ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว - ตอนที่ 100
บทที่ 100 ซุปบำรุงครรภ์
เมื่อได้ยินซุปบำรุงครรภ์ ใบหน้าของลั่วมั่นแดงก่ำ พูดอะไรไม่ออก เสมือนว่าถูกกล่องกักอุณหภูมิลวกมือเข้า จะวางก็ไม่ใช่ จะเปิดก็ไม่เชิง
เฟิงเฉินจับจ้องทีท่าอึดอัดของเธอ ก่อนปิดหนังสือในมือลง “อุตส่าห์หิ้วมาให้ตั้งไกล ความตั้งใจของคุณแม่ เธอไม่ดื่มคงไม่ดีเท่าไหร่?”
ลั่วมั่นรู้ว่าเขาตั้งใจเยาะเย้ยตน จึงเถียงคอเป็นเอ็น “ใครบอกว่าฉันจะไม่ดื่มกัน ของดีขนาดนี้ทำไมฉันจะไม่ดื่มล่ะ”
เธอเอ่ย พร้อมเปิดฝาออกอย่างประชดประชัน
กลิ่นอันแปลกประหลาดลอยเข้ามา หอมกลุ่นแตะจมูก แต่เมื่อเห็นวัตถุดิบส่วนผสมข้างใน ลั่วมั่ใบหน้าขาวซีด กระเพาะหมูที่ถูกต้มจนเปื่อย ที่ดูน่าอร่อย แต่สำหรับคนที่ไม่ชอบทานเนื้อหมูเปียกน้ำนั้น เป็นเรื่องที่น่าช็อกต่อสภาพจิตใจ
ซุปกระเพาะหมู
ลั่วมั่นไปเรียนนอกตั้งแต่ยังเล็ก ชาวต่างชาติไม่ทานเครื่องใน ที่นั่นมีวัฒนธรรมที่ว่าทานศพ’นั้นไร้ศีลธรรม นอกจากไก่ย่างในวันขอบคุณพระเจ้า แม้แต่เนื้อไก่เป็ดปลาก็ต้องทำจนไม่เหลือความอนาถก่อนที่จะเสียชีวิตถึงจะยอมยกขึ้นโต๊ะได้ เธอชอบทานอาหารจีน แต่พวกเครื่องใน เธอรับไม่ได้จริงๆ
เฟิงเฉินไม่เข้าใจสิ่งเหล่านี้ เขาเพียงเห็นใบหน้าเธอขาวซีดกะทันหัน ทีท่าเหงื่อผุด จึงหยุดทำสีหน้าเยาะเย้ย ลงจากเตียงมุ่งไปที่เธอ
“เป็นอะไร?”
“ซุปนี่…..” ลั่วมั่นไม่รู้ว่าควรพูดยังไงกับเขาดี หากบอกไม่ดื่ม เกรงว่าเฟิงเฉินจะโกรธเอา ยังไงซะแม่ของเขาก็ลงมือทำด้วยตนเอง
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร” เธอสูดลมหายใจเข้าลึกเต็มปอด กอดกล่องกักอุณหภูมิมุ่งไปที่โต๊ะด้านนอก “แค่รู้สึกเซอร์ไพรส์ ฝีมือทำซุปของคุณแม่พัฒนาอีกแล้ว”
เฟิงเฉินไม่ใส่ใจ เดินตามออกไปยังโต๊ะอาหาร ก่อนหยิบขนมปังขึ้นมาแยม
“แม่ของผมอยู่บ้านว่างๆทุกวันไม่มีอะไรทำ นอกจากอยู่กับพวกดอกไม้ต้นไม้แล้วก็พวกซุปแกงจืดนี่แหละ สองวันที่แล้วคุณยุ่งมาก เป็นเอามันมาด้วย หากเธอชอบตู้เย็นที่บ้านยังมีอีกเยอะ”
ยังมีอีกเยอะ…..
ลั่วมั่นเสมือนเห็นภาพเปิดตู้เย็นก็พบกับกระเพาะหมูสมองหมูและไส้หมูอยู่ตรงหน้า เธอทนความปั่นป่วนในช่องท้อง ทนความสะอิดสะเอียน
“ลองดูสิ” เฟิงเฉินเหลือบมองเธอ “เธอยังไม่เคยดื่มน้ำซุปฝีมือแม่ผมใช่ไหม?”
แต่งงานสามปี แม้ความสัมพันธ์ของลั่วมั่นและพ่อตาแม่ยายค่อนข้างดี แต่การที่ลู่จิ่งจูลงมือทำอาหารให้เธอเองนั้นเป็นโอกาสที่ยากยิ่ง
ต่อให้เป็นน้ำซุป ก็ไม่เคยตักให้เธอ เธอไม่มีทางหาเรื่องใส่ตัวอยู่แล้ว
ครั้งนี้จึงเป็นครั้งแรก
ต่อหน้าการตั้งตารอคอยของเฟิงเฉิน ลั่วมั่นหลับตากล้ำกลืนฝืนดื่มไปหนึ่งอึก ไม่กล้าดื่มด่ำกลับรสชาติ พลางกลืนลงคอไปทันที
“อึก” เสียงกลืนซุปดังชัดเจนในคืนมืดมนที่เงียบสงัด
“ดี อร่อยดี” ลั่วมั่นฉีกยิ้มออกมาอย่างฝืนทน
“จริงเหรอ?” เฟิงเฉินจับจ้องเธอด้วยความสงสัย ปฏิกิริยาของเธอดูยังไงก็แปลกประหลาด
“จริงสิ”
“ถ้างั้นเธอดื่มให้หมดเลยสิ” เฟิงเฉินเลิกคิ้วขึ้น “ห้ามเหลือแม้แต่หยดเดียว ไม่อย่างนั้นกลับไปผมจะฟ้องคุณแม่ วันหลังเธอจะไม่มีให้ดื่มอีก”
ฉันหวังว่าทีหลังฉันจะไม่มีโอกาสได้ดื่มอีกใจแทบขาด!
ลั่วมั่นร่ำร้องในใจ แต่กลับไม่อยากทำร้ายน้ำใจของผู้ใหญ่ ได้แต่กอดกล่องกักอุณหภูมิเอาไว้ ฝืนดื่มต่อ
ทันทีที่กล่องกักอุณหภูมิแตะปาก ข้อมือถูกรั้งเอาไว้ ในเวลาเดียวกันมืออีกข้างยื่นไปตรงหน้าเธอ แย่งกล่องอุณหภูมิไปจากเธอ
เฟิงเฉินวิจารณ์ด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ
“พอได้แล้ว ใบหน้าคับแค้นใจนั่น คนอื่นจะคิดว่าเป็นยาพิษ ดื่มไม่ลงก็ไม่ต้องดื่ม ไม่มีใครบังคับเธอเสียหน่อย”