ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว - ตอนที่ 315
“ประธานลั่ว นี่คือบันทึกการจัดซื้อสำหรับไตรมาสนี้ ปัญหาที่ท่านพูดเมื่อครั้งก่อน ทางเราได้ถามทางฝ่ายจัดซื้อแล้ว รายละเอียดนั้นพวกเขาจะเขียนรายงานมาส่งให้”
ผู้ช่วยวางกองเอกสารพร้อมกับถุงกระดาษลงบนโต๊ะของลั่วมั่น ด้วยท่าทีที่เคารพ
“อืม รับทราบค่ะ”
“ท่านอย่าได้แต่ยุ่งอยู่กับการดูงานเลย ทานอาหารกลางวันก่อนเถอะ นี่เป็นของที่ประธานซือส่งมาให้” ผู้ช่วยชี้ไปทางถุงกระดาษ ยิ้มแล้วพูดขึ้น “ประธานซือดีกับท่านมากเลย แต่ละวันก็เตรียมอาหารกลางวันไว้ล่วงหน้าอย่างดี”
เมื่อมองอาหารกลางวันที่อยู่ในถุงกระดาษ ลั่วมั่นก็ยิ้มให้กับผู้ช่วย “ขอบคุณเธอที่นำส่งมาให้ อีกสักพักฉันค่อยทาน”
“ค่ะ”
บรรยากาศการทำงานที่MXกับH.Y. มีความแตกต่างกันมาก คนที่นี่เหมือนกับที่ซือโม่บอกไม่มีผิด แต่ละคนล้วนสุดยอดที่ได้รับการคัดสรรมาจากหนึ่งในพันในหมื่น มาที่นี่เกือบหนึ่งเดือนแล้ว ก็ยังไม่ได้ยินใครซุบซิบนินทา ต่างคนต่างตั้งใจทำงานอย่างขะมักเขม้น
เมื่อเปิดกล่องอาหารออก คงยังเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการเหมือนอย่างเคย กับข้าวสามอย่างกับอีกหนึ่งซุป ล้วนเป็นอาหารที่นักโภชนาการทำกับมือ รสชาติอาหารถูกปากมาก
ลั่วมั่นเปิดพลิกดูหน้าสุดท้ายของหนังสือภาษาฝรั่งเศสที่อยู่วางข้างๆที่หยิบออกมาห้องหนังสือของซือโม่ในวันนั้น มีลายมือที่เขียนอย่างรีบร้อนด้วยปากกาเจลที่แห้งสนิทแล้ว
เป็นที่อยู่อีเมล
“เล่อสวี้ ฉันต้องการตรวจสอบเนื้อหาการสนทนาระหว่างคนสองคนทางอีเมล เธอสามารถทำได้ไหม”
ในห้องสำนักงาน ลั่วมั่นจงใจกดเสียงให้ต่ำลง
“อันนี้ไม่ยาก ขอเพียงบอกที่อยู่อีเมล ฉันจะลองดูก่อน ถ้าหากมีการเพิ่มรหัสอีกชั้นก็คงจะยากหน่อย”
“ได้ ฉันจะส่งที่อยู่อีเมลให้เธอก่อน ถ้าหากเธอตรวจสอบได้แล้วก็ให้โทรบอกฉัน”
เมื่อวางสายโทรศัพท์ลง ลั่วมั่นก็ได้ส่งที่อยู่อีเมลผ่านทางข้อความ จากนั้นก็นั่งใจลอยอยู่ที่หน้าโต๊ะทำงาน นิ้วมือถูไถไปมาที่หน้าสุดท้ายของหนังสือภาษาฝรั่งเศสเล่มนั้น เธอไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองคาดเดา แต่ว่าการเจอบางสิ่งบางอย่างโดยบังเอิญ ทำให้เธออดที่จะคิดไปทางด้านนั้นไม่ได้
ตอนกลางวันบริษัทMX ได้จัดกิจกรรมขึ้น ด้วยที่ลั่วมั่นไม่สามารถดื่มเหล้าได้ก็เลยไม่ไปเข้าร่วม จึงนั่งพักผ่อนอยู่ที่ห้องสำนักงานเพียงคนเดียว ประมาณบ่ายสามจู่ๆก็รู้สึกเจ็บที่หน้าท้อง เธอจ้องมองไปยังถุงกระดาษที่อยู่ในถังขยะ ทันใดนั้นก็เกิดความกลัวขึ้น ไม่มีเวลาที่จะไปคิดอะไรอีก จึงรีบขับรถไปที่โรงพยาบาล
ตลอดทางเธอขับผ่านไฟแดงไม่รู้กี่ไฟแดง เมื่อมาถึงโรงพยาบาล ทั้งใบหน้าก็ไม่มีเลือดแม้แต่น้อย จนกระทั่งล้มลงที่หน้าประตูฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่พยาบาลทั้งหลายตกใจรีบวิ่งกรูเข้ามา
“เป็นอะไรไปคะ”
“ช่วยฉัน ช่วยลูกของฉันด้วย “ ลั่วมั่นกุมที่หน้าท้องของตัวเองไว้แน่นด้วยแรงสุดท้ายที่มีทั้งหมด เจ็บจนสลบหมดสติไป
แสงไฟในห้องผ่าตัดส่องประกายแยงเข้าตา ลั่วมั่นเหมือนรู้สึกมีคนกำลังพูดคุยอยู่ที่ข้างใบหูของเธอ
“สุดยอดจริงๆ หญิงตั้งครรภ์คนนี้ขับรถมาด้วยตัวเอง ตำรวจจราจรได้ตามมาจนถึงหน้าประตูโรงพยาบาล ตอนนี้ยังรออยู่ด้านนอกอยู่เลย”
“อาหารเป็นพิษเหรอ”
“ไม่น่าใช่ เหมือนทานยาเข้าไป ยังรอผลการตรวจเลือดจากแผนกโลหิตวิทยาอยู่ เจ็บหน้าท้องอย่างเห็นได้ชัด มีอาการเลือดออกตามร่างกายส่วนล่าง ถ้าหากไม่ใช่เพราะมาทันเวลา เด็กคนนี้คงไม่น่ารอด”
“ทานยาเหรอ ถ้าทานยาแล้วเธอยังจะรีบมาแบบไม่คิดชีวิตเนี่ยนะ”
“ก็พูดยากนะ คุณเห็นการผ่าตัดทำแท้งน้อยเกินไป ถอดกางเกงนอนอยู่บนเตียงแล้ว อยู่ๆก็เกิดเปลี่ยนใจมีตั้งเยอะตั้งแยะ”
“เอาล่ะๆ ไม่ต้องพูดมากแล้ว หญิงตั้งครรภ์เป็นอย่างไรบ้าง”
“ตอนนี้เลือดได้หยุดไหลแล้ว เด็กก็ปลอดภัยดี”
“……”
อุปกรณ์เครื่องมือที่เย็นเฉียบเลื่อนผ่านร่างกายของเธอ แต่ลั่วมั่นกลับไม่รู้สึกอะไร เธอหลับไปด้วยความสะลึมสะลือ และก็ฝันร้ายไม่หยุด เมื่อตื่นขึ้นมานั้นท้องฟ้าด้านนอกก็สว่างจ้า
ซือโม่นั่งเฝ้าเธออยู่ข้างๆด้วยสีหน้าอ่อนเพลีย “ตื่นแล้วเหรอ ทรมานไหม”
เมื่อลั่วมั่นเห็นเขา หัวไหล่ก็หดกะทันหันหลบมือที่ยื่นเข้ามาของเขา
“เป็นอะไร” ซือโม่ตกใจ
“ฝันร้ายค่ะ” ลั่วมั่นรีบดึงสติกลับ และรีบถามขึ้น “พี่ซือโม่ ลูกของฉัน