ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว - ตอนที่ 210
บทที่ 210 ตระกูลเฟิงยังคงรักแบบขาดสติ
“เมื่อผ่านประสบการณ์มามากมาย ก็เลยรับได้ทุกอย่าง”
ขณะที่ลู่จิ่งจูพูด เธอก็รู้สึกชื่นใจ มองดูลั่วมั่นที่ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ จู่ๆก็ยิ้ม
“ใช่แล้ว เฟิงเฉินได้บอกกับลูกไหมว่า ตอนที่เขายืนอยู่เบื้องหน้าของแม่แล้วบอกว่าเขาจะแต่งงาน?”
ลั่วมั่นใจเต้นตึกตัก
แม้ว่าจะรู้ว่าแม่สามีคงไม่พูดถึงเรื่องของเฟิงเฉินกับน๋อนน๋อนต่อหน้าเธอ แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเธอถึงคิดถึงหล่อนขึ้นมา
ตอนนั้นขณะที่เขาพูดเรื่องที่จะแต่งงานกับน๋อนน๋อน ความรู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง?ดีใจ รอคอย หรือว่าอย่างอื่น แต่ไม่ว่าจะรู้สึกอย่างไร ก็คงรู้สึกดีกว่าตอนที่พ่อแม่จัดการเรื่องชีวิตในตอนนั้นมาก
“ตอนนั้นแม่ก็ได้เสนอขึ้นว่า มีเพื่อนแนะนำมาว่าลูกเป็นผู้หญิงที่ไม่เลว ตอนนั้นแม่ได้แนะนำผู้หญิงให้เขาไม่น้อยเลย เดิมคิดว่าเขาจะไม่ใส่ใจ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะมาพูดเรื่องของลูกต่อหน้าแม่ ตอนนั้นแม่ยังคิดอยู่เลยว่าลั่วมั่นเป็นลูกสาวบ้านไหน?”
“อืม?”จู่ๆลั่วมั่นก็ตะลึงงัน ถามขึ้นอย่างไม่อยากเชื่อว่า “แม่กำลังจะบอกว่าตอนนั้นเขามาพูดกับแม่เองเหรอคะ?ว่าเขาจะแต่งงานกับหนู?”
“ก็ใช่หน่ะสิ”
ลู่จิ่งจูเห็นลั่วมั่นรู้สึกแปลกใจ จึงถามขึ้นด้วยความสงสัยว่า “ลูกๆไม่ได้ปรึกษากันก่อนเหรอ?”
ลั่วมั่นรีบกลับคำ
“ใช่……ใช่……หนูลืมไปค่ะ”
เดิมทีความคิดที่ไม่ยืดยุ่นก็ถูกล้มล้างไปจนหมดสิ้น ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมตอนนั้นเฟิงเฉินถึงได้กระตือลือล้นที่จะแต่งงานกับเธอ?
เธอจำได้ว่า พ่อแม่ของตระกูลเฟิงถูกใจเธอ รวมไปถึงตอนนั้นเฟิงเฉินกับน๋อนน๋อนยังตัดกันไม่ขาด ก็คงจะเป็นเพราะว่าพวกเขาไม่ชอบน๋อนน๋อน ก็เลยถูกใจผู้หญิงตระกูลเล็ก ๆ อย่างตน จึงทำให้เกิดงานแต่งงานนี้ขึ้น
ทำไมถึงได้กลายเป็นว่าเฟิงเฉินไปขอที่จะแต่งงานกับเธอต่อหน้าแม่ของเขาล่ะ?
ขณะที่กำลังคิด ลู่จิ่งจูก็พูดต่อว่าตอนนั้นเป็นปัญหาในเรื่องของรายละเอียด จึงทำให้เธอเริ่มคลายความสงสัยลง
“ในเมื่อลูกก็รู้เรื่องของน๋อนน๋อนแล้ว แม่ก็จะไม่ปิดบังลูก ตอนนั้นขณะที่ผู้หญิงคนนั้นเพิ่งจากไป แม่ก็คิดว่าเขาจะตามผู้หญิงคนนั้นไป แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผ่านไปไม่นานเขาก็บอกว่าต้องการที่จะแต่งงานกับลูก ลูกชายของแม่แม่รู้ดี เขาเป็นคนที่ไม่เปลี่ยนใจอะไรง่ายๆ ต่อมาเมื่อได้เจอกับลูก แม่ก็เลยเข้าใจแล้ว”
“เข้าใจที่ไหนกัน?”ลั่วมั่นรู้สึกว่าตนเองว่าหัวของเธองุนงง
“ยังไม่พูดดีกว่า”ลู่จิ่งจูยิ้ม ไม่ตอบคำถามตรงๆ แต่กลับถามขึ้นว่า“เรื่องวันนี้ ลูกคิดยังไง?”
ลั่วมั่นครุ่นคิดครู่หนึ่ง “แม่พูดถึงเรื่องของเฟิงเซิ่งกับน๋อนน๋อนใช่ไหมคะ?”
“อืม” แววตาของลู่จิ่งจูเผยความเอ็นดูออกมา และเมื่อพูดถึงเรื่องนี้สีหน้าก็ขรึมขึ้น “ลูกรู้ไหมว่าทำไมพ่อของเฟิงเซิ่งถึงไม่อยากให้เฟิงเซิ่งแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้?”
เมื่อเห็นว่าแม่สามีไม่อธิบาย ลั่วมั่นจึงทำได้เพียงครุ่นคิด พลางเดาเอาเอง
“พ่อคงรังเกียจชาติกำเนินของน๋อนน๋อนใช่ไหมคะ”
ใช่ในตอนนั้นเป็นแบบนั้น อีกทั้งตอนนี้ยังเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเขาที่หลงหล่อน ก็เลยยิ่งไม่ถูกใจเข้าไปใหญ่
“ก็คงจะเป็นเพราะแบบนี้แหระ” หว่างคิ้วของลู่จิ่งจูเผยรอยยิ้มเย็นชา “แต่สิ่งที่สำคัญคือ เขาต้องการที่จะหาที่เพิ่งพาให้ลูกชายของเขา หลังจากนั้นต่อไปจะได้ต่อรองกับเฟิงเฉินได้ง่าย ตระกูลเฟิงยังคงรักแบบขาดสติ สองพ่อลูกตระกูลเฟิงก็ยังคงอาลัยอาวรณ์กับผู้หญิงที่ตายไปแล้วไม่เปลี่ยนแปลง”
ประโยคนี้แสดงให้เห็นว่าหลายปีมานี้ตระกูลเฟิงได้คลุมถุงชนให้กับเฟิงเซิ่งหลายครั้งแล้ว แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ
ลู่จิ่งจูไม่ต้องการให้เฟิงเซิ่งได้คู่ครองที่เหมาะสมกับตัวเอง
ในใจของลั่วมั่นจู่ๆก็รู้สึกเย็นเยือก แต่ว่าก็สนับสนุนคำพูดของแม่สามี “แล้วทำไมแม่ถึงไม่ยอมสนับสนุนเฟิงเซิ่งให้เขาได้แต่งงานกับน๋อนน๋อนละคะ แผนที่พ่อวางไว้จะได้ไม่สำเร็จ ?