ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 973
ตอนที่ 973 เฮ้อ! เกมเริ่มขึ้นแล้ว
นิ้วที่เรียวยาวของหลงเซียวกำเข้าหากันจนแน่ กุมเป็นกำปั้นค้ำหน้าผากเอาไว้ ช่วงที่ก้มหน้ามีเงื่อนงำและเรื่องราวในอดีตผ่านเข้ามาในหัว
อิตาลี ภาพดังระดับโลก ผู้ซื้อที่ซุ่มอยู่ในที่มืด ความเกี่ยวโยงของหลงถิงกับแก๊งมาเฟียที่ไม่มีใครรู้
เมื่อ30ปีก่อน คน5คน กับ5ชะตากรรม
กระทั่ง คุณแม่ต้องไปอังกฤษ พอกลับมาก็นึกไม่ถึงว่าจะพบหลักฐานที่หลงถิงซ่อนเอาไว้ คนที่แม่พบเข้าคือใคร? แล้วแม่เปิดตู้เซฟได้อย่างไร?
ตอนแรกเขาไม่ได้เจาะลึกว่าคุณแม่ทำได้อย่างไร ตอนนี้พอคิดขึ้นมาก็พบจุดสงสัยหลายจุด!
คุณแม่แกล้งทำเป็นความจำเสื่อมสำเร็จ?
หรือว่าคุณแม่ใช้วิธีอื่น?
ใครกันที่พูดความจริง ใครกันที่พูดโกหก?!
ครึกๆ!
ขณะที่ความคิดโจมตีสมองอย่างบ้าคลั่ง อยู่ๆ มือถือก็ดังขึ้นมาสองครั้ง
หลงเซียวกลับเข้าสู่ความจริงจากความบ้าคลั่งในพริบตา รีบดึงสติกลับมา แล้วจึงหยิบมือถือขึ้น
สายเข้าจากจางหย่ง
พอต่อสายติด จางหย่งก็เอ่ยปากขึ้นทันที “เจ้านาย เรื่องที่ผมไปสืบได้ความแล้วครับ”
เรียกว่าคิดอะไรอยู่ก็ได้อย่างนั้นจริงๆ สิ่งที่เขาต้องการที่สุดในตอนนี้คือการทลายด่าน
“แต่ข่าวที่ผมได้ เหนือกว่าความสามารถที่ผมจะรับได้ เจ้านาย……เจ้านายต้องตั้งสติให้ดีๆ” จางหย่งเกาหัวอย่างกลุ้มๆ ใบหน้าหันเข้าผนังอย่างครุ่นคิด เอาหน้าผากชนผนังเป็นพักๆ
“บอกมาตรงๆ ผลออกมายังไงฉันรับได้หมด”
หลงเซียวปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออก เผยให้เห็นผิวสีน้ำผึ้ง
จางหย่งอึกๆ อักๆ อยู่นาน รวบรวมกำลังเรียบเรียงคำพูด “คือว่า ผมกับอิสซา รวมตัวกัน ไปสืบ เรื่องที่อิตาลีด้วยกัน ถึงได้ผลลัพธ์ออกมาดีอย่างนี้……”
“เข้าประเด็น”
ความเรียงของจางหย่งยังไม่จบ ก็ถูกขัดจังหวะขึ้น เช่นนั้นก็ได้ “พวกเราลอบเข้าไปในตระกูลเครส……”
“นายลอบเข้าไปในตระกูลเครส? นาย?” หลงเซียวไม่ได้จะดูถูกเขา แต่การป้องกันของตระกูลเครสแน่นหนามาก อย่าว่าแต่คนสองคนเลย ต่อให้เป็นหนูตัวหนึ่ง เกรงว่ายังต้องแหลกเป็นเจ็ดแปดส่วนแน่
แต่เขากลับเข้าไปได้?
ดอลลาร์หย่งผลุนผลันขึ้นมาในฉับพลัน “ผมใช้สติปัญญาทั้งหมด หลบกล้องวงจรปิดและบอดี้การ์ด ไม่ง่ายเลยนะครับ! เจ้านายอย่าสงสัยผมเลย”
หลงเซียวเลิกคิ้วขึ้น หยุดคิดเล็กคิดน้อยกับเขาชั่วคราว “จากนั้นล่ะ?”
“ผมเจอภาพที่เหมือนในห้องหนังสือของหลงถิงอยู่ภาพหนึ่ง ผมสาบาน เหมือนกันเปี๊ยบเลย! ผมถ่ายรูปเอาไว้มาเทียบดูกับอิสซาอยู่ชั่วโมงหนึ่ง ก็ไม่พบความแตกต่าง! แม้แต่จริงปลอมก็แยกไม่ออก ดวงตาของอิสซาเฉียบแหลมแค่ไหน ต่อให้ผมตาบอด อย่างน้อยเธอก็ไม่บอดใช่ไหม เจ้านายว่ามันประหลาดไหม?”
ภาพแบบเดียวกัน?
“แขวนไว้ตรงไหน?” สายตาหลงเซียวเหมือนเหยี่ยวล่าเนื้อ ที่มองออกไปนอกหน้าต่าง!
“อยู่ในห้องหนังสือของไมค์เครสหัวหน้าแก๊งมาเฟียอันดับสองของตระกูลเครส”
ไมค์ เครส?
ชื่อนี้……
“เจ้านาย รู้สึกคุ้นชื่อนี้ใช่ไหมครับ?” จางหย่งเอาปากกัดนิ้ว เสียงที่ถามก็สั่นเครือ ถามคำถามเสร็จถึงได้กลัว บัดซบ เมื่อกี๊ตัวเองพูดอะไรออกไป?
เขาถามขึ้นมาเช่นนี้ เป็นการถามสิ่งที่อยู่ภายในใจของหลงเซียว
ใช่ คุ้น
คุ้นมาก
ครั้งแรกที่ได้ยินชื่อนี้เป็นเมื่อ10ปีก่อน ภาพเหตุการณ์ในตอนนั้น เขายังจำได้จนทุกวันนี้ ตอนไม่คิดถึงก็ไม่มีอะไร แต่พอสงบใจคิดขึ้นมา ถึงได้รู้ว่าคลื่นภายในใจไม่เคยสงบลงเลย
ไม่เคย สงบ!
จางหย่งกอดมือถืออยู่เงียบๆ อยู่ตรงนั้นรอคำสั่งจากเจ้านาย แต่รอสักพักแล้วก็ไม่มีเสียงอะไรเลย ถ้าไม่เพราะหน้าจอยังสว่างอยู่ เขาคงนึกว่าเจ้านายวางสายไปแล้ว
แล้วก็รออีกสักพัก เจ้านายก็ยังคงไม่ส่งเสียง จางหย่งจึงบังอาจถามขึ้นมาว่า “เจ้านาย ไปสูบบุหรี่เหรอครับ?”
ในเวลาหนึ่งนาทีเช่นเดียวกัน ถ้าฟังเพลงดูหนังเพื่อบันเทิงผ่อนคลายเดี๋ยวเดียวก็ผ่านไป แต่ใจของจางหย่งตอนนี้แขวนอยู่บนเตาไฟ เผาจนมอดไหม้ จนกลายเป็นเถ้าแล้ว แค่วินาทีเดียวก็ทรมานแสนสาหัส
เจ้านายครับ ช่วยตอบอะไรหน่อยสิครับ
ในที่สุด ในที่สุด หลงเซียวก็พูดขึ้นมา
“อืม”
จางหย่งรอจนเจ็บหัวใจแปล๊บๆ ตอบกลับมาแค่คำเดียว เพียงแค่คำเดียว พูดจบก็ไม่มีเสียงอื่นใดอีกเลย
จางหย่งดูที่มือถือ สายสนทนา——จบแล้วจริงๆ
แต่ว่า ที่เจ้านายสื่อนั้นหมายความว่าอะไร? โมโห? โกรธ? เฉยเมย? หรือว่าอยู่ๆ ก็รับไม่ได้กำลังย่อยสิ่งที่รับอยู่?
ตอนเขาเพิ่งรู้ก็ใช้เวลาย่อยอยู่นาน กินลูกอมไปสามเม็ดถึงได้กล้าโทรไปหาเจ้านาย หรือเจ้านายจะเหมือนกับเขา ต้องใช้เวลายอมรับ?
จางหย่งคิดหน้าคิดหลัง ก็คิดสิ่งที่วนเวียนไม่ออก มองท้องฟ้าอย่างตงิดใจ ถอนใจเฮือกใหญ่ๆ ออกมา เก็บมือถือลงในกระเป๋ากางเกง
“โทรเสร็จแล้วเหรอ?”
อิสซายืนพิงเสาไฟอยู่ มือกอดอกมองเขาแบบจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม
หลังจากทั้งสองคนออกมาจากตระกูลเครส ใจของจางหย่งก็ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ถามเขาว่าเป็นอะไรก็ไม่บอก หน้าขาวยิ่งกว่าถูกทาสีเสียอีก เวลานี้สีหน้าก็ยังไม่ดีขึ้น
“โทรเสร็จแล้ว”
จางหย่งรู้สึกหนาว รวบชุดเข้าหาตัว มองไปรอบๆ หาที่นั่งเพื่อทานอะไรสักเดี๋ยวให้อุ่นหน่อย
อิสซายืดขาออกมาตามอำเภอใจ ขวางจางหย่งเอาไว้ “นายไม่เป็นไรใช่ไหม? เครสมีความแค้นกับนายหรือว่าอย่างไร? หรือคนของเขาจะฆ่านาย? หรือเคยข่มขู่นาย? นายถึงต้องตกใจขนาดนี้ด้วยเหรอ?”
จางหย่งเลี่ยงไม่ตอบ “หิวแล้ว ไปหาที่กินข้าวกัน งานยุ่งมาทั้งคืนแล้ว เธอไม่หิวเหรอ?”
จางหย่งกดขาของอิสซาลง สาวเท้ายาวๆ มุ่งไปที่ร้านอาหารฝรั่ง “ไม่อยากกินก็ไม่ต้องกิน ผ่านหมู่บ้านนี้ไปแล้วก็ไม่มีร้านนี้แล้ว อาหารอิตาลีแพงมาก เธอคิดให้ดีๆ”
แม่งเอ๊ย!
คงรู้ว่าตอนนี้เธอไม่มีเงินสักแดงสินะ!
คอยดูเถอะ! ไว้ฉันจะเอาเงินทุ่มใส่นาย!
ดอลลาร์! ยูโร!
แต่ว่า ตอนนี้พูดไม่ได้ เธอก็ไม่มีเงินกินข้าวจริงๆ แล้วก็หิวแล้วด้วย “กินสิ กินแน่”
“ไปสิ” จางหย่งคลำลูกอมเม็ดสุดท้ายที่อยู่ในกระเป๋า ยัดเข้าไปในปาก ไม่มีความอ่อนโยนเลยแม้แต่นิดเดียว
อิสซามองแผ่นหลังของเขา พลางลูบคางครุ่นคิด หรือเจ้าหมอนี่จะมีความแค้นกับพวกมาเฟีย?
ว่าแต่ ความแค้นของเขาทำไมต้องโทรบอกหลงเซียว? หรือหลงเซียวมีความแค้นกับพวกมาเฟีย?
อ้อ……คำอธิบายนี้ก็เหมาะสมแล้ว
จางหย่งเป็นแค่โปรแกรมเมอร์ ค่าตัวตั้งแต่หัวจรดเท้ารวมแล้วไม่น่าจะถึงหนึ่งพันหยวน พวกแก๊งมาเฟียถ้าแม้แต่คนแบบนี้ก็ไม่ปล่อย อย่างนี้จะไม่เหนื่อยแย่เหรอ?
“เฮ้! นายจะเดินเร็วแบบนั้นทำไมกัน! เป็นผีตายอดตายอยากมาเกิดเหรอไง? รอฉันด้วย!”
อิสซาไม่คิดให้มากอีกแล้ว วิ่งเหยาะๆ ตามไป
……
หลงเซียวทำใจให้สงบ เปิดคอมพิวเตอร์ขึ้นมา เข้าสู่หน้าเว็บหน้าหนึ่ง ใส่รหัสเข้าไป
พอรหัสผ่าน เขาก็เห็นอีเมลฉบับหนึ่ง
ขณะนั้นเป็นเวลาสี่ทุ่มตรง ก่อนที่เขาจะรับสายของจางหย่งก็ได้รับเมล์แล้ว
ฉะนั้น……
เรื่องที่จางหย่งแอบเข้าบ้านตระกูลเครส ที่จริงพวกเขารู้อยู่แล้ว แต่เขายังเข้าใจว่าตัวเองฝีมือดี ที่จริงสำหรับไมค์แล้ว เขาก็เป็นแค่ก็เป็นแค่เด็กสามขวบเท่านั้นเอง
จางหย่งประเมินไมค์ต่ำไป และประเมินตัวเองสูงไป
ขณะเดียวกัน หลงเซียวก็รู้ดี หลังจากเงินทุนก้อนนั้นเคลื่อนไหวความจำเป็นที่ต้องเผชิญหน้า ในที่สุดก็มาถึง
หรือจะบอกว่า เป็นสิ่งที่คาดการณ์ไว้แต่แรก เพียงแต่เกิดขึ้นล่วงหน้าเท่านั้น
อย่างไรเสียก็ไร้ซึ่งคลื่นกระหน่ำ เงียบสงบ ปลอดภัย
หลงเซียวเปิดอีเมลอ่าน หน้าเมล์ขาวสะอาด ไม่มีชื่อผู้ส่ง ไม่มีที่อยู่ มีแต่ภาษาอังกฤษเขียนตรงกลางว่า——
“Baby,game start.”
เบบี๋ เกม เริ่มขึ้นแล้ว