ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 956
ตอนที่ 956 ร้องขออ้อมกอด
ระเบียงทางเดินของโรงพยาบาลทยอยกันวิพากษ์วิจารณ์ หมอและพยาบาลที่เดินผ่านไปผ่านมาต่างก็ตั้งใจทำฝีก้าวให้ช้าลงชะโงกศีรษะชะโงกหน้าไปทางด้านใน
“เธอคือใครอ่ะ? ทำไมถึงยังอยู่ข้างใน?”
“ดูเหมือนจะเป็นคุณแม่ของหมอหลิน ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรกันขึ้น”
“แต่ว่าหมอฉู่ก็ไม่อยู่นะ เธอรอใครล่ะ?”
ลั่วหานกับลู่ซวงซวงเดินออกมาจากลิฟต์พร้อมกัน มองเห็นคนจำนวนไม่น้อยอยู่ที่หน้าประตูห้องทำงานของเธอ ยังมีคนคิดอยากจะลองเปิดประตูดูให้ชัดเจนด้วยซ้ำ
ลู่ซวงซวงเกี่ยวผมทัดไว้ที่ข้างหลังใบหูอย่างมั่นใจในตัวเอง “ส่งต่อให้ฉันเถอะ รับประกันทำให้ท่านออกจากห้องทำงานของเธอไปอย่างเชื่อฟังภายในสิบนาที”
ลั่วหานลูบศีรษะลู่ซวงซวงสองสามทีอย่างเอ็นดู “ฉันให้เธอสิบห้านาที”
ลู่ซวงซวงแหงนคอส่งสายตาหวานให้กับลั่วหาน “ความรักที่เธอมีต่อฉันคือรักแท้จริงๆด้วย รักเธอๆ!”
ลั่วหานถือถ้วยน้ำชาไปเข้าเวรที่แผนกผู้ป่วยนอก ลู่ซวงซวงเดินวางมาดผ่านหมอและพยาบาลที่ยืนดูกันด้วยความสนุกสนาน ส่งยิ้มเล็กน้อยเผยฟันที่ขาวสะอาดให้กับเหล่าผู้ชม “ท่านทั้งหลายไม่ยุ่งหรอคะ?”
หมอที่ไม่รู้จักเธอสองสามคนมองสังเกตเธอ ในใจคิดว่าคงจะไม่ใช่มาหาเรื่องอีกหรอกมั้ง?
ลู่ซวงซวงกระพริบดวงตาที่น่ารักปริบๆสองสามที “เลิกดูเพื่อความสนุกกันได้แล้วค่ะนางฟ้าชุดขาวที่น่ารักทั้งหลาย อีกสักพักหมอฉู่ผู้เก่งกาจของพวกคุณก็จะกลับมาแล้ว!”
ในขณะที่พูดก็ผลักประตูเดินเข้าไปในห้องทำงาน
คุณนายหลินเงยศีรษะขึ้นอย่างเกียจคร้าน ที่มองเห็นคือใบหน้าที่แปลกหน้าใบหน้าหนึ่ง “เธอเป็นใคร?”
ลู่ซวงซวงไม่พูดไม่จา หยิบจับข้าวของที่อยู่บนโต๊ะราวกับเจ้าของก็ไม่ปาน ทานนี้เล่นนิด ทางนั้นขยับหน่อย “แล้วคุณป้าเป็นใครหรอคะ?”
คุณนายหลินถูกเธอเรียกจนหัวคิ้วขมวดเข้าหากันแน่น “ฉันเป็นใครไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเธอ ฉู่ลั่วหานล่ะ?”
ลู่ซวงซวงตบมือเพี๊ยะๆ “โอ๊ยบังเอิญจังค่ะ ฉันก็หาเธอเหมือนกัน ขอแนะนำตัวสักหน่อย ฉันคือเพื่อนซี้ของลั่วลั่ว ลู่ซวงซวง ดีไซน์เนอร์ออกแบบเสื้อผ้าค่ะ!”
ลู่ซวงซวงที่แต่งตัวทันสมัยยื่นมือแบออก นิ้วมือทั้งห้าต่างก็ทำเล็บคริสตัลที่วิจิตรบรรจง ไม่เหมือนกันกับนิ้วมือที่ขาวใสและเล็บมือที่สะอาดสุขภาพดีของหมอเลยแม้แต่น้อย
คุณนายหลินกวาดตามองดูอย่างรังเกียจ ไม่ได้ใส่ใจกับสถานะของเธอ ยิ่งไม่ได้ใส่ใจกับอาชีพของเธอ
“อ้อ”
ลู่ซวงซวงไม่นั่งเก้าอี้ กระโดดทีหนึ่งนั่งลงบนโต๊ะ “คุณป้า คุณหาลั่วลั่วของเรามีธุระอะไรหรอคะ? อ๋อ ใช่ คุณเป็นญาติผู้ป่วยสินะ? บ้านคุณใครป่วย? อาการหนักหรือเปล่า? อ๋อ ใช่ ผู้ป่วยของลั่วลั่วต่างก็คือใกล้จะเสียแล้วแบบนั้น โอ๊ยขอโทษนะคะ คุณจะต้องทุกข์ใจมากอย่างแน่นอนเลยล่ะสิ? ร้องไห้แล้วหรอคะ? เอากระดาษทิชชู่หรือเปล่า?”
คุณนายหลินกลอกตามองบนใส่เธออย่างรังเกียจ เคลื่อนย้ายตำแหน่งออกไปสิบกว่าเซนติเมตรด้วยความรังเกียจอย่างไร้ขีดจำกัด เว้นระยะห่างเป็นอย่างมากกับลู่ซวงซวง “ไม่ใช่!”
ลู่ซวงซวงกอดหุ่นเครื่องในของคนเอาไว้แกะลำไส้อะไรเหล่านั้นที่อยู่ด้านบน นิ้วชี้จงใจอยู่ที่ลำไส้ใหญ่ ลูบไปลูบมาอยู่ที่ระบบย่อยอาหารทางนั้น
คุณนายหลินความอยากอาหารต่ำ ถูกรสชาติจัดของลู่ซวงซวงกระตุ้นจนกลืนลงคอแบบแห้งๆหลายที เบือนหน้าหนีไปทางอื่นไม่มองอีก
ลู่ซวงซวงเหลือบมองนาฬิกาแขวนแวบหนึ่ง นาฬิกาปลุกของโทรศัพท์มือถือดังขึ้นภายในเวลาที่กำหนดแล้ว
“ลั่วลั่ว!ในที่สุดเธอก็โทรกลับมาหาฉันแล้ว!เธอไปไหนแล้วน่ะรีบกลับมา!มีคุณป้าคนหนึ่งกำลังหาเธออยู่นะ!”
เสียงที่ลู่ซวงซวงร้องดังมาก ท่าทางยิ่งโอเวอร์
ดวงตาของคุณนายหลินก็เป็นประกายขึ้นตามเช่นเดียวกัน ศีรษะหมุนไปทางเธอในทันที
“หา?!อุบัติเหตุทางท้องถนน? เธอไม่เป็นไรใช่หรือเปล่า? อยู่ที่ไหนน่ะ? ฉันไปรับเธอ!” ลู่ซวงซวงตะโกนร้องเสียงดังด้วยความร้อนรน น้ำเสียงสีหน้าต่างก็เต็มที่เป็นอย่างมาก
คุณนายหลินขมวดคิ้วขึ้น อุบัติเหตุทางรถยนต์?
ลู่ซวงซวงวิ่งกลับมาอย่างลนลานอีกครั้ง เปิดลิ้นชักออกพรืด “อ๋อ!หาเจอแล้ว ยารักษาโรคหัวใจ!ฉันไปเดี๋ยวนี้!ลั่วลั่วเธออย่าลน อย่ากลัว ไม่ต้องกลัว!”
รีบร้อนวางสายโทรศัพท์ลง ลู่ซวงซวงปิดลิ้นชักอย่างยุ่งวุ่นวาย มือไม่ทันระวังลื่น ขวดยาสีขาวหล่นตุ้บ
ตกลงที่ข้างปลายเท้าของคุณนายหลินพอดี คุณนายหลินก้มศีรษะลงมองเห็นตัวอักษรที่อยู่ด้านบน เป็นยารักษาอาการโรคหัวใจจริงๆ
“คุณป้า !รบกวนช่วยฉันหยิบขึ้นมาหน่อยค่ะ!ช่วยชีวิตคนรอไม่ได้!ลั่วลั่วอยู่บนทางด่วนวงแหวนนะคะ!”
ดวงตาของคุณนายหลินสะท้อนความสงสัย เก็บขวดยาขึ้นมาให้กับเธอ “ฉู่ลั่วหานอยู่บนทางด่วน?”
ก่อนหน้านี้สองชั่วโมงเธอยังเข้าเวรอยู่ที่โรงพยาบาล ไปที่นั่นได้ยังไงกัน? คุณนายหลินมึนงง
“ใช่สิคะ อุบัติเหตุทางรถยนต์!โอ๊ยไม่พูดกับคุณแล้ว คุณป้า คุณตามสบายเถอะ ฉันจะไปหาลั่วลั่วของฉันแล้ว!ตอนที่คุณไปถือโอกาสล็อคประตูให้กับเธอด้วย!ในห้องต่างก็เป็นเอกสารผู้ป่วยอะไรเหล่านั้น!ลาก่อนค่ะ!” ลู่ซวงซวงพอยกขาก็วิ่งออกไปด้วยความร้อนรนสุดขีด
ตึกๆๆๆ ครู่เดียวก็ไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าแล้ว
คุณนายหลินนั่งเหม่อลอยอยู่กับที่ ฉู่ลั่วหานเกิดเรื่องแล้ว? เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์บนทางด่วน?
เรื่องเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ระดับความน่าเชื่อถือก็ไม่สูง แต่เด็กผู้หญิงเมื่อสักครู่นี้ดูไม่เหมือนว่าเป็นการแกล้งทำ บางทีฉู่ลั่วหานอาจจะมีอันตรายจริงๆ
ตอนที่กำลังสองจิตสองใจอยู่นั้น ระเบียงทางเดินอยู่ๆสะท้อนเสียงร้องของพยาบาลดังขึ้น “อุบัติเหตุเร่งด่วน!รีบไปห้องฉุกเฉิน!ไว แผนกศัลยกรรมหัวใจไปที่ห้องฉุกเฉิน!”
จากนั้นก็คือฝีเท้าที่เร่งรีบของคนทั้งหลาย
หรือว่าจะคือเรื่องจริง?
คุณนายหลินถือกระเป๋าขึ้น เดินออกนอกประตูอย่างหยั่งเชิง เงาร่างที่วิ่งอย่างรวดเร็วของหมอและพยาบาลผ่านไปอย่างรวดเร็วราวกับพายุลมกรดก็ไม่ปานต่อหน้าของเธอ
เธอไม่ทันจะคว้าสักคนมาสอบถาม คนทั้งหมดก็วิ่งจนไร้เงาแล้ว
…
“ฮ่าๆๆ!ทักษะทางการแสดงของเพื่อนซี้เธอไม่เลวป่ะ!แม่ของหมอหลินไปแล้ว!”
ลู่ซวงซวงนั่งอยู่ที่ห้องพักดื่มชาและกาแฟส่งวีแชทแสดงความอวดเก่งให้กับลั่วหาน แนบอิโมติคอนเล็กๆแลบลิ้นออกมา
ลั่วหานวินิจฉัยคนไข้เสร็จ มองเห็นเนื้อหาก็เผยรอยยิ้มออกมา “มีความสามารถอยู่บ้าง กดไลค์!”
ลู่ซวงซวงแกว่งปลายเท้าไปมาสไตล์ฮีโร่ผู้มีคุณูปการ กดน้ำดื่มอย่างไม่เกรงใจ “ต่อไปใครพูดว่าฉันทำอะไรไม่สำเร็จกลับทำให้เรื่องแย่ลงเสียด้วยซ้ำอีก ฉันก็จะโมโหกับคนนั้น!ฮึ!”
ลั่วหานถูกกั้นด้วยหน้าจอโทรศัพท์ก็ยังสามารถรู้สึกได้ถึงความขุ่นเคืองของลู่ซวงซวง ยัยคนนี้ก็จริงๆเลย เมื่อก่อนเกิดเรื่องไม่น้อย เรียกได้ว่าเป็นตัวก่อเรื่อง เธอเพียงแค่ปรากฏตัว สิบครั้งมีแปดครั้งที่จะเกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันขึ้น
“ใช่ๆๆ เธอคือดาวโชคดีของฉัน!ตัวนำโชค!เห็นแก่ที่เธอช่วยฉัน ฉันจะแนบเซอร์ไพรส์เล็กๆให้กับเธอหนึ่งอย่าง”
“อะไรหรอ?”
ลู่ซวงซวงกดน้ำเสร็จ เพลิดเพลินกับการใช้ทั้งห้องน้ำชาคนเดียว ช่วงเวลานี้หมอทั้งหลายต่างก็ยุ่งมาก ไม่มีออกมาคุยเล่นดื่มชากัน ลู่ซวงซวงมองไปยังด้านนอกหน้าต่างอย่างสบายๆเป็นตัวของตัวเอง มองดูเครื่องเรือน ปากพึมพำเบาๆ “จุ๊ๆๆ โรงพยาบาลหวาเซี่ยมีเงินจัง ห้องน้ำชาตกแต่งจนราวกับร้านอาหารฝรั่งระดับไฮเอนด์ยังไงอย่างงั้น”
“ไม่ใช่แค่มีเงิน หมอที่อยู่ที่นี่ก็ยังหล่อมาก คนสวยโสดหรือเปล่าครับ? จะแนะนำให้กับคุณหนึ่งคน”
หวาเทียนได้รับข่าวจากลั่วหาน เพิ่งจะออกมาจากห้องผู้ป่วยก็บึ่งตรงมาที่ห้องน้ำชา เห็นลู่ซวงซวงจริงๆด้วย
“ฉันน่ะไม่…” ประโยคพูดออกมาแค่ครึ่งเดียว ลู่ซวงซวงหันกลับไปเห็นร่างกายสีขาวที่สูงใหญ่ของหวาเทียน บนคอของเขาแขวนเครื่องฟังตรวจเอาไว้ มือทั้งสองสอดเข้าไปด้านในกระเป๋าเสื้อสองข้าง ชุดกาวน์ตัวยาวสะอาดจนไร้ฝุ่นเกาะ ขายาวที่ยืดออกมาด้านล่างสองข้างถูกกางเกงสีดำห่อหุ้มเอาไว้ รองเท้าหนังที่มันวาวไขว้กัน
“ว้าว!!!อ๊าก!!!!ที่รักคุณมาแล้ว!ฉันคิดถึงคุณจะตายอยู่แล้ว!”
ลู่ซวงซวงทอดทิ้งแก้วน้ำกระโจนเข้าไปในอ้อมแขนของหวาเทียน แขวนอยู่บนคอของเขาราวกับโคอาล่ายังไงอย่างงั้น ความสูงของลู่ซวงซวงกับหวาเทียนเหลื่อมล้ำกันมาก หลังจากที่แขวนขึ้นไปเท้าทั้งสองข้างโดยมากลอยแล้ว
หวาเทียนใช้มือข้างเดียวถือเอวของเธอเอาไว้ ลูบไล้เส้นผมของเธอด้วยความรักใคร่ “กลับมาตั้งแต่เมื่อไรกัน?”
ลู่ซวงซวงมุ่ยปากอย่างน่ารักฉลาดหลักแหลม “หยุดพูดมาก จุ๊บฉันก่อน”
ด้านนอกห้องน้ำชามีพยาบาลเดินผ่าน มองมารอบๆด้านในอย่างสอดรู้สอดเห็น เห็นหมอหวาเทียนผู้หล่อเหลาคิดไม่ถึงว่าจะมีเจ้าของ!
หัวใจของพยาบาลเล็กๆทั้งหลายต่างก็ต้องแตกจนกลายเป็นเศษเล็กเศษน้อยแล้ว!
หวาเทียนลูบตรงเส้นผมของเธอ โน้มตัวลงจุ๊บริมฝีปากของเธอเล็กน้อย ริมฝีปากบนล่างแบ่งเป็นสองครั้ง “โอเคแล้วสิ?”
ลู่ซวงซวงมองเขาด้วยความพึงพอใจ “พูด ตอนที่ฉันไม่อยู่คิดถึงฉันหรือเปล่า? คิดถึงหรือไม่คิดถึง?”
หวาเทียนคำนวณเวลาอย่างเงียบๆ “ที่รัก คุณไปมิลานห้าวัน…” เท่านั้นเอง ไม่ใช่สิบวันครึ่งเดือน
“คิดถึงหรือไม่คิดถึงเล่า? พูดๆๆ!”
“คิดถึง คิดถึงมาหลายร้อยรอบ ในที่สุดก็เฝ้าหวังให้คุณกลับมาจนได้แล้ว” สายตาที่รักใคร่เอ็นดูของหวาเทียนสามารถทำให้ลู่ซวงซวงจมตายได้
ลู่ซวงซวงส่งจูบที่หอมหวานไปให้กับเขา”ฉันก็เหมือนกันค่ะ!”
ทั้งสองคนหวานเลี่ยนกันอยู่ครู่หนึ่งถึงกลับมาคุยถึงเรื่องที่เป็นทางการ
ลู่ซวงซวงนำเรื่องที่ตนเองช่วยลั่วหานไล่คนบอกกับหวาเทียนอย่างละเอียด ร้องขออ้อมกอดราวกับขอเครดิตก็ไม่ปาน
หวาเทียนกอดเธออีกครั้ง “คุณแม่ของหมอหลินหากรู้ว่าลูกสาวของท่านแต่งงานแล้วแบบไม่บอกไม่กล่าว คาดว่าคงจะโมโหตายเลยล่ะมั้ง”
“นั่นน่ะสิ! ออร่าของคุณป้าแข็งแกร่งมากเลยนะ แค่เห็นก็คือผู้หญิงแกร่ง แต่ว่านะ เพื่อนางฟ้าที่น่ารักของฉัน ฉันยินดีที่จะเสี่ยงอันตราย!” ลู่ซวงซวงตบหน้าอกเบาๆ
หวาเทียนเห็นด้วยอย่างเต็มที่ต่อความจงรักภักดีของแฟนสาวอย่างให้เกียรติเป็นอย่างมาก “คุณก็น่ารักเหมือนกัน!ดังนั้น นางฟ้าของคุณตั้งใจให้เวลาพักผ่อนกับผมโดยเฉพาะสามชั่วโมง ผมตอนนี้ก็เลิกงาน ออกไปกินๆดื่มๆเป็นเพื่อนคุณ”
“จริงหรอคะ?!ดีจริงๆเลย!รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ฉันรอคุณค่ะ!”
…
คุณนายหลินไปถึงที่แต่กลับไม่เจอคน นั่งขึ้นมาบนรถยังโมโหไม่หยุด
“ฉู่ลั่วหานคาดว่าคงจะเกิดเรื่องแล้ว วันนี้ไม่เจอ” คุณนายหลินสั่งคนรับรถขับกลับอย่างอารมณ์เสีย
คนขับรถรออยู่บนรถด้วยความยากลำบากมาหลายชั่วโมง ในที่สุดก็ได้รับการปล่อยตัวหลังการรับโทษ “ครับท่านประธาน”
ลั่วหานลงจากแผนกผู้ป่วยนอก ไปเยี่ยมอาการผู้ป่วยของหลินซีเหวินโดยเฉพาะ
พอฝ่ายตรงข้ามเห็นคิดไม่ถึงว่าจะเป็นหมอฉู่ ดีใจจนดึงแขนเสื้อเอาไว้เอ่ยขอบคุณซ้ายทีขวาที
ลั่วหานตรวจอาการคนไข้เสร็จ อธิบายอาการอย่างชัดเจน “คุณผู้ชาย ช่วงสองสามวันนี้ฉันต่างก็จะมาตรวจห้อง หลังจากนี้สองวันหมอหลินจะเป็นหมอเจ้าของเคสให้กับคุณต่อ ขอให้คุณเชื่อมั่นในฝีมือทางการแพทย์ของเธอ”
คนแก่ที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยพยายามนั่งขึ้นมา “หมอฉู่ มีคุณประโยคนี้ผมก็วางใจแล้ว หมอคนอื่นผมต่างก็ไม่เชื่อ ผมเชื่อใจคุณแค่คนเดียว!”
ลั่วหานทำหน้าไม่ถูก ผู้ป่วยมากมายต่างก็เห็นเธอเป็นตำนานอย่างเห็นได้ชัด “คุณผู้ชาย คุณตั้งใจพักผ่อน อาการป่วยไม่ช้าก็จะดี รอตอนที่คุณออกจากโรงพยาบาลฉันจะมาส่งคุณอย่างแน่นอน”
“ค…ครับ ขอบคุณครับหมอฉู่”
สองวัน…
ลั่วหานคาดการณ์ด้วยประสิทธิภาพของหลงเซียว นิทรรศการภาพวาดหลังจากนี้สองวันจะต้องกึกก้องไปทั้งเมืองอย่างแน่นอน
ยุ่งมาตลอดทั้งวัน เวลาเลิกงานลั่วหานในที่สุดก็มีเวลาโทรศัพท์ถามความคืบหน้ากับหลงเซียวแล้ว
“ที่รัก ขึ้นเครื่องหรือยังคะ?”
ตอนที่หลงเซียวได้รับข้อความเขาเพิ่งจะมาถึงห้องพักผ่อนของที่นั่งชั้นธุรกิจ เครื่องบินประสบฝนตกหนักอยู่ทางตอนใต้ดีเลย์ชั่วคราวสามสิบนาที ภายในห้องพักชั้นธุรกิจพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินกำลังขออภัยเนื่องจากล่าช้า
“ยังครับ คุณเลิกงานแล้วล่ะสิ?”
มองเข็มที่อยู่บนนาฬิกาข้อมือ เธอคงจะเพิ่งเลิกงาน
“เลิกแล้วค่ะ ฉันกำลังเตรียมตัวกลับบ้านล่ะ เจมส์บอกว่าป่วยจนรู้สึกไม่สบาย ให้ฉันกลับไปให้น้ำเกลือกับเขา” ลั่วหานได้ยินประกาศดีเลย์แล้ว คิ้วงามขมวดขึ้นเล็กน้อย
“โอเค ไม่ต้องรอผม ระหว่างทางระวังความปลอดภัยด้วย”
“ค่ะ ฉันรอคุณที่บ้าน”
ลั่วหานวางสาย ขับรถกลับบ้าน
เจมส์ดีขึ้นกว่าตอนเช้าเยอะมากแล้ว อุณหภูมิร่างกายได้กลับคืนสู่ปกติ เพียงแต่อาการหวัดยังไม่หายไป
“แอนน่า ผมปวดหัวมาก พะอืดพะอม อยากอ้วก ทั่วทั้งร่างกายต่างก็รู้สึกไม่สบาย คุณช่วยผมดูหน่อยสิ บีบขมับ นวดๆไหล่ให้กับผม” เจมส์พอเห็นลั่วหานตรงไหนๆก็ไม่ดีแล้ว จะตายให้ได้ทุกวินาที
“ได้สิคะ คุณแน่ใจ?” ดวงตาของลั่วหานแนบไปด้วยรอยยิ้ม รอยยิ้มที่งดงาม อ่อนโยนเงียบสงบ สมบูรณ์แบบอย่างไร้ที่ติ เพียงแต่ท่าทางพยักหน้าและหางเสียงที่ลากยาวค่อนข้างจะอันตราย
เจมส์เคลื่อนตัวมาทางขอบเตียง “เอ่อ…ฮ่าๆ ผมดูเหมือนจะสบายขึ้นเยอะแล้ว”
“อาหารเย็นคุณทานเองก็แล้วกัน ฉันมีธุระต้องออกไปสักรอบ” ลั่วหานเผด็จการใส่เจมส์ ไม่เหลือที่ในการปรึกษาหารือ
“คุณจะไปไหน? ทำไมไม่ทานอาหารด้วยกันกับผม? อาหารเย็นทานคนเดียวเหงามากเลยนะ” เจมส์กอดผ้าห่มเอาไว้อย่างได้รับความไม่เป็นธรรม เผยตาโตสีฟ้าที่ห่อเหี่ยวออกมา
รอมาทั้งวัน ก็เพื่อทานข้าวด้วยกันตอนเย็น คิดไม่ถึงว่าความเป็นจริงจะโหดร้ายขนาดนี้ ปวดใจมาก
“คุณไม่มีทางอยากจะไปหรอก แล้วก็ คุณจะเลือกที่จะไม่ทานก็ได้ค่ะ”
ลั่วหานปิดประตูห้องนอนของเจมส์ลง ก้าวฝีเท้าที่กระฉับกระเฉงเดินจากไปอย่างสง่างาม