ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 949
ตอนที่ 949 งานแต่งงานสไตล์แอฟริกา
งานแต่งงานสไตล์แอฟริกา
งานแต่งงานถูกจัดขึ้นที่โบสถ์แห่งหนึ่งในเขตชานเมือง ในบรรยากาศของแดดอ่อน ๆ ยามบ่าย ไม้กางเขนที่อยู่ด้านบนสุดของโบสถ์ทอแสงประกายดูศักดิ์สิทธิ์ หลังจากได้รับการจัดตกแต่งอย่างดีในเมื่อวานนี้ ภายนอกโบสถ์ถูกจัดวางไปด้วยมาลัยดอกไม้หลากสีสัน ที่วางลดหลั่นกันตามลำดับชั้น
เจมส์ จี้ตงหมิง กู้เยนเซิน แอนดี้ ไป๋เวย เกาจิ่งอาน โจวโร่หลิน เกาหยิ่งจือ… นอกจากนี้ยังมีเพื่อนบางคนที่ค่อนข้างสนิทกับหลงจื๋อ ในงานมีญาติและเพื่อนรวมกันทั้งหมด 20 คน
อุณหภูมิภายนอกโบสถ์ต่ำมาก แขกไม่ได้สวมชุดสวยหรูเหมือนงานแต่งงานในโรงแรม แต่สวมเสื้อกันหนาวและเสื้อแจ็คเก็ตแบบธรรมดา ซึ่งมีเกาจิ่งอานที่สวมเสื้อขนสัตว์อย่างหนามา
ลั่วหานช่วยหลินซีเหวินแต่งหน้าและเปลี่ยนชุดอยู่ด้านใน ช่างแต่งหน้าแต่งหน้าให้หลินซีเหวินตามสไตล์เจ้าสาวเกาหลี ด้วยใบหน้าสีชมพูและคิ้วสีดำขลับ ดวงตาอันเฉียบแหลมเปล่งประกายไปด้วยความชื่นมื่น
ลั่วหานช่วยเธอจัดชุดให้เป็นระเบียบ พลางชื่นชมหลินซีเหวินในกระจก “เจ้าสาวสวยขนาดนี้ วันนี้เธอจะต้องทำให้เจ้าบ่าวตะลึงแน่นอน!”
ชุดเดรสสีแดงขนาดใหญ่สไตล์ฝรั่งเศสยุคกลางถูกสวมใส่โดยร่างทรงเพรียวบาง เน้นให้เห็นเอวคอดอย่างประณีต ส่วนกระโปรงประดับไปด้วยลูกไม้เป็นที่เย็บเป็นเลเยอร์ ช่วยเสริมให้กระโปรงบานพลิ้วราวกับเกล็ดหิมะ ชุดเจ้าสาวทั้งชุดเป็นสไตล์โรแมนติกแบบฝรั่งเศสโดยแท้ ดอกกุหลาบที่ปักอยู่บนเอวและกระโปรงล้วนเป็นงานฝีมือทั้งสิ้น ดูมีชีวิตราวกับเป็นสวนดอกกุหลาบก็ไม่ปาน
หลินซีเหวินที่สวมชุดเจ้าสาวชุดนี้ยังรู้สึกประหลาดใจ “เป็นชุดที่เจมส์เลือกจริง ๆ หรือ? ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย”
ไม่อยากเชื่อว่าผู้ชายคนนี้จะมีความคิดแบบนี้อยู่ด้วย เธอคงต้องมองเขาใหม่เสียแล้ว
เขาคงไม่ใช่เกย์หรอกนะ?
“พี่ค่อนข้างมั่นใจว่าเป็นเขา ถ้าเป็นพี่ พี่คงเลือกชุดกี่เพ้าอย่างแน่นอน มีแต่ชาวต่างชาติเท่านั้นแหละ ที่คิดอะไรแตกต่างแบบนี้ได้ ดังนั้นวันนี้เธอต้องดื่มให้กับเขาซักแก้ว”
“แน่อยู่แล้วค่ะ! สิ่งที่ฉันอยากเห็นที่สุดตอนนี้คือชุดของหลงจื๋อ! อยากเห็นจัง!”
“พูดตามตรง พี่ก็อยากเห็นเหมือนกัน”
ความคาดหวังของลั่วหานแตกต่างจากเธออย่างสิ้นเชิง
ตามความเข้าใจของลั่วหานที่มีต่อเจมส์ เขาคงจัดเตรียมชุดที่อลังการที่สุดให้กับหลงจื๋ออย่างแน่นอน
ด้านนอก
หลงจื๋อเปลี่ยนชุดเจ้าบ่าว มองตัวเองในกระจกด้วยสีหน้างุนงง มองอยู่หลายครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าคนในกระจกนั้นเป็นตัวของเขาเองจริง ๆ
“เจมส์ นี่เป็นชุดของผมหรือ”
คุณล้อเล่นฉันหรือเปล่า?
เจมส์ใส่เครื่องประดับชิ้นสุดท้ายที่คอของหลงจื๋ออย่างมีภูมิใจ และปรบมือแสดงความเสร็จสมบูรณ์ “ปิงโก! ชุดที่เจ้าชายคนนี้ออกแบบไว้นั้นสมบูรณ์แบบใช่ไหม?”
“ฟู่ !!!”
เกาจิ่งอานพ่นน้ำชาออกมา จ้องมองหลงจื๋อราวกับเขาเป็นสัตว์ประหลาด และชื่นชมเขาในเวลาเดียวกัน
เดินวนดูหลงจื๋อหนึ่งรอบ เกาจิ่งอานรู้สึกเหมือนมีคนมาจี้จุดเขา “ฮ่า ๆ ฮ่า ๆ แม่เจ้า ใครจะช่วยผมที ผมตาจะบอดอยู่แล้ว!”
ใบหน้าของหลงจื๋อแสดงอาการไม่พอใจ สายตาพิฆาตของเขาก็เคลื่อนจากเกาจิ่งอานไปยังเจมส์ “คุณจงใจ!”
นี่มันไม่เหมือนชุดเจ้าบ่าวเลยสักนิด ชุดคอสเพลย์ยังไม่อลังการงานสร้างถึงระดับนี้!
เจมส์กลับรู้สึกมั่นใจเป็นอย่างมาก “การออกแบบจากผู้เชี่ยวชาญที่ไม่เหมือนใคร! คุณควรภูมิใจหน่อยสิ ชุดนี้ไม่มีวันล้าสมัย และล้ำสมัย อีกทั้งยังฟรีด้วย”
เกาจิ่งอานไม่แม้แต่จะสนใจเช็ดน้ำที่มุมปากของเขา เขาหัวเราะจนตัวโยก “ใช่แล้ว มันจะไม่มีวันล้าสมัย เพราะมันไม่เคยได้รับความนิยมเลยต่างหาก ผมจะให้คุณ 100 คะแนนเลยสำหรับลุคนี้ ไม่กลัวคุณได้หน้าด้วย!”
คุณหลงจื๋อหมุนตัวกลับอย่างอัตโนมัติ เห็นหลงเซียวที่เพิ่งเข้ามา เขาก็เริ่มคร่ำครวญ “พี่ชาย … ช่วยผมด้วย”
ดวงตาของหลงเซียวกระตุก เห็นได้ว่าเขาพยายามอย่างหนักที่จะไม่ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “ดูไปแล้ว … ก็ไม่เลวเลย”
ดวงตาของหลงจื๋อก็เบิกกว้าง “พี่ชาย พี่พูดจริงเหรอ! พี่คิดว่าดูดีจริงๆเหรอ? จริงหรือเปล่า? จริงใช่ไหม?”
ด้วยความกลัวว่าพี่ชายที่ตัวเองชื่นชมจะมองไม่ถนัด หลงจื๋อจึงตั้งใจหมุนตัวหนึ่งรอบ ดังนั้น เครื่องประดับทั้งหมดบนร่างกายของเขาจึงส่งเสียงดัง
ภาพนั้นสวยจริง ๆ …สวยจนไม่กล้ามองตรง ๆ
“ก็พิเศษดีนะ”
เกาจิ่งอานยกนิ้วให้หลงเซียวเป็นการชื่นชม ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเขาก็เชื่อเพียงท่านเซียวเท่านั้น!
หลังจากได้รับการยอมรับจากพี่ชายคนโต ความแค้นของหลงเจ๋อที่มีต่อเจมส์ก็ลดลงไปกว่าครึ่ง “ฝ่าบาท หากท่านทำเช่นนี้กับภรรยาของผม ผมจะไม่มีวันยกโทษให้ท่าน”
เจมส์ทำท่าทางตกลง
หลงเซียวยกข้อมือขึ้น ใกล้ถึงเวลาแล้ว “ออกไปได้แล้ว”
คริสตจักรที่เงียบสงัดดูศักดิ์สิทธิ์ ประกอบไปด้วยโทนสีขาวบริสุทธิ์เป็นส่วนใหญ่ เก้าอี้ถูกจัดวางเป็นรูปทรงหัวใจ โดยที่ทุกตัวต่างมีริบบิ้นสีชมพูผูกติดไว้ ส่วนตรงกลางมีโต๊ะที่วางดอกกุหลาบสีแดงสดไว้
หลงจื๋อเข้ามาในพิธีก่อนเวลา เขายืนอย่างประหม่าที่ปลายพรมรูปคลื่นทะเลสีแดง
หยวนชูเฟินแทบสำลัก เมื่อเห็นหลงจื๋อในสภาพนี้ “เซียวเอ๋อ ทำไมเสื้อผ้าของเขาถึง…”
หลงเซียวแอบหัวเราะเสียงเบา “ความคิดสร้างสรรค์ของเจมส์โดดเด่นมาก”
หยวนชูเฟินกลั้นหัวเราะ “ใช่ โดดเด่นมาก เจมส์ไม่ยอมให้แม่ดูเสื้อผ้าของเจ้าสาวและเจ้าบ่าวเลย ฮ่าฮ่า … เด็กคนนี้จะตลกเกินไปแล้ว”
ปฏิกิริยาของผู้คนในพิธีไม่ต่างจากอาการของเกาจิ่งอานสักเท่าไหร่ แต่ฝ่ายเจ้าบ่าวที่อยู่ด้านหน้ามีท่าทีเคร่งขรึม พวกเขาจึงต้องกลั้นขำเอาไว้
แต่ก็มีบางคนไม่สามารถกลั้นขำได้ จึงฝังใบหน้าเข้ากับหน้าขาและแอบหัวเราะ จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นปั้นสีหน้าจริงจัง
เป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากเอาการ
เต้ง!
เสียงกังวานของระฆังดังมาจากทิศทางที่ไม่มีใครล่วงรู้ ทุกคนหันไปยังประตูโบสถ์ด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ประตูได้เปิดออก เผยให้เห็นพรมสีแดงอันสวยสดที่ทอดยาวออกไป ลั่วหานเดินออกมาพร้อมกับเจ้าสาว
โดยมีโจวโร่หลินและแอนดี้โปรยกลีบดอกไม้ตามทาง กลีบดอกไม้หลากสีร่วงหล่นลงบนพรมแดง ให้ความรู้สึกเหมือนเจ้าหญิง
หลินซีเหวินรู้สึกประหม่า เธอสูดหายใจลึก มือจับช่อดอกไม้แน่น กัดริมฝีปากแล้วเงยหน้าขึ้น
หา!
นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น!
หลงจื๋อใส่ชุดอะไร?
เมื่อลั่วหานมองเห็นหลงจื๋อ เธอเบ้หน้าอย่างห้ามไม่ได้
หลงจื๋อเหมือนสวมชุดใบไม้ทั้งชุด? ช่วงบนของเขาเป็นใบไม้กล้วยสองใบ และสร้อยคอที่ทำจากขนนกห้อยอยู่บนหน้าอกของเขา บนแขนของเขาเต็มไปภาพวาดสัญลักษณ์โทเท็มหลากสีสันจากชนกลุ่มน้อยเผ่าต่าง ๆ
บนศีรษะมีผ้าคาดที่ประดับด้วยขนนกอยู่โดยรอบ และมีขนไก่ฟ้าขนาดใหญ่สองเส้นโผล่ออกมาจากด้านหลัง ซึ่งจะแกว่งขึ้นลงตามการขยับของหลงจื๋อ ดูไปแล้วช่างน่าขัน มันให้ความรู้สึกเหมือนนักแสดงที่ร้องเพลงบนเวที
ช่วงล่าง เขาใส่กระโปรงหญ้าที่ทำจากใบมะเดื่อ ด้านในแซมด้วยใบไม้ยักษ์สีเขียว และตรงกลางของกระโปรงมีเมเปิ้ลสีแดงเย็บติดอยู่ ทำให้กระโปรงดูมีสีสันพาให้รู้สึกเพลินตา
กระโปรงหญ้า?
สิ่งที่เจมส์พูดเล่นวันนั้น … ไม่อยากเชื่อว่าจะเอามาใช้จริง ๆ ! ผู้ชายคนนี้!
หลินซีเหวินเบ้ปาก “พี่ลั่วพี่หยิกฉันหน่อยได้ไหม ฉันกำลังดูอะไรอยู่?”
ลั่วหานฝืนยิ้ม “งานแต่งงานที่ไม่เหมือนใคร จุดเด่นก็คือความไม่เหมือนใคร ถ้าไม่มีจุดเด่นเธอจะจำวันนี้ไปทั้งชีวิตได้อย่างไร”
หลินซีเหวินแสดงออกอย่างชัดเจนว่า เธอไม่ยอมรับคำอธิบายนี้!
หลงจื๋อยืนรออยู่ตรงแท่นพิธี และทันทีที่เขาเห็นหลินซีเหวินความลำบากใจทั้งหมดก็หายไป ราวกับว่ามีเมฆยามอาทิตย์อัสดงพัดผ่านมายังเขา ทำให้ลมหายใจและการเต้นของหัวใจของเขาหยุดลง
เจมส์เงยหน้าขึ้น แล้วพูดอย่างได้ใจ “เป็นยังไงบ้าง? น่าทึ่งใช่ไหม”
กู้เยนเซินมองไปรอบตัว ไป๋เวยไม่ได้อยู่แถวนี้แล้ว “ ก็ …พอใช้ได้”
ไม่คาดคิดเลยว่าหลังจากที่เจมส์ทำเรื่องร้ายแรงกับหลงจื๋อไปเช่นนั้น เขาจะสามารถทำให้ทุกคนประหลาดใจได้อีก
เจมส์เม้มริมฝีปาก มองออกไปนอกหน้าต่างด้วยดวงตาสีฟ้า ยังไม่ถึงเวลาเฉิดฉายของเขา!
หลินซีเหวินพยายามรักษาจังหวะก้าวเดิน เธอพยายามไม่ร้องไห้เพราะการปรากฏตัวของหลงจื๋อ เธอก้าวเข้าไปหาเขาภายในรวดเดียว
ลั่วหานกลับไปยังที่นั่งสำหรับแขก มือของเธอถูกหลงเซียวคว้าไปกุมไว้ทันทีที่เธอนั่งลง
ผู้มาใหม่ก้าวขึ้นไปหน้าแท่นพิธี โดยมีบาทหลวงที่ถือ”พระคัมภีร์”รอพวกเขาอยู่อีกด้าน หลงจื๋อแทบรอไม่ไหวที่จะจับมือของหลินซีเหวิน “ซีเหวิน คุณสวยมาก”
หลินซีเหวินขำ “คุณ…ก็ไม่เลวเหมือนกัน”
“ใช่เหรอ? พี่ชายใหญ่ก็คิดว่าไม่เลวเหมือนกัน”
หลินซีเหวินอยากกระอักเลือด ท่านเซียวคุณตั้งใจหลอกน้องชายตัวเอง!
หยวนชูเฟินมองดูทั้งคู่แลกแหวนอย่างซาบซึ้ง น้ำตาพรั่งพรูออกมาอย่างช่วยไม่ได้
เสี่ยวจื๋อเรียกเธอว่าแม่นานกว่ายี่สิบปี แม้ว่าทั้งสองจะไม่ได้มีความสัมพันธ์กันทางสายเลือด แต่การที่พวกเขาได้อาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน ได้ผูกสายสัมพันธ์ของพวกเขาไว้ และไม่มีใครสามารถลบล้างมันได้
ในขณะนี้ หยวนชูเฟินตระหนักว่า ที่จริงเธอถือว่าเสี่ยวจื๋อเป็นลูกของตัวเองตั้งแต่แรกแล้ว เมื่อเห็นเขาสร้างครอบครัวของตัวเอง เธอก็อดที่จะรู้สึกยินดีด้วยไม่ได้
หลงจื๋อมองลงจากแท่นพิธี ดวงตาของเขาจ้องมองไปยังหลงเซียว ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาปรากฏรอยยิ้มอันแสนบริสุทธิ์ราวกับเด็กแรกเกิด
เขาจะจดจำช่วงเวลานี้ และจะไม่มีวันหันหลังให้กับคนใกล้ตัวเหล่านี้ คนที่คอยอยู่เคียงข้างเขา
หลงเซียวพยักหน้า และยิ้มกลับ
บรรยากาศโดยรวมของงานแต่งงานเป็นไปอย่างผ่อนคลายและมีความสุข ความตึงเครียดได้คลี่คลายลงไปในชั่วพริบตา!
เมื่อบาทหลวงประกาศว่าทั้งสองกลายเป็นสามีภรรยากันตามกฎหมาย เจ้าบ่าวจูบเจ้าสาวได้ ทันใดนั้นก็มีเสียงระฆังและกลองดังขึ้นด้านนอก
หลงจื๋อขยับเข้าใกล้หลินซีเหวิน ริมฝีปากของเขายังทันไม่ได้สัมผัสเธอ ทั้งสองก็ต้องตกตะลึงกับการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ ยังไม่ทันที่พวกเขาจะบอกได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทีมเต้นรำประมาณยี่สิบคนก็กรูกันเข้ามา
ชุดที่พวกเขาใส่คล้ายกับหลงจื๋อ กระโปรงที่ทำจากหญ้าทั้งหมด ผ้าโพกศีรษะที่ประดับขนนก บนใบหน้าของทุกคนทาด้วยสีน้ำมันสดใส มีกลองของชาวแอฟริกันที่แขวนอยู่ที่เอว พวกเขาตีกลองด้วยความครึกครื้น และบางครั้งก็กรีดร้องเสียงแปลก ๆ
“อะไรกันอีกละเนี่ย”
“ฉันสงสัยว่าฉันข้ามไปแอฟริกาแล้ว”
“งานแต่งงานออกแบบโดยเจมส์ ผมไม่แปลกใจ แต่ใครก็ได้บอกผมทีว่า ไม่มีใครเตือนเขาก่อนหน้านี้เลยหรือไง”
“ฮ่า ๆ สนุกสุด ๆ! โดดเด่นมาก! สร้างสรรค์มาก!”
วงดนตรีเข้ามาร้องเพลงและเต้นรำไปรอบ ๆ ห้องโถงของโบสถ์เพื่อหาเงิน ฟังความหมายของเพลงที่พวกเขาขับร้องไม่ออกเลยสักคำ แต่กลับสร้างบรรยากาศอันแสนคึกคักให้กับผู้เข้าร่วมงานด้านล่าง แขกทั้งหมดอดไม่ได้ที่จะเต้นไปพร้อมกับพวกเขา
ลั่วหานยิ้มแห้ง “หลงเซียว ฉากแต่งงานที่เจมส์อธิบายให้เราฟังนั้น ทั้งหมดไม่ใช่เรื่องจริง พวกเราถูกหลอก”
หลงเซียวยิ้มและตอบกลับ “แบบนี้ไม่ดีเหรอ ใกล้ชิดกับธรรมชาติ และเป็นอิสระ เข้ากับนิสัยของเสี่ยวจื๋อดี เขาอยู่ในกรอบมานานเกินไปแล้ว สมควรได้รับการปลดปล่อย”
ลั่วหานตกตะลึง “คุณคิดว่ามันดีจริงหรือ!”
“ลั่วหาน คุณไม่คิดว่างานแต่งนี้ มีความงดงามและโดดเด่นบ้างเลยหรือ ”
“…งดงาม…โดดเด่น อ่า ใช่สิ!”
วงดนตรีเดินเข้ามาในงาน เปลี่ยนบรรยากาศจากงานแต่งงานที่จริงจังให้กลายเป็นเวทีพื้นเมืองแอฟริกันที่ครื้นเครง แขกที่มาล้วนเป็นคนกันเอง ทุกคนรวมตัวกันบนเวทีอย่างรวดเร็ว และโยกไปมาตามจังหวะกลอง
เมื่อหลงจื๋อเรียกสติกลับมาได้ เขาก็คว้ามือหลินซีเหวินพาเธอกระโดดขึ้นไปบนฟลอร์เต้นรำ ชนพื้นเมือง และเจ้าหญิง ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเกิดเป็นภาพที่น่ารักอย่างมาก
ส้งชิงเซวี๋ยนลูบเคราของเขา และยิ้มอย่างเปิดเผย “ฉันไม่รังเกียจที่จะเข้าร่วมงานแต่งงานแบบนี้อีก”
ลั่วหานส่งสายตาให้เขา “ลุงส้ง ทุกคนกำลังเต้นรำอยู่ คุณไม่หาคู่เต้นรำหรือ?”
ใบหน้าชราของส้งชิงเซวี๋ยนเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ “ฮ่า ๆ อายุปูนนี้แล้ว จะเต้นอะไรอีก อีกอย่างลุงเต้นไม่เป็น”
หลงเซียวเงียบฟัง แต่เขากลับไม่พูดอะไร นิ้วของเขาถูกลั่วหานบีบไว้ แรงบีบก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
หยวนชูเฟินกระเซ้า “ฉันจำได้ว่าเมื่อก่อนคุณเต้นเก่งมาก กับแค่จังหวะพื้นฐานซุมบ้าสี่จังหวะ คุณทำได้ดีเลยไม่ใช่เหรอ?
ส้งชิงเซวี๋ยนม้วนอาย เสียงของกลุ่มคนดังขึ้นข้างหลังเขา แต่คนตรงหน้ากลับนิ่งเงียบ “ผม…ผมไม่ได้เต้นมาหลายปีแล้ว คุณ…คุณจะสอนผมได้ไหม ?”