ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 952
ตอนที่ 952 พี่คุ้มครองเธอ
ชายหญิงที่ยังไม่แต่งงานไปสนุกสนานกันอย่างเต็มที่ที่ผับ ผู้ที่แต่งงานแล้วแสดงการปฏิเสธ ลั่วหานกับหลงเซียวก็ถือโอกาสบอกลาในตอนที่ไป๋เวยจากไปเช่นเดียวกัน
เกาจิ่งอานมองดูพี่ใหญ่จากไปด้วยน้ำตา บ่นด้วยความปวดร้าวหัวใจ “พี่ใหญ่ พี่ก็จะจากผมไปแบบนี้อีกครั้งแล้วหรอ? ผมให้โอกาสพี่ในการชดเชยให้กับผมได้อีกหนึ่งครั้ง พี่ไม่เอาจริงๆๆๆหรอ?”
ด้านข้างหากมีต้นไม้อยู่ต้นหนึ่ง เกาจิ่งอานจะต้องกอดขึ้นไปโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อยอย่างแน่นอน
บาดแผลภายในจิตใจไม่มีทางสมานได้แล้ว เจ็บ…
โจวโร่หลินมือกุมหน้าอย่างหมดคำพูด เธออยากจะถีบเข้าไปมากจริงๆ!ให้เขามีสติขึ้นมา!
สารภาพกับผู้ชายคนหนึ่งอย่างเป็นสาธารณะต่อหน้าแฟนสาวหรอ? รังเกียจว่าตัวเองมีชีวิตอยู่นานเกินไป?
เพื่อเห็นแก่หน้าผู้ชายของตนเอง เธออดทนแล้ว!
เจมส์คนต่างชาติไม่สามารถรับการกระทำที่บ้าคลั่งไร้สติปัญญาของเกาจิ่งอานได้โดยสมบูรณ์แบบ ออกจากงานแต่งงานไปอย่างสง่างามแต่เพียงผู้เดียว เดินไปทางแสงจันทร์ในยามค่ำคืนที่งดงาม
ว่ากันว่า ฤดูหนาวของเมืองหลวงหนาวมากจริงๆ อุณหภูมิไม่ได้หลอกลวง!
คนเดียวโดดเดี่ยวในกลางดึก เดียวดายไร้เพื่อนร่วมทาง ลมหนาวลอดเข้าไปตามปกคอเสื้อ ลำคอเย็นซู่ นอกจากร่างกายหนาว ในใจก็สั่นด้วยความหนาวตามด้วยเช่นเดียวกัน
เจมส์กระชับปกคอของเสื้อกันลมให้แน่น มือทั้งสองข้างสอดเข้าไปที่กระเป๋าเสื้อ โซเซอย่างเชื่องช้าไร้จุดหมายไปตามเส้นทาง
เงยหน้าขึ้น แสงจันทร์บนฟ้าได้จะขึ้นไปถึงทางทิศใต้ตรงแล้ว เที่ยงคืนใกล้จะมาถึง นอกชานเมืองเงียบจนมีเพียงแค่เสียงลมซู่ๆ เงาภายใต้แสงไฟถนนลากยาว หดสั้น รวมกันกลายเป็นหนึ่งวงสีดำ
เจมส์ยืนอยู่ใต้ไฟถนนแผงโซล่าเซลล์ต้นหนึ่ง พอหายใจลมหายใจก็มีควันสีขาวกลุ่มใหญ่ๆ บรรยากาศสามารถอธิบายได้ว่าโดดเดี่ยวเงียบเหงาหนาวเหน็บจริงๆ
…
หลงเซียวและลั่วหานขับรถจากโบสถ์มุ่งไปทางบ้าน รถของทั้งสองคนผ่านทางแยกที่อยู่ด้านหน้า มองเห็นเจมส์ที่สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวที่ข้างถนนพอดี
เจมส์เข้าใกล้ทางฝั่งที่นั่งด้านข้างคนขับทางนี้พอดี ลั่วหานมองเห็นเขาอย่างง่ายดาย
เงาร่างที่ผอมสูง โครงกระดูกสูงโดดที่ชาวต่างชาติพึงมีโดยเฉพาะ ออร่าชาววังสง่างามที่เป็นธรรมชาติ ต่อให้เดินอยู่ข้างถนนใหญ่ที่แม้แต่พันธุ์ไม้ตกแต่งก็ยังไม่มี ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อออร่าที่สูงศักดิ์ของเขา
ทว่าแผ่นหลังนี้ เงียบเหงาหดหู่ขนาดนั้นอย่างเห็นได้ชัด ราวกับของล้ำค่าอันเป็นที่รักอะไรสูญหายไป ค้นหาตามทางอย่างละเอียดกลับหาไม่พบ
ความคิดกลับไปยังฉากนั้นที่หิ่งห้อยกระจายออก ลั่วหานลดระดับหน้าต่างรถลงโดยไม่รู้ตัว
หลงเซียวก็เห็นเจมส์ไปด้วย ผ่านวันนี้ท่าทีที่หลงเซียวมีต่อเจมส์มีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน อย่างน้อยสามารถแน่ใจได้ว่า ความรู้สึกที่เจมส์มีต่อลั่วลั่วไม่ใช่อารมณ์ชั่ววูบในแบบล้อเล่น แต่เป็นคิดจะชอบจากใจจริงๆ
คิดไม่ถึงว่าแม้กระทั่งความหึงก็ยังลดอ่อนลง
“ถนนสายนี้ไม่สะดวกที่จะเรียกรถ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นตอนกลางคืน คุณลองถามเขาหน่อยก็ได้ว่าจะกลับไปด้วยกันหรือเปล่า”
สิ่งที่ตามมาหลังจากหน้าต่างรถเปิดออก เสียงของหลงเซียวเอ่ยเตือนขึ้นอย่างอ่อนโยน
ลั่วหานใบหน้ายินดี “ฉันก็คิดแบบนี้เหมือนกันค่ะ”
หลังจากที่หน้าต่างรถเปิดออก ลมเย็นก็เต็มตัวรถอย่างไม่เกรงใจเลยแม้แต่น้อย ลั่วหานยื่นศีรษะออกไป ลมพัดจนผมเผ้ายุ่งเหยิงไม่เป็นทรง “เจมส์ ไฮ!ทางนี้ค่ะ!”
เจมส์หันกลับไปในทันที มองเห็นใบหน้าที่อยู่นอกหน้าต่างรถของลั่วหานอย่างกะทันหัน คงจะเป็นเพราะแสงในยามค่ำคืนงดงามมากจริงๆ ผลของแสงไฟที่สะท้อนดีมาก เขามองเห็นรูปโฉมที่งดงามสะดุดตาของลั่วหานอีกครั้ง
ใจสั่นไหวเพียงแค่หนึ่งวินาที ก็กลับมาเป็นนิ่งสงบอีกครั้งอย่างรวดเร็ว “ไฮ แอนน่า พวกคุณก็จะกลับบ้านเหมือนกัน?”
หลงเซียวจอดรถลง ลั่วหานเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตร “ใช่ค่ะ ขึ้นมาสิคะ กลับด้วยกัน”
ฝีก้าวของเจมส์ราวกับตั้งถิ่นฐานเอาไว้แล้ว จงใจยักไหล่อย่างโอเวอร์ เบ้ปากอย่างรังเกียจ “ผมไม่กลับ บ้านพวกคุณวิวดีเหมือนอย่างด้านนอกที่ไหน?”
ลั่วหานเอ่ยขึ้นในใจว่าคุณกำลังล้อเล่นอะไรกัน โกหกไม่พกสมองหรอ?
คิ้วงามของหลงเซียวยกสูงขึ้นเล็กน้อยอย่างอารมณ์ดี “เจ้าชายชอบชมทิวทัศน์ในยามค่ำคืน พวกเราก็ไม่รบกวนแล้ว ที่นี่ระยะห่างจากรีสอร์ทหยีจิ่งสี่สิบกิโล เจ้าชายค่อยๆเดิน ดูให้เต็มที่”
หลังของเจมส์แทบจะหักดังกร๊อบ ไกลขนาดนั้น!
แต่ว่า เป็นคนจะต้องมีความกล้าหาญ!เปลี่ยนคำพูดก็คือตบหน้าตัวเอง ยืนหยัดให้ตายก็ต้องยืนหยัดเอาไว้!
เจมส์เม้มริมฝีปากยิ้มอย่างงดงามสุดในแผ่นดิน ดวงตาสีฟ้าครามสะท้อนแสงจากไฟถนน สะท้อนกลับเป็นแสงไฟถนนสีเหลืองที่สว่างสดใส “แน่นอน!”
“เจมส์ คุณไม่เป็นไรใช่หรือเปล่า?”
ลั่วหานรับรู้โดยสัญชาตญาณว่าเจมส์ได้รับการกระตุ้นแล้ว เด็กนี้แปดสิบเปอร์เซ็นต์กำลังใส่อารมณ์
“ไม่เป็นไรหนิ ผมเป็นอะไร? รีบไป อย่ารบกวนการชมวิวของผม”
รถของหลงเซียวออกจากที่นั่นไปอย่างรวดเร็วตามแสงไฟถนน แสงไฟที่มืดสลัวดูเหมือนจะสามารถได้กลิ่นของฝุ่นดิน ไม่ช้าแสงไฟท้ายรถก็หายไปจากในสายตา พื้นถนนที่กว้างใหญ่รถคันหนึ่งก็ยังไม่มี เหลือเพียงแค่เจมส์ผู้เดียว
เจมส์ใจสั่นเล็กน้อย สี่สิบกิโล…สี่สิบกิโล!
เดินกลับไปขาคงจะขาดกระมัง?
เจมส์เดินด้วยเท้าประมาณสองกิโล ฟ้ายิ่งเย็นมากขึ้นเรื่อยๆ บริเวณโดยรอบยิ่งเงียบสงัด วิวไม่ได้เห็น มีเพียงลมที่เย็นขึ้นเรื่อยๆ
เจมส์ยิ่งเดินยิ่งหงุดหงิด ล้วงเอาโทรศัพท์มือถือออกมาเตรียมเรียกบอดี้การ์ดมารับ หลังจากปลดล็อคเห็นข้อความที่อิสซาส่งเข้ามา
“น้องชายสุดที่รัก ยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า?”
บนใบหน้าที่อ่อนเยาว์ของเจมส์เต็มไปด้วยความรู้สึกบนใบหน้าเล็กๆของการได้รับความไม่เป็นธรรม “พี่ ผมทุกข์ใจมาก เมื่อไรพี่จะกลับมาอยู่เป็นเพื่อนผม?”
ส่งข้อความเสร็จ เจมส์แจ้งบอดี้การ์ด “มารับฉัน”
“ครับ เจ้าชาย!”
เจมส์ส่งตำแหน่งที่ตั้งของตนเอง สะบัดเสื้อผ้าแล้วนั่งลงกับพื้นในทันที
“พี่อยู่ที่อิตาลีเจอเข้ากับของที่สนุกมาก รอพี่เล่นจนเอียนแล้วค่อยกลับไป เธอดูแลตัวเอง ว่านอนสอนง่าย แล้วก็ ห้ามร้องไห้”
เจมส์สูดจมูกเล็กน้อย
แม้กระทั่งพี่สาวสุดที่รักก็ยังทอดทิ้งเขา ชีวิตเขียนตัวอักษรใหญ่ๆว่าล้มเหลวเอาไว้จริงๆ!
…
มาถึงผับ ทุกคนเริ่มสั่งเหล้า ประกอบโต๊ะกันอย่างครื้นเครง เริ่มสนุกสนานกันอย่างเต็มที่
หลงจื๋อกับหลินซีเหวินแอบเดินเล่นออกมา ด้านนอกถนนเส้นหนึ่งของผับ เป็นคนละโลกกับนอกชานเมือง ที่นี่แม้ว่าถึงยังกลางดึก ก็ยังคงแสงไฟสว่างไสว ไฟนีออนที่ยาวเหยียดรวมกันกลายเป็นหลอดเลือดและระบบทางเดินเลือดของทั้งเมือง แสดงให้เห็นถึงความอ่อนเยาว์สดใสมีชีวิตชีวาของเมืองนี้
หลงจื๋อเปลี่ยนเป็นชุดของตัวเอง เหมือนกันกับหลินซีเหวิน สวมชุดเสื้อคลุมขนเป็ดบิ๊กไซส์ เท้าของหลินซีเหวินเหยียบอยู่บนรองเท้าบูทหิมะที่หนานุ่ม เดินเหยียบไปบนถนนพร้อมกันกับรองเท้าบูทแบบผูกเชือกของหลงจื๋อ
“เป็นครั้งแรกที่พบว่าค่ำคืนของเมืองหลวงสวยงามขนาดนี้!ดวงดาวสว่างไสวขนาดนี้!ดวงจันทร์กลมขนาดนี้!”
มือซ้ายของหลินซีเหวินถูกหลงจื๋อห่อไว้ในฝ่ามือ จากฝ่ามือถึงปลายผมต่างก็คือความร้อนเร่า
“อื้อ สวย!สว่าง!กลม!” หลงจื๋อซ้ำคำของหลินซีเหวินอย่างโง่ๆ ดวงตาทั้งสองข้างต่างก็ไม่ละจากเธอแม้แต่วินาที
หลินซีเหวินเดินกลับหลัง เงยหน้ายิ้มให้กับหลงจื๋อ “คุณว่า หากพ่อแม่ของฉันรู้ว่าเราแต่งงานกันแบบนี้แล้ว จะอยากฆ่าคุณหรือเปล่า?”
“ผมจะต่อต้านจนถึงที่สุด ไม่ให้ภรรยาที่เพิ่งจะเข้าบ้านอยู่เป็นหม้ายอย่างเด็ดขาด!หากผมกับพ่อคุณสู้กันขึ้นมา คุณช่วยผมหรือว่าท่าน?” หลงจื๋อเดินตรง สบตากับหลินซีเหวินที่เดินกลับหลังไปตลอดทาง
“ไร้สาระ แน่นอนว่าช่วยพ่อฉันสิ!มีเพียงแต่ให้ท่านเชื่อว่าฉันไม่ได้หักหลังท่าน ท่านถึงจะมีความเป็นไปได้ที่จะใจอ่อนตกลงให้พวกเราอยู่ด้วยกัน แต่ว่านะ หากท่านดื้อรั้น ฉันช่วยคุณ!”
มือของหลินซีเหวินใส่เข้าไปในกระเป๋าเสื้อ คลำเจอโทรศัพท์มือถือ
สายที่ไม่ได้รับบนโทรศัพท์มือถือแทบจะระเบิดหน้าจอแล้ว เรื่องที่หลงจื๋อกังวลเป็นไปได้อย่างมากที่จะเกิดขึ้น
เหมือนกันกับหลินซีเหวิน บนโทรศัพท์มือถือของหลงจื๋อก็มีสายที่ไม่ได้รับมากมายเช่นเดียวกัน ของพ่อ ของคุณนายหลิน ของหลินเหว่ยเย่
ท่าทีของพวกเขาแค่คิดก็รู้
หลงจื๋อหยุดฝีก้าวลง โน้มตัวลงมองดูหลินซีเหวินที่ใบหน้าแดงไม่รู้ว่าเพราะหนาวหรือว่าเขินอาย “ที่รัก ไม่ว่าพ่อแม่ของคุณจะมีท่าทียังไง พวกเราก็ไม่อาจจะยอมแพ้ได้ รู้ไหม?”
หลินซีเหวินพยักหน้าเชื่อฟังอย่างเป็นสาวน้อย “ไม่ทอดทิ้ง!ไม่ยอมแพ้!”
ทั้งสองคนเดินเตร่ไปเรื่อยๆ ด้านหน้าบริเวณไม่ไกลมีแผงบาร์บีคิวร้านหนึ่ง คนที่ทานอาหารยามดึกเป็นกลุ่มๆถือเนื้อแพะย่างทาน
กลิ่นหอมของเนื้อย่างพัดตามทางของลมลอยเข้ามาในจมูก กลิ่นหอมของเนื้อและผงยี่หร่าดึงดูดจนความอยากอาหารกระชุ่มกระชวยเต็มที่
“ที่รัก เราไปทานบาร์บีคิวกันเถอะค่ะ!ฉันอยากทานข้าวโพดย่างเนื้อย่างเห็ดหอมย่าง!แล้วก็ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำทางนั้นดูเหมือนก็น่าทานมากๆเลย!” หลินซีเหวินลากไปลากมาก็วิ่งอย่างไม่อนุญาตให้ได้พูด
ทีท่านั้นไม่เหมือนกับไปทานบาร์บีคิว เหมือนมองเห็นวิวทิวทัศน์อะไรที่งามสุดยอดหากพลาดไปก็ไม่มีทางกลับมาอีกยิ่งกว่า
“ผมก็หิวแล้วเหมือนกัน!ไปทานให้เต็มที่สักมื้อ!”
หลังจากที่งานแต่งจบลง บรรดาแขกมีบุฟเฟต์อาหารฝรั่งที่อุดมสมบูรณ์หลากสีสัน แต่คู่บ่าวสาวไม่ค่อยได้ทานเท่าไร กระทำซ้ำไปซ้ำมาจนถึงกลางดึกอาหารที่กักตุนไว้ภายในท้องก็ได้ย่อยสลายไปหมดตั้งนานแล้ว
คุณลุงวัยกลางคนเช็ดโต๊ะให้พวกเขานั่งอย่างเป็นมิตรมาก “มาแล้วหรอ!วันนี้อยากทานอะไรครับ?”
หลินซีเหวินเลียปากเล็กน้อย “คุณพ่อ เนื้อแพะห้าสิบไม้!หัวใจไก่ยี่สิบ!ปีกไก่มาอีกยี่สิบ!เบียร์สิบกระป๋อง อุณหภูมิห้องค่ะ!”
หลงจื๋ออึ้งไปเลย!
“คุณทานหมดหรอ?”
หลินซีเหวินตบหน้าอกเบาๆ “วางใจเถอะค่ะ!พลังในการต่อสู้ของฉันไม่ใช่ของปลอม!”
อีกทั้ง ทำไมเถ้าแก่มีท่าทีที่คุ้นเคยมาก?
เถ้าแก่เอ่ยขึ้นมาก่อน “เธอคือแขกประจำของผมที่นี่ แม่หนูน้อยอย่าเห็นว่าผอม ความอยากอาหารน่ะดีมากเลยนะ!”
หลงจื๋อแอบเลื่อมใสอย่างเงียบๆ “ที่รัก…คุณมาบ่อย?”
หลินซีเหวินยิ้มจนตาหยี
เถ้าแก่เบิกตาโพลงขึ้นอย่างตกใจ “อัยยะ แม่หนูแต่งงานแล้วหรอ!แต่งเมื่อไรกัน?”
หลินซีเหวินชูมือที่ไขว้เข้าหากันของทั้งสองคนขึ้น “วันนี้ค่ะ!”
“ยินดีด้วยๆ!แม่หนูวันนี้แต่งงาน ที่ดื่มที่ทานทุกอย่างผมเลี้ยงเอง ขอให้แม่หนูกับคุณผู้ชายอยู่ด้วยกันไปจนแก่จนเฒ่า สามัคคีรู้ใจกันตลอดไป!” เถ้าแก่จดที่หลินซีเหวินสั่งอย่างเริงร่า ทั้งยังเป็นฝ่ายเพิ่มของกินเล่นที่ชุ่มคอให้กับเธอก่อนอีก
ไม่รู้สึกเลยแม้แต่น้อยว่าแต่งงานกันวันแรกก็ออกมากินบาร์บีคิวมีอะไรไม่ถูก
หลงจื๋อมองหลินซีเหวินราวกับมองมนุษย์ต่างดาวแล้ว “ที่รัก คุณอยู่ที่เมืองหลวงทานได้ขนาดนี้?”
แม้กระทั่งคนขายแผงลอยก็ยังรู้จัก? จะต้องเห็นหน้ากี่ครั้งกัน?
หลินซีเหวินประคองใบหน้าทำท่าน่ารัก “ใช่สิคะ!ฉันน่ะเป็นควีนตลาดโต้รุ่งระดับเทพ ต่อไปอยู่กับพี่กินดีอยู่ดี พี่คุ้มครองเธอ!”
หลงจื๋อปากกระตุกขึ้นหนึ่งที “สาวบ้านนอก ไม่กลัววันนี้ปวดท้อง?”
“แค่กๆ!ทาน!ทาน!ทาน!อย่าใส่ใจกับเรื่องที่มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดน้อยมาก”
หลินซีเหวินกินเนื้อแพะย่างคำโต โทรศัพท์มือถือก็สั่นขึ้นอีกครั้ง
โทรศัพท์มือถือของหลงจื๋อก็ดังขึ้นห่างจากเธอไม่กี่วินาที
หลินซีเหวินเนื้อเต็มปาก แก้มทางด้านซ้ายกลมดิ๊ก “สายจากแด๊ดดี้ฉัน”
หลงจื๋อเลียคราบน้ำมันบนริมฝีปากเล็กน้อย “พ่อผม”
หลินซีเหวินแกว่งโทรศัพท์มือถือไปมา “ดังนั้น?”
หลงจื๋อยักไหล่ กดค้างปุ่มปิดเครื่องที่อยู่ทางด้านขวา “ดังนั้น…”
หลินซีเหวินฮ่าๆๆ “หล่อขั้นเทพเลยผู้ชายของฉัน!”
จากนั้น หลินซีเหวินก็ปิดเครื่องเช่นเดียวกัน
“หล่อขั้นเทพเลยผู้หญิงของผม!”
แขนของหลงจื๋อโอบกอดหลินซีเหวิน ม้วนเข้าไปในผ้าห่มที่นุ่มลื่นภายใต้แสงจันทร์
เรื่องใหญ่คับฟ้าหลังฟ้าสว่างค่อยว่ากัน วันแต่งงานของเธอ ไม่ให้ใครหน้าไหนรบกวนเป็นอันขาด!ใครหน้าไหนก็ไม่ได้!