ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง - ตอนที่ 140 เฉียวเหลียงหึง
เซียวหงลี่คิดว่าเขาฟังพี่ชายภรรยาผิดไป จึงเงยหน้าขึ้นมองและถามด้วยความสับสน “พี่ครับ เมื่อกี้พี่พูดว่าอะไรนะ”
หยางจิ้งเชามองตอบเซียวหงลี่ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าและถามว่า “นายคิดยังไงกับลูกชายทั้งสามของฉัน”
เซียวหงลี่หัวเราะ ขณะมองดูกระดานหมากรุกบนโต๊ะ พยายามเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “พี่ครับ นานแค่ไหนแล้วที่เราไม่ได้เล่นหมากรุกด้วยกัน มาเล่นกันสักกระดานเถอะ”
หยางจิ้งเชานั่งลงตรงกันข้ามเซียวหงลี่ หยิบเบี้ยหมากรุกขึ้นมาตัวหนึ่ง แล้วกล่าวต่อไปว่า “แล้วมู่คุนล่ะ เขาเป็นคนอัธยาศัยดีและมีน้ำใจนะ ถ้านายให้เซียวโหรวแต่งงานกับเขา เราจะดูแลเธอเหมือนกับเป็นเจ้าหญิงเลย”
เซียวหงลี่พูดไม่ออก ยกมือขึ้นปิดปากและไอกระแอม “พี่ครับ พี่ต้องล้อเล่นแน่ๆ โหรวโหรวยังเด็กเกินไปครับ”
นอกจากนี้ เขาเองไม่สามารถตัดสินใจแทนเธอได้… ลูกสาวเขาเป็นผู้หญิงที่ดีและเก่ง เธอสมควรได้คู่ครองเป็นผู้ชายที่ดีและเก่งกว่าเธอ อย่างเช่น… เซียวหงลี่ละสายตาหันไปด้านข้าง แล้วก็ต้องสะดุ้งตกใจ เฉียวเหลียงยืนอยู่ข้างๆ เขา และดูดุดันน่ากลัวมาก เฉียวเหลียงมองหน้าเซียวหงลี่และกล่าวอย่างไร้อารมณ์ “คุณลุงเซียว ให้ผมเล่นหมากรุกกับนายพลหยางนะครับ”
ดวงตาเฉียวเหลียงขึงขัง ดุดันแม้แต่ขณะจ้องมองหยางจิ้งเชา เซียวหงลี่เลิกคิ้ว แล้วก้าวออกไปด้านช้าง เฉียวเหลียงยึดที่นั่งของเซียวหงลี่ จ้องมองหยางจิ้งเชาอย่างเย็นชา ขณะจัดวางเบี้ยบนกระดานหมากรุกเฉียวเหลียงกล่าวว่า “ท่านนายพลหยาง ให้ท่านเริ่มก่อน”
เซียวหงลี่ยืนอยู่ข้างๆ ประหลาดใจว่าทำไมจู่ๆ เฉียวเหลียงถึงมีท่าทางเป็นศัตรูกับพี่ภรรยาเขาไปได้ พี่ชายหยางจิ้งเสียนเป็นคนเปิดเผยเกินไป ทำให้เด็กคนนี้ขุ่นเคืองใช่ไหม โอ ไม่ใช่สิ่งดีเลยที่ชายหนุ่มอย่างเขาจะก้าวร้าวมากขนาดนี้
หยางจิ้งเชาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเฉียวเหลียง ทำไมถึงได้ทำตัวเป็นศัตรูกับเขาขึ้นมาทันทีทันใด… และยังเรียกเขาว่านายพลหยางอีกด้วย! ในเมื่อเธอเรียกเซียวหงลี่ว่า ‘คุณลุง’ เธอก็ควรเรียกฉันว่า ‘คุณลุง’ ด้วยเหมือนกัน จริงไหม
ถังซีได้ยินการสนทนาของพวกเขาและรู้สึกขำ แต่ก็หวั่นไหวไปกับการแสดงออกเหมือนเด็กๆ ของเฉียวเหลียง ครั้งสุดท้ายที่เฉียวเหลียงทำสิ่งไร้สาระแบบนี้โดยมีสาเหตุมาจากเธอนั้นเมื่อไรกันนะ สำหรับเธอดูเหมือนเขาจะไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน เขามักจะมีเหตุผลทุกอย่างในทุกเรื่อง
เขาไม่เคยสูญเสียการควบคุมตัวเอง หากเธอกับเขาไม่ได้ประสบกับการพรากจากกันก่อนหน้านี้ เธออาจไม่ได้เห็นความน่ารักของเฉียวเหลียงในชีวิตเลยก็เป็นได้
สงครามในหมู่พี่น้องตระกูลเซียวกับตระกูลหยางสิ้นสุดลงแล้ว พวกเขาไปเล่นเกมกันต่อที่หน้าโทรทัศน์ หยางมู่ซิงและหยวนลี่หวาไปช่วยเตรียมอาหารที่ห้องครัว ในขณะที่ถังซีคุยกับหยางจิ้งเสียนและ เฉียวอวี่ซินอย่างมีความสุข
เฉียวเหลียงกับหยางจิ้งเชาเล่นหมากรุกกันอย่างตั้งอกตั้งใจ หยางจิ้งเชาเดินหมาก เงยหน้าขึ้นมองเฉียวเหลียงและกล่าวว่า “ประธานเฉียวนี่เป็นอัจฉริยะจริงๆ เธอไม่ได้เป็นเพียงตำนานในแวดวงธุรกิจเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้เล่นหมากรุกที่เก่งอีกด้วย”
เฉียวเหลียงสีหน้าเรียบเฉย เดินหมากแล้วเงยหน้าขึ้นมองหยางจิ้งเชา ตอบว่า “ท่านนายพลหยางชมผมเกินไปแล้ว ผมไม่ได้เป็นตำนานหรอกครับ ในระหว่างเราสองคนผู้ที่จะชนะต้องขึ้นอยู่กับทักษะ” หลังจากหยางจิ้งเชาเดินหมาก ก็ถึงตาเขาเดิน
หยางจิ้งเชาขยับหมากอีกตัวหนึ่ง และกำลังจะกล่าวอะไรบางอย่างออกมา เมื่อเฉียวเหลียงขยับเดินและกินหมากตัวหนึ่งของเขา หยางจิ้งเชาชะงักและกล่าวว่า “โอ มนุษย์ล้วนแตกต่างกัน! ประธานเฉียวเป็นคนเก่งรอบด้านจริงๆ” เขาไม่อยากเล่นหมากรุกต่อไปแล้ว เพราะคิดว่าถ้ายังเล่นต่อไป เขาต้องพ่ายแพ้ยับเยินแน่
อย่างไรก็ตาม เฉียวเหลียงดูเหมือนจะมีเจตนารุกไล่นายพลหยาง เขาวางตัวหมากในมือลงและมองหยางจิ้งเชาอย่างจริงจัง กล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ชมผมเกินไปแล้วครับท่านนายพล จริงๆ แล้วผมแค่เคยดูคนอื่นเล่นหมากรุกเพียงครั้งเดียวเท่านั้น นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเล่นหมากรุก”
หยางจิ้งเชาหน้าแดง ขณะยิ้มและหันไปกล่าวกับเฉียวอวี่ซิน “ญาติผู้น้อง เธอมีลูกชายที่เก่งจริงๆ เขาคืออัจฉริยะ…”
เซียวหงลี่เกือบสำลักเพราะกลั้นหัวเราะ พี่ภรรยาเขามักเป็นคนที่ได้เปรียบและอยู่เหนือคนอื่นเสมอ แต่ตอนนี้ที่เขาทำได้คือยอมจำนนเฉียวเหลียงเท่านั้น ช่างน่าขำอะไรเช่นนี้!
ถังซีก็เกือบระเบิดเสียงหัวเราะเช่นกัน ตอนนี้เธอพบว่าเฉียวเหลียงนั้นร้ายกาจเกินไปแล้ว ไม่ยอมไว้หน้าคุณลุงเลย ดูสิว่าท่านเขินขนาดไหน!
ด้วยความรู้สึกว่าถังซีจ้องมองเขา เฉียวเหลียงหันไปมองเธออย่างบึ้งตึง ถังซีมองตอบเขาด้วยสายตางุนงง เธอทำอะไรให้เขาขุ่นเคืองใจเหรอ ทำไมเขาถึงมองเธอแบบนี้
เธอเห็นเฉียวเหลียงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา จากนั้นโทรศัพท์ของเธอก็ส่งสัญญาณ เป็นเสียงเตือนของวีแชท
ถังซีเดินถือโทรศัพท์มือถือออกไปที่ลานนอกบ้าน หลังจากอ่านข้อความที่เขาส่งมาเธอก็หัวเราะคิกคัก ไม่ใช่ความผิดของเธอที่เธอมีเสน่ห์มากเกินไป
เธอยิ้ม ส่ายศีรษะแล้วกลับเข้าไปในบ้าน ทันใดนั้นมือเธอก็ถูกคว้าไว้ เธอเกือบกรีดร้องลั่นด้วยความตกใจ เธอยกมือปิดปากตัวเองไว้ ไม่ปล่อยให้ตัวเองกรีดร้อง และหันศีรษะไปมอง พบว่าเป็นเฉียวเหลียง เธอถามเบาๆ “คุณมาทำอะไรที่นี่”
เฉียวเหลียงจับมือเธอไว้แน่น แต่ไม่พูดอะไร ด้วยกลัวว่าใครจะมาพบเธออยู่กับเขา ถังซีหันมองไปรอบๆ และกล่าวว่า “มีคนอยู่เต็มไปหมด ฉันไม่อยากให้ใครมาเห็นฉันอยู่กับคุณ ปล่อยฉันเถอะ”
“คุณผิดคำพูด” น้ำเสียงเฉียวเหลียงฟังดูเจ็บปวดมาก จนถังซีรู้สึกผิด เธอมองตาเขา ขณะที่เขาจ้องตอบเธอ น้ำเสียงเขาแหบห้าวเมื่อกล่าวต่อไป “คุณบอกว่าจะไปทานอาหารค่ำกับผมคืนนี้”
ถังซีรู้สึกว่ามือเขาที่จับเธอไว้นั้นบีบแน่นขึ้นทุกที เธอถอนหายใจและกระซิบตอบ “คุณก็รู้ว่าฉันทำอะไรไม่ได้”
“คุณใช้เสน่ห์ดึงดูดใครต่อใคร และเพิ่มศัตรูหัวใจให้ผม” เฉียวเหลียงกล่าวโทษเธออีก
ถังซีพูดไม่ออก “นั่นเป็นแค่ความคิดของผู้ใหญ่ที่ต้องการแบบนั้น พวกท่านอาจล้อเล่นก็ได้ อย่าจริงจังกับเรื่องนี้เลยน่า”
“คุณหัวเราะเยาะผมด้วย” เฉียวเหลียงเสริมอีก
ถังซีระเบิดเสียงหัวเราะออกมา เหลือบสายตามองเขา สะบัดมือเธอที่เขาจับไว้แน่นให้เป็นอิสระ “เฉียวเหลียง นี่คุณล้อฉันเล่นหรือเปล่า คุณล้อเล่นใช่ไหม”
เฉียวเหลียงยังคงสีหน้าขึงขัง และกล่าวอย่างจริงจัง “นั่งข้างๆ ผม ตอนทานอาหารค่ำหลังจากนี้”
ถังซีชะงัก แล้วปฏิเสธ “ไม่ได้หรอก มีคนตั้งมากมายมองดูอยู่ ฉันคงนั่งข้างคุณไม่ได้”
เฉียวเหลียงขมวดคิ้ว “ทำไมถึงนั่งข้างผมไม่ได้ คุณต้องนั่งข้างผม!”
ถังซีเห็นคิ้วที่ขมวดแน่นก็อดนึกถึงสภาพเขาที่ลองบีชไม่ได้ เธอรู้สึกโกรธแต่ก็รู้สึกผิด สุดท้ายเธอก็พยักหน้าแล้วกล่าวว่า “เอาล่ะ ฉันจะดูอีกทีนะคะ”
“นั่งข้างๆ แม่ผม และผมจะนั่งข้างคุณเอง” ทันทีที่เฉียวเหลียงพูดจบ หยางจิ้งเสียนก็เรียกถังซีไปทานอาหาร ถังซีร้องตอบเข้าไปข้างใน หยางจิ้งเสียนถามว่าเธอทำอะไรอยู่ข้างนอก ถังซียิ้มแล้วตอบว่า “หนูออกมารับโทรศัพท์ค่ะ”
เซียวจิ่งเม้มริมฝีปาก แล้วส่งเสียงคำรามเบาๆ “โกหก” มีเพียงเซียวส่าที่อยู่ข้างๆ เขาเท่านั้นที่ได้ยิน
เมื่อเห็นเฉียวเหลียงเดินเข้ามา เซียวส่าก็ตะโกนถาม “นายก็ออกไปรับโทรศัพท์ข้างนอกเหมือนกันล่ะสิ”
เฉียวเหลียงเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าเสื้อ พร้อมกับฮัมเพลงขณะเดินไปที่ห้องรับประทานอาหาร
เฉียวอวี่ซินโบกมือให้ถังซีและกล่าวว่า “โหรวโหรว มานั่งข้างป้าสิจ๊ะ”