ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 968
ตอนที่ 968ไม่กล้าสละผู้ชาย ก็หลอกพ่อแม่ไม่สำเร็จ
ณ โรงพยาบาลหวาเซี่ย ห้องทำงานของลั่วหาน
หลินซีเหวินนำมือทั้งสองข้างประคองคางของเธอไว้ ดวงตากลมโตจ้องมองลั่วหานอย่างไม่กะพริบ ตาดำข้างในแทบจะถลนออกมาจากเบ้า
ลั่วหานยังคงก้มหน้าอ่านรายงานของผู้ป่วย จากนั้นหยิบเอกสารใบหนึ่งขึ้นมาเปรียบเทียบกับไฟล์ในคอมพิวเตอร์ เธอกลอกตาไปมาแล้วถามขึ้นว่า “ทำไมเหรอ บนหน้าฉันมีเงินหรือว่ามีดอกไม้กัน?”
หลินซีเหวินยังคงจ้องไปที่หน้าของเธอไม่ขยับเขยื้อน “พี่ลั่วคะ รู้สึกไหมว่าคุณสวยกว่าเมื่อก่อนมากเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ช่วยฉันจากน้ำมือของแม่ ตอนนี้ทุกครั้งที่มองดูคุณก็รู้สึกว่าเรือนร่างเต็มไปด้วยออร่า โอ้โห ถ้าฉันเป็นไอดอลของคุณ ฉันก็คงจะรักคุณมากเหมือนกัน”
ลั่วหานเคยชินกับคำพูดชื่นชมแบบนี้มานานแล้ว อีกอย่างทุกคนที่เอ่ยชื่นชมเธอ ร้อยละ 80 เปอร์เซ็นต์มีวัตถุประสงค์ที่ไม่ธรรมดา
ลั่วหานหยุดงานในมือของเธอลง จากนั้นยิ้มให้หลินซีเหวินด้วยรอยยิ้มอันอ่อนโยน “เจอปัญหาอะไรมาอีกล่ะ มีอะไรก็พูดมาตรงๆเลย ถ้าฉันช่วยได้ฉันจะช่วย แต่ถ้าฉันช่วยไม่ได้ละก็ต่อให้ชมฉันจนลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าฉันก็คงไม่เข้าไปยุ่ง”
หลินซีเหวินดึงแขนเสื้อคลุมสีขาวของลั่วหานและแกว่งไปมาเหมือนเด็กๆพูดว่า “พี่ลั่วขาพี่ลั่ว คุณต้องช่วยฉันได้แน่ และตอนนี้ฉันก็มีแต่คุณเท่านั้น”
ลั่วหานเปรียบเทียบข้อมูลของคนไข้ต่อไป “จะพูดหรือไม่พูด? ฉันจะออกตรวจแล้ว”
หลินซีเหวินกัดริมฝีปากแล้วยิ้มขึ้นว่า “พี่ลั่วคะ แดดดี๊กับหม่ามี้ชวนให้หลงจื๋อไปกินข้าวที่บ้าน แสดงให้เห็นชัดเจนว่าจะจัดการกับเขาใช่ไหม? แต่ว่าหม่ามี้ก็รู้ความสัมพันธ์ของพวกเราแล้ว ถ้าไม่ไปก็คงไม่เหมาะสม ฉันจะทำยังไงดี? คุณมีวิธีดีๆแนะนำไหม?”
เมื่อลั่วหานอ่านรายงานจบแล้ว เธอก็ทำสัญลักษณ์ไว้ข้างบนและวาดวงกลมไว้ในหลายหน้า “ไม่ว่าจะวิธีไหนก็ต้องรับมือให้ได้ ในเมื่อพวกเธอสองคนแอบผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายไปแต่งงานกัน ก็ควรจะทำใจเตรียมตัวโดนดุได้เลย”
ถ้าสามารถทำตามที่เธอพูดได้ หลินซีเหวินก็คงจะไม่มานั่งกังวลแบบนี้
ปัญหาก็คือ ตอนนี้พ่อแม่ของเธอโมโหเสียจนสุดขีดแล้ว ถ้าหากว่าหลงจื๋อถูกตีจนปางตายล่ะจะทำยังไง?
หลินซีเหวินเบะปากแล้วก้มหน้าลง “พี่ลั่วขา ช่วยฉันคิดหน่อยเถอะ หรือว่า……คุณไปด้วยกันเป็นยังไงล่ะ? แม่ฉันอาจจะเห็นแก่หน้าคุณและไม่กล้าลงมือก็ได้!”
ลั่วหานหัวเราะ
เธอเดาออกว่าหลินซีเหวินวางแผนไว้แบบนี้ “ไม่ได้ วิธีเดียวกันใช้สองครั้งก็ไร้ความหมายสิ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ถ้าหลงจื๋อไม่มีแม้แต่ความกล้าหาญที่จะเผชิญหน้ากับการดุด่า เธอก็อย่าไปแต่งงานกับเขาเลย”
ลั่วหานดึงแขนเสื้อลงมา จากนั้นหยิบแฟ้มประวัติคนไข้และหูฟัง มือของหลินซีเหวินถูกปล่อยลง อารมณ์ของเธอก็หดหู่ลงเช่นกัน “พี่ลั่ว ฉันสงสารเขานี่คะ ไม่อยากให้เขาต้องโดนทำร้าย”
“ถ้าไม่ยอมสละลูกตัวเองก็จะจับหมาป่าไม่ได้ ถ้าไม่ยอมสละผู้ชายของตัวเอง ก็จะหลอกพ่อแม่ไม่ได้ ใช้สมองอันชาญฉลาดของเธอคิดซะนะ การต่อสู้ครั้งนี้หากเลี่ยงผ่านไปได้ คราวหน้าก็โดนอยู่ดี”
ลั่วหานใส่หูฟังของแพทย์ลงไปในกระเป๋า จากนั้นเอามือลูบศีรษะของหลินซีเหวิน
ดวงตาของหลินซีเหวินเป็นประกาย เธอรีบลุกขึ้นยืนตัวตรงแล้วพูดว่า “พี่ลั่วพูดถูกค่ะ! เอาตามนี้แหละ เดี๋ยวฉันจะโทรหาหลงจื๋อให้เขาทำใจไว้ก่อน! พี่ลั่ว คุณนี่เก่งจริงๆเลย จุ๊บๆ รักนะ!”
“กลับไปบ้านอย่าลืมเรื่องที่แกล้งท้องล่ะ ข้อควรระวังสำหรับสตรีตั้งครรภ์ก็ควรจะทำให้เหมือนหน่อย”
หลินซีเหวินนำมือลูบตรงท้องน้อยของเธอ “ดีนะที่ไม่ได้ท้องจริงๆฉันยังไม่ได้เตรียมพร้อมจะเป็นแม่คนเลย ฉันจะโทรหาหลงจื๋อเดี๋ยวนี้แหละค่ะ ให้เขาช่วยแสดงด้วย”
หลินซีเหวินเป็นคนนิสัยใจร้อน เธอรีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา ปลายสายรับขึ้นอย่างรวดเร็ว
เธอยังไม่ทันพูดอะไร เสียงของลินดาก็ดังขึ้นว่า “คุณหลินใช่ไหมคะ ท่านประธานติดประชุมอยู่ค่ะตอนนี้ไม่สะดวกรับโทรศัพท์”
ให้เลขารับสายอย่างนั้นเหรอ?
“ประชุมอะไร? ไม่ให้เอาโทรศัพท์ไปด้วยหรือไง?” หลินซีเหวินถามด้วยความสงสัย เธอจำได้ว่าก่อนหน้านี้หลงจื๋อจะเอาโทรศัพท์เข้าที่ประชุมด้วยทุกครั้ง
“เป็นการประชุมคณะผู้บริหารของบริษัทค่ะ คุณหลินมีเรื่องด่วนอะไรหรือเปล่าคะ? ดิฉันจะนำเรื่องไปแจ้งให้ทราบ หรือรอท่านประธานเลิกประชุมฉันจะให้เขาโทรศัพท์กลับไป?” ลินดาพูดกับคุณนายของท่านประธานอย่างสุภาพ โดยไม่กล้าที่จะละเลย
“เดี๋ยวฉันโทรกลับไปเองค่ะ ขอบคุณมาก”
ลั่วหานได้ยินคำว่าประธานกรรมการ ก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงกรรมการคนสำคัญของ MBK
การประชุมครั้งนี้หลงจื๋อไม่ได้นำโทรศัพท์เข้าไปด้วย มองดูแล้วการประชุมในวันนี้จะไม่ธรรมดา บางที……บางทีหลงถิงอาจจะเข้าประชุมด้วย
“พี่ลั่วคะ ฉันไปก่อนนะไปตรวจพื้นที่สักหน่อย”
เมื่อมองเห็นหลินซีเหวินที่เดินจากไป ลั่วหานก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะและส่ายหัว
เธออยู่ในห้องนี้ครึ่งชั่วโมง สุดท้ายคำตอบที่ได้ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงอะไรได้เลย แต่เธอกลับจากไปอย่างมีความสุข
เด็กคนนี้ ยังต้องได้รับการขัดเกลาอีกเยอะ!
ในขณะเดียวกัน ณ MBK
ประตูของห้องประชุมถูกปิดอย่างแน่นหนา ไม้มะฮอกกานีหนาทึบปิดกั้นไม่ให้คนภายนอกรับรู้เรื่องใดๆ
จี้ตงหมิงและแอนดี้ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปด้านใน ทั้งสองคนและเลขาของหลงเซียวคนอื่นๆยืนอยู่ด้านนอกด้วยความประหม่า
เวลาผ่านไปกว่า 40 นาทีแล้ว สิ่งที่น่าแปลกใจก็คือด้านในเงียบสงบมากไม่มีเสียงทุบโต๊ะแต่อย่างใด
บรรยากาศไม่เป็นไปอย่างที่คิด
จี้ตงหมิงมองดูนาฬิกาเป็นครั้งที่สิบเห็นจะได้ โทรศัพท์ของเขาดังขึ้นทันใด เป็นสายจากประธานไป๋แห่งบริษัทฉู่ซื่อ
“ท่านประธานไป๋ มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ?”
อีกฝ่ายหนึ่ง ไป๋เวยกำลังดูดัชนีหุ้นอยู่ เธอใช้ไหล่หนีบโทรศัพท์เอาไว้แล้วถามขึ้นว่า “ประชุมกรรมการยังไม่เสร็จอีกเหรอ?”
“ครับ”
“ดัชนีNDS ในวันนี้เพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติ เมื่อตอนเปิดตลาดหุ้นได้เพิ่มขึ้น 1.2 เปอร์เซ็นต์ หนึ่งในนั้นหุ้นของบริษัทหลันเทียน มีการพุ่งตัวขึ้นสูงสุดในประวัติศาสตร์ จนถึงกำหนดขีดจำกัด ตอนนี้ตู้หลิงเซวียนร่ำรวยขนาดนั้นเชียวเหรอ?”
ไป๋เวยมองดูเส้นโค้งของราคาหุ้นบริษัทหลันเทียน หุ้นของพวกเขาซบเซามาเป็นสิบวัน แต่จู่ๆก็กลับดีดขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ อีกทั้งยังนำหน้าคนอื่นอย่างเห็นได้ชัด ดูจากสถานการณ์แล้ว ยังคงแข็งแกร่งมาก หากพรุ่งนี้ยังขึ้นถึงขีดจำกัดก็ไม่แปลกใจ
จี้ตงหมิงมองดูแอนน่า ซึ่งเธอเองก็ตั้งใจฟังเช่นกัน การเคลื่อนไหวของตู้หลิงเซวียนนั้นบริษัทฉู่ซื่อให้ความสำคัญมาเสมอ
“บริษัทหลันเทียนกำลังเตรียมจัดตั้งสาขาในประเทศจีน ได้ยินมาว่าเขาเลือกสถานที่ตั้งสำนักงานได้แล้ว อีกทั้งกำลังจัดเตรียมจะจดทะเบียนในตลาดหุ้น A”
ความแข็งแกร่งเช่นนี้ทำให้หลายๆคนสงสัยว่าเขามีญาติเป็นกรรมการกำกับหลักทรัพย์หรือไม่?
ก็……นั่นน่ะสิ
ตู้หลิงเซวียนและเจิ้งซินสนิทกันมากขนาดนั้น เกรงว่าเจิ้งเฉิงหลินคงไม่อยู่เฉยแน่!
เมื่อคิดได้ดังนั้นปฏิกิริยาของจี้ตงหมิงก็นิ่งลงทันที “เรื่องนี้ไม่ได้แปลกอะไร ตู้หลิงเซวียนโยกย้ายเงินจำนวนมากจากสาขาไปยังสำนักงานใหญ่และหุ้นของบริษัทหลันเทียนจะยังคงเพิ่มขึ้นในช่วงนี้”
จี้ตงหมิงวิเคราะห์อย่างสอดคล้อง
เขานึกถึงคำที่เจ้านายเคยเตือนไว้ว่า “การที่ตู้หลิงเซวียนและเจิ้งเฉินหลินทำความร่วมมือกัน โครงการใหญ่หลายๆโครงการที่เมืองเปียนเฉิง ได้ถูกกำหนดไว้ให้บริษัทหลันเทียนแล้ว
ไป๋เวยกดปากกาลูกลื่นแล้วถามว่า “ทำไมคะ?”
“การประมูลรื้อถอนในเมืองเจียงเฉิงได้เริ่มขึ้นแล้ว และตู้หลิงเซวียนได้พยายามทำตัวเลขให้สวยงามออกมา”
ไป๋เวยไปที่ปากกาอีกครั้ง “รื้อถอนเหรอ……ทำไมฉันไม่ได้รับการแจ้งอะไรเลย? ท่านประธานให้โอกาส MBK อีกแล้วเหรอ? ทำไมที่บริษัทฉู่ซื่อถึงเงียบขนาดนี้?”
นั่นสิน่าแปลกจริง ทำไมท่านประธานถึงไม่เอาโอกาสดีๆแบบนี้ไว้ให้ลั่วหาน?
“แน่นอนว่าเจ้านายไม่ต้องการให้บริษัทฉู่ซื่อเข้ามาแทรก เจ้านายเคยบอกแล้วว่าจะให้บริษัทฉู่ซื่อดำเนินไปอย่างเรียบง่าย ไม่เน้นอสังหา แต่เน้นการเงินเป็นหลัก ส่วน MBK……เจ้านายยังไม่ได้พูด ตอนนี้ตัวผมเองก็มองไม่ออกว่าเจ้านาย จะจัดการกับ MBK ยังไง”