ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว - ตอนที่ 297
“คุณคิดชื่อลูกไว้หรือยัง”
หลังเสร็จกิจ ลั่วมั่นซบอยู่ที่อ้อมกอดของเฟิงเฉิน ทั้งตัวไร้เรี่ยวแรง ยอมให้เฟิงเฉินจัดระเบียบเสื้อผ้าให้เธอ
“อืม” เฟิงเฉินพยักหน้า แล้วจัดเสื้อบนไหล่ที่มีรอยย่นให้เรียบ จากนั้นก็โอบไหล่ของเธอแล้วเอนตัวลงบนโซฟาพร้อมกัน “ชื่อเข่อซิน เฟิงเข่อซิน”
“ชื่อผู้หญิงเหรอ” ลั่วมั่นมองเขาด้วยความประหลาดใจ “ถ้าคลอดออกมาเป็นเด็กผู้ชายล่ะ”
“ไม่อย่างแน่นอน” เฟิงเฉินมั่นใจอย่างอธิบายไม่ถูก
“อะไรเนี่ย” ลั่วมั่นหมดคำจะพูด “คุณแอบส่งคนมาตรวจเพศลูกแล้วเหรอ ถึงได้มั่นอกมั่นใจว่าเป็นลูกสาว ถ้าหากว่าเป็นลูกชายล่ะ”
อยากรู้ว่าเป็นลูกสาวหรือลูกชายนั้นไม่ยาก เพียงแต่ลั่วมั่นรู้สึกว่าการให้กำเนิดลูกเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์ ไม่จำเป็นต้องรู้รายละเอียดอะไรมากมาย นอกจากการตรวจครรภ์ที่เป็นปกติธรรมดา ก็ไม่ได้ตรวจอะไรอย่างอื่นอีก
เฟิงเฉินใบหน้าที่มั่นอกมั่นใจ
“ได้ลูกสาสิดี จะได้เหมือนคุณ” เสียงของเฟิงเฉินดังก้องอยู่ในหู ความอบอุ่นแห่งความรักที่ปนอยู่ในน้ำเสียงของเขา สัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนที่อธิบายไม่ถูก
ลั่วมั่นเอียงศีรษะจ้องมองเขา “อย่างนั้นฉันก็จะบอกว่าได้ลูกชายก็จะเหมือนกับคุณ คลอดลูกชายก็ดีเหมือนกัน”
“เหมือนผมไม่ดี”
“ทำไม” ลั่วมั่นไม่เข้าใจ
นี่มันพระอาทิตย์ขึ้นทางตะวันตกแล้ว ที่เฟิงเฉินกลับรู้สึกว่าลูกเหมือนเขานั้นไม่ดี นี่ยังเป็นเฟิงเฉินผู้อวดดีที่เธอรู้จักเมื่อหลายปีก่อนหรือเปล่า
เห็นเฟิงเฉินไม่มีคำอธิบาย ลั่วมั่นจึงต้องหันไปถาม “อย่างนั้นถ้าหากว่าเป็นลูกชายจริงๆล่ะ จะให้ชื่อเข่อซินไม่ได้มั้ง คนอื่นล้อตายเลย”
เฟิงเฉินสีหน้าราบเรียบ “อย่างนั้นชื่อเฟิงอี”
“เฟิงอี อี ตัวไหน”
“อี ที่แปลว่าหนี่ง หนึ่งสองสาม”
“หือ แล้วมีความหมายอย่างไร”
“เป็นลูกคนแรกไง”
ได้ยินดังนั้นลั่วมั่นสีหน้าก็เปลี่ยน “โอ๊ย คุณนี่จะง่ายไปแล้วมั้ง คลอดคนแรกชื่อเฟิงอี คลอดลูกคนที่สองก็ชื่อเฟิงเอ้องั้นสิ!”
ลั่วมั่นอดเป็นห่วงลูกที่จะเกิดมาไม่ได้จริงๆ แบบนี้ไม่ได้
มีเพียงเฟิงเฉินที่อาศัยจังหวะที่ลั่วมั่นไม่ทันสังเกตเห็น เม้มมุมปากยิ้มขึ้นอย่างเอ็นดู
เฟิงอี ที่มีความหมายว่ารักเดียวใจเดียว
หลังกลับจากบริษัทH.Y. ลั่วมั่นก็ถอนหายใจเพราะการตั้งชื่อลูกของเขา
“เป็นอะไรไปคะ! คุณผู้หญิง” ลี่ลี่ที่สีหน้าเป็นห่วง
ลั่วมั่นได้เล่าเรื่องที่เฟิงเฉินตั้งชื่อลูกให้ลี่ลี่ฟัง น้ำเสียงคำพูดดูหงุดหงิดมาก
นี่มันสมัยไหนแล้ว ยังจะมาลำเอียงอีก! ยังจะมาเหยียดเพศกันอีก นี่มันไม่ถูกต้องเลย! “ลูกสาวให้ชื่อเข่อซิน ส่วนลูกชายชื่อ อี ที่แปลว่าหนึ่งสองสามสี่ ฉันล่ะยอมใจจริงๆ”
ลี่ลี่แอบหัวเราะ “คุณผู้หญิงโกรธด้วยเรื่องนี้เหรอ”
“หรือว่าไม่สมควรที่จะโกรธ นั่นเป็นลูกที่ฉันอุตส่าห์อุ้มท้องมาสิบเดือนเชียวนะ เขาตั้งชื่อง่ายๆแบบหนึ่งสองสามสี่ห้าอย่างนั้นไม่ได้ น่าโมโหชะมัด”
“เลิกโมโหได้แล้ว ดิฉันคิดว่าคุณผู้ชายล้อคุณผู้หญิงเล่น ไม่มีใครที่ไม่รักลูกของตัวเองหรอก”
ลี่ลี่พูดปลอบลั่วมั่น “อย่างนี้แล้วกัน ดิฉันจะเล่าเรื่องตลกให้คุณผู้หญิงฟัง จะได้รู้สึกดีขึ้น”
“ตอนนี้ฉันไม่มีอารมณ์ฟังเรื่องตลกหรอก ฉันจะไปเปิดพจนานุกรม แล้วตั้งชื่อให้ลูกตัวเอง”
“เป็นเรื่องตลกที่ดิฉันนำอาหารไปให้คุณเล่อเมื่อสักครู่ ดูเหมือนผู้ช่วยของเขากำลังตามจีบเขาอยู่”
“หือ” ลั่วมั่นตะลึงงัน “ผู้ช่วยของเล่อสวี้เป็นผู้หญิงไม่ใช่เหรอ หรือว่ารับคนใหม่แล้ว ใครกัน”
ใบหน้าลี่ลี่เต็มไปด้วยคำซุบซิบ
“คุณเล่อเรียกเขาว่าเจี่ยนป๋าย เหมือนจะเป็นเด็กฝึกงานใหม่ ตอนที่ฉันไปส่งอาหารนั้น คนที่ชื่อเจี่ยนป๋ายก็ได้นำอาหารได้เข้าไปด้วย ไปสืบข้อมูลจากคนแผนกฝ่ายขายแล้ว ต่างพูดกันว่าวันแรกที่เขาเข้ามาในบริษัท เขาก็ประกาศอย่างกึกก้องแล้วว่าจะตามจีบคุณเล่อ”
“เจี่ยนป๋าย……” ลั่วมั่นครุ่นคิดชื่อนี้อย่างละเอียด “ทำไมเหมือนได้เคยได้ยินชื่อนี้ที่ไหนนะ”