ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 920
ตอนที่ 920 หลอกความรู้สึกของเค้า ฮือๆๆ
หลงถิงโกรธจนเกือบเสียชีวิตด้วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย ในขณะที่ตู้หลิงเซวียนดื่มมากเกินไปจนทำให้เลือดออกในกระเพาะอาหาร
ศึกชิงประธานMBKครั้งนี้ ดุเดือดจริงๆ
แพทย์ในห้องฉุกเฉินเห็นลั่วหาน ล้วนทักทายอย่างเกรงอกเกรงใจ ทุกคนชื่นชมทักษะทางการแพทย์ของลั่วหาน ตอนนี้มียศภรรยาท่านประธานเพิ่มอีกหนึ่งคน ท่าทางจึงเพิ่มขึ้นจากความนับถือไปสู่ความยกย่องและบูชา
“หมอฉู่ ผู้ป่วยคนนี้เหมือนจะเป็นเพื่อนของคุณใช่ไหม?”
หมออายุน้อยคนหนึ่งเอ่ยถามอย่างเหนียมอาย
เคยเห็นข่าวอื้อฉาวระหว่างทั้งสอง บวกกับไลฟ์สดทางออนไลน์อันโด่งดังเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ตู้หลิงเซวียนได้ก้าวเข้าสู่สายตาสาธารณชนอย่างสมบูรณ์
ความยุ่งเหยิงสับสนวุ่นวายของลั่วหานและตู้หลิงเซวียนในอดีต ก็มีคนไม่น้อยขุดจุดนี้ออกมา
พอได้ยินหมอตัวน้อยซุบซิบมั่วซั่ว หมออายุโตๆ หลายคนก็รีบขยิบตาให้เธอหุบปาก อย่ายกประเด็นที่ไม่ควรยกเอามาพูด
“ใช่ เขาเป็นเพื่อนของฉัน สภาพร้ายแรงไหม?”
ลั่วหานมุ่นคิ้วลงเท้า ดูจากฝั่งเธอแล้ว สีหน้าของตู้หลิงเซวียนแย่มาก เจ็บปวดจนใบหน้าบิดเบี้ยว ใบหน้าหล่อเหลากลายเป็นกระดาษยับยู่ยี่ คิ้วสองข้างขมวดอยู่ด้วยกัน อดทนต่อความเจ็บปวดอย่างยากลำบาก
อีกทั้ง ตู้หลิงเซวียนปวดกระเพาะ แต่หูดีมาก ได้ยินเสียงของลั่วหาน หัวใจก็เต้นแรงอย่างอดไม่ได้
แอนน่า? ไม่นึกแอนน่าจะยังอยู่ที่โรงพยาบาล
หมอทำหน้าด้านพูด “หมอฉู่ ผู้ป่วยถูกส่งตัวมาโดยพนักงานโรงแรม เขาไม่มีญาติพี่น้องคนสนิท คุณ……สะดวกอยู่ต่อไหม?”
อยู่ต่อ?
ลั่วหานขมวดคิ้วมุ่น “โทรหาผู้ช่วยของเขาเถอะ”
ตู้หลิงเซวียนพยายามระงับอาการปวดท้อง เส้นเลือดดำบนหน้าผากปูดขึ้น เหงื่อเม็ดใสหล่นลงข้างหู “เขาไม่อยู่……ในจีน”
ร่างเพรียวของลั่วหานสะท้าน “เอ่อ……คุณอย่าเพิ่งพูด เก็บแรงไว้”
“หมอฉู่ รบกวนคุณรออยู่ตรงนี้ครู่หนึ่งได้ไหม? ถ้าเกิดเรื่องด่วนขึ้นมา คุณจะเป็นผู้ติดต่อคนแรก ขอร้องเถอะคุณต้องรอเขาออกมานะ”
หมอกลัวว่าจะต้องแบกภาระ กลัวตัวตนพิเศษของตู้หลิงเซวียน ขอร้องให้ลั่วหานเซ็นชื่อซ้ำแล้วซ้ำอีก
“ได้ รีบไปเถอะ”
คิดไม่ถึงเลยว่าตู้หลิงเซวียนจะออกมากลางคัน ลั่วหานได้แต่อยู่ต่อชั่วคราว
การผ่าตัดหลายชั่วโมงเสร็จสิ้นลง ลั่วหานก็จำได้ว่าวันนี้เป็นวันแรกที่หลงเซียวปีนขึ้นไปจุดสูงสุดของMBK หยิบโทรศัพท์ออกมาเตรียมจะบอกเขา แต่ก็พบว่าโทรศัพท์แบตหมดแล้ว มิน่าล่ะถึงเงียบขนาดนี้
การกู้ชีพยังดำเนินต่อ ลั่วหานไปห้องสำนักงานแผนกฉุกเฉินขอยืมใช้ที่ชาร์จแบต
เมื่อเปิดเครื่องก็เห็นข้อความที่หลงเซียวส่งมาไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้า
อยากโทรหาหลงเซียว แต่โทรศัพท์เสียบสายไฟไว้อยู่ มีหมอเวรสองสามคนในห้องทำงานแอบมาดู ลั่วหานก็เลยตัดสินใจส่งข้อความไป “ฉันอยู่โรงพยาบาล ตู้หลิงเซวียนเลือดออกในกระเพาะอาหาร คุณเลิกงานรึยัง? อยู่ไหนเหรอ?”
หมอในห้องออฟฟิศแผนกฉุกเฉินมองลั่วหานอย่างชื่นชม ดวงตานินทาเป็นประกาย ในที่สุดก็มีคนรวบรวมความกล้าเอ่ย “หมอฉู่ คุณยังไม่เลิกงานเหรอ?”
“หมอฉู่ ขอถามหน่อยได้ไหม คือนั่น……ประธานตู้มีแฟนรึยัง?”
“แฮะๆๆ ในเน็ตบอกว่าประธานตู้ยังโสด จริงรึเปล่า?”
ดวงตาสดใสของลั่วหานคล้ายยิ้มแต่ไม่ยิ้ม พูดในใจเมื่อก่อนไม่มีใครกล้าถามเธออย่างนี้ หมอวัยรุ่นสมัยนี้มีความกล้ามากจริงๆ “ประธานตู้น่าจะโสดอยู่”
“ว้าว! จริงเหรอ? จริงๆ เหรอ? ที่เค้าพูดกันในเน็ตไม่ผิดล่ะ เพราะงั้นพวกเรายังมีโอกาสใช่ไหม?”
“หอคอยที่ใกล้น้ำ ก็ได้พระจันทร์ก่อน ว้าววว ท่านเทพให้โอกาสเราแล้ว เดี๋ยวต้องไปผูกสัมพันธ์กับหมออายุรศาสตร์แผนกระบบทางเดินอาหารแล้ว ให้ไปเป็นพยาบาลพิเศษก็ได้!”
“หมอฉู่ มาเมาท์กันหน่อยได้ไหม คุณเคยอยู่กับประธานตู้ไหม?” แพทย์หญิงถามอย่างติดลม ไม่รู้เด็กรู้ผู้ใหญ่เลยจริงๆ
โชคดีที่หมอข้างๆ เธอดึงแขนเสื้อไว้และไม่ปล่อยให้เธอหาเรื่องตายต่อไป
ลั่วหานเอ่ยอย่างไม่คิดหลีกเลี่ยงแม้แต่น้อย “ไม่เคย”
สองพยางค์ง่ายๆ ดับสิ้นความร้อนของคำนินทา
แพทย์หญิงวัยรุ่นตะโกนร้องวี้ดว้าย ลั่วหานหัวเราะอย่างจนปัญญา ดูท่าชื่อเสียงของตู้หลิงเซวียนจะรุ่งเรืองมาก ผู้สนับสนุนเยอะมาก
แล้วก็นึกเรื่องการคัดเลือกหนุ่มรูปงามบนเน็ตออก ลั่วหานเปิดเข้าไปดูอย่างสงสัย คนที่ยังบนสุดของรายการก็ยังคงเป็นหลงเซียว
คลับเส้นไต้
เกาจิ่งอานสวมเสื้อแจ็คเก็ตสไตล์ฮิปฮอปสีสันสดใสสไตล์เกาหลี กางเกงขายาวที่อวดเผยข้อเท้า โบกแท่งไฟเรืองแสงหลากสีในมือ ด้วยรูปลักษณ์ของเขา เขาสามารถขึ้นไปร้องเพลงแร็พบนเวทีได้เลย
โจวโร่หลินสวมชุดคู่รักแบบเดียวกันกับเขา คนสองคนยืนคู่กันเป็นผีเสื้อและดอกไม้สองชนิด โจวโร่หลินก็โบกแท่งไฟเรืองแสง ทำการแสดงที่โอ้อวดเป็นเพื่อนเกาจิ่งอาน
เกาหยิ่งจือนั่งอยู่บนโซฟาอย่างจนปัญญา ข้างๆ เป็นเถียนเถียนที่ว่าน่ารักน่าเอ็นดู
ในคลับแขวนโคมประดับ ค่อนข้างให้ความรู้สึกของบรรยากาศการฉลองปีใหม่เมืองและชนบทรวมเข้าด้วยกัน ไม่รู้ว่าทัศนคติด้านความงามของเกาจิ่งอานมาจากไหน
นอกจากพวกเขา ยังมีผู้มั่งคั่งที่มีชื่อเสียงโด่งดังในแวดวงธุรกิจเมืองหลวง ลูกคนรวย นักธุรกิจตำแหน่งสูง บริษัทอึนเคอและลูกค้าประจำ เพื่อนเก่าของเกาจิ่งอานในเมืองAหลายคน คนวุ่นๆ วายๆ มีอย่างน้อยสามสิบคน
คนอื่นแต่งตัวกันก็นับว่าปกติดี บ้างใส่ชุดสูท บ้างใส่ชุดไปรเวท รู้ว่าหลงเซียวจะมา พวกเขาล้วนสร้างตัวเองให้เป็นรูปลักษณ์ที่ยอดเยี่ยม
คุณชายผู้สูงศักดิ์คนหนึ่งถือแก้วไวน์แดงชี้ไปที่นาฬิกาถาม “ประธานเกา ท่านเซียวมารึยัง? รอมาครึ่งชั่วโมงแล้วนะ”
เกาจิ่งอานยืดอกอย่างมั่นใจ “รีบทำไม! ตัวละครระดับสูงก็มักจะปรากฏตัวเป็นคนสุดท้าย”
“ท่านเซียวต้องเป็นคนระดับสูงแน่อยู่แล้ว แต่ว่า……ไม่จำเป็นจะต้องไว้หน้าคุณนี่”
“ประธานเกา ฉันว่าท่านเซียวคงไม่มาหรอกนะ? คุณอย่าลืมที่พวกเราพนันไว้ล่ะ ถ้าเกิดคืนนี้ท่านเซียวไม่มา คุณต้องดื่มเหล้าแถวนี้ให้หมด!”
ชายในชุดสูทอาร์มานีสีดำสะบัดนิ้ว บนโต๊ะยาวด้านหน้าเป็นเบียร์ยี่สิบขวดที่วางเรียบร้อย
“ชิๆๆ คุณชายคนนี้เคยบอกแล้วไง พี่ใหญ่ของฉันดีกับฉันมาก เขาจะต้องไว้หน้าฉันแน่!”
ถึงปากเกาจิ่งอานจะพูดไปแบบนี้ แต่ในใจไม่มั่นใจเลย ถ้าเกิดพี่ใหญ่มีเรื่องด่วนกลางคันไม่มาแล้ว งั้นก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
หวังเค่ยออกไปดูข้างนอก ไม่เจอรถของหลงเซียว “ถ้างั้น คุณโทรหาเพื่อยืนยันอีกรอบไหม?”
เกาจิ่งอานไม่ถูกกับหวังเค่ยนัก เดินอยากจะโทรถาม แต่พอเขาพูด เขากลับเริ่มหงุดหงิด “ถามทำไม? ต้องมาแน่!”
ดวงตากลมโตน่ารักไร้พิษภัยของเถียนเถียนกลอกไปมา พูดเสียงเด็กน้อย “ลุงจิ่งอาน คุณโม้หรือเปล่าคะ? ป้าลั่วลั่วกับลุงคนหล่อไม่มาแล้วเหรอ?”
“เจ้าเด็กนี่ อย่าโจมตีฉัน แล้วก็ ใครกันลุงคนหล่อ?” เกาจิ่งอานใช้มือสองข้างดึงแก้มกลมของเถียนเถียน
เถียนเถียนโค้งดวงตายิ้ม “ลุงจิ่งอานคือลุงคนหล่อ!”
“เด็กดี! จำไว้ล่ะ!”
แอนดี้และจี้ตงหมิงนั่งมองอยู่ข้างๆ ไป๋เวยและกู้เยนเซินถูกเกาจิ่งอานบังคับลากมา ทั้งคู่แสดงความรักกันในมุมเงียบ ไม่สนใจความคืบหน้าในห้องโถงเลย
รถของหลงเซียวตรงเข้าคลับเส้นไต้ แลเห็นเป็นประตูของคลับประดับแสงไฟนีออนส่องสว่างจากที่ไกลๆ ที่ลานจอดรถด้านนอกล้วนเป็นรถหรูหรา หนึ่งในนั้นทะเบียนรถก็ดูคุ้นตา เคยเห็นตามงานเลี้ยงธุรกิจใหญ่ๆ
ดูท่าว่า เกาจิ่งอานจะเตรียมคืนนี้มาอย่างเต็มที่
หยังเซินมองไปยังเหตุการณ์ข้างหน้า ยิ้มอย่างอดไม่ได้ “ท่านประธาน ผมจะไปดูก่อนว่ามีนักข่าวรึเปล่า แล้วค่อยทักทายกับประธานเกา ให้คอยจัดการอย่างเงียบๆ”
“ถ้าเขาจัดการเงียบๆ ได้เขาคงไม่ใช่เกาจิ่งอาน จอดตรงนี้แหละ ฉันจะเข้าไปเอง”
“ครับท่านประธาน”
หยังเซินเปิดประตูด้านหลัง หลงเซียวก้าวขาออกมาข้างหนึ่ง
ลมหนาวยามค่ำคืนพัดเสื้อโค้ตของเขาให้เปิดออก หลงเซียวเดินก้าวใหญ่ไปที่ประตูกระจกของคลับ
“มาแล้วๆๆ! ฉันบอกแล้วไง! พี่ใหญ่ของฉันจะต้องมา! อย่าตื่นเต้นเกินไปล่ะ! จะชนแก้วรึถ่ายรูปก็เอาไว้หลังจากที่ฉันชนแก้วกับพี่ใหญ่ก่อน” เกาจิ่งอานกระโดดโลดเต้นเมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ของหลงเซียวก้าวผ่านประตูเข้ามา
บางคนด้านหลังที่มีท่าทางสงสัยอยู่ก็พากันยืนหัวไปมอง ว้าว ท่านเซียวจริงๆ ด้วย!
ไม่คิดเลยว่าเกาจิ่งอานจะหน้าใหญ่ขนาดนี้!
เกาหยิ่งจือก็ยิ้มอย่างรู้ใจ “หลงเซียวไว้หน้ามากเลยนะ ฉันคิดไม่ถึงจริงๆ”
หวังเค่ยพยักหน้า “ประธานดีกับเขามาก”
เถียนเถียนเห็นหลงเซียว กระโดดลงโซฟาวิ่งออกไป “ลุงคนหล่อมาแล้ว!”
เกาหยิ่งจือ: “…….”
เจ้าตัวเล็กทรยศกันเร็วเกินไปแล้วไหม? ต้านทานความงามของหลงเซียวไม่ได้อย่างที่คิดจริงๆ ด้วย
“พี่ใหญ่! พี่ใหญ่!”
ชุดหลากสีลายตาของเกาจิ่งอานพุ่งไปที่ประตูใหญ่ ช่วยหลงเซียวเปิดประตูและรับเสื้อผ้าอย่างสนิทสนม
หลงเซียวย่างขาข้างหนึ่งเข้าประตู ก็เหมือนท้องฟ้าร้องครืนเพราะทรงผมของเกาจิ่งอาน จากนั้นก็พยักหน้าโดยไม่ทำตัวสนิทสนมแต่ก็ไม่ห่างเหินเกิน “อืม”
เกาจิ่งอานออกตัวถอดเสื้อนอกให้เขาอย่างมีความสุข “พี่ใหญ่ เชิญด้านในๆ มากันหมดแล้ว เหลือแค่คุณ”
หลงเซียวเหลือบมองเข้าไปด้านใน ที่บอกว่ามากันหมดแล้ว……คือคนพวกนี้?
“พี่ใหญ่ นี่เป็นแฟนคลับคุณหมดเลย แม้ยามฝันก็ยังอยากเห็นท่วงท่าอันสง่างามของคุณ ฮิๆๆ พี่ใหญ่ว่าสภาพแวดล้อมวันนี้เป็นไงบ้าง? ชอบไหม?” เกาจิ่งอานโฆษณารสนิยมของตัวเองอย่างกับมอบของล้ำค่า
แต่หลงเซียวไม่กล้าเห็นชอบด้วยง่ายๆ “อืม……พอได้”
“ใช่ไหมๆ? พี่ใหญ่เข้ามาเถอะ!”
คนไม่น้อยที่ชื่นชมหลงเซียวสูดเกร็งลมหายใจ รอให้ตัวละครหลักเปิดตัว แม้แต่กู้เยนเซินที่พลอดรักอยู่ตลอดก็ยังรู้สึกงงงวย “โอ้ชิท คุณชายหลงรักเกาจิ่งอานจริงๆ เลยนะเนี่ย!”
นึกว่าเกาจิ่งอานระริกระรี้ไปเองคนเดียวเสียอีก
ขาอีกข้างของหลงเซียวยังไม่ข้ามประตูมา เสียงแจ้งเตือนข้อความก็ดังขึ้น
เขาตั้งเสียงแจ้งเตือนของลั่วหานไว้เป็นพิเศษ
หลงเซียวชะงักเท้าลง “รอแป๊บ”
เกาจิ่งอาน: “……” ดวงตาเป็นประกาย หัวใจแทบจะหลุดออกมา
ดูข้อความเสร็จ ทันใดนั้นเมฆครึ้มก็ปรากฏขึ้นบนมุมใบหน้าของหลงเซียว ความยิ้มแย้มอ่อนโยนเมื่อครู่ถูกแทนที่ด้วยความไม่พอใจ “ฉันยังมีธุระ พวกนายเล่นกันเลย”
เกาจิ่งอานยืนเหม่อทันที “ไม่……ไม่ใช่หรอกน่าพี่ใหญ่! คุณๆๆ คุณมาก็มาแล้ว เข้ามาแป๊บเดียวน่า! พี่ใหญ่ พี่ใหญ่!”
เสื้อโค้ตบนมือลื่นหล่นลง เจ้าของเสื้อหันไปอย่างเด็ดขาด เขาไม่ได้ให้เวลาเขาไว้อาลัยสักครึ่งนาทีวินาทีด้วยซ้ำ
เกาจิ่งอานวิ่งตามไปขี้หดตดหาย “พี่ใหญ่ พี่ใหญ่! นาทีเดียวก็ได้! นาทีเดียว!”
หลงเซียวเปิดหน้าต่างตรงที่นั่งคนขับ “ลงมา”
หยังเซินแปลกใจ “เจ้านาย……”
เกาจิ่งอานจับประตู น้ำตาคลอ “พี่ใหญ่ อย่าไปนะ ฉันจะตายเอา ฮือๆๆ!”
ร่างของหลงเซียวขึ้นรถ สตาร์ตเครื่องยนต์ “นายไม่ตายหรอก เล่นสนุกดีนี่”
หวืด……
โรลส์-รอยซ์สีดําขับออกไปอย่างน่าเกรงขาม ทิ้งเกาจิ่งอานและหยังเซินไว้กลางสายลม
หยังเซินกลืนน้ำลายอย่างไม่รู้อะไรทั้งนั้น “ประธานเกา เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
เกาจิ่งอานร้องโวยวาย “ฉันก็ไม่รู้โว้ย! ฉันอยากรู้มากกว่านายอีก! ฮือๆๆ ใจสลายหมดแล้ว!”
หยังเซินเฝ้ามองคลับอย่างไม่สงบใจ จากนั้นก็เห็นคำที่สะกดด้วยแสงไฟนีออน——
“พี่ใหญ่V587 (ยิ่งใหญ่เกรียงไกร) !”
เกาจิ่งอานหลั่งน้ำตา “พี่ใหญ่ทำไมถึงทำแบบนี้? หลอกลวงความรู้สึกของฉันฮือๆๆ!”