ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 960
ตอนที่ 960 สงครามหนึ่งที่สำคัญมาก
“เกี่ยวกับการฟ้องร้องคดีที่หลงถิงเข้าร่วมการสังหารตระกูลมู่ทั้งครอบครัว เปิดศาลอย่างเป็นทางการ”
ค้อนที่อยู่ในมือของผู้พิพากษาที่นั่งตัวตรงอยู่บนที่นั่งพิจารณาตัดสินคดี “ปัง!” ทุบแท่นจนเกิดเสียง
หัวหน้าศาลที่อยู่ทั้งสองข้างสีหน้าเคร่งขรึม ศาลชั้นต้นหมายเลขสี่ของศาลประชาชนเมืองหลวงเงียบเหงาไร้เสียง สายตาของคนทั้งหมดต่างก็มองไปยังที่นั่งของโจทก์และจำเลย
ผู้พิพากษาเอ่ยปากขึ้นอีกครั้ง “โจทก์ จำเลย ทนายว่าความของทั้งสองฝ่าย ขึ้นศาล”
หลังจากนั้นไม่กี่วินาที ตัวแทนทนายของหลงเซียวหลินเค่อเฟยถือกระเป๋าเอกสารเดินเข้าศาล เคียงไหล่กับเขาเข้ามาคือเฉินเส้าหวาทนายไพ่ใบเอกที่รักษาบันทึกว่าความไม่มีแพ้อีกคนหนึ่งของเมืองหลวง
คู่กรณีไม่มีใครขึ้นศาล แค่การลงสนามของผู้ไม่เคยพ่ายแพ้สงครามสองคนก็ดึงดูดสายตาของคนจำนวนไม่น้อย
คนที่เป็นคณะลูกขุนแอบตกใจจนพูดไม่ออก
นี่ไม่ใช่แค่การประลองฝีมือระหว่างพ่อลูกเท่านั้น ยิ่งเป็นการสู้รบอันดุเดือดเกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของทนายทั้งสองคน จะสามารถรักษาบันทึกเอาไว้ได้หรือไม่ คดีนี้ส่งผลกระทบที่สำคัญที่สุด
ดูเหมือนการเข่นฆ่าระหว่างหลงเซียวและหลงถิง กำหนดเอาไว้แล้วว่าไม่สามารถย้อนกลับได้
“หลินเค่อเฟยคิดไม่ถึงว่าจะขึ้นศาลด้วยตัวเอง การฟ้องร้องฉากนี้คือการต่อสู้ที่ยากลำบากจริงๆ!ไม่มีหลักฐานเพียงพอ เกรงว่าชนะได้ยากมาก”
“แค่นั้นหรอ ไม่ว่าผลจะเป็นยังไง สำหรับหลงเซียวและหลงถิงแล้ว ต่างก็สาหัสทั้งคู่ล่ะมั้ง?”
“นั่นจะทำยังไงได้?รักษาอย่างเด็ดขาด ไม่ใช่ว่าต้องผ่านการรักษาต้นตอของโรคที่เจ็บปวดจนเจาะทะลุหัวใจหรอกหรอ?”
“พวกเรารอดูก็แล้วกัน สงครามนี้ช่างยากจริงๆ”
หลินเค่อเฟยในมือลูกศิษย์ระดับสูงนับไม่ถ้วน เฉินเส้าหวาก็เช่นเดียวกัน
หลินเค่อเฟยเคยใช้ที่ปรึกษาทางด้านกฎหมายของบริษัทMBK ช่วยบริษัทMBKทำการฟ้องร้องสิบกว่าครั้ง กอบกู้สถานการณ์ความเสียหายกี่สิบหมื่นล้าน หลังจากที่หลงเซียวออกจากบริษัทMBK เขายอมสละค่าที่ปรึกษาปีละสิบล้านยกเลิกสัญญาทิ้ง ทำหน้าที่ต่อเป็นทนายที่ปรึกษาของบริษัทฉู่ซื่อ
เฉินเส้าหวาแซงขึ้นมาข้างหน้า กลายเป็นทนายที่ปรึกษาของบริษัทMBK ร่วมมือกันกับฝ่ายกฎหมายของบริษัทMBK ก็ทำการต่อสู้อย่างสวยงามมาหลายฉากเช่นเดียวกัน
ดูจากภายนอกแล้ว ทั้งสองคนแบ่งไม่ออกว่าใครที่หนึ่งที่สอง
หลินเค่อเฟยยื่นมือออกมา เฉินเส้าหวาก็จับมือของเขาเอาไว้อย่างเป็นสุภาพบุรุษเช่นเดียวกัน
“เชิญทนายของทั้งสองฝ่ายนั่งลงประจำที่ ทนายฝ่ายโจทก์ อ่านคำปฏิบัติหน้าที่แทนของคุณ”
หลินเค่อเฟยยืนขึ้นอย่างสุภาพ โค้งศีรษะให้กับที่นั่งผู้พิพากษา หันหน้าไปทางคณะลูกขุนโค้งศีรษะลงอีก “ครับ ท่านผู้พิพากษาที่เคารพ”
…
ห้องทำงานท่านประธานชั้นบนสุดของบริษัทMBK หลงเซียวถือปากกาสีทองเอาไว้ ส่วนท้ายของปากกายันคางเอาไว้ ดวงตาสีดำที่ล้ำลึกตรวจอ่านเอกสารราชการ
กู้เยนเซินกระโดดโลดเต้นอย่างนั่งไม่ติด “คุณชายหลง เปิดศาลแล้ว การฟ้องร้องฉากนี้คือการประลองฝีมือความเป็นความตาย ทำไมแกยังมีกะจิตกะใจดูเอกสารอยู่อีก?”
หลงเซียวเซ็นชื่อเสร็จ นำเอกสารที่ได้ตรวจอ่านแล้ววางซ้อนขึ้นไปด้านบนกองเอกสารราชการที่อย่างกับภูเขาลูกเล็กๆก็ไม่ปาน “ไม่งั้นล่ะ? แกช่วยฉันดู?”
กู้เยนเซินดึงทึ้งอย่างกลัดกลุ้ม “คุณชายหลง แกกับหลงถิงต่างก็ไม่ขึ้นศาล แบบนี้ดีจริงๆหรอ? แกก็ไม่อยากรู้ความคืบหน้าของการพิจารณาคดี?”
หลงเซียวเปิดแฟ้มเอกสาร ดูรายงานตัวเลขที่หนาทึบต่อ “เปิดศาลครั้งแรก ยังไม่ต้องให้ฉันไปยังสถานที่ อีกอย่างฉันเชื่อมั่นทนายหลิน ”
กู้เยนเซินนั่งลงบนเก้าอี้หมุน “ทนายหลินคือสุดยอดมาก แต่แกมีความมั่นใจที่เต็มร้อยหรอ? หลักฐานเพียงพอมากเลยหรอ?”
“หลักฐานยังไม่ถึงขั้นเพียงพอ”
คำตอบของหลงเซียวทำให้กู้เยนเซินดึงทึ้งขึ้นมาอีกครั้ง “แม่งเอ๊ย!แกบ้าแล้วหรือเปล่า ไม่มีหลักฐานที่เพียงพอแกฟ้องหลงถิง?”
“คุณชายกู้ แกโวยวายอยู่ที่ห้องทำงานฉันมายี่สิบนาทีแล้ว ในเมื่อแกว่างขนาดนี้ ฉันจัดการเรื่องอื่นให้แกทำหน่อยเป็นยังไง?”
หลงเซียวขมวดคิ้ว มองเห็นตัวเลขกลุ่มนึงที่ไม่ค่อยพอใจนัก
“ในฐานะที่เป็นเพื่อนรักของแก ฉันเป็นห่วงแกนะ แกอย่าไม่รู้จักความหวังดีของคนอื่น” กู้เยนเซินเป็นห่วงจริงๆ การฟ้องร้องฉากนี้เป็นถึงการฟ้องร้องที่เกี่ยวพันไปถึงสองตระกูล สองบริษัทก็อยู่ในนั้นด้วยเช่นเดียวกัน
“ประธานรับหน้าที่แทนของบริษัทฉู่ซื่อหาเจอหรือยัง? หากยังล่ะก็หาต่อ ถ้าไม่มีเรื่องอื่น แกออกไปดื่มชาสักถ้วยให้ชุ่มคอก่อนก็ได้” หลงเซียวไม่ได้เซ็นชื่อลงบนเอกสาร วางไว้อีกด้าน
“เอาเถอะ แกโหด ฉันไม่เทียบกับแก ฉันไปดูเมียของฉัน”
กู้เยนเซินก้าวเท้ากว้างๆอย่างรวดเร็วเดินออกจากห้องทำงาน ปากยังพึมพำว่าหลงเซียวคือสัตว์ประหลาด
หลงเซียวถือโทรศัพท์ภายในของบริษัทขึ้นมา “เสี่ยวจื๋อ แกขึ้นมาหน่อย”
…
ลั่วหานกลับมาจากห้องผู้ป่วย กอดอกเดินวนรอบห้องทำงาน
เปิดศาลแล้ว หลงเซียวไม่ให้เธอไปที่หน้างาน แต่ใจทั้งดวงของเธอมักจะหนักอึ้งวางไม่ลง ผลของศาลชั้นต้นจะเป็นยังไง?หลงถิงจะตอบโต้ยังไง?
มือซ้ายของลั่วหานกำหมัดวางไว้บนฝ่ามือของมือขวา ทุบตีเบาๆ “สวรรค์คุ้มครอง ให้ทุกอย่างราบรื่นด้วยเถอะค่ะ!”
ก๊อกๆๆ
เสียงเคาะประตูทำลายสมาธิของลั่วหานลง หลินซีเหวินโผล่ออกมาครึ่งศีรษะ “พี่ลั่ว ยุ่งเปล่าคะ?”
ลั่วหานพอเห็นหลินซีเหวิน ตกใจเล็กน้อย “เธอมาที่โรงพยาบาลได้ยังไง? ไม่ใช่ให้เธอพักฮันนีมูนสองสามวันหรอ?”
หลินซีเหวินกระโดดเข้ามาทั้งตัว “ไม่ต้องแล้วค่ะ ฮันนีมูนอะไรอีกหน่อยค่อยว่ากัน ฉันมาเพราะอยากจะขอบคุณพี่ งานแต่งงานของฉันกับหลงจื๋อ แล้วก็หม่ามี๊ของฉันมาหาเรื่องที่โรงพยาบาล สรุปก็คือต้องขอบคุณพี่ทั้งหมด!”
มือทั้งสองข้างของลั่วหานกดไหล่ของหลินซีเหวินเอาไว้ ดูเธอที่เลื่อนขั้นเป็นหญิงสาวที่แต่งงานแล้วใกล้ๆ “หม่ามี๊ของเธอไม่ได้ทำให้เธอลำบากใจใช่หรือเปล่า?”
หลินซีเหวินเบ้ปากเล็กน้อย “ท่านไม่มีทางทำอะไรฉันหรอกค่ะ ถึงอย่างไรข้าวสารก็ได้กลายเป็นข้าวสวยแล้ว หรือว่าท่านจะสามารถฆ่าฉันให้ตาย? อีกทั้ง พวกท่านก็มีฉันเป็นลูกสาวเพียงแค่คนเดียว ไม่มีทางตัดแม่ตัดลูกกับฉันหรอก โมโหมากสุดไม่กี่วัน หายโกรธก็ไม่เป็นไรแล้ว!”
“หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น”
แต่ลั่วหานดูแล้ว วิธีในการจัดการกับปัญหาของคุณนายหลินไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ความเด็ดขาดของเธอโหดยิ่งกว่าที่หลินซีเหวินคิดเอาไว้เสียอีก
“งั้น…ฉันไปทำงานแล้วค่ะ!” หลินซีเหวินโบกมือด้วยรอยยิ้มจนตาหยี “อ้อ ใช่แล้ว ฉันยังต้องขอบคุณพี่ที่ช่วยดูแลผู้ป่วยเตียงหมายเลขสาม เขาเมื่อก่อนมีความไม่เชื่อใจต่างๆนาๆกับฉัน วันนี้ท่าทีดีมากๆ!”
“อือ”
ตอนที่หลินซีเหวินออกจากประตู โทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น
บนหน้าจอโทรศัพท์กระพริบเบอร์ติดดาวหมายเหตุคือ “หม่ามี๊”
หลินซีเหวินจำใจกัดฟัน เลือกที่จะรับ!
“หม่ามี๊ คิดถึงหนูไวขนาดนี้เลย…”หรอ?
“หลินซีเหวิน!แกลงมาเดี๋ยวนี้!ฉันอยู่ที่ด้านนอกอาคารผู้ป่วยนอกโรงพยาบาลหวาเซี่ย ฉันให้เวลาแกหนึ่งนาที แกกล้าไม่ลงมา ฉันพาคนขึ้นไป!”
ออร่าของคุณนายหลินทรงพลังน่าเกรงขาม สนั่นจนหลินซีเหวินเคลื่อนย้ายโทรศัพท์มือถือออกอย่างช่วยไม่ได้ “โอเค หนูลงไป หนูลงไป!หม่ามี๊อย่าใจร้อน!ใจร้อนเป็นปีศาจ!”
หลินซีเหวินกระพริบตาปริบๆอย่างน่าสงสาร “พี่ลั่ว หม่ามี๊ของฉันตามฆ่ามาแล้ว”
ลั่วหาน “…”
เมื่อครู่นี้ใครโม้?
“พี่ลั่ว ฉัน…ไปล่ะ” หลินซีเหวินเดินก้าวหนึ่งถอยออกมาสองก้าว จะถอยกลับไปในห้องทำงานอีกครั้งแล้ว
ลั่วหานหมดคำพูด “เธอไปก่อน ฉันตามถึงทีหลัง”
“จริงหรอ? ดีสิคะ!งั้นฉันไปก่อนแล้ว ฉันรอพี่!”
มีนางฟ้าลั่วลั่วสุดที่รักนั่งตำแหน่ง ความกล้าหาญของหลินซีเหวินเต็มขึ้นอีกครั้ง ตึกๆๆๆวิ่งไปโดยสารลิฟต์
ลั่วหานเปิดหน้าจอโทรศัพท์มือถือ ไม่มีข้อความ ไม่มีสายเข้า
คดีเป็นยังไงบ้างกันแน่ หลงเซียวรู้หรือเปล่านะ?
หลินซีเหวินวิ่งลงตึก เห็นรถของแม่จอดไว้ที่ด้านนอกจริงๆ Bentleyสีดำด้านหลังยังมีรถตู้เบนซ์หนึ่งคัน ด้านนอกรถตู้มีบอดี้การ์ดที่สวมแว่นตาดำท่าทางดุเดือดสี่คนยืนอยู่
“แม่เอ๊ย!นี่คือจะลักพาตัวหรอ?”
หลินซีเหวินอดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมอง ไม่เห็นลั่วหาน
ก็เลย ทำได้แต่ยิ้มโง่ๆ โบกมือ “หม่ามี๊ หม่ามี๊สง่างามมากเผด็จการมากมีออร่ามากเลยค่ะ!มา ให้ลูกสาวหมอบกราบหน่อย!”
“หยุด!”
เสียงตวาดเดียวของคุณนายหลินหยุดท่าทางวิ่งเข้าสู่อ้อมแขนของหลินซีเหวินเอาไว้
หลินซีเหวินเหยียบเบรกอย่างเก้อเขิน เก็บกลับสองมือ “หม่ามี๊ อย่าแบบนี้สิคะ หนูกับหลงจื๋อคือรักกันจริงๆ ทะเบียนสมรสก็จดแล้ว เตียงก็ขึ้นแล้ว หนูเป็นคนของเขาแล้ว แม่ก็ใจกว้างปล่อยพวกเราไป ได้ไหมคะ?”
คุณนายหลินชุดกระโปรงทำงานสีดำทั้งตัว ด้านนอกคือชุดคลุมขนมิงค์ทรงยาวสีดำ ใบหน้าดำยิ่งกว่า “หลินซีเหวิน ฉันจะบอกกับแกอย่างชัดเจนว่า แกกับหลงจื๋อไม่มีวัน ตอนนี้ไปหามันกับฉัน จดทะเบียนหย่า”
“ไม่!หนูไม่หย่า!”
“แกไม่มีสิทธิ์!” คุณนายหลินส่งสายตาด้านข้างให้บอดี้การ์ด “พาคุณหนูใหญ่ขึ้นรถ !