ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 999
ตราบใดที่สามารถใช้เงินแก้ไขได้ มันก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขา
สิ่งที่โจวโร่หลินไม่อยากได้ที่สุดก็คือเงินของเขา อำนาจของเขา เธอสร้างมันด้วยตัวเอง
เธอตั้งใจทำงานอย่างสุขุมรอบคอบ ใช้ความพยายามของตนพิสูจน์ตัวเองเพื่อหวังว่าสักวันจะกลายเป็นคนที่เก่งขึ้น
แบบนี้เวลาที่พวกเขายืนอยู่ด้วยกัน อย่างน้อยก็สามารถยืดอกพูดได้ว่า : เขาเก่งมาก แต่ฉันก็ไม่น้อยหน้า!
“ฉันไม่ต้องการเงินของนาย! อีกอย่าง มันไม่เกี่ยวกับเรื่องเงินด้วย ฉันอยากฉันหามันด้วยตัวเอง! นายไม่เชื่อฉันเหรอ?” โจวโร่หลินมีความหยิ่งในศักดิ์ศรีในตัวเองมาก ไม่ต้องการพึ่งแฟนของตน
เพราะฐานะภูมิหลังไม่ดีจึงรู้สึกอ่อนไหวต่อเรื่องนี้มาก
“เชื่อ ทำไมฉันจะไม่เชื่อล่ะ? แต่การพยายามของเธอมันทำให้ฉันรู้สึกไร้ตัวตน ไม่งั้นฉันจะคุยกับพี่ชายฉันว่าให้เธอไปทำงานที่MBKมั้ย?”
ตึกMBKค่อยอยู่ใกล้กับบริษัทอึนเคอหน่อย
“ไม่ไป! ฉันจะอยู่บริษัทฉู่ซื่อสามปี ต่อให้ฉันย้ายงานก็จะไปบริษัทโม่ซื่อกรุ๊ป ฉันเชี่ยวชาญธุรกิจปัจจุบันโดยพื้นฐานของบริษัทโม่ซื่อกรุ๊ปแล้ว อาทิตย์หน้าจะฝึกอบรมพนักงานใหม่” พอโจวโร่หลินพูดถึงความสำเร็จของตนก็ตาเป็นประกาย ทั้งหมดนี้ได้มาจากความพยายามของเธอ!
เกาจิ่งอานคิดในใจว่าช่างเถอะ ตึกบริษัทโม่ซื้อกรุ๊ปอยู่ไกลจากอึนเคอกว่า
“เป่าเทียน กินเค้ก ขอพรก่อนสิ”
โจวโร่หลินหลับตาพนมมือขอพรอย่างจริงจัง
เธอลืมตาขึ้นแล้วเป่าเทียนเล่มเล็กๆหกเล่มในลมเดียว
ขอพรเสร็จโจวโร่หลินก็เปิดกระเป๋าแล้วหยิบกล่องเล็กๆออกมา
“ให้นาย”
เกาจิ่งอานมองกระเป๋าของเธอ “กระเป๋าของใส่ของไปกี่อย่างกันเนี่ย?”
“ไม่มีแล้ว! นี่อันสุดท้ายแล้ว! รับไป ให้นาย”
สายตาโจวโร่หลินเปี่ยมด้วยความรัก ไอ้หยา แฟนของเธอหล่อมากๆ!
เกาจิ่งอานชี้จมูกตัวเองอย่างสงสัย “ให้ฉัน?”
เขายังไม่พร้อมที่จะรับของขวัญจากแฟน พูดให้ถูกคือ เขาผ่านผู้หญิงมานับไม่ถ้วน ดูเหมือนว่าเขาจะไม่เคยได้ของขวัญจากผู้หญิงเลย เขาเป็นคนให้ของขวัญผู้หญิงมาโดยตลอด
ของขวัญของผู้หญิง…มักจะอาบน้ำเปลือยกายนอนรอ…แค่กๆ!
“ใช่ เมื่อก่อนฉันใช้เงินชนเดือน! ตอนนี้เงินเดือนฉันขึ้นแล้ว แล้วยังได้โบนัสประจำไตรมาส ดังนั้นเลยซื้อของขวัญให้นาย”
แต่ก่อนเคยคิดจะซื้อของขวัญให้เขา แต่เงินเดือนสองเดือนของเธอยังไม่พอจะซื้อเนกไทให้เขาได้
ถ้าเทียบของขวัญที่เพิ่งได้กับของของเขานั้นมันก็ดูไม่ได้มีค่าอะไร แต่อย่างน้อยเขาก็ได้รับถึงมือ…จริงไหม?
ไม่งั้นเธอก็ไม่มีทางเลือกแล้ว เงินเดือนจะถูกใช้จนหมด
เกาจิ่งอานเหมือนเด็กที่ได้ดอกไม้สีแดงเป็นครั้งแรก เขาถือกล่องไม่กล้าแกะมันลวกๆ “มันคืออะไร?”
“นายเปิดดูเองสิ”
เกาจิ่งอานแกะโบว์สีน้ำตาลบนกล่องอย่างระมัดระวัง “ฉันเปิดจริงๆแล้วนะ?”
“อื้ม! เปิดเลย”
โจวโร่หลินเริ่มตัดเค้กลวกๆ จริงๆแล้วเธอจะรู้สึกประหม่ามากกว่าใคร เธอกลัวว่าของขวัญที่ตัวเองให้จะดูกระจอกเกิน กลัวว่าเขาจะไม่ชอบสไตล์ของเธอ
แม้ว่าเขาจะชอบเธอ แต่ช่องว่างระหว่างพวกเขาก็ใหญ่มาก
ถ้าเธอเป็นคนพี่ลั่ว บางทีเธออาจไม่กระวนกระวายเท่าไหร่
ภายในกล่องเป็นกระเป๋าสตางค์Hermesสองชั้นของผู้ชายใบหนึ่ง
จริงๆแล้วกระเป๋าสตางค์ใบนี้ไม่ใช่สินค้ามาใหม่แล้ว และของอย่างกระเป๋าสตางค์หนังเนกไทของเกาจิ่งอานมักจะออกแบบโดยนักออกแบบชาวอิตาลี หรือเป็นรุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่น ของที่สามารถหาซื้อได้ตามตู้แบบนี้เขาไม่เคยใช้
โจวโร่หลินตัดเค้กออกมาชิ้นหนึ่งแล้ววางบนจานเล็กๆอย่างตั้งใจ สายตาก็แอบมองไปที่เกาจิ่งอาน
เธอเคยเห็นกระเป๋าสตางค์ใบนี้ที่เคาน์เตอร์มานานแล้ว แต่ตอนนั้นเธอไม่กล้าคิดด้วยซ้ำ กระเป๋าสตางค์ราคา 39,999 เธอไม่กินไม่ดื่มสามเดือนก็ยังซื้อไม่ได้เลย
ครั้งที่แล้วไปดูพบว่าราคาลดลงแล้ว แม้ว่าจะลดลงเหลือเพียง 36,666 เธอก็รูดบัตรทันทีราวกับว่าเธอเจอของลดราคาหนัก
กระเป๋าสตางค์ใบนี้ไม่ได้ราคาตกเกินไปใช่มั้ย? ยังไงมันก็คือHermes! Hermes!
เกาจิ่งอานปิดกล่องไม่หยิบกระเป๋าสตางค์ออกมา
ยัยโง่! คงจะไม่ใช้บัตรธนาคารรูดจนวงเงินสูงสุดเพื่อซื้อกระเป๋าเงินให้เขาสินะ?
“ฉันไม่ชอบแบรนด์นี้” เกาจิ่งอานยื่นกล่องให้เธอ
ดวงตาของโจวโร่หลินเบิกกว้างขึ้นทันที “ไม่ชอบเหรอ?! เป็นไปได้ยังไง?! กระเป๋าสตางค์นายใช้แบรนด์นี้ไม่ใช่เหรอ?”
เธอจำได้ว่าเขาใช้Hermesนี่! รองเท้าหนังก็เช่นกัน!
เกาจิ่งอานเริ่มชิมเค้กแล้วพูดอย่างลวกๆว่า “เมื่อก่อนชอบ แต่ตอนนี้ไม่ชอบ มันไร้รสนิยม ตอนนี้ฉันคิดseptwolves MEXICANดี มันใช้งานดี”
แม้ว่าโจวโร่หลินจะไม่รู้เข้าใจแบรนด์ใหญ่ๆ แต่septwolves MEXICANคืออะไรเธอรู้ดี!
กระเป๋าตังค์ราคาห้าร้อยหยวน!
คิดไม่ถึงว่าเขาบอกว่าชอบ?
“กระเป๋าสตางค์พวกนั้นราคาถูกเกินไป ไม่เข้ากับฐานะนาย ฉันซื้ออันนี้ก็ดีแล้วนะ นายสัมผัสมันดูสิ หนังมันนุ่มละเอียดมากเลยนะ!”
โจวโร่หลินพยายามอวยของขวัญของเธออย่างเต็มที่ แต่เกาจิ่งอานกลับไม่สน
“ไม่ชอบ เธอเอาไปคืนเถอะ บิลยังอยู่ใช่มั้ย?”
โจวโร่หลินหลบตาอย่างผิดหวัง เขาไม่ชอบอย่างที่คิดจริงๆ
“อื้ม ยังอยู่”
แน่นอนว่ายังอยู่ เธอใช้ตัวเลขบนนี้กระตุ้นตัวเองให้ทำงานหนักเก็บเงินได้เยอะๆ!
“ถ้างั้นก็คืนละกัน ถ้าอยากจะให้ของขวัญฉันจริงๆก็ให้อย่างอื่น” เกาจิ่งอานเห็นความผิดหวังในสายตาเธอก็ทนไม่ได้
แต่หญิงสาวคนนี้ดื้อรั้นเกินไป เธอปฏิเสธจะรับเงินเขา
ทำไมเธอถึงได้รั้นขนาดนี้!
“อย่างอื่น? นายอยากได้ของขวัญอะไร?” สายตาของโจวโร่หลินฉายความหวังขึ้นอีกครั้ง
เกาจิ่งอานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นเขาก็ร่าเริงขึ้น “เธอถักผ้าพันคอเป็นมั้ย?”
เค้กในปากของโจวโร่หลินแทบจะสำลัก “ผ้าพันคอ?”
“ใช่ หน้าหนาวมันหนาว ฉันขาดผ้าพันคอหนาๆสักผืน เธอถักผ้าพันคอให้ฉันสักผืนสิ”
เกาจิ่งอานภาคภูมิใจในความฉลาดของตัวเอง 555 ใช่ๆๆ การถักผ้าพันคอไม่ได้ใช้เงินมาก หรือว่าเธอไม่รู้หรือไงว่าเขาไม่ต้องการแบรนด์ใหญ่ๆ เขาต้องการคือความตั้งใจของเธอ
โง่จริง
พูดตรงๆ โจวโร่หลินทำไม่เป็น…จริงๆ
“โอเค! ฉันจะถักผ้าพันคอให้นาย นายชอบสีอะไร?” ความกังวลของโจวโร่หลินหายไปทันที ที่แท้เขาก็ชอบแบบนี้! เยี่ยมมาก!
“อืม…สีน้ำตาลละกัน หรือว่าดำ เธอคิดว่าไง?”
“ฉันคิดว่าสีไหนก็เข้ากับนาย” โจวโร่หลินทาครีมลงบนปาก ทำให้หวานขึ้น
“แบบนี้ จากนี้วันเกิดฉันทุกปีเธอให้ผ้าพันคอถักมือเป็นของขวัญวันเกิดเถอะ เปลี่ยนปีละสี” เกาจิ่งอานตักสตรอว์เบอร์รีบนเค้กแล้วป้อนโจวโร่หลิน
“ปีละสี?”
“เปลี่ยนใส่ไง ไม่งั้นวันนี้ให้ผ้าพันคอ ปีหน้าให้ถุงมือ ปีต่อไปให้ถุงเท้า ตราบใดที่เธอทำเอง ฉันก็ชอบทุกอย่าง” เกาจิ่งอานลูบหัวเธอ
เพียงแค่เธอไม่เปลืองเงิน เขาก็ไม่สนใจ
“อื้ม! ได้ๆ! แต่นายต้องรอหน่อยนะ ผ้าพันคอมันไม่เร็วขนาดนี้”
กลับไปต้องขอคนอื่นสอนซะแล้วว่าผ้าพันคอมันถักยังไง!
“ไม่รีบ ค่อยๆทำ ฉันรอได้”
โจวโร่หลินพาHermesกลับด้วยรอยยิ้ม พรุ่งนี้เธอต้องเอาไปคืน แบบนี้เธอก็ไม่ต้องอดอยากแล้ว 55!
แฟนของเธอเป็นคนรู้จักประหยัดเงินแล้วยังอยู่เป็น เธอชอบ!
เกาจิ่งอานเงยมองดวงตาดอกท้อของเธอแล้วแอบยัดกระเป๋าHermesราคาสูงลิ่วยัดลงในกระเป๋ากางเกง
ดูเหมือนว่าสิ่งแรกที่ทำตอนกลับบ้านคือต้องเอากระเป๋าสตางค์แบรนด์เนมทั้งหมดทิ้ง
“เธอให้ของขวัญฉัน ฉันก็อยากให้เธอเหมือนกัน เอานี่ไป ฉันให้เธอ ห้ามปฏิเสธนะ”
เกาจิ่งอานเอากุญแจรถที่เพิ่งหยิบออกมาจากลิ้นชักยัดใส่มือโจวโร่หลิน โลโก้บนกุญแจคือBenz
โจวโร่หลิน “…ให้ฉัน?!”
ผ้าพันคอ 1 ผืนกับBenz 1 คัน!! มันต่างกันมาก?!
“ไม่ใช่รถใหม่ มันอยู่ในโรงรถมานานแล้ว ถ้าไม่ขับออกไปอีกเครื่องยนต์มันจะพัง เธอก็ช่วยฉันเดินเครื่องแทนฉันละกัน” เกาจิ่งอานยิ้มอย่างเท่
อยากจะให้รถเธอมานานแล้ว ในที่สุดก็เจอเวลาที่เหมาะสมพอดี!
มันไม่ง่ายเลย!
โจวโร่หลินเม้มปาก “แต่…ฉันไม่มีใบขับขี่”
เกาจิ่งอาน “…” ราวกับถูกสายฟ้าผ่าใส่อีกครั้ง
“ฉันจะสอนเธอเอง รับรองได้แน่ ได้ใช้รถคันนี้สอนเธอพอดีเลย รอเธอขับเป็นจะเปลี่ยนคันที่ดีกว่าให้”
โจวโร่หลินยิ้มแห้งๆ “ใช้Benzหัดขับรถ?”
“เธอไม่ชอบเหรอ? เอางี้งั้นเธอไปเลือกรถที่โรงรถสักคันละกัน ชอบคันไหนเลือกคันนั้นเลย ได้เลือกรถที่ชอบจะได้เรียนรู้ได้เร็วขึ้น”
โจวโร่หลินนึกถึงโรงรถของเกาจิ่งอาน Ferrari รถพอร์ช เทอร์ Rolls-Royce Bentley แลมโบฯ…
ว่านอนสอนง่าย เลือกมาคันก็ไม่แพ้Benz คิดดูแล้วราวกับว่าเกาจิ่งอานไม่คิดว่าเป็นรถดีอะไร
“ไม่ๆๆ ฉันชอบอันนี้! อันนี้แหละดีแล้ว มันดีแล้ว!”