ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว - ตอนที่ 131
บทที่ 131 เฮ่าเฮ่าคือชีวิตของฉัน
เวินน๋อนกล่าวโทษเสียงดังลั่น เหล่าคนที่เดินผ่านตามทางต่างให้ความสนใจ
ลั่วมั่นรู้สึกขายขี้หน้า เธอสีหน้าเปลี่ยนไปทันที เพียงแต่ต่อหน้าเฮ่าเฮ่าเธอไม่อาจพูดอะไรที่ฟังดูไม่ดีออกมาได้ จึงเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “ฉันเห็นว่าเฮ่าเฮ่าเป็นไข้ตัวร้อนเลยพาเขามาที่โรงพยาบาล อย่ามาส่อเสียดให้ร้ายกันหน่อยเลย”
“เฮ่าเฮ่าสุขภาพแข็งแรงดี อยู่ดีๆ เขาจะป่วยแบบไร้สาเหตุได้ยังไงกัน เธอตั้งใจสร้างเรื่องเหล่านี้ขึ้นให้ฉันดู เพื่อหลอกให้ฉันกลัว ลั่วมั่นจิตใจเธอโหดร้ายมาก”
เวินน๋อนด่ากล่าวว่าร้ายลั่วมั่น เธอรัดเด็กชายเอาไว้แน่น โดยไม่แยแสสายน้ำเกลือที่ทิ่มแทงอยู่ที่แขนของเด็กชาย จนเลือดทะลักไหลออกมาหลายหยด แต่เธอยังคงด่ากราดลั่วมั่นเสียงดังลั่นอย่างถือโทษ
“หมออยู่ไหน?” ลั่วมั่นเจ็บปวดใจเมื่อเห็นข้อแขนของเฮ่าเฮ่า เธอไม่อยากเสียเวลาในการไร้สาระอยู่ตรงนี้ หญิงสาวหมุนตัวหาจ้าวเหิน
หากแต่เวินน๋อนกลับคว้าแขนของเธอเอาไว้ คำรามเสียงดังลั่น “แกจะไปไหนไม่ได้”
เธอใช้แรงมาก จนข้อแขนของลั่วมั่นเกิดเสียงดังเอี๊ยด ความเจ็บแสบแล่นผ่าน ทำให้สีหน้าที่เรียบเฉยของเธอบิดเบี้ยวผิดรูป
“พอได้แล้ว” เฟิงเฉินก้าวเข้ามาอย่างไว คว้าแขนของเวินน๋อนเอาไว้ น้ำเสียงที่เย็นเยือกหยุดเสียงเอะอะทุกอย่างในห้องผู้ป่วยลง
“แขนของเด็กเลือดออกแล้ว ให้หมอเข้ามาจัดการก่อน เวินน๋อน เธอใจเย็นก่อน”
“เฉิน” เวินน๋อนคลายมือออก สายตาที่จับจ้องเฟิงเฉินเต็มไปด้วยความน่าสงสาร
“เธอพาตัวเฮ่าเฮ่าไป ก็เหมือนกับพรากเอาชีวิตฉันไปด้วย คุณจะให้ฉันใจเย็นได้ยังไง? ปกติแล้วเฮ่าเฮ่าร่างกายแข็งแรงมาก ทำไมเพียงแค่ไปอยู่ที่บริษัทไม่กี่ชั่วโมงถึงได้เข้าโรงพยาบาลแบบนี้? ผู้หญิงคนนี้ทำอะไรเฮ่าเฮ่ากันแน่? คุณไม่แคร์เลยสักนิด เฮ่าเฮ่าก็เป็น….,”
ทันใดนั้นลั่วมั่นนิ่งไป เธอหยิกที่ฝ่ามือตนเองเต็มแรงเพื่อสงบสติ
แม้ว่าประโยคหลังเวินน๋อนจะไม่ได้พูดมันออกมา แต่ในเวลานี้กลับชัดเจน การที่ตัวเธออยู่ที่นี่ในตรงนี้เป็นได้แค่ตัวตลก
“ทุกอย่างยังไม่ชัดเจนดี อย่าพูดพล่อยๆ ออกมา” เฟิงเฉินเอ่ยขึ้นขัดประโยคของเวินน๋อน เพียงแต่คำที่ว่า ‘ทุกอย่างยังไม่ชัดเจนดี’ ไม่รู้ว่าหมายถึงเรื่องที่เด็กป่วยหรือเรื่องพ่อของเด็กกันแน่
“แม่ฮะ เจ็บจังเลย…..” ในที่สุดเฮ่าเฮ่าทนความเจ็บปวดไม่ไหวอีกต่อไป เด็กน้อยปล่อยโฮออกมาเสียงดัง
เวินน๋อนลูบหลังปลอบโยนเด็กน้อย พร้อมเอ่ยกับเฟิงเฉินอย่างน่าสงสาร “ฉันแค่อยากรู้ว่าเธอทำอะไรกับลูกของฉัน ผิดด้วยเหรอ?”
ลั่วมั่นขมวดคิ้วไม่พูดอะไรออกมา เป็นละครฉากหนึ่งที่ยอดเยี่ยมเสียจริง ตนคงว่างเกินไปถึงได้หาเรื่องใส่ตัวแบบนี้
ในเวลานี้ เฮ่าเฮ่าร้องห่มร้องไห้พร้อมกับอ้าแขนทั้งสองข้างออกมุ่งไปทางลั่วมั่น พร้อมพ่นประโยคที่ไม่ชัดเจนออกจากปากด้วยน้ำเสียงของเด็กน้อย “แงแงแงน้าฮะ อุ้มผมหน่อย…..เฮ่าเฮ่าเจ็บ…..อุแง้!”
เวินน๋อนหน้าถอดสี หันไปทางอ้อมอกของตนเองด้วยความไม่อยากจะเชื่อ “เฮ่าเฮ่า พูดอะไรออกมา?”
“คุณน้า อุ้มผมหน่อย…..”
เรื่องราวชัดเจน หากลั่วมั่นทำมิดีมิร้ายต่อเด็ก เฮ่าเฮ่าจะยอมให้เธออุ้มได้อย่างไร
ต่อให้ลั่วมั่นเห็นใจเด็กน้อยมากแค่ไหน ก็ไม่สามารถแย่งเด็กน้อยมาไว้ในอ้อมกอดต่อหน้าต่อตาผู้เป็นมารดา เธอได้แต่อยู่นิ่งเฉย “คุณเวิน ตอนนี้คงกระจ่างแล้วว่าฉันไม่ได้ทำร้ายเด็ก คุณยังมีข้อหาอะไรที่จะกล่าวหาฉันอีก พูดให้รู้เรื่องตรงนี้เลยจะดีกว่า หากก้าวเท้าออกจากโรงพยาบาลแล้ว ฉันจะไม่ยอมรับอะไรทั้งนั้น”
เวินน๋อนอับอาย พลางดึงแขนเสื้อของเฟิงเฉินเอาไว้ พร้อมกับกระตุกเบาๆ “เฉิน เด็กน้อยไม่รู้เรื่อง ฉันก็ไม่ได้บอกว่าเธอทำอะไรสักหน่อย ฉันแค่อยากจะถามให้รู้เรื่องเท่านั้น”
‘ไม่ได้หาว่าฉันทำอะไร แค่อยากถามให้รู้เรื่อง’ อย่างนั้นเหรอ ทีท่าบีบบังคับเมื่อสักครู่ คนที่แทบจะกลืนกินทั้งเป็นเมื่อสักครู่นี้เสมือนกับว่าไม่ใช่เธอ เมื่อเห็นปฏิกิริยาที่ขอความช่วยเหลือจากเฟิงเฉินของเวินน๋อน ทำให้ลั่วมั่นโมโหจนไร้คำพูด
เฟิงเฉินหันหน้ามองลั่วมั่น ด้วยสายตาที่ซับซ้อน “มั่นมั่น เธอออกไปรอฉันก่อน”
“ไม่จำเป็น” ลั่วมั่นไม่สบอารมณ์ เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ที่นี่ไม่มีพื้นที่สำหรับฉัน ฉันต่างหากที่อยู่รบกวนพวกคุณ เพราะงั้นฉันไปก่อน คุณสามคนครอบครัวอยู่รำลึกความหลังเถอะ”
จบประโยค ลั่วมั่นผลักประตูออกไปอย่างไม่รอช้า