ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 895
ตอนที่ 895 เพียงแค่ห่วงภรรยา
ครั้งนี้ เป็นคนที่หลงเซียวไม่อยากใส่ใจ
ดังนั้น เมื่อหลงเซียวเห็นสายโทรเข้ามา จึงพลิกโทรศัพท์ลง เสียงกริ่งเปลี่ยนเป็นระบบสั่น โทรศัพท์สั่นสะเทือนอยู่บนโต๊ะ สั่นอยู่อย่างนั้นเกือบห้าวินาที หลงเซียวค่อยหยิบมันขึ้นมาอย่างเกียจคร้าน
เจิ้งซินทนรอไม่ไหวแล้ว อีกทั้งกลัวว่าหลงเซียวจะไม่รับโทรศัพท์ ในที่สุด เธอก็รอเขาจนได้
“หลงเซียว คุณหมายความว่ายังไง”
หลงเซียวยกมือขึ้นกุมขมับ “อะไรหมายความว่ายังไง”
เจิ้งซินได้ยินดังนั้นก็กัดริมฝีปากแน่น “คุณให้ฉันไปที่ร้านอาหาร แล้วทำไมคุณไม่ไป อีกอย่าง ตอนที่ฉันไปภรรยาคุณก็อยู่ที่นั่น คุณหลอกฉัน”
“ผมให้คุณไปที่ร้านอาหาร นี่ไม่ได้ผิด แต่ผมไม่ได้บอกว่านัดนี่ คุณเจิ้งจำผิดแล้วหรือเปล่าครับ”
เล็บของเจิ้งซินจิกเคสโทรศัพท์จนเกิดเสียงดัง “หลงเซียว คุณทำแบบนี้หมายความว่ายังไง ฉันชอบคุณ ฉันยินดีทำเพื่อคุณ แต่ไม่ใช่ว่าฉันจะไม่มีศักดิ์ศรี คุณแกล้งให้ฉันดูแย่ คิดว่าฉันไม่มีขีดจำกัดหรือยังไง”
หัวใจของเจิ้งซินเจ็บปวด พูดไปทั้งยังสูดน้ำมูก ควบคุมการร้องไห้ “พ่อฉันนอนโรงพยาบาล ฉันก็เหนื่อยมากแล้ว คุณช่วยเป็นห่วงฉันหน่อยได้ไหม”
หลงเซียวไม่คิดว่าเจิ้งซินจะมาไม้นี้ “คุณที่ผมห่วง มีแค่ภรรยาผม คุณอยากหาคนปลอบใจ คงเลือกผิดแล้ว”
เจิ้งซินที่รอการปลอบใจ รอไปก็ได้เพียงคำปฏิเสธ ทันใดนั้นเสียงร้องไห้ก็สงบลง “หลงเซียว คุณสอนฉันหน่อยได้ไหม จะทำยังไงถึงจะไม่รักคุณ ฉันก็อยากไม่รักคุณเหมือนกัน และไม่อยากคิดถึงคุณอีก แต่คุณช่วยบอกฉันหน่อยได้ไหม ต้องทำยังไงถึงจะลืมคุณได้”
หลงเซียวจนปัญญา “คุณอยากรู้จริงๆน่ะเหรอ”
ดวงตาที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตาของเจิ้งซินขยายกว้าง “ฉันอยากรู้”
“ผมแนะนำแฟนให้คุณสักคนดีไหม” น้ำเสียงหลงเซียวผ่อนคลาย แต่ไม่ได้ล้อเล่น
ครั้งแรกเจิ้งซินคิดว่าตัวเองฟังผิดไป น้ำตายังคงเอ่อคลอ ถามออกไป “คุณว่ายังไงนะ”
“ผู้ชายดีๆมีมาก จากคุณสมบัติของคุณมีให้เลือกมากมาย เดี๋ยวผมช่วยขีดเส้นให้ นอกจากผมแล้ว คุณจะเลือกใครก็ได้” หลงเซียวอธิบายให้ชัดกว่าเดิม แน่นอน ยิ่งกระแทกใจคนฟัง
“ไอ้คนบ้า หลงเซียวไอ้คนบ้า”
ติ๊ด…
เจิ้งซินตัดสาย หลังจากวางสายแล้วก็เริ่มเสียใจ
โง่อะไรขนาดนี้ ไม่วางสาย อย่างน้อยก็ยังได้ยินเสียงของเขา ถึงเขาจะพูดน่าโมโห แต่ก็ยังเป็นเสียงของหลงเซียวนะ
เจิ้งซินถูกความโง่ของตัวเองทำให้ร้องไห้หนักกว่าเดิม
เหล่าพยาบาลที่เดินผ่านไปมาล้วนมองเธอด้วยความสงสัย พ่อก็ยังไม่เสีย ร้องไห้ทำไมกัน
เจิ้งซินพึ่งวางสาย โทรศัพท์ของหลงเซียวก็สั่นขึ้นมาอีกครั้ง
ครั้งนี้ สีหน้าของหลงเซียวคงใช้ความว่าอดทนไม่ไหวแล้ว
แอ๊ด…
ประตูห้องถูกผลักเข้ามา “เจ้านายครับ คุณเห็นข่าวหรือยัง”
จางหย่งไปแล้วกลับมา โบกโทรศัพท์ไปมา
หลงเซียวมองเห็นแล้ว จี้ตงหมิงพึ่งจะส่งรูปมา
“อืม”
“หน้าด้านจริงๆ ถึงได้บอกว่าเจ้านายไปข่มขู่คุณชายรองให้ลบข่าว ข่าวแบบนี้แย่กว่าอันก่อนหน้านี้อีกนะ เจ้านายครับ ให้ผมไปหาไอ้เจ้านั่นที่บริษัทเทียนเซี่ยเลยดีไหม ให้เขาลบไป”
จางหย่งกำหมัดแน่น ราวกับอยากไปชกมันสักหมัด
หลงเซียวมองเขานิ่ง “คำพูดที่ผมบอกไปเมื่อสักครู่ คุณแค่หันหลังก็ลืมแล้วเหรอ”
จางหย่ง “…” ดูเหมือนว่า…เจ้านายจะเคยเตือนเขา ทำอะไรต้องใช้สมอง “เจ้านายครับ ผมคิดดีแล้ว เอาคืนคนพวกนี้ คุณใช้เหตุผลคุยกับพวกเขาไม่รู้เรื่องหรอก พวกแล้วแบบนี้จะฟังได้ยังไง ผมไปต่อยมันสักหมัดก็ไม่กล้าออกจากบ้านแล้ว”
หลงเซียวท่าทางไม่พอใจ “นายรู้ได้ยังไงว่าบริษัทเทียนเซี่ยเป็นคนทำ”
จางหย่งกะพริบตาปริบๆ “หรือว่า…ไม่ใช่เหรอครับ”
“หลักฐานล่ะ”
จางหย่งเปิดดูข่าวอีกรอบ เมื่อตรวจดูดีๆจะเห็นว่าไม่มีชื่อของบริษัทเทียนเซี่ยแปะอยู่เลย “ยังต้องดูอีกเหรอครับ แน่นอนว่าเป็นพวกเขาทำ เจ้านายอยากได้หลักฐานก็ไม่ได้ยากอะไร แค่ไปตรวจสอบIDก็ได้แล้ว แค่ห้านาทีก็เจอแล้วครับ”
“นายจะไปต่อยคน แล้วถูกพวกมันแว้งกัดกลับมาอีก ฉันข่มขู่เสี่ยวจื๋อยังไม่พอ ยังสั่งให้คุณไปใช้กำลังกับใครอีกเหรอ คุณอยากเห็นข่าวแบบนี้เหรอ” หลงเซียวขมวดคิ้ว
จางหย่งหวาดกลัว ยิ้มแกนๆ “ผมไม่คิดถึงขั้นนั้น แต่ผมทนดูไม่ได้ พวกเขาจะมากเกินไปแล้ว”
ลั่วหานเห็นข่าวก็เข้ามาที่ห้องหนังสือ พอดีกับเห็นพวกเขากำลังคุยกันถึงเรื่องนี้ “ที่รักคะ จะทำอะไรสักอย่างหน่อยไหม”
จางหย่งพยักหน้าเต็มกำลัง “คุณหมอฉู่มาได้เวลาพอดีเลยครับ ตอนนี้ข่าวนี้ถูกเผยแพร่ไปหมดแล้ว พวกเขาตั้งใจใส่ร้ายเจ้านาย”
นายหญิง คุณช่วยพูดกับเจ้านายที เราจะถูกคนอื่นรังแกไม่ได้นะ เราต้องโจมตีกลับบ้าง
ลั่วหานรอให้หลงเซียวตอบกลับ เขาไม่รีบร้อน เธอก็พอเดาได้ว่าเขามีแผนของตัวเอง
“ทำ แน่นอนว่าทำ”
ลั่วหานและจางหย่ง “ทำยังไง”
หนึ่งนาทีหลังจากนั้น ทั้งสองได้รับรู้แผนการของหลงเซียวแล้ว
หลงเซียวต่อสายหากู้เยนเซิน
“คุณชายกู้ ชมคนหน่อย คุณถนัดนี่ ช่วยผมชมใครสักคนหน่อย เพราะยังไงก็ชมอย่างนั้น”
กู้เยนเซินมองไป๋เวยที่นั่งอ่านข่าวอยู่บนโซฟาอย่างไม่อยากจะเชื่อ อีกคนเมื่อเห็นข่าวนั้น เมื่อสักครู่ได้อาละวาดไปแล้ว
“ชมเหรอ ตอนนี้ผมแทบอยากฆ่าผู้จัดการของบริษัทเทียนเซี่ยเพื่อเมียของผมเลย”
ไป๋เวยขมวดคิ้ว เดาได้ว่าเขากำลังรับสายจากหลงเซียว
“ไม่ ตรงกันข้าม ตอนนี้คุณลองเขียนข่าว ชื่นชม MBK ที่เข้ามาสนับสนุนบริษัทเทียนเซี่ยอย่างจริงจัง ช่วยให้บริษัทเทียนเซี่ยรอดพ้นจากการล้มละลาย บอกกับคนอ่านว่าบริษัทเทียนเซี่ยเป็นมือเป็นไม้ให้ MBK ยกตัวอย่างหลายวันมานี้ได้โจมตีใคร ทางที่ดีให้เป็นคู่ต่อสู้ของ MBK”
หลงเซียวว่าแบบนั้น กู้เยนเซินก็เข้าใจในทันที “ไม่เลวนี่ ปกป้องด้วยวิธีของตัวเอง รอผมก่อนนะ หลังจากนี้ยี่สิบนาที ผมรับรองเลยว่าจะเต็มไปด้วยข่าวเสียหายของเทียนเซี่ยแน่นอน”
“เขียนเสร็จแล้วส่งมาให้อาหย่งนะครับ”
อาหย่งที่อยู่ข้างๆพลันรู้สึกถึงภาระอันหนักอึ้ง ยืดตัวตรง
“ได้”
วางโทรศัพท์ลง หลงเซียวค่อยบอก “สร้างไฟล์วอลล์ที่ใครก็จับไม่ได้ เมื่อกระจายข่าวเสร็จปักหมุดไว้บนสุด อีกอย่าง เกาจิ่งอานเป็นสมาชิกทหารน้ำเรือ ให้เขาช่วยหาคนปั่นกระแส ผมต้องการเห็นข่าวแพร่กระจายให้เต็มโซเชียลภายในหนึ่งชั่วโมง”
ลั่วหานได้ยินดังนั้นก็อ้าปากกว้าง “ที่รัก คุณให้มาตรฐานกับเกาจิ่งอานสูงมากจริงๆ”
หลงเซียวหัวเราะเอ็นดู “เขาสมควรได้รับมัน”
เอ่อ…ไม่เหมือนกำลังชมเขาอยู่สักนิด
เกาจิ่งอานในเวลานี้…
เพราะเกาหยิ่งจือต้องการซื้อเสื้อผ้าให้เด็กทั้งสอง หวังเค่ยจึงต้องตามมาเป็นเพื่อน ดังนั้นเขาจึงได้รับหน้าที่อันยิ่งใหญ่…ดูแลเด็ก
ก่อนเกาหยิ่งจือจะไป ได้พาเถียนเถียนไปที่ห้องอพาร์ทเม้นท์ของเกาจิ่งอาน บอกกับเขาสบายๆ เถียนเถียนว่านอนสอนง่าย แค่เอาขนมให้เธอ รีโมทโทรทัศน์ Ipadหรือว่าตุ๊กตาบาร์บี้ เธอจะไม่วอแวใครเลยทั้งวัน
เล่นคนเดียวเก่งมาก
เหอะๆ…เหอะๆๆ
เธอเล่นเก่งจริงๆ แต่เธอไม่ได้เล่นของเล่น แต่เป็นคนจริงๆ
สองมือน้อยๆของเถียนเถียนถือดินสอหลากหลายสีสัน ใบหน้าเล็กน่ารัก “คุณลุงเกา ก้มลงมาหน่อยค่ะ หนูยังวาดไม่เสร็จเลย”
เกาจิ่งอานหันไม่มองตัวเองในกระจก เตรียมใจแล้ว
ใบหน้างดงามล่มเมืองของเขา กลายเป็นกระดานวาดรูปของเถียนเถียน ด้านซ้ายเป็นมิกกี้เมาส์ (ทักษะการวาดยังไม่แข็งแรง เจ้าหนูโค้งๆงอๆ) ใบหน้าด้านขวาเป็นโดนัลด์ดั๊ก โดนัลด์ดั๊กวาดไปได้ครึ่งเดียว ก้นกลมๆยังวาดไม่เสร็จ
“เถียนเถียน หนูอาศัยช่วงที่ลุงนอนหลับ วาดหน้าลุงจนเป็นแบบนี้ ไม่น่ารักเลยนะครับ หนูรู้หรือเปล่า”
เดิมเกาจิ่งอานจะโมโหไม่ได้ จะดุคนไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นจะตีคนก็ไม่ได้ เถียนเถียนเป็นเด็กน้อยอนุบาล เขาจะลงมือได้ยังไง
ริมฝีปากเล็กของเถียนเถียนเม้มแน่น ดวงตาใสแป๋วไร้เดียงสามองเขา
เกาจิ่งอานถูกมองจนใจอ่อน “เอาล่ะ เอาล่ะ วาดต่อสิ วาดต่อ วาดอันนี้เสร็จจะวาดอีกไม่ได้แล้วเข้าใจไหมครับ”
ใบหน้าเล็กของเถียนเถียนราวกับดอกไม้บาน “ค่ะ ขอบคุณค่ะคุณลุงเกา”
ดินสอสีขีดเป็นเส้นๆ ตั้งใจวาดก้นให้เจ้าเป็ดน้อย วาดไปอธิบายไปด้วย “เมื่อก่อนหนูก็วาดแบบนี้ให้คุณพ่อ คุณพ่อชมว่าหนูวาดสวยด้วยนะคะ”
เกาจิ่งอานพูดในใจ สมแล้วที่เป็นพ่อ แต่เขาไม่ใช่สักหน่อย
“หรือครับ เถียนเถียนเก่งจังเลย”
ชื่นชมไม่ได้ออกมาจากใจสักนิด
ในที่สุดเถียนเถียนก็วาดเสร็จแล้ว ชื่นชมผลงานตัวเองด้วยความพึงพอใจ “ไม่พอ คุณลุงเกาหล่อกว่าพ่อของหนูอีกค่ะ”
เฮ้ยๆ โดนชมด้วย
เกาจิ่งอานยกยิ้มอยู่ในใจ “นับว่าตาถึง ไม่เลว มีรสนิยม
เถียนเถียนหน้าจอโทรศัพท์gเครื่องใหญ่ของเกาจิ่งอาน ปลดล็อกอย่างชำนาญ ถ่ายรูปให้กับเกาจิ่งอาน “หนูจะเอาให้คุณพ่อดูค่ะ”
ในใจของเกาจิ่งอานมีกองกำลังเป็นพันเป็นหมื่น เด็กคนนี้จัดเก็บจริงๆเหรอ เยี่ยมไปเลย
แต่ไม่เป็นไร เขาไม่เปิดโอกาสให้เธอหรอก หึหึหึ
เกาจิ่งอานกำลังจะลบรูปภาพ พลันมองเห็นตัวเองที่เป็นรูปสัตว์น่ารัก พลันหัวเราะออกมา การวาดแบบเด็กๆ ก็น่ารักแบบแปลกๆแฮะ
แต่ว่า ส่งผลต่อหน้าตาของเขา ต้องลบออก
ทว่า เขายังไม่ทันได้ลบ โทรศัพท์ก็ดังขึ้นซะแล้ว
“ประธานเกาครับ ผมเอง จางหย่ง”
“ผมรู้ว่าเป็นคุณ พี่ใหญ่ให้คุณโทรหาผมเหรอ พี่ใหญ่มีธุระอะไร คุณพูดมาได้เลย” เกาจิ่งอานหัวเราะออกไป ตัวการ์ตูนบนใบหน้าก็เปลี่ยนรูปร่าง ขยับเขยื้อนน่ารัก
“กองกำลังของคุณ ขอผมยืมหน่อยได้ไหมครับ”
เกาจิ่งอาน “…”
——
บ้านตระกูลหลง
“ข่าวใหม่ ครึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้ บริษัทเทียนเซี่ยลบข่าวที่ว่าคุณหลงถูกเจ้าชายเจมส์ซื้อ แต่สถานการณ์กลับพลิกผันก่อน มีคนบอกว่าคุณหลงเซียวปิดบังข่าวที่ตัวเองถูกเจ้าชายเจมส์ซื้อตัว โดยการข่มขู่ในคุณชายหลงจื๋อลบข่าวออกให้…ตอนนี้คุณชายหลงเซียวยังไม่ได้โต้ตอบ ผู้จัดการบริษัทเทียนเซี่ยเองก็ไม่รับการสัมภาษณ์…”
“โครงการที่ชานเมืองกำลังจะเริ่ม แต่ดันมามีข่าวแบบนี้ ไม่นานก่อนหน้านี้ บริษัทเทียนเซี่ยได้ปล่อยข่าวออกมา ว่าเงินลงทุนของคุณชายหลงได้มาจากเจ้าชายเจมส์แห่งประเทศ M เพื่อทำให้เจ้าชายพึงพอใจ คุณชายหลงได้ขายภรรยาตนเอง เรื่องนี้อาจจะเป็นโคมลอย แต่คนปริศนาปล่อยข่าวใหม่ล่าสุดออกมา จะไม่ให้คนคิดก็ไม่ได้…”
“สำหรับบริษัทฉู่ซื่อที่กำลังเติบโต กับMBK ที่มั่นคงอยู่แล้วนับว่าตึงเครียด ตอนนี้ยังมาแทงกันเอง บริษัทเทียนเซี่ยรับบทอะไรกันแน่ พูดความจริงไหม หรือว่าใส่ความ”
หยวนชูเฟินกดรีโมทโทรทัศน์ “เหล่าจาง มานี่หน่อย”
พ่อบ้านรับคำเดินเข้ามา “คุณผู้หญิง”
หยวนชูเฟินมองเขา “คุณท่านอยู่ที่ไหน”
เหล่าจางคิดสักพัก “คุณท่านออกจากบ้านไปก็ไม่ได้ส่งข้อความอะไรมาให้เลยครับ ดังนั้นผมไม่ทราบว่าคุณท่านไปไหน”
“ไม่รู้เหรอ”
หยวนชูเฟินสังเกตท่าทางของเหล่าจาง เห็นเบาะแสจากสีหน้าของเขา แต่เหล่าจางอยู่ข้างหลงถิงมาหลายปี เรียนรู้การวางเฉยมาได้เป็นอย่างดี
“ครับคุณผู้หญิง ผมไม่ทราบจริงๆครับ”
“แบบนี้…เดี๋ยวฉันโทรหาเขา”
โทรศัพท์หลงถิงดังขึ้นมาครั้งที่สอง เขาพึ่งตื่นขึ้นมา เพราะฤทธิ์ยาทำให้สีหน้าของเขานั้นทรุดโทรม
แต่เมื่อเห็นว่าหยวนชูเฟินโทรเข้ามา หลงถิงจึงพยายามลุกขึ้นมา “อาเฟิน มีอะไรหรือเปล่า”
หยวนชูเฟินกัดฟันแน่นด้วยความโกรธอยากจะสับหลงถิงเป็นชิ้นๆ ทว่าคำพูดที่เอ่ยออกมากลับอ่อนโยนนุ่มนวล “คุณอยู่ที่ไหนคะ ทำไมไม่กลับบ้าน”
หลงถิงรู้สึกอบอุ่นหัวใจ ใบหน้าซีดเซียวพลันซับสีเลือด เขาตั้งใจฟังอย่างตื่นเต้น “คุณ…เป็นห่วงผมเหรอ”
หยวนชูเฟินออกแรงจิกพนักโซฟาแรงขึ้น จนแผ่นยางพาราเกิดรู “คุณไม่กลับบ้าน หรือว่างานข้างนอกยังจัดการไม่เรียบร้อย”
เมื่อคิดถึงข่าวนั้น หยวนชูเฟินก็อดไม่ได้อยากถามเขาต่อหน้าว่าเขาจะทำอะไรกันแน่ ลงมือลับหลังแบบนี้นับอะไร
ทว่าหลงถิงยังคงอยู่ในความยินดีไม่ทันรู้ตัว “ผมไม่ได้มีธุระสำคัญอะไรหรอก ประชุมเปิดสนามบิน เสร็จแล้วก็จะกลับบ้าน”
เมื่อได้ยินความห่วงใยจากหยวนชูเฟิน ก็พลันนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้เธออยู่ที่บ้านกำลังรอเขากลับบ้าน หัวใจของหลงถิงลอยละล่อง ความเจ็บปวดและไม่สบายบนร่างกายเลือนหายไปไม่น้อยเลยทีเดียว
ไม่คิดว่าชาตินี้จะรอจนมาถึงวันนี้ได้
หยวนชูเฟินถามอย่างไม่ใส่ใจ “ช่วงนี้คุณได้ดูข่าวบ้างหรือเปล่า”
แน่นอนว่าหลงถิงไม่ได้ดู เขาต้องรักษาสุขภาพ แทบจะโยนงานทุกอย่างไปให้หลงจื๋อแล้วด้วยซ้ำ เรื่องใหญ่ก็ให้คณะบริหารช่วยกันตัดสินใจ งานนอกเหนือจากนั้น ก็มีหลินเหว่ยเย่และเหลียงจ้งซุนที่อยู่เคียงข้างคอยช่วยเหลือ
“ยังไม่ทันได้ดูเลย ทำไมเหรอ เกิดอะไรขึ้นคุณบอกผมสิ” หลงถิงสัมผัสได้ว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น หยวนชูเฟินโทรหาแล้วมองออกเกือบแปดส่วนแล้ว
หยวนชูเฟินหัวเราะหยันอยู่ในใจ เสแสร้งได้เก่งจริงๆ ตัวเองทำเรื่องอะไรไว้ยังไม่รู้อีก ทำท่าทางไร้เดียงสาให้ใครดูกัน
“ฉันแค่อ่านดูนิดหน่อย ไม่รู้เรื่องจริงหรือเปล่า คงจะข่าวปลอม คนมีชื่อเสียงเรื่องเยอะเป็นธรรมดา คุณกับเซียวเอ๋อต่างก็เป็นคนมีชื่อเสียง ยากที่จะเลี่ยงถูกคนอิจฉา”
หยวนชูเฟินหัวเราะเบาๆ เพียงแต่หลงถิงมองไม่เห็นว่าใบหน้าของเธอกำลังเย้ยหยัน
หลงถิงพลันนึกถึงอะไร
บริษัทเทียนเซี่ย
ครั้งหนึ่งเขาเคยสั่งให้คนที่เทียนเซี่ย ไม่ต้องสนใจหลงเซียว ไม่ต้องลบข่าวใดๆหากเขากดดัน
นอกซะจาก…
รอยยิ้มในดวงตาของหลงถิงค่อยๆจางหายไปมีความเย็นเยือกเข้ามาแทนที่ “ข่าวล้วนชอบเขียนเกินจริง ไม่ต้องใส่ใจหรอก…คุณหมอซุนอยู่บ้านไหม ร่างกายคุณไม่แข็งแรง ให้คุณหมอซุนไปตรวจตามปกติ”
มุมปากหยวนชูเฟินยกขึ้นปรากฏรอยยิ้มเย็น เห็นได้ชัดว่าเขาไม่อยากพูดถึง งั้น…คงเป็นการอนุญาตหรือคำสั่งจากเขาเป็นแน่
“คุณกับเซียวเอ๋อล้วนเป็นครอบครัวของฉัน แต่เซียวเอ๋อเป็นลูกชายของฉัน ฉันทนดูลูกชายฉันเสียเปรียบไม่ได้”
หยวนชูเฟินเขวี้ยงโทรศัพท์ที่วางสายแล้วแตกกระจาย
หลงเซียววางโทรศัพท์ลงด้วยความผิดหวัง เงยหน้าขึ้นบอก “เหล่าหลิน เข้ามาหน่อย”
หลินเหว่ยเย่วางหนังสือพิมพ์ลง เดินเข้าไปตามคำเรียก “พี่ใหญ่”
“ข่าวอะไร”
หลินเหว่ยเย่ถอนหายใจ “ก็ไม่ใช่เรื่องที่บริษัทเทียนเซี่ยเขียนข่าวเรื่องหลงเซียวกับเจ้าชายเจมส์แล้วถูกลบเหรอ ยังจะมีข่าวอะไรอีกล่ะ”
หลงถิงสงสัย ดวงตาราวกับหมาป่าสอดส่อง “ไม่มีอย่างอื่นแน่นะ”
หลินเหว่ยเย่ปฏิเสธ “ผมจะโกหกอะไรพี่ได้ เดี๋ยวนี้ข่าวมันก็พลิกได้ภายในไม่กี่วินาทีทั้งนั้นแหละ กระทั่งข่าวผมก็ยังไม่ได้ดูเลย ดูแล้ววุ่นวาย”
หลงถิงเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่อาการปวดศีรษะเข้ามาโจมตี สองมือของหลงถิงนวดขมับ หน้าผากราวกับมีเหล็กไถอยู่ เป็นทางสูงต่ำ
“หมอ หมอ ผมปวดหัว”
“พี่ใหญ่ พี่เป็นยังไงบ้าง พี่ไม่ต้องคิดเรื่องพวกนี้แล้ว วางใจรักษาตัวเถอะ”
หลงถิงไม่มีสติและกำลังมาฟังคำเขาพูดแล้ว
หมอสวมชุดกาวน์สีขาวเข้ามาในห้องพักผู้ป่วยสองคน คนหนึ่งกดไหลหลงถิง อีกคนเปิดกล่องยา…
ด้านนอก
มือขวาของหลินเหว่ยเย่ลูบไปยังไข่ลูกปัดบนแขนข้างซ้าย ใบหน้าเต็มไปด้วยไอสังหาร
——
“เจ้านายครับ ข่าวกระจายออกไปแล้ว ทหารน้ำของเกาจิ่งอานกำลังปั่นให้ขึ้นเทรนด์อยู่”
จางหย่งกด enterด้วยท่าทางสง่างาม เงยหน้าเสยผมขึ้นในท่าที่คิดว่าหล่อที่สุด
ถ้าหากแท่งสีขาวของลูกอมไม่โผล่ออกมาจากปากของเขา คงจะเป็นผู้ชายที่หล่อเหลามากเลยทีเดียว
หลงเซียวพยักหน้าบ่งบอกว่ารับรู้แล้ว ทางนี้ยังคงเคาะคีย์บอร์ดอย่างรวดเร็วต่อไป
จางหย่งบิดขี้เกียจยืดเอว ยื่นศีรษะไปทางหลงเซียว “เจ้านายครับ คุณทำมานานแล้ว เขียนอะไรเหรอครับ บทความสาธารณะเหรอ”
ถ้านับตามเวลาและความเร็วในการพิมพ์เขาน่าจะเขียนได้อย่างน้อยสองพันตัวอักษรแล้ว ปกติแผนการเขาไม่จำเป็นต้องทำเอง มีอะไรที่เขาจำเป็นต้องเสียเวลาทำด้วยตนเองล่ะ
หลงเซียวค่อยๆเชยตาขึ้น ดวงตาจริงจังทำให้จางหย่งต้องกลับไปนั่งที่
“ไม่ออกไปก็เงียบ”
นิ้วมือของหลงเซียวยังคงพิมพ์ราวกับเต้นระบำอย่างคล่องแคล่วต่อไป
จางหย่งเลือกที่จะเงียบ
ได้รับอนุญาตให้ทำงานในห้องทำงานของเจ้านายนับว่าเป็นบุญแล้ว เขาจะปากหาเรื่องทำลายความสุขของตัวเองไม่ได้
ไม่พูดไม่ได้เลยว่าท่าทางตั้งใจพิมพ์ของเจ้านายหล่อไม่เบาเลย มิน่าผู้หญิงมากมายถึงได้อยากเข้าหา ถ้าเขาเป็นผู้หญิง ก็คงควบคุมไม่อยู่
เฮ้ย เฮ้ย เฮ้ย…
หลงเซียวราวกับมีตาทิพย์อยู่บนศีรษะ เสียงทุ้มต่ำดังออกมาด้วยความไม่พอใจ “ออกไป”
จางหย่ง “…”
“ออกไปเดี๋ยวนี้”
จางหย่ง “…ผมไม่ได้พูดอะไรนะ”
สวรรค์โปรดเมตตา เมื่อสักครู่เขาไม่ได้พูดอะไรเลยนะ
“อย่าพูดมาก ออกไป เหตุผลนั้น คุณรู้ตัวดี”
หลงเซียวไม่ได้มองเขาสักนิด ก็ไล่เขาออกไป
จางหย่งจึงต้องกอดโน๊ตบุ๊คเอาไว้ ก้าวเดินออกไปพลางหันกลับมา มือยื่นไปจับลูกบิด หันกลับมาพูดยิ้มๆ เจ้านาย คุณอ่านใจคนได้เหรอ”
หลงเซียวสะบัดตากลับไป อีกคนจึงรีบปิดประตู เดินหายไปตามทางเดิน
และบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ของหลงเซียวนั้น กระดาษสีขาว ตัวหนังสือสีดำขนาดห้า ด้านบนสุดเขียนหัวข้อ…วันที่อยู่กับคุณ
ห้านาทีหลังจากนั้น…
เกาจิ่งอานส่งสติ๊กเกอร์ไขว่ห้างสูบบุหรี่ลงไปในกลุ่มวีแชท “มาเร็ว มาดูทหารน้ำ (มือรับจ้างโพสต์ข้อความ)ของผม”
หลงเซียวกวาดตามองโทรศัพท์ กดเปิดลิ้งค์ที่เกาจิ่งอานส่งเข้ามา…
บริษัทเทียนเซี่ย อาศัยพี่ใหญ่…เรื่องราวของMBKและบริษัทเทียนเซี่ย
บริษัทใหญ่ MBK บริหารโดยคุณหลงถิง
MBK ร่วมมือกับบริษัทยักษ์ใหญ่ของอเมริกา ขยับขึ้นมาเป็นสิบอันดับต้นของการจัดอันดับ คุณหลงถิงเป็นนักธุรกิจคนแรกของจีนที่ได้รับเกียรตินี้
……
พวกหัวแบบนี้มีอยู่มากมาย ไม่เยินยอก็ชื่นชม MBK และหลงถิง ต้องชื่นชมการอบรมเลี้ยงดูลูกชายของหลงถิง คุณชายรองหลงมีความสามารถขยันหมั่นเพียร ทว่าบทความนี้ไม่ได้เอ่ยถึงหลงเซียว
เหล่าทหารน้ำให้พลังมากมายมหาศาล ไม่กี่นาทีก็สามารถทำให้เกิดคอมเม้นท์เป็นหมื่นได้ ล้วนชื่นชมหลงถิงและMBK
ทั้งหมดนี้เป็นการสรรเสริญ ไม่มีการดูถูกเลยสักนิด
หลงเซียวปิดหน้าข่าวไป ปลดกระดุมเสื้อ ก้าวเดินเบาออกไปจากห้องหนังสือ
ลั่วหานกำลังนอนพิงหัวเตียงอ่านข่าวจากIpad ปัดอ่านไปถึงสิบหน้าโดยไม่ทันตั้งตัว
หลงเซียวเปิดประตูเข้ามา เหลือบตามามองลั่วหาน แสงสีฟ้าของหน้าจอสาดส่องไปยังใบหน้าของเธอ สาดส่องใบหน้างดงามของเธอให้เป็นสีบางเบา คิ้วเรียวสวย ริมฝีปากนุ่ม ท่าทางกำลังนึกคิดนั้นช่างน่ารัก
มองเพียงอย่างเดียว ก็ไม่อยากละสายตาออกห่าง
“ที่รักคะ คุณมาตั้งแต่เมื่อไหร่”
หลงเซียวถูกเสียงของเธอดึงสติกลับมา เดินเข้าไปข้างเตียง นั่งลงข้างเธอ “ราวห้านาทีได้แล้ว กำลังชื่นชมทิวทัศน์”
ลั่วหานเบ้ปาก มองออกไปยังหน้าต่างฝั่งขวามือ ผ้าม่านปิดอยู่มองไม่เห็นอะไร “บ้าไปแล้ว มีอะไรน่ามอง…ฉันมีอะไรให้คุณดู ข่าวออกมาแล้ว แต่ว่าแปลกมาก ล้วนแต่ชื่นชมหลงถิงกับMBKทั้งนั้น มีทั้งเรื่องจริงและเกินจริงไปบ้าง ที่สำคัญคือชื่นชมอย่างเห็นได้ชัด”
“อย่ารีบร้อน รออีกสักสิบนาที”
ไม่ถึงสิบนาที ลั่วหานกระโดดลุกจากเตียงด้วยความตกใจ
“ชาวเน็ตปะทุแล้ว คุณรีบดูสิ”
——
บ้านตระกูลหลิน ห้องทำงานหลินเหว่ยเย่
“ข่าวเมื่อสักครู่คืออะไรกัน คุณอธิบายออกมาให้ชัดเจนสิ”
หลินเหว่ยเย่อ่านข่าวจบ ยังคงแสดงท่าทีเรียบนิ่งไม่โกรธไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ เสียงในสายเรียบนิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ขณะนั้น ผู้จัดการของบริษัทเทียนเซี่ยก็เกิดความกลัว “ประธานหลินครับ ผมก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ครึ่งชั่วโมงก่อน มีคนปล่อยข่าวชื่นชม MBK หลังจากนั้นไม่นานคอมเม้นท์เนื้อหาดีก็ขึ้นมาเป็นหมื่น ตอนแรกผมยังคิดว่าหลงถิงเป็นคนทำเอง…”
“ซี้ซั้ว การชื่นชมโง่ๆแบบนี้ คุณคิดว่าเขาจะทำเหรอ ชื่นชมตัวเองก็เหมือนหาเรื่องใส่ตัว หลงถิงฉลาดหลักแหลม เขาจะโง่ขนาดนี้ไหม”
นิ้วมือของหลินเหว่ยเย่ลูบไปยังวอลนัทแข็ง เกิดเสียงก๊อกแก๊กขึ้นมา
หลี่ปินกลืนน้ำลาย ยืนทอดสายตาไปไกลอยู่ที่ระเบียง “ตอนนี้จะทำยังไง ข่าวปะทุขึ้นมาแล้ว คอมเม้นท์ดีๆกลายเป็นคำพูดร้ายถูกสาดเข้ามา ทำลายทุกอย่างที่เป็นของMBKจนสิ้น”
หลินเหว่ยเย่ขมวดคิ้ว “ใครส่ง บริษัทไหน”
หลี่ปินส่ายหน้าอย่างสิ้นหวัง พึ่งนึกได้ว่าตัวเองส่ายหน้าอีกฝ่ายจะไม่เห็น จึงเอ่ยเสริมขึ้นมา “ไม่รู้สิ ผมให้ผู้เชี่ยวชาญสืบแล้ว แต่ก็หาIDของอีกฝ่ายไม่ได้เลย ไม่รู้ว่าเป็นบริษัทหรือเป็นส่วนตัว”
หลินเหว่ยเย่พ่นลมหายใจเย็นออกมา “ยังมีอะไรอีก”
“ยังมี…ชาวเน็ตรู้ถึงความสัมพันธ์ของMBKกับบริษัทเทียนเซี่ยแล้วครับ ตอนนี้ทุกคนเปลี่ยนจุดยืน คิดว่าข่าวของหลงเซียวกับเจ้าชายเจมส์เป็นข่าวที่MBKกุขึ้นมาใส่ร้าย ยังทำลายพวกเขาทั้งสอง
เดิมแอคเคานท์ที่ด่าพวกเขาตอนนี้ถูกชาวเน็ตถล่มลบไปเยอะแล้ว ยังมีบางอันที่เปลี่ยนเป็นข่าวใหม่แล้ว”
หลี่ปินยิ่งพูดยิ่งไม่สงบ หากเป็นแบบนี้ต่อไป กลัวว่าจะขโมยไก่ไม่ได้แถมยังเสียข้าวอีก
หลินเหว่ยเย่ยังคงนิ่งไม่เคลื่อนไหว “ที่แท้เขาก็เป็นเด็กที่จัดการได้ยาก”
หลี่ปินร้อนรน หวาดกลัวราวกับนั่งบนพรมเข็มเอ่ย “ประธานหลิน ผมทำตามคำสั่งของคุณ ไม่ได้ขี้เกียจเลยสักนิด ตอนนี้บริษัทเทียนเซี่ยเกิดเรื่องแล้ว บางทีอาจจะกลายเป็นแพะรับบาป คุณคงจะไม่ทิ้งเราใช่ไหม”
หลินเหว่ยเย่ยิ้มแล้ว “เทียนเซี่ยเป็นของ MBK ได้และเสียไปด้วยกัน ถ้าหากMBKทอดทิ้งไม่สนใจเทียนเซี่ยบางทีอาจจะจบลงด้วยการโดนด่ายับ ไม่เป็นอะไรหรอก”
หลี่ปินฝืนยิ้ม “ประธานหลิน ผมเลือกร่วมมือกับคุณ ก็เพราะเชื่อในความสามารถของคุณ MBKไม่ช้าก็เร็วยังไงก็ต้องเป็นของคุณ”
หลินเหว่ยเย่ตำหนิไม่พอใจ “ผมเคยบอกว่าจะเอา MBK เหรอ ผมก็แค่เลือกใช้วิธีที่ดีกว่าช่วยเหลือลูกเขยของผม”
“ถูกครับ ถูกแล้ว ปากของผมมันไม่ดี ท่านประธานหลินช่างซื่อสัตย์และสูงส่ง จะสนใจบริษัทเหม็นเน่าอย่างMBKได้ยังไง”
“ดูกระแสข่าว ถ้ายังไม่ดีก็ลบข่าวซะ”
——
ลั่วหานเลื่อนอ่านคอมเม้นท์ “สวรรค์ ลมเปลี่ยนทิศเร็วเกินไปหรือเปล่า ชาวเน็ตกำลังรุมด่า MBK ที่ขยี้บริษัทฉู่ซื่อ…”
หลงเซียวกดไอแพดของเธอลงไป ดวงตาคมลึกจ้องมองเธอ “ในเมื่อรู้ผลลัพธ์แล้ว ดูไม่ดูก็ไม่มีประโยชน์ ผมจะทิ้งดินปืนไปให้MBK”
ลั่วหานย่นจมูก “คุณจะไม่คุยโวโอ้อวดจะเป็นอะไรไหม”
หลงเซียวอดไม่ได้ที่จะไม่ขมวดคิ้ว “ก็จะมีคนที่พูดความจริงน้อยลงหนึ่งคน”
ลั่วหาน “…”
หลงเซียวเอาไอแพดไปแล้ว วางไว้หัวเตียง “ไม่ดูแล้ว พรุ่งนี้เช้าเดี๋ยวคุณก็รู้ผลลัพธ์ แต่มีเรื่องที่ผมต้องถามคุณ คุณหมอฉู่ลืมอะไรไปหรือเปล่าครับ”
ลั่วหานเลิกคิ้ว กลอกตาไปมา “อะไรคะ