ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว - ตอนที่ 61
บทที่ 61 ลืมแม้กระทั่งจะหลบ
เสียงความเคลื่อนไหวทางด้านนี้ดึงดูดความสนใจของเฟิงเฉิน แต่เฟิงเฉินก็เพียงแค่มองแวบหนึ่ง ส่วนทางด้านลั่วมั่นก็มีคุณหญิงหูทำไม้ทำมือเป็นสัญญาณว่าไม่มีอะไร ไม่ต้องสนใจทางด้านนั้นอีก
หลัวแมนจีที่รู้สึกสิ้นหวังในการขอความช่วยเหลือมีหน้าซีดขาวไร้สีเลือด
ลั่วมั่นยิ้มเยาะ พลางเอ่ยว่า
“ถ้าหากคุณคิดว่าสิ่งที่ฉันพูดไปนั้นมีตรงไหนที่ไม่ถูกต้อง คุณสามารถสอบถามโค้ชได้”
โค้ชที่อยู่อีกด้านก็คล้อยตามอย่างรวดเร็ว
“นางหญิงเฟิงชี้แนะได้ถูกต้อง คุณหลัวแมนจี การเคลื่อนไหวของคุณมีปัญหามากจริงๆ”
“เอาใหม่อีกครั้งหนึ่ง” เสียงเย็นชาของลั่วมั่นลอยมาจากทางด้านหลัง
หลัวแมนจีจับไม้กอล์ฟในมือไว้แน่น ปรารถนาเป็นอย่างยิ่งที่จะหมุนตัวกลับไปใช้ไม้กอล์ฟฟาดเธอสักครั้ง แต่คราวนี้กระทั่งเฟิงเฉินก็ไม่ช่วยเธอ เธอยังอยากจะอยู่ที่นี่ จึงทำได้เพียงแค่ฝึกวงสวิงด้วยท่าทางเรียบร้อยว่าง่าย
เธอมองไม้กอล์ฟเย็นยะเยือกที่อยู่ในมือแล้ว ก็กลอกดวงตาไปมา ริมฝีปากเหยียดยิ้มเย็นชาออกมากะทันหัน
ลั่วมั่นยืนอยู่ทางขวามือด้านหลัง ไกลออกไปหนึ่งเมตรมาโดยตลอด เธอไม่ได้จงใจจะแกล้งให้หลัวแมนจีลำบาก ถ้าหากว่าเธอตีได้ไม่เลวจริงๆ ก็คงไม่มีจุดไหนให้ตัวเองจับผิดได้ แต่นี่เธอตีไม่ได้เรื่องจริงๆ
สำหรับท่าทางโอหังอวดดีของตัวเอง เธอก็ยังคิดว่ามันสมเหตุสมผล
ไม่มีภรรยาหลวงคนไหนที่จะให้ความใกล้ชิดสนิทสนมกับมือที่สาม
ตอนที่หลัวแมนจีสวิงไม้กอล์ฟนั้น เปลือกตาเธอกระตุกเล็กน้อย จากนั้นก็มีแสงเย็นพาดผ่านเบื้องหน้า นั่นก็คือไม้กอล์ฟที่เดิมควรจะวาดวงสวิงโค้งอยู่กลางอากาศ แต่ดันหลุดมือกะทันหัน ลอยมาทางศีรษะของเธอด้วยความเร็วสายฟ้าแลบ
เธอเห็นแววตาที่มองกลับมามีเจตนาแสดงท่าทางตกตะลึงของหลัวแมนจีได้อย่างชัดเจน และก็ได้ยินเสียงกรีดร้องแสบแก้วหูของเธอเช่นกัน
ความตกตะลึงในเสี้ยววินาทีนั้นมีมากกว่าความหวาดกลัว จึงลืมแม้กระทั่งว่าต้องหลบหลีก
นึกว่าจะช้า แต่กลับเร็วกว่าที่คิด คุณหญิงหูที่ยืนนิ่งอยู่ด้านข้างมาตลอดก็ก้าวขึ้นมาด้านหน้า ไม้กอล์ฟสีทองในมือถูกวาดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
เสียง “เคร้ง” แสบแก้วหูของโลหะดังขึ้นกลางอากาศ จนเกือบจะเกิดประกายไฟ ไม้กอล์ฟไม่สะดุดตาที่ใช้ฝึกซ้อมจึงได้เบนออกห่างจากเส้นทางเดิมไป
ร่วงอยู่เบื้องหน้าของลั่วมั่นดัง “ปึก”
“ไม่เป็นอะไรใช่ไหม” ตอนที่เฟิงเฉินพุ่งเข้ามานั้น ลั่วมั่นยังอยู่ในอาการตกใจ สีหน้าซีดขาวในเสี้ยววินาที ขาอ่อนแรง ล้มพับลงในอ้อมแขนกว้างของเฟิงเฉิน และสะดุ้งเล็กน้อยอย่างไม่รู้ตัว
ขโมยไก่ไม่ได้ ยังต้องเสียข้าวสารไปอีกกำมือหนึ่ง
ใบหน้าหลัวแมนจีเกือบจะบิดเบี้ยวไปด้วยโทสะ แต่ก็พยายามรักษาท่าทางละอายแก่ใจบนใบหน้าอย่างสุดความสามารถ
“ฉันไม่ได้ตั้งใจนะคะ นางหญิงเฟิงให้ฉันฝึกซ้อมนานเกินไป แขนของฉันจึงไม่มีแรงตั้งนานแล้ว ดังนั้นจึงจับเอาไว้ไม่อยู่ไปชั่วขณะ และหลุดมือไป เป็นฉันที่โง่เอง อย่างไรก็เรียนไม่เป็น ต้องขอโทษด้วยจริงๆนะคะ……..”
คุณหญิงหูที่กำลังเช็ดไม้กอล์ฟ ตอบเสียงเรียบว่า
“คุณหลัวแมนจีไม่จำเป็นต้องถ่อมตัว ฉันเห็นว่านางหญิงเฟิงยังไม่ได้สอนอะไร คุณก็เรียนรู้ที่จะสรุปจากเรื่องหนึ่งไปเป็นอีกเรื่องหนึ่งเป็นแล้ว”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้แล้ว เฟิงเฉินก็กอดหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมแขนแน่น สายตามืดทะมึนตกลงบนใบหน้าของหลัวแมนจีอย่างเย็นชาชั่วพริบตา
หลัวแมนจีลนลานทำอะไรไม่ถูก เอ่ยอย่างร้อนรนว่า
“คุณชายเฟิง ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะคะ ฉันแค่……..”
“ไสหัวออกไป” เสียงเข้มขรึมดังสะท้อนทั่วสนามกอล์ฟ สร้างความตกตะลึงและน่าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
เฟิงเฉินสีหน้าเขียวปั้ด
เขารังเกียจผู้หญิงที่ถือดีคิดว่าตัวเองฉลาดมาโดยตลอด หลัวแมนจีคนนี้แสดงสติปัญญาต่อหน้าเขาครั้งแล้วครั้งเล่า ยังนึกว่าให้เธอย้ายออกไปจะเป็นคำเตือนที่ใหญ่มากพอแล้ว แต่คิดไม่ถึงเลยว่าตัวเองจะประเมินความปรารถนาที่จะปีนขึ้นสู่ที่สูงของเธออย่างร้อนรนต่ำไป
ลั่วมั่นก็ถูกเสียงตะคอกที่ดังขึ้นเหนือศีรษะกะทันหันทำให้ชะงักไป หลังจากสติกลับมาก็รู้สึกเพียงแค่ว่าร่างกายดีขึ้นตามลำดับ สมองมีแม้กระทั่งความคิดที่น่าหวาดกลัวผุดขึ้นมาอย่างหนึ่ง
ถึงแม้ว่าจะเกือบถูกตีเข้าที่ศีรษะ แต่ความจริงแล้ว ไม้นี้ของหลัวแมนจี…….หลุดมือได้ทันเวลามากจริงๆ!