ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว - ตอนที่ 203
บทที่ 203 คุณทำได้ทุกอย่างเพื่อผมเหรอ
“หมิง อย่าทิ้งฉันสิ ฉันช่วยคุณได้นะ ไม่ว่าคุณอยากจะทำอะไรฉันสามารถช่วยคุณได้ทั้งนั้น”
แมนจีไม่อยากจะเชื่อเลยว่าความสุขที่อยู่ในมือของเธอกำลังจะหลุดลอยไป ช่วงเวลานี้ลู่หมิงคอยปกป้องและดูแลเอาใจใส่เธอเป็นอย่างดี ยอมจ่ายเงินเพื่อเธออย่างไม่เสียดาย กระเป๋าแบรนด์เนมเต็มเธอเต็มห้อง เธอไม่รู้เลยว่าหากไม่มีลู่หมิงแล้วเธอจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไร
“ไม่จำเป็นหรอก” ลู่หมิงลากกระเป๋า สีหน้าเย็นชา
“หมิง ฉันขอร้องล่ะ คุณอย่าทิ้งฉันเลย”
ไม่รู้ว่าแมนจีเอาแรงมาจากไหน เธอกระโจนออกจากรถเข็น แล้วพุ่งไปคุกเข่าอยู่ที่พื้น เกาะขากางเกงของเขาแน่น ราวกับกลัวว่าลู่หมิงจะจากไป
“ไม่ว่าคุณจะให้ฉันทำอะไรฉันเต็มใจทำทั้งนั้น ขอร้องล่ะ พาฉันไปด้วยเถอะ ถ้าคุณไม่พาฉันไปด้วย ฉันยอมตาย เฟิงเฉินกับลั่วมั่นคนถ่อยคนนั้นไม่ปล่อยฉันไปแน่”
ลู่หมิงขมวดคิ้ว สายตามองต่ำลงมายังหญิงสาวผู้นี้ ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาคิดอะไรอยู่ หันหน้ามาและคุกเข่าลง จากนั้นก็ใช้มือยกคางเธอขึ้น
“เมื่อสักครู่นี้คุณบอกว่า ถ้าผมพาคุณไปด้วย คุณจะยอมทำทุกอย่างใช่ไหม?”
“ใช่ค่ะ ” น้ำตาบนใบหน้าของหลัวแมนจีไหลอาบ เธอพยักหน้าราวกับกระเทียมถูกโขลก
“หากผมให้คุณเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าใหม่ และใช้ชื่อคนอีกคนหนึ่งในการมีชีวิตต่อล่ะ?”
ใจของหลัวแมนจีเต้นรัว มองไปที่ชายที่อยู่เบื้องหน้า จู่ๆก็รู้สึกถึงความเย็นที่แผ่มาจากหลังกระดูก
คำพูดนี้ของเขา หมายความว่ายังไงกันนะ?
ลู่หมิงมองไปที่ใบหน้าที่สวยงามของเธอ จะยิ้มก็เหมือนไม่ยิ้ม
“สถานะของคุณ คุณก็รู้ดี คนที่รู้จักใบหน้านี้ของคุณไม่น้อยเลย ผมพาคุณไม่ด้วยไม่สะดวก ดังนั้นหากคุณต้องการไปกับผมจริงๆ คุณก็ต้องเปลี่ยนหน้าใหม่”
ไม่ผิด เป็นแบบที่เขาพูดจริงๆ หลัวแมนกำหมัดแน่น
“ฉันเต็มใจ”
“คำพูดนี้ คุณเป็นคนพูดเอง คุณคิดดีแล้วนะ”
“ฉันคิดดีแล้วค่ะ”
หลัวแมนไม่ลังเลแม้แต่น้อย “ไม่ว่าคุณจะให้ฉันทำอะไร ฉันล้วนเต็มใจค่ะ”
เธอไม่สามารถอยู่ต่อไปที่เมืองเจียงได้แล้ว ก็อย่างที่ลู่หมิงพูด เนื่องจากเธอเป็นนักแสดง ทำให้คนทั้งประเทศรู้จักเธอไม่น้อย รวมทั้งคนต่างชาติ ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน สำหรับเธอแล้วล้วนแต่เป็นหายะนะ ขอเพียงมีคนรู้จักเธอ เธอก็ยากที่จะใช้ชีวิตได้อย่างสงบสุข
อีกทั้งเธอก็เชื่อว่า เฟิงเฉินกับลั่วมั่นสองสามีภรรยาจะต้องไม่ปล่อยเธอไปอย่างแน่นอน
ดังนั้นการทำศัลยกรรมเปลี่ยนแปลงใบหน้า เป็นสิ่งที่เธอหลบหลีกไม่ได้
หลังจากนั้นครึ่งเดือน
“ประธานเฟิงสัญญาที่พวกเราทำกับบริษัทซิงกุ่ยฝั่งนั้นผิดสัญญา ไม่รู้เหมือนกันว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า?”
หลี่สู้ยืนอยู่ในสำนักงาน สีหน้าตึงเครียด
เฟิงเฉินปิดสัญญาที่อยู่ในมือลง มือหนึ่งยกกาแฟขึ้นมาอย่างสุขุม “ไม่ต้อง อาจเป็นเพราะว่าลู่หมิงกลัวว่าหากคบหากับผมเป็นระยะเวลานานจะทำให้เขาเผยหางจิ้งจอกออกมา ดังนั้นจึงยอมถอย เพื่อกลับไปวางแผนใหม่”
ลู่หมิงไม่เข้าใจ “ ประธานเฟิงคุณกับลู่หมิงมีเรื่องบาดหมางอะไรกันแน่?ถึงได้กล้าทำกับคุณขนาดนี้? และยังทำร้ายประธานลั่ว”
“เป็นเรื่องหลายปีมาแล้ว ผมก็ไม่รู้ว่าจะพูดยังไง หากไม่ได้เป็นเพราะจู่ ๆ ก็มีคนๆหนึ่งปรากฏขึ้นมา บางทีผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่า มีความแค้นนี้อยู่”
คิ้วของเฟิงเฉินขมวดเล็กน้อย จู่ๆก็รู้สึกหงุดหงิดใจขึ้นมา “เวลาที่คนไม่มีที่ระบาย ก็ชอบโยนสิ่งที่ตนทำผิดให้กับคนอื่น ยิ่งคนที่ปากแข็งมักจะเป็นเช่นนี้ ”
หมิงลู่เป็นเช่นนี้ น้องสาวของเขาลู่อันอันก็เป็นเช่นนี้ในตอนนั้น
ก่อนจะเลิกงาน ลั่วมั่นมาส่งเอกสารที่ห้องประธานกรรมการบริหาร
“เย็นนี้กินข้าวด้วยกันเถอะ เส้าหยู้บอกว่าอยากจะขอโทษเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้กับคุณ ก็เลยอยากจะเชิญพวกเรากินข้าว”
“ขอโทษพวกเรา?” สีหน้าของลั่วมั่นประหลาดใจ “เหตุผลนี้ไม่น่าจะใช่นะ แม้ว่าตอนนั้นฉันจะบาดเจ็บเพราะเขา แต่ว่า ฉันไม่ดึงเขามาเกี่ยวข้องด้วย เขาก็คงจะไม่ต้องได้รับอันตราย หากต้องการที่จะเลี้ยงข้าว ควรเป็นพวกเรามากกว่าที่ต้องเลี้ยงข้าวเขา ”