ปลายจวักครองใจ - ตอนที่ 14 ลงโทษ
ตอนที่ 14 ลงโทษ
หลังจากพิสูจน์แล้วว่านางผลักลั่วเซิงลงน้ำจริง เซิ่งจยาหลานทั้งหวาดกลัว ตื่นตระหนก และสิ้นหวังอย่างยิ่ง พร้อมยอมรับผลที่ตามมา
อย่างมากก็ชดใช้ด้วยชีวิต
แต่หลังจากลั่วเซิงพูดว่า “เจ้าทำเพื่อซูเย่า” เส้นที่ค้ำจุนจิตวิญญาณของเซิ่งจยาหลานก็ขาดลง
ซูเย่าที่อยู่ในใจของนางนั้นไม่อาจดูหมิ่นได้ จะลากเขาเข้ามาเกี่ยวข้องได้อย่างไร
“ไม่เกี่ยวกับคุณชายรองสกุลซู!” เซิ่งจยาหลานตะโกนเสียงหลง
หากนางในอดีตเปรียบเสมือนหอยทากที่ซ่อนตัวอยู่ในเปลือกที่สั่นเทา ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็จะแสร้งทำเป็นไม่สนใจ บัดนี้เปลือกที่คุ้มกันแตกร้าวเผยให้เห็นใบหน้าที่เปราะบางและน่าเกลียดของนาง
เซิ่งจยาหลานทรุดตัวลงบนพื้นและอธิบายว่า “ข้าแค่เกลียดลั่วเซิงที่ไปติดพันคุณชายรองสกุลซูจึงหลงผิดลงมือไป คุณชายรองสกุลซูไม่รู้เรื่องด้วย ยิ่งไม่รู้ความคิดของข้า..”
ดวงตาของเซิ่งจยาอวี้เบิกกว้างราวกับว่าเห็นผี เอ่ยตะกุกตะกัก “น้องหญิงรอง เจ้า เจ้าชอบซูเย่าหรือเนี่ย…”
หลังจากได้ยินคำพูดของเซิ่งจยาอวี้ ความรู้สึกที่พังทลายของเซิ่งจยาหลานก็บรรเทาลง หันมองเซิ่งจยาอวี้และย้อนถามว่า “ข้าชอบคุณชายซูรองไม่ได้อย่างนั้นหรือ”
หญิงสาวทุกคนในเมืองจินซาล้วนชื่นชอบคุณชายรองสกุลซูกันทั้งนั้นแล้วเหตุใดนางถึงชอบไม่ได้
เพียงเพราะนางเป็นลูกอนุ ต้องต่อแถวหลังคุณหนูใหญ่และยังต้องต่อแถวหลังลั่วเซิงด้วยหรือ
นางไม่ได้อยากจับมือเคียงข้างชายหนุ่มผู้มีอนาคต แต่นางทนไม่ได้กับคนอย่างลั่วเซิงที่มาพัวพันบ้าคลั่งกับชายอันเป็นที่รักของนาง
กำจัดลั่วเซิงคืนความบริสุทธิ์ให้คุณชายรองสกุลซู นางวางแผนเรื่องนี้มานาน จนกระทั่งวันนั้นที่ลั่วเซิงไปน้อมทักทายท่านย่าและบอกว่าตกหลุมรักซูเย่า จิตสังหารจึงกดไว้ไม่อยู่อีกต่อไป
เซิ่งจยาอวี้รู้สึกเจ็บปวดที่เซิ่งจยาหลานไม่ยอมกลับใจพลางเอ่ยพึมพำ “ได้สิ แต่ข้าไม่เคยได้ยินเจ้าพูดถึงมาก่อนเลย…”
เซิ่งจยาหลานยิ้มเยาะ “ทำไมข้าต้องบอกท่านด้วย บอกแล้วข้าจะได้แต่งงานกับคุณชายรองซูอย่างนั้นหรือ ข้าไม่คู่ควร ข้ารู้ดีแก่ใจ”
ฮูหยินผู้เฒ่าเซิ่งมองไปที่หลานสาวคนรองที่ไร้ซึ่งศักดิ์ศรีและเอ่ยถามอย่างช้าๆ “เหตุใดเจ้าถึงไม่คู่ควร”
เซิ่งจยาหลานตกตะลึงกับคำถามนี้
ใบหน้าของฮูหยินผู้เฒ่าเซิ่งเต็มไปด้วยความเจ็บปวด “เจ้าเป็นถึงคุณหนูรองของสกุลเซิ่ง ซูเย่าก็เป็นคุณชายรองของสกุลซู ทั้งสองตระกูลมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน เหมาะสมกันทุกประการ แล้วไม่คู่ควรตรงไหนหรือ หากเจ้าเผยความรู้สึกกับท่านแม่ของเจ้าแต่เนิ่นๆ สกุลเซิ่งเราจะได้เชิญแม่สื่อไปเจราจา หากสำเร็จก็ดีใจกันถ้วนหน้า ไม่สำเร็จก็ไม่เสียใจภายหลัง แต่นังหนูเจ้าคิดมากเกินไป เก็บทุกอย่างไว้ในใจ สุดท้ายลงมือทำร้ายผู้อื่น เจ้าคู่ควรกับความรักและความทะนุถนอมของผู้ใหญ่ที่มีให้กับเจ้ามาโดยตลอด รวมถึงพี่น้องที่รักเจ้าแล้วหรือ”
“ข้า…ข้า…” เซิ่งจยาหลันเหลือบมองฮูหยินผู้เฒ่าเซิ่ง ฮูหยินใหญ่ ฮูหยินรอง และพวกคุณชายเซิ่งทั้งสี่ สุดท้ายจ้องมองเซิ่งจยาอวี้ที่น้ำตานองหน้าจึงร้องไห้ออกมาเสียงดังลั่น
นางคิดผิดอย่างนั้นหรือ ที่แท้นางกับคุณชายรองสกุลซูก็พอมีความหวัง แต่กลับทำลายมันลงด้วยน้ำมือของนางเอง…
เซิ่งจยาหลานจ้องมองมือขาวผ่องของตนเอง รู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง และในที่สุดก็ทนกับอารมณ์อันท่วมท้นนี้ไม่ไหวจึงเป็นลมหมดสติไป
ริมฝีปากของฮูหยินผู้เฒ่าเซิ่งขยับ กลืนน้ำลายแล้วรีบเรียกหมอทันทีตามสัญชาตญาณแล้วมองไปที่ ลั่วเซิง
ลั่วเซิงยังคงยืนนิ่งเงียบ แต่ฮูหยินผู้เฒ่าเซิ่งกลับรู้สึกเหมือนเพิ่งรู้จักหลานนอกเป็นครั้งแรก
หลานสาวคนรองทรุดตัวลงกับพื้นและเป็นลมหมดสติไป เพียงเพราะคำพูดประโยคเดียวของลั่วเซิง
เจ้าทำเพื่อซูเย่า
ลั่วเซิงรู้ได้อย่างไรว่าหลานสาวคนรองชอบซูเย่า และคาดเดาได้อย่างไรว่าหลานสาวคนรองทำเรื่องทั้งหมดเพื่อซูเย่า
ความสงสัยมากมายผุดขึ้นในใจของฮูหยินผู้เฒ่าเซิ่ง แต่นางรู้ดีว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาซักถามคำถามเหล่านี้
ฮูหยินผู้เฒ่าเซิ่งถอนหายใจเฮือกใหญ่ สีหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด “เซิงเอ๋อร์ พวกเราขอโทษเจ้าด้วย”
ลูกเขยส่งลูกสองคนมาที่ตระกูลเซิ่ง แต่กลับเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น ช่างน่าอับอายขายขี้หน้านัก
ลั่วเซิงโค้งคำนับให้กับฮูหยินผู้เฒ่าเซิ่งเล็กน้อยและเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ไม่เกี่ยวกับทุกคน เซิ่งจยาหลานคนเดียวที่ทำผิดต่อข้า”
แม่นางที่เซิ่งจยาหลานทำผิดต่อนาง ไม่ได้มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว
ลั่วเซิงทอดถอนใจและเอ่ยในใจ คุณหนูลั่ว ความแค้นที่ถูกฆ่าตาย ข้าล้างแค้นให้แล้ว เจ้าไปอย่างสบายใจเถิด ปัญหาต่อจากนี้ ข้าสะสางแทนเจ้าเอง ข้ายินดี ไม่ผลักภาระหน้าที่นี้ให้คนอื่น ส่วนข้าจะขอยืมกายหยาบของเจ้า ไปพบคนที่อยากพบ ทำในสิ่งที่คั่งค้างไว้
คำพูดของลั่วเซิง ทำให้ฮูหยินผู้เฒ่าเซิ่งยิ่งรู้สึกผิดจึงรีบเอ่ยขึ้นทันที “เซิงเอ๋อร์วางใจได้ ยายจะไม่ปกป้องจยาหลานเด็ดขาด นางทำผิดต้องรับผลของการกระทำอันร้ายแรงนี้”
ลั่วเซิงพยักหน้าเล็กน้อย “จะลงโทษอย่างไรก็สุดแล้วแต่ท่านยายจะเห็นสมควร”
ฮูหยินผู้เฒ่าเซิ่งจึงสั่งให้คนนำตัวเซิ่งจยาหลานออกไป
เสียงไออันแผ่วเบาดังขึ้น
หัวใจของฮูหยินผู้เฒ่าเซิ่งกระตุกอีกครั้ง “เฉินเอ๋อร์ เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”
ลั่วเฉินผายมือเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ท่านยายอย่ากังวลไปเลย ข้าสบายดี แต่แค่อยากกลับเรือนนอนพักผ่อนขอรับ”
ฮูหยินผู้เฒ่าเซิ่งรีบพยักหน้า “ให้พี่ชายทั้งหลายส่งเจ้ากลับเรือน”
“ข้าไปส่งน้องเล็กเอง” ลั่วเซิงเอ่ยปาก
ลั่วเฉินปฏิเสธอย่างเด็ดขาด “ไม่เป็นไร”
หลังจากไตร่ตรองดูแล้ว กลัวว่าลั่วเซิงจะคิดไปเองว่าสายใยพี่น้องแน่นแฟ้น เด็กหนุ่มจึงทำหน้านิ่งเอ่ย “ข้าแค่พูดความจริง ท่านอย่าคิดมาก”
ลั่วเซิงเม้มริมฝีปากและขี้เกียจเกินกว่าจะโต้เถียงเด็กหนุ่มที่ปากไม่ตรงกับใจ
คุณชายใหญ่เซิ่งเดินมาหาเขา “น้องชาย ข้าไปส่งเจ้ากลับเอง”
“พวกเราจะไปส่งน้องชายด้วย”
เพียงชั่วพริบตา คนในห้องลดหายไปครึ่งหนึ่ง ลั่วเซิงโค้งคำนับฮูหยินผู้เฒ่าเซิ่ง “ท่านยาย ข้าขอตัวลาก่อน”
“ไปเถอะ จยาอวี้ก็กลับไปด้วย”
หลังจากลั่วเซิงและเซิ่งจยาอวี้จากไป สีหน้าฮูหยินผู้เฒ่าเซิ่งก็เปลี่ยนท่าทีเป็นเย็นชาและเด็ดขาด พลางเอ่ยกับฮูหยินใหญ่ว่า “ทันทีที่จยาหลานฟื้นก็ให้ส่งไปบ้านชนบทและห้ามพบใครทั้งนั้น”
สำหรับให้หลบซ่อนตัวออกเรือนคงเป็นไปไม่ได้ สาวน้อยที่อิจฉาริษยาจนลงมือฆ่าคนได้ จะยกนางให้ไปทำร้ายคนอื่นได้อย่างไร
ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านที่ชนบทจนตาย คือจุดจบของเซิ่งจยาหลาน
ฮูหยินใหญ่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ครุ่นคิดแล้วเอ่ยว่า “แล้วทางนายท่าน…”
ฮูหยินผู้เฒ่าเซิ่งเอ่ยด้วยความโกรธจัด “พอเจ้าใหญ่กลับมาก็แจ้งให้เขาทราบหน่อยแล้วกัน”
“สะใภ้เข้าใจแล้ว” ฮูหยินใหญ่รีบขานตอบ ความหวาดกลัวปรากฏในใจ
เสียแรงที่นางให้เซิ่งจยาหลานมาเป็นเพื่อนบุตรสาว แต่กลับไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายเป็นนังงูพิษ!
คนที่กล้าฆ่าคนเพราะความหึงหวง ใครจะไปรู้ว่าหากวันหนึ่งวันใดจยาอวี้ทำให้นางไม่พอใจ จะต้องสูญเสียชีวิตด้วยหรือไม่
ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณคุณหนูหลานนอกผู้นี้
ความประทับใจของฮูหยินใหญ่มีต่อลั่วเซิงดีขึ้นเล็กน้อย
ฮูหยินผู้เฒ่าเซิ่งกำชับต่ออีกคราว่า “เรื่องในวันนี้ นอกจากคนในจวนที่รู้เห็น ห้ามแพร่งพรายออกไปเป็นอันขาด”
ทุกคนขานรับอย่างพร้อมเพรียงกัน ความโกลาหลวุ่นวายของครั้งนี้ถึงจบลง
หลังจากออกจากเรือนฝูหนิง ลั่วเซิงไม่ได้กลับไปที่เรือนของตน แต่ไปยังเรือนที่พักของลั่วเฉิน และพบกับพวกคุณชายเซิ่งทั้งสี่ที่มาส่งลั่วเฉินตรงบริเวณทางเข้าเรือน
“น้องหญิงมาหาน้องชายหรือ” คุณชายใหญ่เซิ่งเอ่ยปากทักทาย
คุณชายรองเซิ่งที่อยู่ด้านข้างดูกระอักกระอ่วนไม่น้อย ลืมกระทั่งโบกพัดด้ามทองเหมือนเฉกเช่นทุกวัน
ลั่วเซิงโค้งคำนับเล็กน้อยให้กับชายทั้งสี่ “ขอบคุณพี่ชายและน้องชายมากที่มาส่งน้องชายข้ากลับเรือน”
หลังจากพูดจบ นางก็ไม่ได้อยู่พูดคุยต่อ แต่เดินผ่านคนทั้งสี่ไป