ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว - ตอนที่ 204
บทที่ 204 ทำดีกับเธอก็ผิดเหรอ ?
“ควรที่จะเชิญเขากินข้าว” สีหน้าท่าทางของเฟิงเฉินดูกระฉับกระเฉงและมีชีวิตชีวา “เรียกเพื่อนซี้เธอมาด้วยก็แล้วกัน”
“เล่อสวี้?” เมื่อคิดถึงเรื่องที่เล่อสวี้กับกวนเส้าหยู้ต่อล่อต่อเถียงกันบนรถ จู่ๆลั่วมั่นก็เหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมา พูดขึ้นอย่างสงสัยว่า “เรื่องจริงหรือล้อเล่น?กวนเส้าหยู้มีความรู้สึกดีๆต่อเล่อสวี้?ถ้าเช่นนั้นเขาก็นัดเล่อสวี้เองก็ได้หนิ?”
“หากเขาสามารถนัดได้ล่ะก็ คงไม่ให้พวกเราทั้งสองไปเป็นก้างขวางคอหรอก”
ขนตาของเฟิงเฉินขยับเล็กน้อย “ดังนั้นอาหารมื้อนี้ ต้องให้เขาเลี้ยง”
ลั่วมั่นเห็นด้วยอย่างที่สุด “ใช่ หากกวนเส้าต้องการตามจีบเล่อสวี้ ด้วยนิสัยของเล่อสวี้แล้ว เกรงว่าคงจะไม่น้อยทนทรมานไม่น้อย การที่เขาให้พวกเราเป็นสะพานเชื่อมให้ ไม่ใช่แค่จะเลี้ยงข้าวมือเดียวก็ได้ ”
คืนนี้สถานที่คือร้านอาหารฝรั่งเศสแห่งหนึ่ง
ขณะที่กำลังเข้าประตูเกิดเรื่องผิดพลาดเล็กน้อย เล่อสวี้ที่สวมชุดกีฬาสีดำถูกขวางไว้ที่ด้านนอก ดีที่ลั่นมั่นไปถึงพอดี เมื่ออ้างชื่อของกวนเส้าจึงทำให้ไม่เกิดเรื่องเข้าใจผิดขึ้น
แต่ว่าสีหน้าของเล่อสวี้ เริ่มไม่ค่อยสู้ดีสักเท่าไหร่นัก
ขณะที่สั่งอาหาร ลั่วมั่นกับเฟิงเฉินทั้งสองเข้าใจกันโดยปริยายโดยที่ไม่ต้องพูดไม่จา
ส่วนอีกทางด้านหนึ่ง
“หอยทากอบของร้านนี้อร่อยนะ” กวนเส้ายื่นเมนูให้กับเล่อสวี้อย่างกระตือรือร้น “คุณอยากกินอะไร ลองดูสิ เดี๋ยวผมช่วยคุณเลือก”
เล่อสวี้พลิกไปมาสองหน้าอย่างอารมณ์เสีย พลางขมวดคิ้วขึ้น
กวนเส้าหยู้ดูก็รู้ว่าเขามาที่นี่เป็นประจำ หลังจากที่เหลือบมองครู่หนึ่ง เขาก็เรียกพนักงาน “เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงได้หยิบเมนูอาหารฝรั่งเศสมาล่ะ ?เอาเมนูภาษาจีนมา”
เล่อสวี้ปิดเมนูอาหารที่อยู่ในมือลง จ้องมองกวนเส้าหยู้ ด้วยสายตาเย็นชา
“คุณคิดว่าฉันอ่านเมนูอาหารไม่ออกเหรอ?”
“ผมไม่ได้หมายความแบบนั้น”
สีหน้าของกวนเส้าหยู้เต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ผมเอง ผมอ่านไม่ออก”
เล่อสวี้ไม่หลงกล เลื่อนเมนูอาหารไปวางด้านหน้าของตน อ่านเมนูอาหารในหน้าแรกอย่างออกเสียงอย่างชัดเจนและคล่องแคล่ว หลังจากนั้นมองไปที่พนักงานและพูดว่า “เอาเมนูพวกนี้มาอย่างละจาน”
กวนเส้าหยู้เต็มตกตะลึง แม้แต่เฟิงเฉินกับลั่วมั่นก็ยังอดไม่ได้ที่จะเผยสีหน้าตกตะลึงออกมา
ปิดเงียบไว้ซะมิดเลย เธอยังมีความสามารถด้านภาษานี้ด้วย
เล่อสวี้ไม่มีอารมณ์ที่จะดื่มด่ำกับสายตาชื่นชมของคนเหล่านั้น เธอลุกขึ้นแล้วสะพายกระเป๋า
“เฮ้อ คุณจะไหน?” กวนเส้าหยู้ ลุกขึ้นตาม
“คุณกวน ขอบคุณสำหรับน้ำใจ เรื่องกินข้าวช่างมันเถอะ ตอนนี้ฉันอยากกลับบ้านไปทำงานล่วงเวลา ยังมีงานที่ต้องจัดการอีกมาก”
“ทำงานล่วงเวลา?” กวนเส้าหยู้ร้อนใจ“ คุณก็สั่งอาหารไปแล้ว กินให้เสร็จก่อนค่อยไปเถอะ”
“อาหารพวกนั้นฉันสั่งให้คุณ”
หลังจากพูดประโยคนี้เสร็จเล่อสวี้ก็เดินออกจากร้านอาหารไม่แม้แต่จะหันมา
กวนเส้าหยู้งุนงงอยู่ตรงนั้น พลางหันมายังเฟิงเฉินและภรรยา “เธอประสาทไปแล้วเหรอ?”
“ฉันว่าคุณนั้นแหระที่ประสาท” ลั่วมั่นชีแนะเขาอย่างไม่เกรงใจว่า “หากเดาไม่ผิด สถานที่แห่งนี้คุณมักจะพาสาวๆของคุณมาบ่อยๆใช่ไหม ? เมื่อสักครู่นี้เล่อสวี้ถูกพนักงานต้อนรับขวางไว้ที่หน้าประตู เพราะว่าเธอไม่ได้ชุดราตรี”
“ผมให้คนเอาชุดราตรีไปมอบให้กับเธอแล้วหนิ แล้วยังส่งคนไปรับเธออีกด้วย”
“แล้วทำไมเธอถึงไม่ใส่ล่ะ อีกทั้งยังนั่งรถประจำทางมาด้วย?”ลั่วมั่นเตือนกวนเส้าหยู้อย่างรำคาญว่า “คุณคิดว่าเวลาที่ผู้หญิงได้รับชุดราตรีจากหนุ่มหล่อมีฐานะ ได้รับบริการที่ดีเลิศจากคนขับรถ ได้มาทานอาหารในร้านอาหารหรู ก็จะดีใจงั้นเหรอ”
“มีปัญหาเหรอ?”
“แต่เล่อสวี้ไม่ใช่ผู้หญิงแบบที่คุณเคยรู้จัก อย่าว่าแต่คุรมอบชุดราตรีราคาแพงให้กับเธอเลย ถึงแม้ว่าคุณจะมอบคฤหาสน์หลังใหญ่ติดทะเลสาบให้กับเธอ เธอก็ไม่แม้แต่จะชายตามองคุณแม้แต่น้อย”
“ทำไมล่ะ?”กวนเส้าหยู้ร้อนใจ“ ทำไมล่ะ เพราะอะไรเหรอ?ทำดีกับเธอก็ผิดเหรอ?”
“ทำดีกับคนๆหนึ่งไม่ผิดหรอก บนโลกใบนี้มีผู้หญิงมากมายที่พร้อมจะไปกับผู้ชายที่ดีกับตน แต่ก็มีผู้หญิงบางคนที่ไม่ได้เป็นแบบนั้น สิ่งที่พวกเธอต้องการ หากคุณมอบให้เหมือนกับคนอื่น เธอสู้จะไม่รับไว้ดีกว่า”