ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว - ตอนที่ 75
บทที่ 75 เด็กที่มีหน้าตาคล้ายคลึงกับเขา
สามีที่สุภาพนุ่มนวล เด็กน้อยที่น่ารัก คนในครอบครัวล้วนมีความสุข นั่นก็คือความคาดหวังที่ลั่วมั่นเคยรอคอยมาก่อนแต่งงาน
ตอนแรกที่เฟิงเฉินเอ่ยว่าจะแต่งงาน เธอแทบจะไม่มีความลังเล ความรักที่จินตนาการถึงเป็นเวลานานถูกวางไว้เบื้องหน้าตัวเอง แค่ลงมือก็จะได้มาครอบครองอย่างง่ายดาย ความตื่นเต้นและความสุข มีชัยเหนือสติสัมปชัญญะทั้งหมด
ก่อนแต่งงานส่งเจี่ยงเหวินเหวินผู้เป็นเพื่อนสนิทไปต่างประเทศ ก่อนจะเช็คอินขึ้นเครื่อง คำถามที่เจี่ยงเหวินเหวินถามเธอยังดังก้องอยู่ข้างหูเธอจนทุกวันนี้ “เธอคิดว่าเฟิงเฉินชอบเธอคนนี้ หรือว่าชอบใบหน้าดวงนี้ของเธอกันแน่”
ตอนนั้นลั่วมั่นถูกความรักมอมเมา ไม่สามารถพิจารณาครุ่นคิดเรื่องนี้จริงจังด้วยใจที่สงบได้ รู้ทั้งรู้ แต่กลับแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจ และเอ่ยประโยคหนึ่งว่า ฉันไม่เข้าใจความหมายของเธอ เพื่อที่จะไล่เพื่อนสนิทไป
แต่คำพูดนั้นกลับติดตามเป็นเงาตามตัวจนถึงตอนนี้
สิ่งที่เขาชอบคือตัวฉันคนนี้หรือว่าใบหน้านี้ของฉันกันแน่นะ
ใบหน้านี้ของเธอคล้ายกับคนคนนั้นหรือ
ตอนที่คิดถึงตรงนี้ หัวใจก็เจ็บแปลบขึ้นมา พาให้กระทั่งใบหน้าที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นแต่เดิมของเธอบึ้งตึงขึ้นมา อดไม่ได้ที่จะมองโทรศัพท์แวบหนึ่ง
ตามหลักแล้ว ควรจะลงจากเครื่องบินตั้งนานแล้ว
นอกหน้าต่างมีเม็ดฝนโปรยปราย
ทางเข้าแท็กซี่ในสนามบิน
เฟิงเฉินลงมาจากแท็กซี่ แค่แวบเดียวก็เห็นหญิงสาวที่สวมชุดเซตผ้าทวีดสีครีมยืนอยู่หน้าประตูสนามบิน รูปร่างผอมเพรียว มือจูงเด็กชายที่สูงเกินจากหัวเข่าไม่มากนักด้วยคนหนึ่ง
เท้าที่กำลังก้าวไปของเขาหยุดชะงัก สมองมีภาพส่วนเล็กส่วนน้อยพาดผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในใจก็หนักอึ้งแบบแปลกๆ
“เฟิงเฉิน ทางนี้” เวินน๋อนเห็นเขาแล้ว ก็รีบกวักมือ
เขาถึงได้สติกลับคืนมา และเดินเข้าไป
“เฟิงเฉิน ขอโทษด้วยจริงๆ ถ้าหากว่าสามารถหาคนอื่นได้ล่ะก็ ฉันจะต้องไม่รบกวนคุณอย่างแน่นอน เฮ่าเฮ่าสุขภาพไม่ค่อยดี ไม่สามารถเปียกฝนได้ ดังนั้น ฉันก็ไม่มีหนทางอื่นแล้ว ถึงได้คิดถึงคุณ……..”
เฟิงเฉินฟังอย่างจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว กวาดตามองข้างกายเธอครั้งหนึ่ง
“นี่คือลูกชายของคุณหรือ”
เด็กคนนั้นเห็นเขามองตัวเอง ก็หลบไปข้างหลังมารดาอย่างขี้ขลาด
สีหน้าของเวินน๋อนกระสับกระส่ายอยู่บ้าง ฝืนยิ้ม ปล่อยให้ลูกชายแอบอยู่ด้านหลังตัวเอง “ใช่ ลูกชายของฉัน เฮ่าเฮ่า ฉันเพิ่งจะรับเขากลับมาจากต่างประเทศ รู้สึกกลัวคนแปลกหน้าอยู่บ้าง คุณก็อย่าถือสาเลย”
ถ้าจำไม่ผิดล่ะก็ การรวมกลุ่มรับประทานอาหารเย็นในหลายปีมานี้ก็ได้ยินเพื่อนๆหลายคนเอ่ยถึงอย่างไม่ได้ตั้งใจ เวินน๋อนคล้ายกับจะแต่งงานให้กับชาวต่างชาติคนหนึ่ง เด็กคนนี้ไม่มีเชื้อสายของชาวต่างชาติเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งจากส่วนสูงของเขา อายุเท่านี้เหมือนกับ………ยิ่งกว่า
เฟิงเฉินยับยั้งการคาดเดาของตัวเองเอาไว้ “ขึ้นรถก่อนเถอะ หลังจากนี้ผมยังมีธุระอีก”
เวินน๋อนสีหน้าแข็งค้าง เอ่ยอย่างตึงเครียดว่า “ฉันทำให้ธุระของคุณล่าช้าใช่หรือไม่”
“ไม่เป็นไร” เฟิงเฉินช่วยยกกระเป๋าเดินทางของเวินน๋อนและเด็กน้อยไว้ที่กระโปรงหลังรถ จากนั้นตัวเองก็ไปนั่งที่นั่งข้างคนขับ
“คุณพักอยู่ที่ไหน”
เวินน๋อนลังเลเล็กน้อย “โรงแรมโจวจี้”
“คนขับโรงแรมโจวจี้”
เฟิงเฉินดึงสายตากลับมาจากกระจกมองหลัง ตอนที่มองผ่านเบาะด้านหลังในเสี้ยววินาทีนั้น ก็เห็นเด็กคนนั้นเงยหน้าขึ้นจากอ้อมกอดของเวินน๋อน พิจารณามองเขาอย่างขลาดๆ ในใจเขาตกตะลึง สีหน้าเปลี่ยน
แม้ว่าโครงร่างบนใบหน้าจะเยาว์วัย ทว่ากลับคุ้นตาเป็นอย่างมาก ชายหนุ่มและเด็กชายที่อยู่ในกระจกมองหลัง แทบจะโขกออกมาจากพิมพ์เดียวกัน ยากที่จะทำให้คนไม่คิดมาก
“ปีนี้เด็กอายุเท่าไรหรือ” เสียงของเฟิงเฉินแหบแห้งอยู่บ้าง
“นับอายุแบบจีนก็สามขวบ ใกล้จะเข้าเรียนชั้นอนุบาลแล้ว”
“สามขวบหรือ” แววตาของเฟิงเฉินเคร่งเครียด “เขาคือ……”
“ไม่ใช่” เวินน๋อนตัดบทอย่างร้อนรน
บรรยากาศภายในรถประหลาดขึ้นมาทันที
เฟิงเฉินบีบมือแน่น “ผมยังไม่ทันพูดว่าคืออะไรเลย คุณกำลังปฏิเสธอะไรหรือ”
“อะไรก็ไม่ใช่ทั้งนั้น” เวินน๋อนก้มหน้า ไม่กล้ามองสบตาเขา “ไม่ว่าคุณจะคิดอะไรอยู่ ฉันก็สามารถพูดได้เพียงว่าไม่ใช่ เฮ่าเฮ่าไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับคุณ และก็ไม่สามารถมีอะไรเกี่ยวข้องกับคุณได้”