ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง - ตอนที่ 120
เฉียวเหลียงหรี่ตาลง แล้วหันมาคุยกับเซียวหงลี่อีกครั้ง “ท่านเลขาฯ เซียว ออกมาจ๊อกกิ้งตอนเช้าหรือครับ”
เซียวหงลี่ตอบพร้อมกับพยักหน้า “ใช่แล้ว ครอบครัวเราชอบตื่นแต่เช้ามาออกกำลังกาย เพราะว่าดีต่อสุขภาพ”
เฉียวเหลียงก็พยักหน้า พร้อมกับมองไปที่บ้านหลังข้างๆ บ้านเซียวหงลี่ และยิ้มขณะถามว่า “คนที่อยู่บ้านหลังถัดไปเป็นใครหรือครับ พวกเขาไม่ออกมาจ๊อกกิ้งตอนเช้าบ้างหรือ”
“เป็นครอบครัวชาวจีนที่อยู่ต่างประเทศ ส่วนใหญ่พวกเขาอยู่ต่างประเทศกัน ไม่ค่อยกลับมาหรอก ฉันแทบไม่ได้เจอพวกเขา” เซียวหงลี่ตอบ “ประธานเฉียว ทำไมไม่ทานอาหารเช้ากับเราล่ะ”
เฉียวเหลียงส่ายศีรษะ “ไม่เป็นไรครับ ผมมีงานบางอย่างต้องไปจัดการ ผมลาแล้วนะครับ” เขาหันหลังกลับ แต่แล้วก็หันกลับมาพร้อมกับบอกว่า “ท่านเลขาฯ เซียวครับ ช่วยบอกเซียวจิ่งด้วยนะครับว่าไม่ต้องขับรถไปทำงาน ผมจะขับรถเขาไปจอดไว้ที่บริษัท เขาจะได้ขับกลับบ้านตอนบ่ายหลังเลิกงาน”
เซียวหงลี่พยักหน้าด้วยรอยยิ้มแทนการตอบรับ แล้วหันกลับไปวิ่งต่อ เฉียวเหลียงเข้าไปนั่งในรถ หยิบโทรศัพท์มาโทรออก ไม่นานก็มีคนรับสาย เฉียวเหลียงสั่งด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “เตรียมบันทึกเวลาตอกบัตรของเซียวจิ่งในสองสามปีที่ผ่านมาให้ฉันด้วย”
“ท่านต้องการไปทำอะไรหรือครับ ท่านประธานเฉียว”
“แค่เอามาให้ฉันก็พอ” เฉียวเหลียงกล่าวอย่างเยือกเย็นแล้ววางสาย
…
เซียวจิ่งตื่นขึ้นจากความฝันอันแสนหวานด้วยเสียงโทรศัพท์ เขารับสายอย่างหัวเสีย และกล่าวอย่างไร้อารมณ์ “มีเรื่องสำคัญอะไรจะบอกฉันอีก ฮึ!”
“เซียวจิ่ง ฉันแค่อยากบอกนายว่า ถ้าวันนี้นายมาทำงานสายอีกวันเดียว โบนัสสามสิบล้านหยวนในปีนี้จะไม่มีเหลือ และเงินเดือนนายก็จะถูกหักด้วย” เสียงเย็นเยือกของเฉียวเหลียงดังผ่านมาในโทรศัพท์ “ฉันจ้างนายมาทำงาน ไม่ได้ให้มานอนเล่น”
ตึ๊ด… เขาวางสาย
เซียวจิ่งนั่งอยู่บนเตียงด้วยใบหน้างุนงงสับสนและผมเผ้ายุ่งเหยิง หากไม่ใช่เพราะถือโทรศัพท์อยู่ในมือเขาคงคิดว่าฝันไป ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จึงตะโกนเสียงดังขณะยังนั่งอยู่บนเตียง “เฉียวเหลียง ฉันจะฆ่านาย!”
เฉียวเหลียงใช้อำนาจในทางที่ผิดเพื่อแก้แค้นเขา!
บัดซบ เฉียวเหลียงบอกว่าจะยึดโบนัสเขา! นอกจากโบนัสสามสิบล้านหยวนแล้วยังจะหักเงินเดือนเขาด้วย!
ฉันจะลอยแพนาย!
จากนั้นก็มีเสียงดังมาจากผนังอีกด้านหนึ่ง ตามมาด้วยเสียงคำรามจากเซียวส่า “หุบปาก! ฉันจะนอน!”
เซียวจิ่งยิ่งโกรธมากขึ้น เขากระโดดลงจากเตียง และเตะฝาผนังอย่างบ้าคลั่ง ‘ในเมื่อฉันไม่ได้นอน พี่ก็ไม่ต้องนอนเหมือนกัน’ ยิ่งคิดเรื่องนี้มากเท่าใด เขาก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเท่านั้น ในที่สุดเขาก็เปิดประตูห้อง พรวดพราดไปที่ห้องเซียวส่า ตะโกนว่า “ทำไมฉันต้องไปทำงาน ในขณะที่พี่ได้นอน!”
“ก็เพราะบริษัทเป็นของฉัน และฉันใหญ่ที่สุดไง” เซียวส่าเหลือบมองเซียวจิ่งด้วยสายตาง่วงงุน และรู้สึกถือไพ่เหนือกว่า “พนักงานอย่างนายไม่เข้าใจนายจ้างอย่างเราหรอก” แล้วเขาก็หัวเราะถามว่า “ทำไมนายถึงกล้าหาเรื่องเฉียวเหลียง นายควรจะคิดว่าตัวเองโชคดีแล้ว ที่เขาไม่มาลากนายลงจากเตียง แล้วโยนนายเข้าบริษัท”
การถูกทำร้ายจิตใจโดยพี่ชายหลังจากถูกเจ้านายคาดโทษ ทำให้เซียวจิ่งกำลังจะสติแตก เขารีบวิ่งเข้าไปหาเซียวส่า พุ่งเข้าใส่ ใช้ทั้งมือและเท้ากอดเซียวส่าแน่น แล้วกล่าวอย่างน่าสงสาร “ฉันเป็นน้องชายพี่ใช่ไหม”
เซียวส่าพยายามเตะเขาออกไปให้พ้นตัว พร้อมกับตะโกนว่า” นายต้องการอะไร”
เซียวจิ่งกอดเขาแน่นยิ่งขึ้น “พี่ส่า ให้ฉันไปทำงานที่บริษัทพี่ดีไหม ตอนนี้ฉันเป็นผู้ทดสอบเกมได้แล้วนะ ฉันจะไปบริษัทเฉียวเหลียงเดี๋ยวนี้ ไปยื่นใบลาออก”
เซียวส่าผลักเขาอย่างแรง กล่าวว่า “ไปให้พ้นเลย ฉันไม่ต้องการนาย” ด้วยความพยายามอย่างหนักเขาผลักเซียวจิ่งลงไปจากเตียง เซียวจิ่งกระเด็นลงไปนั่งอยู่บนพื้นด้วยท่าทางตกตะลึง จ้องมองเซียวส่าพร้อมกับถามว่า “พี่กล้าถีบฉันตกเตียงได้ยังไงเนี่ย”
เซียวส่าหรี่ตามองเขา “กรุณาอย่ามาอาละวาดในห้องฉัน ตกลงไหม ไปล้างหน้าล้างตา แล้วไปทำงาน”
เซียวจิ่งยังคงนั่งอยู่บนพื้นไม่ขยับเขยื้อน “ทำไมพวกพี่ไม่ไปทำงาน ในขณะที่ฉันต้องไป”
“เพราะพี่เหยายังอยู่ในช่วงลาพัก ส่วนพี่เป็นเจ้านายใหญ่ จะไปตอนไหนก็ได้ และโหรวโหรวลาป่วย เพื่อพักฟื้น…” เซียวส่าตอบ ขณะมองหน้าเซียวจิ่งราวกับมองเด็กน้อยที่น่าสงสาร เขากล่าวต่อไปว่า “สำหรับนาย นายไปหาเรื่องเฉียวเหลียงไว้ ทั้งๆ ที่นายเป็นลูกน้องเขา เพราะฉะนั้นยอมรับชะตากรรมของตัวเอง ไปคุกเข่าต่อหน้าบอสของนายเถอะ น้องชาย”
เซียวจิ่งผลุดลุกขึ้นจากพื้น ตะโกนใส่เซียวส่าด้วยท่าทางตื่นเต้น “พี่ส่า ถ้าอย่างนั้นเราพาโหรวโหรวย้ายไปอยู่ต่างประเทศกัน เฉียวเหลียงจะได้หาพวกเราไม่เจอไปตลอดชีวิต เป็นการแก้แค้นเขาให้ผม!” เฉียวเหลียงกล้าใช้อำนาจมาคาดโทษเขาอย่างนี้ได้ยังไง! บัดซบที่สุด!
หางตาเซียวส่าหรี่ลง “น้องชาย อย่าทำตัวเหมือนเด็กได้ไหม บริษัทพี่เพิ่งเริ่มก่อตั้ง พี่ยังไม่อยากล้มละลาย” เขาลุกขึ้นยืน ตบไหล่เซียวจิ่งและเสริมว่า “นายคิดว่าเฉียวเหลียงจะไม่มีทางหาเราเจอหรือ และนายคิดว่าจะหลอกโหรวโหรวได้ง่ายๆ หรือ ทำตัวดีๆ ไอ้น้องชาย ฟังพี่นะ อย่าโง่ อย่าวิ่งหาความตาย”
เซียวจิ่งคอตกกลับไปที่ห้องของตัวเอง อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า และไปทำงาน
เซียวหงลี่นั่งอยู่ในห้องอาหารกำลังทานอาหารเช้า เมื่อเห็นเซียวจิ่งเดินลงมาเขาก็กล่าวกับลูกชายว่า “ไปเรียกพี่ชายกับน้องสาวของลูกลงมาทานอาหารเช้าก่อน แล้วค่อยกลับไปนอน”
เซียวจิ่งแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน และเดินลงมาทานอาหารเช้า “พวกนั้นเขาไม่ต้องไปทำงาน ทำไมต้องทานอาหารเช้าด้วย ทำไมไม่เก็บอาหารไว้ล่ะครับ จะได้ประหยัด”
เซียวหงลี่หัวเราะ “ลูกก็กินให้น้อยลงสิ จะได้เป็นการประหยัดอาหาร”
หยางจิ้งเสียนขึ้นไปเรียกคนอื่นๆ ลงมาทานอาหารเช้า
เซียวจิ่งจ้องหน้าบิดาพร้อมกับร้องออกมาว่า “คุณพ่อทำไมลำเอียงอย่างนี้! ผมกำลังจะออกไปทำงาน ผมกำลังจะออกไปหาเงิน ทำไมถึงจะไม่ให้ทานอาหารเช้า! บ้าไปแล้ว!”
“โหรวโหรวกำลังอยู่ในวัยเรียน เหยาอุทิศตนเพื่อประเทศชาติของเรา และส่าก็เป็นเจ้าของบริษัท ทุกคนมีดีกว่าลูกทั้งนั้น!”
เซียวจิ่งเดือดดาลขึ้นมาทันที ราวกับถูกจี้ใจดำ เขาคว้าปาท่องโก๋จากชามของบิดา ขณะกล่าวว่า “ผมจะกิน ผมจะผลาญเงินคุณพ่อให้หมด! คุณพ่อจะทำอะไรผมได้”
เซียวหงลี่หัวเราะเสียงดัง พร้อมกับกล่าวว่า “ลูกทรพี กล้าพูดแบบนี้กับพ่อได้ยังไง นี่พ่อเป็นพ่อแกนะ! ไม่กลัวไม้เท้าคุณปู่หรือ”
“ทิ้งผมไปเลย” เซียวจิ่งกัดปาท่องโก๋อย่างแรง ขณะคิดว่าต้องพยายามหาทางให้เฉียวเหลียงอยู่ห่างจากโหรวโหรว เขาสาบานว่าจะทำให้เฉียวเหลียงเสียใจที่ทำกับเขาแบบนี้!
ทันใดนั้นก็มีเสียงเหมือนการซ่อมแซมบ้านดังขึ้น เซียวจิ่งขมวดคิ้วด้วยความสงสัย “ใครกำลังซ่อมบ้านหรือครับ ผมจำได้ว่าบ้านแถวนี้ขายหมดแล้วนี่ ใครมาซ่อมแซมหรือ”
เซียวหงลี่ดื่มนมอีกแก้วหนึ่งและขนมปังหนึ่งชิ้นก่อนจะตอบว่า “ไม่รู้สิ บางทีบ้านข้างๆ เราอาจมีคนมาซื้อต่อ และเจ้าของใหม่กำลังปรับปรุงซ่อมแซม”
พี่ชายและน้องสาวเดินลงมาชั้นล่างทีละคน เซียวจิ่งขมวดคิ้วถาม “ไม่ใช่บ้านถัดจากบ้านเราหรือครับ ที่มีคนมาซื้อ”
“บางทีเจ้าของเขาอาจกำลังซ่อมแซม เพราะกลับมาจากต่างประเทศก็ได้” เซียวหงลี่ทานขนมปังเสร็จก็ดื่มนมอีกเล็กน้อย แล้วเดินไปจูบหยางจิ้งเสียนที่เพิ่งเดินลงมาชั้นล่าง “ที่รัก ผมไปทำงานแล้วนะ”
ทั้งสี่พี่น้องต่างตกตะลึง นี่คุณพ่อคุณแม่กำลังแสดงความรักต่อหน้าพวกเขาหรือ