆลั่วหานก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนา
โจวโร่หลินยิ้มอย่างเขินอาย “เดิมทีไม่ได้รีบร้อนขนาดนั้น งานฉันพึ่งจะมั่นคง กำลังยุ่ง อีกอย่างสินเดิมฉันล้วนเก็บไม่พอ แต่ว่าพี่หยิ่งจืออยากให้พวกเราแต่งงานกันไวๆด้วย”
ลั่วหานพยักหน้า “เงินสินเดิม? คุณเก็บเองหรอ?”
โจวโร่หลินหัวเราะเหอะเหอะ “อืม……”
โจวโร่หลินที่ฐานะทางสังคมไม่ค่อยดี ไม่ค่อยพูดถึงครอบครัวของตัวเอง เพราะว่าแตกต่างกับตระกูลเกามากเกินไป
ลั่วหานพูดขยายต่อว่า “แต่งงานตอนนี้ยุ่งยากจริงๆ ให้ความสำคัญกับกิ่งทองใบหยกอะไรกัน ผู้ชายมีbmw ผู้หญิงอย่างน้อยมีแค่บูอิคเล็กๆคันหนึ่ง ผู้ชายมีคฤหาสน์ ผู้หญิง…..ไอ้หยา โร่หลิน เกาจิ่งอานเจ้าเด็กคนนี้ยังมีคฤหาสน์หนึ่งหลัง คุณซื้อห้องหรือยัง? ไม่ได้ซื้ออย่าแต่งงาน ไม่งั้นหลังจากทะเลาะกันแล้วได้รับความไม่ยุติธรรมจะไม่มีที่ไป!”
“พี่สะใภ้! พี่พูดอะไรอยู่? คนที่ผมขอแต่งงานคือเธอ อีกทั้งฝากเงินห้องของเธอ จริงๆผมเคยพูดกับเธอแล้ว เธอไม่ต้องเตรียมอะไรทั้งนั้น คนมาก็พอ”เกาจิ่งอานกลัวโจวโร่หลินถูกลั่วหานถามลึกเลยตัดบทเธอ
ลั่วหานอุทานอย่างรู้สึกอิจฉา “ไอ้หยา ดีจริง โร่หลินมีโชคแล้ว เมื่อกี้เกาจิ่งอานพูดว่ายังไง คนที่เขาขอแต่งงานคือเธอ ไม่ใช่สิ่งของ นี่ก็ถูกแล้ว แต่งงานคือใช้ชีวิตด้วยกัน ไม่ใช่รถไม่ใช่ห้อง ความรักที่มั่นคง!”
ในที่สุดเกาจิ่งอานก็เข้าใจความหมายแฝงของเธอ “พี่สะใภ้ พี่รู้อะไรแล้วใช่ไหม?”
ลั่วหานแสดงท่าทีงงงวย “หื้ม? ฉันรู้อะไร? ฉันรู้เพียงแค่ว่า ทองคำมากมายที่ได้รับง่ายๆ แมงดาที่คิดเกาะผู้หญิงกินหาเจอยากจริงๆ ยุคนี้ แต่งงานกับคนที่มีประโยชน์เยอะแยะมากมาย แต่กลับมีน้อยคนที่จะโชคดีแต่งงานกันด้วยความรัก”
รีเคสพูดขนาดนี้ เกาจิ่งอานหน้าแดงแล้ว เขานำเรื่องมาปะติดปะต่อกันได้ง่ายมาก จนนึกถึงหวังเค่ยแล้ว
เกาหยิ่งจือกลับไม่รู้ทางโค้งในนั้นจึงเอ่ยว่า “ที่พูดคือ แต่งงานกันด้วยความรัก ……โชคดีมาก”
ลั่วหานเดินอยู่รอบห้องผู้ป่วย เหมือนไม่ได้เกิดอะไรขึ้นเอ่ยว่า “ผู้ป่วยฉันก็ต้องไปดูแล้ว ฟื้นตัวดีขึ้น รักษาอารมณ์จิตใจดีๆด้วย”
พูดที่สำคัญจบ ลั่วหานไม่เอาความเศร้าไปด้วยจึงเดินตัวลอยออกไป
โจวโร่หลินเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ “ทำไมฉันรู้สึกว่าคำพูดที่หมอฉู่พูดเมื่อกี้มีนัยความหมาย?”
“คุณคิดมากไปแล้ว”
โจวโร่หลินแบะปาก “คุณเป็นผู้ชายไม่เข้าใจจิตใจของผู้หญิง!”
คิดขนาดนี้ เกาหยิ่งจือก็เข้าใจสุดๆ ความรัก? กิ่งทองใบหยก?
หรือว่า เธอกำลังบอกใบ้หวังเค่ย?
ลั่วหานยังเดินไปไม่ถึงห้องทำงาน ก็เห็นไม่กี่คนแอบมุงซุบซิบดูอยู่นอกประตู พวกพยาบาลปิดปากยิ้มตื่นเต้นกันอยู่
“ทำอะไรกันน่ะ?”
ได้ยินเสียงของลั่วหาน ชั่วพริบตาเดียวพยาบาลและหมอก็หนีเตลิดเปิดโปง
ลั่วหานผลักประตูอย่างสงสัย เจมส์กำลังนั่งไขว่ขาอยู่บนเก้าอี้ของเธอ ขาที่สบายทั้งสองข้างเชื่อมวางอยู่บนโต๊ะ ได้เปรียบอาศัยขายาวเป็นสะพานวางอยู่ระหว่างเก้าอี้กับโต๊ะ
“ฮัลโหล แอนน่า ผมรอคุณนานมาก”
ลั่วหานปิดประตูดังปังแล้วเอ่ยว่า “เจ้าชายเจมส์ คุณมาที่นี่ทำไม? ไม่กลัวเปิดเผยฐานะตัวเอง?”
เจมส์ชี้หมวกแก๊ปลิ้นเป็ด หน้ากากอนามัยและแว่นตากันแดด “ไม่มีทาง และฉันไม่ใช่ดาราอีก”
ลั่วหานใช้มือตีหน้าผากอย่างกลุ้มใจ “คุณว่างเกินไปแล้วรึเปล่า?”
เจมส์สองมือทับกันเป็นเบาะกดอยู่บนโต๊ะ คางวางข้างบน ขยิบตาใส่ลั่วหาน เหมือนเด็กที่ถูกทารุณที่ไม่มีความผิด ”แอนน่า ผมเชื่อฟังมากใช่ไหม?”
ลั่วหานอยากจะเตะเขาให้ตายจริงๆ!
“เหอะเหอะ”กลับไม่รู้สึก
“ผมให้ความร่วมมือในการรักษามากใช่รึเปล่า!?”
“เหอะเหอะ!”ลั่วหานมองบน“มีอะไรพูดมาตรงๆ”
“คุณยังจำพี่สาวที่ผมเคยพูดกับคุณได้ไหม?”ดวงตากลมโตสีฟ้าคู่นั้นของเจมส์ขยิบตาส่งวิ้ง
ลั่วหานส่งเสียงเห้อแล้วเอ่ยว่า “so?”
“เธอดูแลผมได้”
“ดีมาก”
ในที่สุดก็ส่งเขาออกไปได้แล้ว!
“คุณเห็นด้วยแล้ว?” เจมส์สองขากระโดดขึ้นตึงตึง
ลั่วหานยิ้มมุมปาก “ทำไม?”
“ไม่เป็นไรไม่เป็นไร! คุณเห็นด้วยก็พอแล้ว!”
ลั่วหาน “……”
เธอยังไม่ทันได้พูดอะไร เจมส์ก็นำโทรศัพท์ออกมา คิดดูสักพักก็วางลงอีกแล้วเอ่ยขึ้นมาว่า “แอนน่า ตอนเย็นคุณยังจะทำอาหารให้ผมไหม ก็หนึ่งเมนู หนึ่งเมนูก็พอแล้ว!ผัดเส้นมันฝรั่งก็ได้!”
ลั่วหานนั่งพิงเก้าอี้พลิกดูอาการผู้ป่วยแต่ละรายอยู่เอ่ยขึ้นว่า “ไม่ว่าง ตอนบ่ายฉันไปตรวจแผนกรักษาคนไข้นอก”
เจมส์แบะปากอย่างผิดหวัง หลังจากนั้นก็กระโดดโลดตื่นเต้นดีใจขึ้นมาอีกครั้ง “ผมทำให้คุณ!!”
ลั่วหานเท้าลื่น “ไม่ต้อง!”
ห้องครัวและบ้านล้วนต้องให้เธอเตรียมเครื่องปรุง!
เมืองหลวง สนามบินนานาชาติ
อิสซาถอดแว่นตากันแดดที่ใหญ่โตลง จังหวะฝีเท้ากระฉับกระเฉงและเดินย่างอรชรอ้อนแอ้นลงบันได เธอเงยหน้าขึ้น ด้านนอกคือท้องฟ้าที่อากาศปลอดโปร่ง ฟ้าสีครามสดใส สะอาดใส่แจ๋วแหวว!
นี่คือประเทศจีน!
อิสซาอารมณ์ดีนำหมากฝรั่งมาเคี้ยว ดูท้องฟ้าสีครามก้อนเมฆสีขาวเสร็จก็สวมแวนกันแดดอีกครั้งเดินออกห้องผู้โดยสาร ตามป้ายบอกทางไปเอากระเป๋าเดินทาง
“เพล้ง!”
คนที่ผ่านข้างกายไปคนหนึ่งเดินเซชนแขนของอิสซา โทรศัพท์ของเธอตกพื้น เสียงดังมาก
“ขอโทษครับ”
จางหย่งยกมือ ยิ้มขอโทษ
ยิ้มเสร็จก็นำเครื่องเล่นเกมส์ที่อยู่ในมือเก็บ แล้วเริ่มโค้งตัวเก็บโทรศัพท์ขึ้นมาก่อน โชคไม่ดีมาก หน้าจอแตกแล้ว ตั้งแต่มุมขวาล่างจนถึงมุมซ้ายบน หน้าจอเสียหมด
ชิบ! ฟิล์มหน้าจอกันแตกยังทนไม่ไหว!
อิสซากอดอก ค่อยๆพิจารณาผู้ชายที่สวมหมวกแก๊ปลิ้นเป็ด แว่นตากันแดดและสูงกว่าตัวเอง “เสียแล้ว”
จางหย่งลูบสันจมูก ดีที่เขาไม่ตาบอดไหม?
“ผมรู้ครับ”
“ชดใช้สิ!”