ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว - ตอนที่ 267
บทที่ 267 คลอดออกมาก็เป็นปีศาจร้าย
เฟิงจิ่งที่โตขนาดนี้ แต่ไหนแต่ไรมา ก็เรียกลมได้ลม เรียกฝนก็ได้ฝน กระทั่งหลังจากที่แต่งไปอยู่บ้านสามีแล้วก็ยังมีอำนาจ ได้ทุกอย่างตามที่ต้องการอยู่ดี พ่อแม่สามีล้วนกลัวเธอสามส่วน อย่าพูดถึงตบหน้าครั้งหนึ่งเลย กระทั่งปลายนิ้วก็ไม่มีใครกล้าแตะ
แต่ในตอนนี้ลั่วมั่นกลับตบลงบนหน้าเธออย่างแรง
ตบจนสีหน้าเธอดำทะมึนเหมือนก้นหม้อ
“ลั่วมั่น ฉันว่าเธอคงไม่อยากจะมีชีวิตอยู่แล้วสินะ”
คราวนี้ลั่วมั่นมีการเตรียมตัว จึงถอยไปอยู่ในระยะที่ปลอดภัย เธอตั้งครรภ์อยู่ ตอนนี้ยังไม่แข็งแรงพอ แม้จะรู้ว่าถ้าลงไม้ลงมือกันล่ะก็ เฟิงจิ่งจะไม่ใช่คู่มือของตัวเอง แต่เธอก็ไม่กล้าลงมือง่ายๆ จึงเอ่ยโน้มน้าวด้วยคำพูดดีๆว่า “เรื่องของคุณแม่ ฉันไม่ได้เป็นคนทำ ฉันจะรวบรวมหลักฐานเพื่อคืนความบริสุทธิ์ให้กับตัวเอง สำหรับฝ่ามือนี่ ถ้าไม่ใช่ว่าคุณลงมือก่อน ฉันก็คงจะไม่พลาดทำร้ายคุณ”
“พลาดทำร้ายหรือ เห็นได้ชัดว่าเธอตั้งใจ”
เฟิงจิ่งถลึงตาใส่เธออย่างดุร้าย “ผู้หญิงอย่างเธอ ตอนแรกที่แต่งงานกับเฉินก็มีเจตนาไม่ดีอยู่แล้ว แม่ฉันพูดตำหนิเธอแค่ประโยคสองประโยค เธอก็กล้าลงมือฆ่าคนแล้ว ตอนนี้ยังจะมาแสร้งว่าตัวเองสูงส่งเสียเต็มประดา ฉันว่าก็ไม่ได้ดีไปกว่าเวินน๋อนคนนั้นหรอก พวกเธอล้วนไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีอะไรทั้งนั้น”
“เฟิงจิ่ง เธอพูดจาเกรงใจกันบ้างนะ”
แม้ว่าปกติแล้วลั่วมั่นจะปฏิบัติต่อคนในครอบครัวด้วยนิสัยที่นุ่มนวล แต่คราวนี้ก็จำเป็นต้องแสดงพลังอำนาจออกมาบ้างแล้ว เรื่องของลู่จิ่งจู เห็นได้ชัดว่าไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับตัวเอง การเป็นแพะรับบาปนั้น เธอเป็นมามากพอจนไม่ยินยอมและไม่เต็มใจแล้ว คราวนี้ยังจะมีเฟิงจิ่งที่วิ่งมาชี้ไม้ชี้มือสั่งตัวเองอีก วุ่นวายใจเสียจริง
“อาศัยอะไรให้ฉันปฏิบัติต่อเธอด้วยความเกรงใจกัน” หางตาของเฟิงจิ่งเหลือบมองผ่านร่มที่อยู่ในมุมคันหนึ่ง ก็ลอบกำหมัดแน่น “ลั่วมั่น ฉันจะบอกเธอให้นะว่า วันนี้ฉันไม่ได้มาทำสงครามฝีปากกับเธอ ฉัน เฟิงจิ่งทำเรื่องอะไร ก็ไม่เคยคำนึงถึงผลลัพธ์”
เมื่อสิ้นเสียง ลั่วมั่นก็เห็นเพียงแต่ลมเย็นพัดผ่านเบื้องหน้าไป เธอหน้าเปลี่ยนสี ยกแขนขึ้นมาขวางเอาไว้ตามสัญชาตญาณ แต่สิ่งที่ตามมาก็คือ ความเจ็บปวดแล่นแปลบที่ส่งมาจากท่อนแขน คล้ายกับได้ยินเสียงกระดูกหักดังกร๊อบ
เธอกรีดร้องออกมา ล้มนั่งลงบนพื้น พยายามสูดลมหายใจ
ในมือของเฟิงจิ่งมีร่มยาวคันหนึ่ง สีหน้าโหดเหี้ยม ก้าวเข้ามาใกล้ลั่วมั่นขึ้นเรื่อยๆ “เธอพูดว่าเธอไม่ได้ยิงปืน ก่อนหน้านี้ ฉันก็เชื่อคำพูดของเฉิน แต่ว่าตอนนี้ล่ะ ผลลัพธ์เป็นอย่างไร ศาลตัดสินโทษไปแล้ว แต่เธอกลับยังมีความสามารถที่จะออกมาได้อีก เธอมีความสามารถจริงๆเลยนะ?”
ลั่วมั่นที่แขนข้างหนึ่งหลุด ทรุดลงบนพื้น แค่ขยับเพียงเล็กน้อยก็จะมีความเจ็บปวดทิ่มแทงเข้ามา จนเกือบจะทำให้เธอหมดสติไป เมื่อเห็นเฟิงจิ่งเข้ามาใกล้ เธอก็ปกป้องท้องตัวเองด้วยความหวาดกลัวคณานับ และเขยิบถอยหลังไปด้วยความยากลำบาก
“เฟิงจิ่ง เธอฟังฉันก่อนนะ ฉันตั้งครรภ์แล้ว นี่เป็นลูกของเฉิน แม้ว่าเธอจะไม่เชื่อฉัน เธอก็ต้องเห็นแก่หน้าเฉินบ้าง อย่าทำร้ายเด็ก”
เฟิงจิ่งไม่สนใจแม้แต่น้อย ร่มที่อยู่ในมือถูกกำเอาไว้แน่น เอ่ยเยาะเย้ยเสียงเย็นว่า
“เด็กจะนับเป็นตัวอะไร เด็กคนนี้เกิดมาก็เป็นปีศาจร้าย เธอกับเด็กคนนี้ควรจะไสหัวไปให้พ้นโดยเร็ว เฉินต้องการผู้หญิงแบบไหนล้วนมี ต้องการลูกกี่คนก็มีเท่านั้น อย่าให้ความสำคัญกับตัวเองมากเกินไปเลย”
เมื่อเสียงนั้นสิ้นสุด คันร่มก็วาดลงมาจากที่สูง
“อย่า………” ลั่วมั่นงอตัวปกป้องบริเวณหน้าท้องตัวเองอย่างร้อนรน แผ่นหลังถูกเฟิงจิ่งตีลงมาอย่างแรง เจ็บจนเธอแทบจะชักกระตุก ลำคอมีกลิ่นคาวเลือดอบอวลครู่หนึ่ง เธออยากจะตะโกน แต่กระทั่งส่งเสียงก็ยังทำไม่ได้ ใบหน้าบิดเบี้ยว
“ไม้นี้ ฉันตีแทนคุณแม่ฉัน ตอนแรกคุณแม่มองเธอผิดไป ยังนึกว่าเธอจะเป็นพวกจิตใจดีอะไรนั่น ผู้หญิงแบบเธอ เพื่อชื่อเสียงและผลประโยชน์แล้ว ไม่ว่าอะไรก็สามารถทำออกมาได้ทั้งนั้น ฉันเห็นมานักต่อนักแล้ว”
เสียงของเฟิงจิ่งเย็นเยียบ หน่วยตาเต็มไปด้วยเส้นเลือด คล้ายกับว่าเกลียดแค้นลั่วมั่นจนแทบจะฉีกกระชากให้กลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
ลั่วมั่นกลับไม่มีกำลังจะโต้กลับหรือตอบอะไรอีกแล้ว