ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 916
ตอนที่ 916 กลับมาบริษัทMBK และไต่เต้าสู่จุดสูงสุดของอำนาจ
ไม่เห็นด้วย?
จู่ๆ ลูกชายตัวปลอมที่ถูกไล่ออกก็ลุกขึ้นมาคัดค้านการตัดสินใจของบริษัทMBK?
ยังกล้าจะพูดว่าไม่เห็นด้วย!
รอยยิ้มเย็นของหลินเหว่ยเย่แสดงทัศนคติออกมาอย่างชัดเจน!
แต่หน้าร้านก็ยังคงต้องพูดว่า “หลงเซียว ฉันจำได้ว่าคุณไม่ใช่ประธานของMBKแล้ว นอกจากภรรยาของคุณที่มีคะแนนโหวตหนึ่งคะแนนแล้ว เหมือนว่าคุณจะไม่มีสิทธิ์อะไรในที่นี้เลย”
“อ้อ? งั้นเหรอ?” หลงเซียวไม่ร้อนรน ท่าทีสบายๆ ไม่เหมือนมาเข้าร่วมคณะกรรมการ แต่มองดีๆ แล้วจะพบว่า ดวงตาและใบหน้าของเขาเย็นชาและน่ากลัว
“หรือว่าไม่ใช่?” หลินเหว่ยเย่เชิดปาก
“ประธานMBK มีสิทธิในการยับยั้ง ฉันจำไม่ผิดใช่ไหม?” สายตาของหลงเซียวเลื่อนผ่านใบหน้าของคณะกรรมการทุกคน สุดท้ายก็ตกไปอยู่ในดวงตาที่กระสับกระส่ายของหลงจื๋อ
“ใช่ ประธานมีสิทธิที่จะยับยั้ง แต่ความร่วมมือระหว่างหลินซื่อและMBK ฉันโหวตสนับสนุน”
หลงจื๋อนึกว่าพี่ใหญ่อย่างจะเกลี้ยกล่อมให้เขายับยั้งการร่วมมือ จึงตั้งใจเน้นเป็นพิเศษ
แต่ หลงเซียวไม่ได้คิดอย่างนั้น
ฝ่ามือของหลงเซียวกดไปที่ไหล่ของหลงจื๋อ มันไม่ได้แรงมากแต่มันก็เพียงพอที่จะทำให้หลงจื๋อลุกออกจากเก้าอี้ไม่ได้ น้ำเสียงที่พูดกดไหล่ของเขาไว้ ไม่สู้ที่จะบอกว่าแรงกดดันของเขากดทับออร่าของหลงจื๋อ
“เพราะงั้นความหมายของฉันชัดเจนมาก ฉันไม่เห็นด้วยกับการร่วมมือระหว่างหลินซื่อและMBK”
นัยของบทพูดคือการบอกทุกคนว่า ในมือของหลงเซียวมีสิทธิ์อยู่ในมือหนึ่งสิทธิ์ อีกทั้ง เป็นสิทธิ์ของอํานาจสูงสุดที่ไม่มีใครกล้าที่จะตั้งคําถาม
“พี่ใหญ่ พี่กำลังพูดอะไร? พี่……พี่ไม่ใช่ประธานบริษัทอีกแล้ว ทำไมพี่……” หลงจื๋ออยากโต้แย้งเสียงดัง อยากพูดไปตรงๆ ว่าพี่ใหญ่อย่าล้อเล่น เชิญพี่ออกไป!
แต่พอเขาอ้าปากก็รู้สึกใจฝ่อ
คนข้างล่างก็พากันมึนงง หลงเซียวใจเย็นและเข้มงวดมาโดยตลอด ล้อเล่นอะไร?
หลินเหว่ยเย่พูดปลอบประโลมอย่างจริงใจ “หลงเซียว คุณคัดค้านฉัน เพราะอคติต่อฉันหรือเปล่า? ฉันไปล่วงเกินคุณตรงไหน ฉันต้องขออภัย แต่การร่วมมือเป็นเรื่องใหญ่ จะทำเป็นเล่นไม่ได้”
ลั่วหานกัดฟัน หลินเหว่ยเย่ไอ้จิ้งจอกเฒ่า! ตัวเองทำอะไรไว้ตัวเองไม่รู้เหรอ? อยากปัดความรับผิดชอบให้คนอื่น?
หลงเซียวยกยิ้มเล็กๆ อย่าสง่างาม “ในฐานะประธานของMBK ฉันเข้าใจอยู่แล้วว่าการร่วมงานกันไม่ใช่เรื่องเล่น เพราะงั้นฉันถังยับยั้งการร่วมมือกับบริษัทหลินซื่อ”
อะไร?
ประธาน?
ประธานของMBK?
คนที่อยู่ในนี้ นอกจากลั่วหาน ทุกคนตกตะลึงกับคำพูดของหลงเซียวและไม่มีการตอบสนอง หลินเหว่ยเย่ที่สุขุมก็มีความตื่นตระหนกไปชั่วขณะหนึ่ง
เป็นไปได้ยังไง?!
กู้เยนเซินลูบๆ จมูก “ทุกท่าน ขออนุญาตฉันพูดสักสองประโยค คุณทุกคนโอ้อวดว่าเป็นคนฉลาดกล้าหาญรอบคอบและหาเงินได้ ก็กรุณาแบ่งไอคิวมาทำความเข้าใจตรงนี้ด้วย ว่าเจ้านายของพวกคุณจริงๆ คือใคร
แม้แต่กินข้าวบ้านใครอยู่ยังไม่รู้ ฉันล่ะนับถือไอคิวอีคิวพวกคุณจริงๆ! จิ๊ๆๆ มีแต่พวกหลงผิด!”
อะไร?
พอกู้เยนเซินอธิบาย คนข้างล่างก็ยิ่งมึนงง!
จี้ตงหมิงเปิดกระเป๋าเอกสารหนังแท้สีดำ หยิบกองเอกสารเป็นปึกออกมา “แจ้งทุกท่านอย่างเป็นทางการ คุณหลงเซียวเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของMBKแล้ว ในมือถือหุ้นของMBKอยู่30% มากกว่าคุณหลงจื๋อ 1%”
หนึ่งเปอร์เซ็นต์ พลาดไปนิดเดียวก็จะผิดไปเป็นโยชน์ได้ สำหรับบริษัทขนาดยักษ์ใหญ่อย่างMBKแล้ว แม้เพียงความห่างแค่0.1% ก็หมายถึงทรัพย์สินมหาศาล
เฮือก!
มวลชนเบิกตากว้าง ดวงตาจ้องมองไปที่หลงเซียวกว้างและความกว้างอย่างเหลือเชื่อ ไม่ใช่แค่จ้องอย่างเดียว แต่มาจากความกลัวและความกังวลที่มาจากก้นบึ้งของหัวใจ
ไม่นึกเลยว่าเขาได้30เปอร์เซ็นต์มาครองโดยไม่พูดอะไรสักคำ! เป็นไปได้ยังไง?
หลงจื๋อนิ่งแข็งค้างอย่างเห็นได้ชัด กระดูกสันหลังถูกล็อกทีละข้อ ทีละข้อ หลังตรงแน่วไม่มีแรงที่จะก้มหัวของเขา เขาอ้าปากค้างด้วยความตะลึง เค้นคำพูดออกมา “เป็นไปได้ยังไง?”
การซื้อหุ้นในMBKต้องใช้เงินก้อนใหญ่มาก ปริมาณมากกว่าที่คนธรรมดาจะนึกได้ ยิ่งไปกว่านั้นการออกหุ้นของMBKนั้นเข้มงวดมาก เว้นเสียแต่ว่าจะชนะนักลงทุนหลายหมื่นพันคน……ไม่ไม่ไม่ ไม่ง่ายขนาดนั้น นอกจากนี้ เขายังจำเป็นต้องได้การสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่
ใครกัน?
สายตาของพวกเขาต่างคนต่างก็มีความสงสัยไปคนละอย่าง หลงเซียวเอ่ย “วิธีการนั้นไม่สำคัญ ที่สำคัญคือผลลัพธ์ ผมมีส่วนร่วมในการตัดสินใจระดับสูงของบริษัทในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของMBK ไม่มีปัญหาใช่ไหม?”
เขากำลังถามเหรอ?
น้ำเสียงกำลังบอกเล่าอยู่ชัดๆ อีกทั้งยังหนักแน่นไม่อนุญาตให้ใครสอดปาก
แล้วก็ไม่มีใครกล้าสอดปาก
หน้าอกของหลินเหว่ยเย่ว่างเปล่าไปถึงหัวใจ ความไม่มั่นคงที่รุนแรงฉกฉวยสติและเส้นประสาทของเขา
หลงเซียวกลับมาที่MBKอีกครั้ง แล้วก็กระโดดขึ้นมาเป็นประธาน แปลกเกินไป กะทันหันเกินไป
คัดค้านโครงการของบริษัทหลินซื่อไปแล้ว หลงเซียวก็ไม่ได้รีบร้อนจะนั่งตำแหน่งของหลงจื๋อ ยืนอยู่ข้างๆ พูดต่อ “ต่อไป ฉันมีแผนธุรกิจหนึ่ง ต้องการสอบถามพิจารณาจากทุกท่าน”
แผนธุรกิจของหลงเซียวช่างเป็นการตบหน้าหลินเหว่ยเย่จริงๆ และแรงอย่างมาก
“พัฒนาการของบริษัทฉู่ซื่อในปัจจุบันนั้นชัดเจนสำหรับทุกคน มูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นสองเท่าในเวลาเพียงสามเดือน ศักยภาพของตลาดไม่สามารถประเมินค่าได้ ดังนั้น ฉันตัดสินใจจะเอาบริษัทฉู่ซื่อเข้าMBK”
ไม่มีการบรรยายเติมเสริมเกินความจริง ไม่มีการบอกเล่าที่เต็มไปด้วยอารมณ์ หลงเซียวเสนอแผนความร่วมมืออย่างกระจ่างใส
ห้องประชุม: “……”
ใจลอยกันทั้งห้อง
หลงจื๋อยิ่งรู้สึกใจลอยจนพังทลาย!
ไม่ต้องพูดถึงประธานหลงเซียวคนนี้มาอย่างกะทันหันจะยืนหยัดได้อีกไหม? ไม่ว่าฉู่ซื่อจะมีความเทพในตำนานหรือไม่ เมื่อฉู่ซื่อเข้ามาอยู่ในเรือMBK MBKก็จะพาบินตรงเข้าเมฆาคราม
“หลักการเดียวกัน ฉันยึดมั่นในประชาธิปไตยและเสรีภาพ เชิญทุกท่านยกมือโหวต”
โหวต? โหวตอะไร?
ตกใจจนเหงื่อเย็นไหลท่วมตัวแล้ว ไอคิดก็ถูกหลงเซียวดึงไปหมดแล้ว
โดยไม่ต้องสงสัย โครงการร่วมมือผ่านไปอย่างเป็นเอกฉันท์
ไม่ หลงจื๋อไม่ได้ยกมือเพราะช็อกเกินไป แต่มันไม่ก็กระทบต่อภาพรวม
เหลียงจ้งซุนเห็นทิศทางไปเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ หลบออกประตูโทรหาหลงถิง
แต่โทรศัพท์ของหลงถิงก็ยังไม่มีคนรับสาย
การประชุมบอร์ดบริหารจบลง ผู้เข้าร่วมบ้างตื่นเต้นบ้างพะอืดพะอมบ้างตื่นตระหนกบ้างขัดแย้งกัน สีหน้าทุกคนหลากหลายจนเอาไปทำสติกเกอร์ไลน์ได้
ผู้สนับสนุนหลงเซียวบางคนกระตือรือร้นกับปฏิกิริยานี้มาก แสดงความเป็นเอกฉันท์ว่าพวกเขาจะก้าวและถอยไปพร้อมกับหลงเซียว
กลุ่มคนกระจายตัว ใบหน้าหลินเหว่ยเย่มืดครึ้ม “หลงเซียว ไม่ว่าจะพูดยังไงเขาก็เป็นน้องของคุณ อย่าขัดแข้งขัดขากันเองเลย”
ดวงตาของหลงเซียวเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณหลิน ไม่ว่าจะพูดยังไงหลงจื๋อก็ถือเป็นลูกชายของคุณครึ่งหนึ่ง เสือถึงร้ายก็ไม่กินลูกตัวเอง คุณลงมือโหดร้ายเกินไปแล้ว”
“คุณหมายถึงอะไร? ฉันไม่เข้าใจ” หลินเหว่ยเย่แสร้งไม่รู้เรื่อง
หลงเซียวเดินอ้อมเก้าอี้ของหลงจื๋อ เดินเข้าไปด้านในสองก้าว เข้าไปใกล้หลินเหว่ยเย่ “ไตรมาสที่แล้วหลินซื่อขาดทุนสามร้อยล้าน รอบการจัดหาเงินทุนที่เพิ่งสรุป บริษัทหลินซื่อพ่ายแพ้ย่อยยับ เพื่อที่จะได้รับความช่วยเหลือที่มั่นคง คุณอยากนั่งรถของMBKฟรีๆ ให้MBKเป็นคนโง่จ่ายหนี้ให้บริษัทหลินซื่อ
คุณทําบทความฝ่ายการเงินของMBKได้ราบรื่นขนาดไหน ทำสองสิ่งไปพร้อมๆ กัน ทั้งรักษาหลินซื่อไว้ได้ แถมยังได้เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นของMBK คุณหลินเฉลียวฉลาดมีความสามารถ ผมนับถือ”
หลินเหว่ยเย่กลืนไอเย็นลง “คุณใส่ร้ายป้ายสี”
ลั่วหานและหลงเซียวไหล่ติดกัน “เพื่อลดความกดดันทางการเงินของบริษัท คุณนายหลินมีการนำเสนอสมบัติส่วนตัวยี่สิบรายการในการประมูล เสียดายนัก เศรษฐกิจปีนี้ไม่ดี รายได้จากการประมูลทั้งหมดสุดท้ายก็ไม่คุ้มกับต้นทุนตอนซื้อ”
ลั่วหานยังอยากพูดว่าคุณใช้ประโยชน์จากลูกสาวหลอกลวงเสี่ยวจื๋อ ต่างกับการขายลูกสาวยังไง!
แต่พอคิดถึงความรู้สึกของหลงจื๋อ ไม่พูดจะดีกว่า
ยังไงก็ตาม ผลกระทบภายในของหลงจื๋อนั้นใหญ่พอแล้ว
พลันหลงจื๋อก็ยิ้มเย็น เสียงหัวเราะหนาวเหน็บไร้เรี่ยวแรง “เหอะๆๆ ลุงหลิน ที่พวกเขาพูดจริงรึเปล่า?”
“ฉัน……เสี่ยวจื๋อฟังฉันอธิบาย” หลินเหว่ยเย่อยากเข้าใกล้หลงจื๋อ แต่ถูกหลงเซียวกับลั่วหานขัดขวางไว้
“ไม่ต้องอธิบายแล้ว คุณกลับไปเถอะ” หลงจื๋อปิดตาทั้งสองข้างลง ไม่คิดจะพูดไร้สาระกับหลินเหว่ยเย่ต่อ
หลินเหว่ยเย่จากไปอย่างเศร้าสลด ไม่เต็มใจและจนปัญญา การต่อสู้ครั้งนี้ เขาแพ้แล้ว
ครู่ใหญ่ หลงจื๋อเงยหน้าขึ้น “พี่ใหญ่ พี่ชนะแล้ว”
เสียงของเขาขมขื่นอย่างมาก ดวงตาชุ่มน้ำ เงยหน้ามองหลงเซียวและเอ่ย “ฉันรู้ว่าพี่จะต้องชนะฉันแน่ เพียงแต่ไม่คิดว่าวันนี้จะมาถึงเร็วขนาดนี้ เมื่อวานพี่สะใภ้ใหญ่ยังเตือนฉัน ว่าไม่ต้องร่วมมือกับลุงหลิน ผมหวังพึ่งจิตวิทยาของโชค คิดว่า……เหอะเหอะ ไม่พูดแล้ว ฉันโง่มากใช่ไหมล่ะ?”
ลั่วหานใจอ่อน ตบไหล่หลงจื๋อราวเจ๊ใหญ่ “ไม่ เสี่ยวจื๋อ คุณแค่ยังเด็กอยู่เท่านั้น เจอคนเลวมาน้อยเกิน”
หลงจื๋อสูดจมูก ถอนหายใจ “พี่ใหญ่ ยินดีด้วย ตอนนี้MBKเป็นของพี่แล้ว พี่ทำได้แล้ว”
เขากล่าวออกมาด้วยความจริงใจ และยังมีการพิจารณาตัวเองอีกด้วย ลั่วหานได้ยินก็เผยความรู้สึกออกมาทางสีหน้า มองหลงเซียวไม่พูดอะไรออกมา รอว่าเขาจะตอบว่ายังไง
“คุณยังเป็นประธานของMBK แต่ถ้าเกิดเรื่องคล้ายๆ นี้อีก ฉันไม่รับประกันว่าจะคืนตำแหน่งประธานให้คุณอีก”
สิ่งที่เกินคาดคือ คำตอบของหลงเซียวนั้นเย็นชาทั้งยังเด็ดขาด
ลั่วหานเช็ดเหงื่อให้หลงจื๋อ กลัวว่าเขาจะรับไม่ไหว
หลงจื๋อดันเก้าอี้ออก ลุกขึ้นยืนตรง “ครับ ท่านประธานบอร์ดบริหาร”
……
หลงเซียวกลับมาที่MBK อีกทั้งยังก้าวกระโดดเป็นประธานบอร์ดบริหารของMBK ภายในไม่กี่นาทีก็เป็นข่าวดังในอินเทอร์เน็ต แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย สำนักข่าวใหญ่ต่างๆ!
สื่อต่างประเทศยังติดตามอย่างใกล้ชิดและยังรายงานเพิ่มเติม ยกย่องหลงเซียวเป็น “ปาฏิหาริย์โลกธุรกิจ” “จิตวิญญาณของMBK”
การแข่งขันทางธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว หลงเซียวมักจะยืนอยู่บนคลื่นยักษ์ การกระทำใดๆ ก็จะกลายเป็นประเด็นร้อนทันที
ครั้งนี้ หลงเซียวเปลี่ยนประเด็นร้อนให้กลายเป็นจุดเดือด พลิกคว่ำไพ่ของMBKอย่างสมบูรณ์!
สื่อพาจงเกลียดจงชังคลั่ง ผู้ประกอบการนับไม่ถ้วนที่มีความทะเยอทะยานที่จะกลืนกินMBKถอนหายใจ ซุนปิงเหวินเขวี้ยงถ้วยชาทิ้งทันทีเมื่อเขาทราบข่าว โม่หรูเฟยกลั้นไว้ในใจและทรุดตัวลงนั่งบนโซฟา
บริษัทฉู่ซื่อพอได้ยินว่าจะรวมเข้าMBKก็กรี๊ดลั่นตึกสำนักงาน ได้กอดขาMBKก็เหมือนได้กอดขาบอสใหญ่ หลังจากนี้เขาพลิกตัวเป็นเจ้านายและปีนขึ้นไปบนจุดสูงสุดของชีวิต!
นักข่าวที่บ้าคลั่งเพื่อมาสัมภาษณ์ท่านเซียวให้เร็วที่สุด พากันปิดกั้นอาคารMBKจนน้ำระบายไม่ออก รัวแสงแฟลชไปที่โลโก้ของMBK ถ่ายรัวแชะๆๆๆ อย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยภายในของ MBK แทบไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้
หลงเซียวคล้องแขนลั่วหาน ท่ามกลางสายตาพนักงานของMBKที่มองมาอย่างชื่นชม เขาเดินเข้าไปในห้องทํางานของประธานที่ชั้นบนสุดของอาคารอย่างมั่นใจ
ลั่วหานตื่นเต้นจนกุมหัวใจ “ฟู่ว……คุณให้ฉันเตรียมตัวก่อน”
หลงเซียวลูบหลังเธออย่างหลงรัก “คุณคือคนที่ผ่านพายุใหญ่มาได้แล้ว ยังกลัวเรื่องนี้อีกเหรอ?”
“ไม่เหมือนกันนี่! นี่เป็นห้องของประธานกรรมการMBK! นักธุรกิจอิทธิพลล้นฟ้าอย่างแท้จริง! หลังจากนี้คุณก็เป็นประธานของMBKแล้ว! ให้ฉันปรับตัวก่อนนะ”
ลั่วหานอ้าปากกว้างพ่นลมหายใจ ครู่หนึ่งถึง “โอเคแล้ว เริ่มกันเถอะ!”
ผู้บริหารระดับสูงจากภายนอกรอประธานเข้ามาอย่างยินดี: “……”
เมื่อกี้เป็นภาพลวงตารึเปล่า?
หลงเซียวผลักเปิดประตูไม้ทึบคู่ของห้องทำงานของประธาน หน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานบานใหญ่ที่สว่างไสวปกคลุมไปด้วยแสงสีทองของดวงอาทิตย์ แอนดี้ได้วางดอกไม้ใหม่ในห้องทำงาน เก้าอี้ โต๊ะทำงานและการตกแต่งทั้งหมดผ่านการทำความสะอาดด้วยแอลกอฮอล์
ที่นี่ เป็นตำแหน่งที่สูงส่งที่สุดบนท้องฟ้าเมืองหลวง หลังจากมองไปรอบๆ ในที่สุดเขาก็เหยียบเท้าเข้าไป
ลั่วหานยังคงควบคุมความรู้สึกตื่นเต้นไว้ไม่ได้ น้ำตาร่วงเปาะแปะลงบนหลังมือ “สามี คุณทำได้แล้ว คุณทำได้แล้วจริงๆ”
“อยากลองไหม?”
หลงเซียวยกมือเธอขึ้น ดึงเธอไปตรงหน้าเก้าอี้หมุนสีดำ
“หา? ฉัน? ไม่ๆๆ ฉันกลัวอายุสั้นเพราะมีความสุขมากไป คุณนั่งเถอะ”
หลงเซียวหลุดหัวเราะ “พูดไปเรื่อย อายุสั้นอะไร? ของฉันก็คือของเธอ”
คำนี้……เธอชอบ!
“ฉันลองนั่งแทนคุณว่านั่งสบายรึเปล่า!” ลั่วหานแลบลิ้นอย่างทะเล้น
“ได้ รบกวนคุณนายแล้ว”
กดตัวลั่วหานนั่งเก้าอี้ได้ ร่างสูงใหญ่ของเขาก็เคียงไหล่เธอ ดวงตาที่ลึกซึ้งมองไปในระยะไกล
นอกหน้าต่างคือทิวทัศน์อันรุ่งเรืองของเกียวโต ข้ามอาคารสูงหลายหลังไปก็สามารถมองเห็นหลังคาที่ไม่สะดุดตาของฉู่ซื่อได้
ที่ตั้งภูมิศาสตร์ดีเยี่ยม ตำแหน่งพิเศษที่ปิดท้องฟ้าได้ด้วยฝ่ามือเดียว
หน้ากระดาษใหม่จะเริ่มต้นจากที่นี่