ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว - ตอนที่ 150
บทที่ 150 เธอถูกพาตัวไปแล้ว
ห้องบนชั้นสองของโรงแรมที่ชำรุดทรุดโทรมในเขตชานเมือง ——
ประตูถูกเตะลงกับพื้น ควันและฝุ่นละอองทั่วห้องเพิ่งตกลงมาไม่นาน ฝุ่นละอองลอยไปพร้อมกับความเร่งรีบของผู้คน รองเท้าหนังสีสดใสไม่เข้ากันกับความยุ่งเหยิงภายในบ้าน
รองเท้าหนังคู่นั้นยืนอยู่ในห้องนั่งเล่นที่พังพินาศ ที่พื้นเต็มไปด้วยเศษผ้าที่ดูน่าตกใจ
ชายหนุ่มทรุดตัวนั่งยองๆและหยิบเสื้อผ้าอย่างระมัดระวัง ความหนาวเหน็บจากร่างกายของเขาแพร่กระจายไปทั่วห้องอย่างรวดเร็ว เพียงแค่ช่วงพริบตา ดวงตาคู่นั้นก็แดงก่ำ ความโกรธที่เย็นยะเยือก เขาหักนิ้วตามข้อนิ้วจนเกิดเสียงดัง ด้วยใบหน้ากังวลที่ไม่สามารถปกปิดได้ เขาตะโกนใส่ประตู
“หลี่สู้”
“ประธานเฟิงครับ ผมได้เช็คดูทุกห้องแล้ว ไม่มีใครอยู่เลยครับ”
จู่ๆหลี่สู้ก็ได้ยินเสียงมาจากทางด้านนอกประตู “เจ้านายบอกว่าวันนี้ประธานลั่วเลิกแล้ว ”
ที่ด้านหลังของเขาตามมาด้วยเจ้าของโรงแรมผู้เคร่งขรึม เขาดูผอมมาก ระหว่างทางที่นี่ได้รู้จักตัวตนของคนที่มานั้นจากหลี่สู้แล้ว แน่นอนว่ายังรู้อีกด้วยว่าตัวตนของผู้หญิงที่ถูกชายฉกรรจ์สองสามคนจับตัวไปก่อนหน้านี้
“ภรรยาของฉันอยู่ที่ไหน” เสียงของเฟิงเฉินดังมาทางเขาด้วยความรู้สึกเย็นชา
ก่อนที่เขาจะพูดอะไรเจ้าของโรงแรมก็คุกเข่าลงพร้อมกับเสียงสั่นเครือ
“คุณเฟิง พวกเราไม่รู้จริงๆว่านั้นคือนายหญิงเฟิง หัวหน้าบอกว่าเธอคือเมียของเขาที่หนีออกจากบ้าน แต่ละคนก็ดูเหมือนพวกผีห่าซาตานทั้งนั้น พวกเราไม่กล้าถามหรอก……”
“เธอล่ะ?” เฟิงเฉินแทบจะคำรามและยกเถ้าแก่นั่นขึ้นจากพื้น ดวงตาของเขาเป็นสีแดงก่ำ “เธออยู่ที่ไหน”
เถ้าแก่ดึงคอเสื้อเพื่อให้ตัวเองได้หายใจ
“ถูก…. ถูกคนกลุ่มหนึ่ง คนพาไปด้วย คือเจ้านายครับ แล้วก็เป็นผู้ชาย……”
ขณะที่พูด เขาถูกบีบที่คอเสื้อจนแทบจะหายใจไม่ออก ทำให้ประโยคที่ขาดตอนต้องใช้เวลากว่าจะพูดจบ เฟิงเฉินบีบคอของเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย ใบหน้าของเขาในตอนนี้กลายเป็นสีเขียวช้ำ เห็นมีเพียงแต่ลมหายใจออกแต่ไม่มีลมหายใจเข้า
เมื่อเห็นท่าไม่ดี หลี่สู้ก็ตื่นกลัว เกรงว่าเขาจะฆ่าจึงรีบพูดขึ้น
“ประธานเฟิง รีบหาคนก่อนเถอะครับ พวกเราไปแจ้งความที่สถานีตำรวจกันก่อนดีกว่า ที่กล้องวงจรปิดอาจจะพบอะไรก็ได้นะครับ”
คิ้วของเฟิงเฉินสั่นกระตุก เขาคลายมือออกและปล่อยชายคนนั้นลงกับพื้น
“สถานีตำรวจ……”เถ้าแก่ล้มลงกับพื้นและกระดูกก้นกบของเขาเกือบจะหัก หลังจากที่คร่ำครวญอยู่นั้น ดูเหมือนว่าจู่ๆเขาก็จำอะไรบางอย่างได้และพูดอย่างกังวล
“ใช่ ผู้ชายที่พานายหญิงเฟิงไป เขาพาพรรคพวกไปส่งที่สถานีตำรวจด้วย ”
สีหน้าของเฟิงเฉินดูอึมครึมขึ้นมาโดยทันทีพลางตะโกนออกมา
“สถานีตำรวจที่ไหน”
“เป็นสาขาเมืองตะวันตกที่ใกล้ที่นี่ที่สุด”
“ไปสิ”
“……”
ในอีกด้านหนึ่ง ลั่วมั่นที่กำลังตกอยู่ในฝันร้ายซึ่งเป็นฝันร้ายที่แท้จริงและคุ้นเคยที่เธอเคยสัมผัสมาก่อน
ความฝันนั้นช่างยาวนาน ภาพต่างๆฉายซ้ำสลับไปเรื่อย ๆ
เงาดำที่มองไม่เห็นใบหน้าลุกขึ้นและตกลงมาที่เธอ ปล่อยให้เธอร้องไห้และดิ้นรน คนๆนั้นยังคงปล่อยให้ร่างกายของเขาเข้ามาข้างในเธอ มันทั้งใหญ่และอุ่นได้เข้าไปในท่อนล่างของเธอ เธอกรีดร้อง เล็บจิกเข้าไปที่ไหล่ของคนๆนั้น ดวงตาสีแดงคู่หนึ่งกำลังมองเธอจากความมืด
“อย่านะ……”
แสงสีขาวสว่างวาบ ตัวอักษรแห่งความสุขตัวใหญ่สีแดงสดแปะอยู่บนกระจกหน้าต่าง สถานที่ที่ดีที่สุดในวิลล่าถูกใช้เป็นห้องหอของเธอ ฉากนี้คือฉากในคืนแต่งงานของเธอเมื่อสามปีก่อน
สิ่งที่เข้ากันไม่ได้กับบรรยากาศรื่นเริงรอบ ๆ คือทัศนคติของเจ้าบ่าว
“ลั่วมั่น เพื่องานแต่งงานนี่ เธอทำได้ทุกอย่างจริงๆสินะ แม้กระทั่งการหลอกตัวเองเช่นการผ่าตัดซ่อมแซมเยื่อพรหมจารี เธอทำให้ฉันรู้สึกสะอิดสะเอียนจริงๆ”
ร่างสูงยืนอยู่หน้าโคมไฟระย้าจนบดบังแสงส่วนใหญ่ ทำให้เงาที่พาดผ่านห่อหุ้มลั่วมั่นเอาไว้ และด้วยคำพูดที่ทำให้เธอแทบจะหายใจไม่ออก