ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว - ตอนที่ 300
ทั้งสองคนนั้นเตรียมตัวกลับบ้านเกิดของลั่วมั่น
เรื่องเข้าเรือนจำก่อนหน้านั้นเป็นที่โจษจันกันทั่วบ้านทั่วเมือง เดิมทีคิดว่าจะทำให้ครอบครัวแตกแยก แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเฟิงเฉินไปสองสามครั้ง ไม่รู้ว่าใช้วิธีใดถึงได้รับการอภัยและปลอบใจจากบุพการีทั้งสองท่าน ดังนั้นจึงไม่เกิดความวุ่นวาย ต่อมาเนื่องจากตั้งครรภ์จึงได้ออกจากเรีอนจำ เพื่อหลีกเลี่ยงเกิดปัญหา เธอจึงไม่กล้าไปไหนมาไหนตามใจชอบ
ตอนนี้คดีถูกรื้อ ลั่วมั่นถึงได้กล้ากลับไปเยี่ยมบ้าน
เทียบกับความเฉยเมยของเฟิงเฉิน เธอกลับรู้สึกกังวล กลัวว่าจะเห็นพ่อแม่ทอดถอนใจ ถึงตอนนั้นตัวเองก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไรดี
ห้องสำนักงานของประธาน ของMX
หน้าต่างบานใหญ่มีกระถางต้นเขียวหมื่นปีวางไว้ ชายหนุ่มในชุดสูทสั่งตัด มือถือฟ็อกกี้ และกำลังฉีดรดน้ำต้นเขียวหมื่นปี
“จัดการเเรื่องราวไปถึงไหนแล้ว”
เสียงที่ราบเรียบดังก้องกังวานในห้องสำนักงาน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่ชายหนุ่มควรพึงมี
“ได้จัดการทุกอย่างแล้วครับ ที่สถานีตำรวจกู้หมิ่นได้ให้ปากคำว่าคนที่ต้องการทำร้ายเขาคือลั่วมั่น แม้ว่าเฟิงเฉินจะทำการปิดข่าวไว้แล้ว แต่ว่าพ่อของเขาก็แน่ใช่เล่น ไม่ใช่ตะเกียงประหยัดน้ำมัน ต้องการตรวจสอบบันทึกง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปาก”
“อย่างนั้นก็ดี”
“เพียงแต่ผมไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเปลืองแรงให้เขาไปตรวจสอบเอง เสียเวลา พวกเราบอกเขาไปตรงๆก็ได้แล้วไม่ใช่หรือครับ”
ชายหนุ่มยิ้มแห้ง แล้ววางฟ็อกกี้ลง จากนั้นหยิบผ้าเช็ดหน้าที่อยู่ข้างๆมาเช็ดมือ
“พ่อเฒ่าตระกูลเฟิงไม่ใช่คนโง่ ข่าวที่นายส่งไปให้ เขาจะไม่เชื่อ แต่ถ้าเป็นตัวเขาตรวจสอบเจอเอง และพบว่าเป็นถูกลูกชายของเขาเองปกปิดซ่อนข่าวไว้ ยิ่งปิดก็ยิ่งมีพิรุธ ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อ”
ในเมืองเจียง จะเกิดฟ้าเปลี่ยนสีอีกแล้ว
“ยกกล่องแอปเปิลนี้เข้าไป” เฟิงเฉินให้คนรับใช้ยกกล่องโฟมเข้าบ้านตระกูลลั่ว
แม่ลั่วอยู่ข้างๆอดไม่ได้ที่จะยิ้มขึ้น จากนั้นก็ยื่นมือไปพยุงลั่วมั่น
“มาก็มาสิ จะเอาของมาเยอะแยะด้วยทำไม หนูก็ไม่บอกเขาเลย”
“ทำไมหนูจะไม่บอกล่ะคะ” ลั่วมั่นเลิกคิ้ว “เขาฟังที่ไหน วางใจเถอะ ไม่ได้ให้พวกท่านทั้งหมด เขายังมีอีกหลายอย่าง ไม่รู้ว่าเป็นอะไร ทำลับๆล่อๆ ลับลมคมใน”
แม่ลั่วพยุงลั่วมั่นอย่างระมัดระวัง “นี่สามเดือนแล้วใช่ไหม การตรวจครรภ์เป็นอย่างไรบ้าง”
“ดีค่ะ คุณหมอบอกว่ทุกอย่างปกติ ลูกก็แข็งแรงดี แล้วคุณพ่อล่ะคะ”
พลางพูดพลางมองไปรอบๆ แต่กลับมองไม่เห็นเงาของบิดา
“ก็เรื่องงานในบริษัทนั่นแหละ บอกว่ามีใบสัญญาขนาดใหญ่สองสามฉบับเข้ามา” แม่ลั่วขมวดคิ้วขึ้น ราวกับไม่พอใจ “อายุก็ปูนนี้แล้ว ยังจะอยากทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ครั้งนี้แม้แต่โกดังรับซื้อก็ตามไปด้วยอีก ว่างเป็นไม่ได้”
“พ่อหนูเขาทำทุกอย่างอย่างรอบคอบต่างหาก”
“พ่อหนู่เคยโดนงูกัดมาก่อน” แม่ลั่วส่ายหัวอย่างจนใจ “นับตั้งแต่เกิดเรื่องเมื่อสี่ปีก่อน เขารู้สึกหวาดหวั่นเวลาที่ทำสิ่งต่างๆ กลัวว่าจะเกิดความผิดพลาดเหมือนในอดีต จริงๆแล้วเรื่องที่ใช้งานแต่งงานของหนูช่วยบริษัทในตอนนั้น พ่อหนูก็รู้สึกเสียใจมาก”
“แม่…..” เมื่อพูดเรื่องเก่าๆ ลั่วมั่นรู้สึกไม่พอใจ
แม่ลั่วได้สติคืนมาจึงตบมือเธอเบาๆ “ไม่พูดแล้วๆ โชคดีที่หนูกับเฟิงเฉินนั้นสบายกันดี”
ช่วงเวลาอาหารกลางวัน พ่อลั่วกลับมาจากด้านนอก เมื่อเห็นเฟิงเฉินมา ก็ไม่ได้แสดงอาการดีใจมากมาย ทานอาหารด้วยกัน ต่างคนต่างพูดน้อย ระหว่างผู้ชาย ไม่มีอะไรมากไปกว่าการคุยเรื่องธุรกิจ
หลังจากทานอาหารเสร็จ เฟิงเฉินเคาะๆตีๆอยู่ในห้องรับแขกชั้นบน ทำอะไรก็ไม่รู้ ลับๆล่อๆ ลั่วมั่นถูกเขาขวางที่ประตูหลายครั้ง
“รอผมทำเสร็จแล้วค่อยให้คุณดู”
“อะไรเหรอ ทำไมลึกลับเช่นนี้” ลั่วมั่นพลางพูดพลางเอียงศีรษะมอง
“ไม่ได้” เฟิงเฉินโอบไหล่ของเธอแล้วพาเธอกลับไปที่ห้องตัวเอง “คุณพักผ่อนนอนกลางวันให้สบายนะ ผมจะออกไปสักหน่อย ผมลืมของสิ่งหนึ่งไว้ที่บ้าน แล้วจะรีบกลับมานะ”
“ก็ได้” ลั่วมั่นเอนพิงอยู่บนหัวเตียง “ไม่ให้ดูก็ไม่ดู ใครจะอยากรู้ล่ะ”
“เด็กดี”
เฟิงเฉินประทับรอยจูบลงที่หน้าผากของเธออย่างอ่อนโยน จากนั้นก็ลุกขึ้นแล้วจากไป