ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว - ตอนที่ 134
บทที่ 134 เชื่อใจผมก็พอ
เมื่อเห็นความเซอร์ไพรส์ในสายตาของเธอ เฟิงเฉินพอใจอย่างที่สุด
เมื่อสามปีก่อนที่เพิ่งแต่งงานกับเธอ บริษัทมีความจำเป็น ที่จะต้องร่วมงานกับนักแสดงหญิง ต้องแสดงละครฉากหนึ่งในงานเลี้ยง ไม่คาดคิดเลยว่าจะเป็นข่าวขึ้นมา
ตอนนั้นเขาคิดที่จะคุยกับเธอให้รู้เรื่อง คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะไปจัดแต่งต้นไม้ที่คฤหาสน์เฟิงกับแม่ของเขาเสมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถึงขนาดไม่เอ่ยถึงมัน เรื่องของเขากับนักแสดงหญิงคนนั้น
ในตอนนั้น ประโยคของลั่วมั่นที่ว่า “คุณเฟิงจะทำอะไรข้างนอกฉันไม่สนใจ ขอเพียงแค่ในสถานการณ์สำคัญนึกถึงตระกูลเฟิงบ้างก็พอแล้ว” ทำให้เฟิงเฉินรั้งความคิดไร้สาระที่จะไปอธิบายกับเธอ
หลายปีมานี้ ผู้หญิงผ่านเข้ามาในชีวิตของเขาไม่น้อย เพียงแค่เขาไม่ทำอะไรที่เกินไป หรือ พูดอีกอย่างว่าไม่ปรากฏกายตรงหน้าเธอ เธอก็จะไม่สนใจ ทั้งคู่ต่างไม่ยอมกัน เมื่อเฟิงเฉินรู้ว่าผู้หญิงอย่างหลัวแมนจีมีเหลี่ยมมาก สามารถทำให้ลั่วมั่นที่นิ่งสงบมาพันปีโมโหขึ้นมาได้ เขาจึงเกิดความสนใจขึ้นมา
“ผู้หญิงพวกนั้นเป็นแค่การแสดง เธอไม่ต้องใส่ใจหรอก ส่วนเรื่องของเวินน๋อนอีกหน่อยเธอก็จะเข้าใจเอง”
เฟิงเฉินลูบไล้หัวของเธอ ด้วยความมั่นคง “แค่เธอเชื่อใจผมก็พอแล้ว”
“สนุกไหม?” น้ำเสียงของลั่วมั่นขรึมลง เออยังไม่สบอารมณ์ “ปล่อยฉัน”
ความภาคภูมิใจและเกียรติของเธอไม่ได้มีไว้เพื่อให้ใครล้อเล่นและลองใจ การแสดงในสามปีมานี้ของเฟิงเฉินเป็นของปลอม แต่ความเสียใจและความเจ็บปวดตลอดสามปีมานี้เป็นของจริง
เฟิงเฉินนิ่งไป เขาถูกผลักออก ไม่คิดเลยว่าลั่วมั่นจะมีปฏิกิริยาที่ใหญ่เช่นนี้
“ออกไป”
ลั่วมั่นผลักประตูห้องออก ด้วยสีหน้าดำทะมึนจนน่าตกใจ
“มั่นมั่น”
“อย่าแตะต้องฉัน” ลั่วมั่นผละออกจากมือของเขา “ตอนนี้ฉันไม่มีอารมณ์ที่จะคุยกับคุณ หากไม่อยากได้ยินคำพูดที่รุนแรงจากฉันก็ออกไปซะ ฉันอยากอยู่คนเดียว”
เฟิงเฉินขมวดคิ้วแน่น ลังเลอยู่สักพัก ก่อนที่จะสาวเท้าเดินออกไป หลัง ประตูถูกปิดลง ลั่วมั่นฟุบนั่งลงกับพื้น หมอกควันปกปิดสายตา คำพูดเมื่อสักครู่ของเฟิงเฉินจะเป็นเรื่องจริงก็ดีจะหลอกลวงก็ช่าง เหล่านี้คอยเตือนสติเธอว่าสามปีมานี้เฟิงเฉินโกรธเกลียดเธอ ไม่ว่าการเล่นละครกับผู้หญิงเหล่านั้นจะจริงหรือไม่ อย่างน้อยๆ สามปีมานี้เขาไม่เคยนึกถึงความรู้สึกของเธอเลย
ตอนนี้กลับกล่าวว่า ‘ภักดี’ ออกมาอย่างภาคภูมิใจ ตลกสิ้นดี
แม้แต่การที่เขาบอกภักดีต่องานแต่ง เพียงเพราะการเชื่อมดองทางด้านธุรกิจเท่านั้น หากการแต่งงานมีความเปลี่ยนแปลง หุ้นของบริษัทH.Yจะได้รับผลกระทบไปด้วย
ส่วนเวินน๋อนและลูก มันมีอะไรกันแน่พูดออกมาตอนนี้ไม่ได้หรือไง?
“ตูม” เสียงปิดประตูดังขึ้น มารดาของลั่วมั่นตามขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียง “เกิดอะไรขึ้น?”
เฟิงเฉินยืนสติหลุดลอยอยู่ที่หน้าห้อง “ไม่มีอะไร แค่ทะเลาะกันนิดหน่อย แม่ครับ ท่านไม่ต้องเป็นห่วง”
“ทะเลาะกันเหรอ?” มารดาของลั่วมั่นหน้าถอดสี “ได้อย่างไรกัน? คุณมารับเธอด้วยตัวเองแบบนี้ เธอยังต้องโกรธอะไรอีก เดียวฉันเอง”
เธอเอ่ย พลันเคาะประตูห้องอย่างไม่แยแส
เฟิงเฉินคิดจะรั้งเธอเอาไว้ แต่เมื่อเอื้อมมือออกไปกลับคิดว่าการให้มารดาของเธอพูดกับเธอคงดีเสียกว่า จึงตามใจเธอ ส่วนตัวเขายืนทบทวนว่าประโยคไหนกันแน่ที่ทำให้เธอโกรธแค้นเขา
เขาไม่เข้าใจ เขาบอกความจริงกับเธอว่าสามปีมานี้เขาไม่ได้มีอะไรเกินเลยกับผู้หญิงเหล่านั้นมันผิดตรงไหนกันแน่?
ส่วนอีกด้าน มารดาของลั่วมั่นหยิบกุญแจไขประตูห้องของลั่วมั่นเข้าไป
“ลั่วมั่น เธอนี่นะ…..เอ๋? หายไปไหน?”
ภายในห้องว่างเปล่า มีเพียงหน้าต่างบานใหญ่ในห้องที่ถูกเปิดออก ผ้าม่านสีเขียวเข้มพลิ้วไหวเต้นระบำไปตามแรงลม บนหน้าต่างทิ้งรอยเท้าจางๆ ทั้งสองข้างเอาไว้