ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 901
ตอนที่ 901 พิธีการตัดริบบิ้น
กู้เยนเซินรีบเดินจากไปตามกาลเทศะ
ลั่วหานรู้ว่าเรื่องนี้ไม่อยากให้เธอรู้ เธอเลยเลือกเงียบไม่ถูกถึงอย่างชาญฉลาด
“พรุ่งนี้โครงการของชานเมืองหลวงจะเริ่มดำเนินการแล้ว คุณได้เอาป้ายทั้งหมดออกมาแล้วใช่ไหม?” ลั่วหานพูดอย่างตรงไปตรงมา
“ยังเลยครับ ผมกำลังรอคุณอยู่ครับ” หลงเซียวคีบเนื้อชิ้นหนึ่งวางในจานของเธอ พร้อมจ้องมองเธออย่างไม่ละสายตา
จริงๆเลยนะ!
ยังไม่เคยเห็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์หน้าไหนเพิ่งจะแขวนป้าย ตอนที่เพิ่งจะเริ่มมีการก่อสร้าง! คงมีแค่หลงเซียวเพียงคนเดียวมั้ง!
“ฉันนึกประโยคที่ไม่มีรสนิยมหนึ่งออกมาได้ คุณอย่าได้รังเกียจนะคะ อีกอย่าง…..เหมือนกับถูกใช้มามากแล้วด้วย” ลั่วหานพูดเป็นนัยยะขึ้น
“ไม่ครับ ว่ามาเถอะ”
“สายลมแห่งฤดูใบไม้ผลิสิบไมล์ เออ…….. สายลมแห่งฤดูใบไม้ผลิสิบไมล์ก็ไม่สู้คุณ คุณรู้สึกว่ามันไม่มีรสนิยมไหม?” ลั่วหานกัดตะเกียบเล็กน้อย
หลงเซียว : “……”
ไม่มีรสนิยมอย่างที่คาดคิดไว้เลย
“คุณไม่ชอบหรอ? ถ้าเช่นนั้น! ฉันคิดใหม่อีกประโยคก็ได้….งั้นเป็น….อะไรแล้วนะ…..” การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของลั่วหานนับว่าโอเค แต่ไม่สามารถบกพร่องในตอนนี้ได้ “งั้น” อยู่สักพักใหญ่ ขณะเดียวก็ครุ่นคิดอย่างเร่งรีบ “จุนหลินเทียนเซี่ย! เป็นยังไง? เท่หรือเปล่า? หล่อเลยใช่ไหม? เยี่ยมใช่ไหมล่ะ?”
หลงเซียวเผยสีหน้าร่าเริงสดใสขึ้น และวางตะเกียบลง แล้วเดินไปหยิบโทรศัพท์บ้านที่วางอยู่บนโต๊ะอย่างรวดเร็วราวกับเหาะหินอากาศ “ให้แผนกโฆษณาและประชาสัมพันธ์ออกแบบโปสเตอร์โฆษณาตึกอาคารชานเมืองหลวงก่อนเวลาสองทุ่มคืนนี้ ต้องปริ้นก่อนเวลาสองทุ่มคืนนี้…..ใช่ และเอาไปเปลี่ยนกับของเก่า ต้องการเพียงเปลี่ยนชื่อเป็น…… จุนหลินเทียนเซี่ย…..ใช่ไหม?”
เมื่อลั่วหานได้ยินแบบนี้ก็เผยสายตาเป็นประกายขึ้นมา!
หลงเซียวใช้เวลาสามนาทียกเลิกแบบร่างออกแบบโปสเตอร์โฆษณา และเปลี่ยนตามความคิดเห็นอันกะทันหันของลั่วหาน
ลั่วหานนั่งตกใจอยู่ที่เดิม “หลงเซียว คุณช่วยบอกฉันหน่อยสิว่า คุณเป็นหุ้นส่วนใหญ่คนที่สองของโครงการพันกว่าล้านนั้นจริงหรอ? คุณแน่ใจใช่ไหมว่า คุณไม่ได้กำลังเล่นเกมอยู่?”
หลงเซียวกลับมานั่งกินข้าวที่เดิม แถมไม่เอาเรื่องที่ยกเลิกงานกะทันหันมาพูดอย่างจริงจังด้วย “หากงานยังไม่สำเร็จ ทุกอย่างล้วนไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้ ดังนั้นมันคือความท้าทาย”
หลงเซียวปฏิเสธงานออกแบบของทั้งสามบริษัทร่วมมือกัน แถมยังไม่ได้แจ้งบริษัทMBKและตู้หลิงเซวียนด้วย ตอนที่หลงจื๋อทราบข่าวก็โทรศัพท์หาหลงเซียวทันที
หลงเซียวพูดอธิบายอย่างเรียบง่ายว่า “จุนหลินเทียนเซี่ย(ชื่อนี้หมายถึงบุคคลที่ขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุด )เหมาะกับการวางตำแหน่งวิลล่าระดับไฮเอนด์ของหลันอ้านเทียนเฉิงมากกว่า ไม่มีใครจะปฏิเสธที่จะนั่งอยู่บนความเหนือกว่าของโลกได้”
อันเป็นที่อยู่บนความเหนือกว่าของโลกได้หรอ….
แน่นอน!
ตอนกลางคืน ตู้หลิงเซวียนเดินทางมาถึงเมืองหลวง หัวหน้าระดับสูงของทั้งสามบริษัทเริ่มการเจรจากันอย่างเรียบง่าย โดยเฉพาะเรื่องที่มีการเปลี่ยนชื่ออย่างกะทันหัน ซึ่งตู้หลิงเซวียนมีปฏิกิริยาตอบสนองชัดเจนมาก แต่หลังจากฟังคำอธิบายจบก็ยอมรับแต่โดยดี
ระหว่างไม่กี่ชั่วโมงนั้น โฆษณาตึกอาคารของจุนหลินเทียนเซี่ยก็ได้ทำการเปลี่ยนเป็นต้นแบบขั้นสูง
ใช้นักประพันธ์ที่มีความอ่อนช้อยปกปิดเงินสกปรกของเศรษฐีใหม่หรือผู้มีชื่อเสียง เพื่อให้คฤหาสน์ไปสู่เส้นทางแห่งความสูงศักดิ์ แถมหลงเซียวพูดด้วยตัวเองด้วยว่า เขาต้องการอาศัยอยู่ในคฤหาสน์หลังหนึ่งด้วย เพื่อสะดวกต่อลูกสาวที่เรียนโรงเรียนอยู่อนุบาลแถวจุนหลินเทียนเซี่ยด้วย
เที่ยงคืนเพิ่งผ่านพ้น เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของจุนหลินเทียนเซี่ย กำลังดำเนินการ ไม่นานเพียงหนึ่งชั่วโมงจำนวนการคลิ๊กเข้าก็เป็นแสนครั้ง
ข่าวลือที่แพร่หลายก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นการโต้เถียง พ่อลูกทะเลาะกัน ซึ่งไม่เหมือนกับประเด็นข่าวบิดเบือนที่สื่อมวลชนสร้างไว้ โฆษณาครั้งนี้เจาะจงโครงการคฤหาสน์ ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างคึกคัก แม้แต่ตู้หลิงเซวียนยังคิดไม่ถึงเลย คิดไม่ถึงว่า”ความคิดกะทันหัน”ของหลงเซียวจะได้รับผลตอบรับดีเยี่ยมขนาดนี้
แน่นอนว่าเขาย่อมไม่รู้ว่า อันที่จริงแล้วเป็นความคิดของลั่วหาน
หลงเซียวพูดขึ้นว่า “พวกเราทำโฆษณาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้เปลี่ยนชื่อ โฆษณาก็แก้ไขเหมือนกัน ไม่มีส่วนไหนไม่เหมาะสม”
ลั่วหานอยู่ในสภาพครึ่งหลับครึ่งตื่น “ห้าทุ่มแล้ว คุณกำลังคิดอะไรอยู่หรอ? คุณรอก่อน ฉันขอเปิดดูweiboหน่อย ตอนเรียนมหาวิทยาลัยชอบอ่านนิยาย ไม่รู้ว่ายังสามารถสร้างแรงบันดาลใจอีกหรือเปล่า”
ผลตามมาคือเธอก็หาพบบางอย่างจริงๆ
ถ้าหากตู้หลิงเซวียนรู้ความจริง คงกระอักเลือดแน่เลย
รุ่งเช้า เริ่มการก่อสร้างชานเมืองจุนหลินเทียนเซี่ย
“พี่ใหญ่ ประธานตู้”
หลงจื๋อเดินเข้ามาจับมือทักทายกับหลงเซียวและตู้หลิงเซวียน ทั้งสามคนแสดงท่าทางการทำงานร่วมกันต่อหน้าสื่อมวลชนอย่างสนิทสนม ใบหน้าอันหล่อเหลาของหลงเซียวที่อยู่ท่ามกลางแสงแฟลตถูกขยาย ไม่นานก็ได้รับความสนใจทุกช่องทางถ่ายทอดสดทางโซเชียล
โปสเตอร์โครงการใหญ่จุนหลินเทียนเซี่ยปลิวสะบัดท่ามกลางสายลม บนโปสเตอร์อันวิจิตรมีสาวสองพรีเซนเตอร์สวมชุดเดรสยาวเว้าหลังสีฟ้าถือแก้วไวน์แดงอยู่ และมีนายแบบผู้ชายรูปร่างสูงโปร่งสวมชุดสูทคนหนึ่งกำลังพิงบนรั้วกำแพงคฤหาสน์อยู่ โดยที่ในค่ำคืนของคฤหาสน์มีแสงไฟส่องสกายกระทบแม่น้ำเผยบรรยากาศอันงดงามและหรูหราของคฤหาสน์
พิธีตัดริบบิ้นยังไม่ได้เริ่มต้นขึ้น หลงเซียวก็เหลือบตามองนาฬิกาข้อมือแล้ว ตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่มสี่สิบนาที ยังมีเวลายี่สิบนาทีให้นักข่าวซักถาม แต่ในตอนนี้กลับไม่มีหลงถิงอยู่เลย
“พ่อของคุณล่ะ?”
ก่อนที่หลิงเซียวจะเอ่ยปากขึ้น ตู้หลิงเซวียนก็ซักถามขึ้นทันที
หลงจื๋อที่เลือกไม่พูดถึงพ่อ แต่เขาเลือกพูดประเด็นอื่นแทน “เดียวงานเลี้ยงเริ่ม ผมจะดื่มเป็นเพื่อนคุณเองครับ”
หลงเซียวขมวดคิ้วอย่างรวดเร็วเล็กน้อย พร้อมคลายออกจนไม่มีใครสามารถจับได้ ดูเหมือนว่าหลงถิงจะเกิดเรื่องขึ้นแล้ว
หลงจื๋อยืนอยู่ตรงกลางระหว่างหลงเซียวกับตู้หลิงเซวียนในฐานะหุ้นส่วนคนแรก แต่ระดับความสูงหลงเซียวสูงมากที่สุด ในงานไม่มีสายตาขุ่นเคืองที่สร้างความน่าเกรงขามเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ถึงแม้ยืนอยู่ด้านขวา แต่ก็ไม่สามารถบดบังรัศมีความเปล่งประกายตั้งแต่หัวจรดเท้าได้
เพราะทางประชาสัมพันธ์ได้ทำการเตรียมการล่วงหน้าแล้ว การซักถามของนักข่าวในงานเลยราบรื่นโดยดี ไม่มีใครซักถามว่าทำไมหลงถิงไม่ปรากฏตัวในงานที่สำคัญแบบนี้
หลงจื๋อตอบคำถามเกี่ยวกับโครงการอย่างกระฉับกระเฉง ส่วนหลงเซียวช่วยพูดเสริมเพื่อความแม่นยำ คำพูดที่เขาไม่เคยเกินสิบกว่าคำเลย และแต่ละคำเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสมมาก
ส่วนตู้หลิงเซวียนก็ให้ความร่วมมือกันเป็นอย่างดี บรรยากาศเลยค่อนข้างอบอุ่น
เมื่อเหลือเวลาอีกสิบนาทีใกล้ถึงพิธีตัดริบบิ้น จู่ๆก็มีนักข่าวคนหนึ่งโยนคำถามไม่เหมาะสมขึ้น
“คุณหลงเซียวครับ ผมจำได้ว่า คุณเคยพูดว่า บริษัทฉู่ซื่อจะไม่เข้าร่วมโครงการอสังหาริมทรัพย์อีก แต่จะมุ่งเน้นไปที่โครงการยารักษาโรค การรักษาดูแลโลก แต่บริษัทฉู่กลับควักเงินก้อนใหญ่ลงทุนกับโครงการคฤหาสน์ แบบนี้นับว่าคุณผิดคำพูดหรือเปล่าครับ?”
ตู้หลิงเซวียนนิ่งอึ้งชั่วขณะ จากนั้นก็ยิ้มมุมปากอย่างเก้อเขินขึ้นเล็กน้อย
“คุณหลงเซียว โครงการจุนหลินเทียนเซี่ยยังไม่ทันก่อสร้างก็เป็นที่นิยมแล้ว ราคาคงเกินหนึ่งแสน แต่คุณผิดคำสัญญาเรื่องการลงทุนไว้ คุณอยากจะอธิบายอย่างไรครับ?”
หลงจื๋อหันหน้ามองพนักงานรักษาความปลอดภัยด้วยสายตาเย็นชาขึ้น เพื่อให้พวกเขาถีบนักข่าวที่ซักถามคนนี้ออกไป แต่หลงเซียวยื่นมือห้ามไว้
ส่วนด้านข้าง จี้ตงหมิงและกู้เยนเซินหันหน้าสบตากัน จากนั้นก็รีบติดต่อจางหย่งเพื่อให้เขาติดตามความเคลื่อนไหวข่าวบนอินเตอร์เน็ต
แต่วันนี้เป็นการถ่ายทอดสด หลายสถานีทำการถ่ายทอดสดในงานด้วย ซึ่งบนหน้าจอถ่ายทอดสดมีการแสดงความคิดเห็นล้นหลามจนจะบดบังถ่ายทอดสดแล้ว มีบางคนกล่าวว่านักข่าวใจกล้าไม่คิดชีวิต บางคนบอกว่าหลงเซียวผิดสัญญา ในเมื่ออยากลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ ทำไมตอนนั้นถึงพูดแบบนั้นด้วยล่ะ?
อิสซากับเจมส์กำลังนั่งอยู่ในห้องรับแขกอยู่ โดยที่บนหน้าจอโทรศัพท์กำลังถ่ายทอดใบหน้าหล่อเหลาและรูปร่างสง่าผ่าเผยของหลงเซียวที่ถูกเหล่านักข่าวถ่ายอยู่
การเผชิญหน้ากับคำถามไม่เหมาะสม หลงเซียวกลับมีสีหน้าท่าทางสงบนิ่ง
อิสซาเตะขาของเจมส์เล็กน้อย “น้องชาย หลงเซียวเป็นคนสุขุมมากเลยนะ แล้วนายเป็นคู่แข่งของเขาหรือเปล่า?”
เจมส์เผยสีหน้าครุ่นคิด “อืม ดูกันต่อเถอะ ผมอยากรู้แล้วว่าเขาจะตอบยังไง ก่อนหน้านี้เขาเคยพูดแบบนั้นจริง กลืนน้ำลายของตัวเองชัดๆจริงไหม?”
อิสซาทำปากมุ้ย เมื่อหันหน้ามองไม่เห็นจางหย่งก็ซักถามขึ้นว่า “จางหย่งล่ะ? จางหย่งคนนั้นไปไหนแล้ว?”
เจมส์พูดขึ้นว่า “นับตั้งแต่มีการถ่ายทอดสดเขาก็ขังตัวเองอยู่แต่ข้างใน ไม่รู้ว่าทำอะไรอยู่?”
ข้างใน
จางหย่งกำลังอมลูกอมเม็ดหนึ่งในปากอยู่ “ผมได้ปรับวิดีโอเรียบร้อยแล้ว เจ้านายเคยพูดแบบนั้น แต่ไม่ได้พูดว่าจะไม่ลงทุนอสังหาริมทรัพย์อย่างเด็ดขาดสักหน่อย แม่ง ใครจะรนหาที่ตายล่ะ!”
กู้เยนเซินลูบปลายจมูกเล็กน้อย “จะเป็นใครได้ล่ะ ก็ต้องเป็นตู้หลิงเซวียนอยู่แล้ว! นายจับตาดูต่อไป อีกอย่างทหารน้ำ (มือรับจ้างโพสต์ข้อความ) ของเกาจิ่งอานออกมาได้แล้ว มากำจัดให้ตู้หลิงเซวียนล่มจมกัน!”
“ว้าว! ตู้หลิงเซวียนมีแฟนคลับเพิ่มขึ้นเร็วมาก เป็นแฟนคลับนักเลงคีบอร์ด…..ตลาดผู้ชายยังไม่แต่งงานช่างกว้างขวางมากจริงๆ ส่วนใหญ่เก้าสิบห้าเปอร์เซ็นต์คือผู้หญิง ฮ่าฮ่า” จางหย่งพูดขึ้น
“สนใจประเด็นหน่อย อย่าเอาเรื่องอื่นมาแทรก ฉันจับตาดูในงานอยู่ ส่วนนายจับตาดูเบื้องหลัง”
“เข้าใจครับ”
ในงาน
นักข่าวสิบกว่าคนร่วมมือกันซักถามคำถามคล้ายกัน หลงจื๋อคิดอยากพูดแทรกพวกเขาให้พวกเขาออกไป แต่หลงเซียวกลับอดทนไม่พูดอะไร และอดทนฟังพวกเขาตั้งคำถามเล่นงานตัวเองจนจบด้วย
ในที่สุดเสียงซักถามที่ดังสนั่นก็ค่อยๆแผ่วเบาลง เมื่อเขาเอาแต่นิ่งเงียบ หลงเซียวยกข้อมือขึ้นอย่างประนีประนอม “นักข่าวทุกท่านครับ ตอนนี้เป็นเวลาเก้าโมงห้าสิบเจ็ดนาทีแล้ว งั้นผมขอใช้เวลาสองนาทีตอบคำถามของพวกคุณนะครับ”
ผู้ช่วยของตู้หลิงเซวียนที่อยู่ข้างล่างพยักหน้าเล็กน้อย เพื่อแสดงให้เขารู้ว่าบนอินเทอร์เน็ตกำลังลุกฮือมาก
ถึงแม้ไม่สามารถเล่นงานเขา แต่เขาไม่ยอมปล่อยให้มีโอกาสใส่ร้ายเขาได้หรอก!
หลงเซียวกวาดตามองเหล่านักข่าวด้วยสายตาสายน้ำนิ่งสงบ ซึ่งไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน “อย่างแรก ผมยังไม่เคยสัญญาเลยว่าจะไม่ลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์แล้ว อย่างที่สองจุนหลินเทียนเซี่ยเกิดจากน้ำพักน้ำแรงร่วมกันของสามบริษัท ซึ่งมีงบประมาณเกินขอบเขต แถมยังส่งผลต่อการดำเนินการอย่างราบรื่นด้วย อีกอย่าง…..” เขาหันหน้ายิ้มต่อตู้หลิงเซวียนเล็กน้อย “เหตุผลที่ผมร่วมลงทุนจุนหลินเทียนเซี่ย เพราะประธานตู้ใจกว้างมอบหุ้น บุญคุณเลยต้องทดแทนนะครับ ดังนั้นผมต้องปฏิบัติอย่างเต็มที่กับสิ่งที่ได้รับโอกาส ด้วยเหตุนี้มีตรงไหนไม่เหมาะสมละกัน?”
หลังจากที่หลงเซียวพูดอธิบายสามข้อ เหล่านักข่าวต่างก็พากันหันหน้ามองกัน และมีนักข่าวไม่กี่คนทนไม่ไหวหันหน้ามองตู้หลิงเซวียน
ทำไม….กลายเป็นตู้หลิงเซวียนโดนเล่นงานแทนอย่างง่ายดายแล้วล่ะ? แถมหลงเซียวยังช่วยกอบกู้ตัวเองและเปลี่ยนภาพจำเมื่อก่อนของตัวเองได้ด้วย? ส่วนตู้หลิงเซวียนกลับมีรอยยิ้มแข็งทื่อ!
หลงเซียวเผยท่าทางสง่าผ่าเผยพูดต่อว่า “ประธานตู้ สิ่งที่ผมพูดเป็นความจริงใช่ไหมครับ?”
สมควรตาย!
เขาเสียเวลาวางแผนอยู่ตั้งหลายวัน เพื่อต้องการหักหน้าหลงเซียวในงาน! เขาอุตส่าห์เอาพิธีตัดริบบิ้นเป็นการถ่ายทอดสด แต่คิดไม่ถึงกลับกลายเป็นแบบนี้แทน!
ถูกหลงเซียวโจมตีกลับแบบนี้ ตู้หลิงเซวียนรู้สึกเพียงความผิดหวังและอึดอัดใจที่อัดแน่นอยู่เต็มอก จนแทบจะกระอักเลือกออกมา!
กู้เยนเซินหัวเราะฮ่าฮ่า “จางหย่ง บล็อกเว็บไซต์ส่วนตัวของตู้หลิงเซวียน!”
“กำลังครับ….”
ตู้หลิงเซวียนไม่พูดต่อหจากหลงเซียว แต่เดินไปหยิบกรรไกรของตัวเอง “ถึงเวลาแล้วครับ มาตัดริบบิ้นเปิดพิธีกันเถอะครับ!”
หลงจื๋อเดินเข้ามา “พี่ใหญ่ ตัดริบบิ้นกันเถอะ”
หลงเซียวพยักหน้าเล็กน้อย “อืม”
“เดียวก่อน”
มีน้ำเสียงแหบหนึ่งดังขึ้นจากข้างหลังนักข่าว หลงถิงนั่งบนรถเข็น โดยมีเหลียงจ้งซุนเป็นคนช่วยขับรถ ซึ่งหลงถิงสวมชุดสูทสีดำพร้อมกับเสื้อกันหนาวขนแพะปกคลุมอยู่ โดยที่มีรูปร่างผอมซูบ
เขากวาดสายตามองทั้งสามคนบนเวที จากนั้นก็ร้องตะโกนให้ทุกอย่างในงานหยุด