ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว - ตอนที่ 294
“บอกไปคุณก็ไม่รู้จัก…..” หญิงสาวเลิกคิ้วขึ้น ไม่รู้ว่าเธอนั้นเห็นอะไร ทันใดนั้นดวงตาของเธอก็เป็นประกาย ชี้ไปที่ไกลๆอย่างได้ใจ
“อ้าว ก็นั่นไง แฟนของประธานเฟิง รูปร่างดีกว่าคุณเยอะเลย”
มองตามทิศทางสายตาของหญิงสาว ลั่วมั่นอยู่ที่ประตูเห็นร่างที่สวมชุดสีเบจ รูปร่างผอมเพรียว ดูผอมกว่าตอนที่เธอยังทำงานอยู่ที่นี่ ถ้าไม่ใช่ส้งชิงหรูจะเป็นใครได้อีก”
เห็นได้ชัดว่าส้งชิงหรูเพิ่งกลับจากทำธุระข้างนอก ยังมีผู้ช่วยตามติดอยู่ด้านหลัง
ลั่วมั่นเห็นชัดว่าผู้ช่วยของเธอเรียกเธอให้หันมองมาทางตัวเองแวบหนึ่ง แต่เธอกลับรีบเบนสายตา ทำเป็นมองไม่เห็น ราวกับไม่รู้จักลั่วมั่น จากนั้นก็มุ่งหน้าเดินไปยังเครื่องกั้นประตูทางเข้า
มีคนกล้าคิดว่าตัวเองเป็นแฟนของประธานเฟิงด้วยเหรอ
ลั่วมั่นสูดลมหายใจเข้าลึก แล้วดึงหน้ากากลง จากนั้นตะโกนเรียกไปทางเครื่องกั้นประตู “รองประธานส้ง……”
เสียงเรียกตะโกนนั้นไม่เบา จึงส่งเสียงสะท้อนดังกังวานอยู่ในห้องโถงของบริษัท แม้แต่หญิงสาวที่อยู่หน้าเคาน์เตอร์ก็ตกใจ จึงรีบพูดขึ้น “คุณตะโกนทำไม คุณนี่…..”
ร่างสองคนที่อยู่ตรงเครื่องกั้นประตูทางเข้าได้หยุดชะงักขึ้น ส้งชิงหรูหันกลับมาตัวแข็งทื่อ มองมาทางลั่วมั่น แล้วก็ยิ้มขึ้นอย่างพะอืดพะอม “ประธานลั่วเหรอ เมื่อสักครู่เห็นคุณสวมหน้ากากก็เลยจำไม่ได้”
“คุณจำไม่ได้จริงเหรอ” ลั่วมั่นเดินเข้าไปใกล้ แล้วพูดอย่างใจเย็น “ไม่เจอตั้นนาน รองประธานส้งดูผอมกว่าแต่ก่อนนะ และดูสวยขึ้นเยอะเลย ใบหน้าแจ่มใส หรือเป็นเพราะการงานความรักทั้งสองอย่างนั้นกำลังรุ่งโรจน์”
“ประธานลั่วพูดตลกแล้ว…..” ส้งชิงหรูกำแฟ้มแน่น และถามอย่างตรงๆ “คุณมาหาประธานเฟิงเหรอคะ”
“อืม” ลั่วมั่นเหลือบไปมองด้านหลังแวบหนึ่ง “มาส่งอาหารกลางวันให้เฉิน”
“บังเอิญจริงๆ” ส้งชิงหรูทำสีหน้าเสียดาย “ประธานเฟิงกำลังประชุมอยู่ วันนี้มีประชุมเยอะ งานก็เยอะ ประธานลั่วมาในเวลานี้ช่างบังเอิญจริงๆ คิดว่าคงจะไม่สามารถเจอประธานเฟิงได้ หรือว่าเอาปิ่นโตอาหารมาให้ฉัน เดี๋ยวฉันช่วยคุณนำไปส่งให้ เพื่อจะได้ไม่เป็นการเสียเวลาคุณ”
“ฉันเจอไม่ได้ แต่คุณเจอได้อย่างนั้นเหรอ”
น้ำเสียงของลั่วมั่นเย็นเยียบลงทันที
ได้ยินดังนั้น หัวใจของส้งชิงหรูกระตุกขึ้น สีหน้าก็ตึงเครียดขึ้น
เสียงลั่วมั่นไม่ได้ดังมาก แต่กลับกังวานสะท้อนอยู่ในห้องโถงขนาดใหญ่ของบริษัท
“รองประธานส้งช่างกล้ามาก คนที่ไม่รู้อาจคิดว่าคุณคือนายหญิงแห่งบริษัทH.Y. ฉันออกจากบริษัทไปสักพักแล้วก็จริง แต่อย่างน้อยฉันก็ยังมีชื่อผู้ถือหุ้นอยู่ พนักงานต้อนรับหน้าเคาน์เตอร์ไม่ผิดที่ไม่รู้จักฉัน แต่กลับคุณ ทั้งๆที่เห็นฉันยังทำเป็นไม่เห็น สายตาช่างมองสูงจริงๆ”
เสียงฝีเท้าโกลาหลดังอยู่ไกลๆ คงน่าจะทำให้แผนกฝ่ายประชาสัมพันธ์แตกตื่น ผู้คนค่อยๆเดินเข้ามามุงดู
ส้งชิงหรูขมวดคิ้วขึ้นทันที แล้วพูดแบบขอไปที “ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น”
ข้างนอกต่างมีการเล่าลือกันว่าประธานเฟิงกับลั่วมั่นหย่ากันแล้ว แต่เป็นเพราะลูกก็เลยยังไม่ฉีกหน้าแตกหักกัน จึงทำให้เธอไม่เห็นลั่วมั่นอยู่ในสายตา และก็แค่เมื่อสักครู่ที่เข้าประตูมาแสร้งทำเป็นมองไม่เห็นเธอก็เท่านั้น เธอเป็นนักโทษของตระกูลเฟิง ต่อให้ทำเรื่องราวให้ใหญ่โตต่อหน้าเฟิงเฉิน เฟิงเฉินยังจะสนใจเธออีกเหรอ
“อย่างนั้นคุณหมายความว่าอย่างไร” ใบหน้าลั่วมั่นที่ใจเย็น พูดอย่างไม่รีบร้อน
“ความหมายของคุณนั้นถ้าหากว่าหมายถึงเฟิงเฉิน อย่างนั้นเกรงว่าต้องถามความเห็นจากฉัน ถ้าฉันยกตำแหน่งนายหญิงเฟิงให้กับคุณโดยเร็วที่สุด คุณคิดเห็นว่าอย่างไร”
ประโยคนี้ชี้ชัดให้เห็นอย่างไม่ได้ตั้งใจว่าเธอนั้นยังไม่ได้หย่า ทำให้ส้งชิงหรูตะลึงงัน
คนรอบข้างก็ซุบซิบนินทากันขึ้น
“รองประธานส้งเป็นเมียน้อยเหรอ ประธานเฟิงกับภรรยาของเขายังไม่ได้หย่ากัน”
“ฉันได้ยินลูกพี่ลูกน้องน้องของฉันที่อยู่ที่ศาลบอกว่ามีการรื้อคดีขึ้น”
“อ้าว แล้วเหตุการณ์นี้คือ…..”
“เมียหลวงประชันเมียน้อยเหรอ”
เสียงซุบซิบกระทบเข้ามาในใบหูของส้งชิงหรูราวกับสายฟ้าฟาดกลางวันแสกๆ
“ประธานลั่ว คุณ คุณเข้าใจผิดแล้ว…..” เธอเกลียดตัวเองที่รู้ข่าวการรื้อคดีช้าเกินไป จึงได้แต่ฝืนตัวเองแล้วเปลี่ยนปฏิกิริยาทันที
“ฉันได้ยินว่าคุณตั้งครรภ์ เกรงว่าหากคุณไม่ได้พบประธานเฟิงก็จะเป็นการมาเสียเที่ยว เข้าใจผิดแล้วๆ เชิญคุณเข้ามาก่อน…..”
เธอพลางพูดพลางสแกนบัตร และปิดซ่อนแววตาที่ไม่พอใจเอาไว้ จากนั้นเชิญลั่วมั่นเข้าไปด้านในอย่างอ่อนน้อม