ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง - ตอนที่ 170 หนูเรียกแม่ว่าอะไรนะ
หลินหรูตื่นขึ้นมาและเห็นถังซียืนอยู่ตรงหน้า ดวงตาเธอแดงเรื่อขึ้นทันที เธอหันหน้าไปอีกด้านหนึ่ง ไม่กล้าเผชิญหน้าถังซี เธอรู้สึกว่าตนเองไม่สมควรเป็นแม่โหรวโหรว เธอมีพ่อแม่ที่แย่มาก เธอทำให้ลูกสาวมีตายายที่ร้ายกาจเหลือประมาณ เธอจะมองหน้าลูกสาวได้อย่างไร
ถังซีรู้สึกประหลาดใจที่เห็นหลินหรูปฏิเสธไม่อยากเห็นหน้าเธอ และแอบร้องไห้ แทนที่จะระเบิดน้ำตาแห่งความสุขออกมาด้วยความปลาบปลื้มยินดี และกอดเธอด้วยความรัก…
หยางจิ้งเสียนยืนอยู่ข้างถังซี ผลักลูกสาวเบาๆ ถังซีหันไปมอง และหยางจิ้งเสียนพยักหน้าให้ ถังซีจึงก้าวออกไปจับมือหลินหรูไว้ แล้วเอ่ยขึ้นอย่างอ่อนโยน “แม่คะ ทุกอย่างจบแล้วค่ะ ทุกอย่างจะเรียบร้อย แม่ไม่ต้องเสียใจแล้วนะคะ”
หลินหรูส่ายศีรษะ แต่แล้วเธอก็มีท่าทีตกใจอย่างฉับพลัน เธอมองตอบถังซี และถามเสียงสั่น “เมื่อกี้หนูเรียกแม่ว่าอะไรนะจ๊ะ”
ถังซียิ้ม แล้วเอ่ยออกมาอีกครั้ง “แม่ค่ะ หนูมีคุณแม่อยู่แล้ว แต่ไม่มีแม่ แม่อยากเป็นแม่ของหนูไหมคะ”
ในนาทีนั้นน้ำตาหลินหรูก็พรั่งพรูออกมา แต่แทนที่จะพยักหน้าเธอส่ายศีรษะ “แม่ไม่สมควรเป็นแม่ของหนู โหรวโหรว แม่ไม่คู่ควรกับการเป็นแม่ของหนู แม่ทำผิดต่อหนู ปล่อยให้หนูต้องทนทุกข์ทรมานมากมายเหลือเกิน แม้แต่ตอนนี้หนูก็กำลังถูกคนพวกนั้นคุกคามเพราะแม่…”
ถังซีรู้ว่าหลินหรูกำลังพูดถึงเถาเยี่ยน ถังซีจับมือหลินหรูไว้แล้วส่ายศีรษะ “แม่คือแม่ของหนูค่ะ นี่คือความจริง และอดีตคืออดีต เราต้องก้าวต่อไปข้างหน้านะคะ”
หลินหรูไม่อาจหยุดยั้งน้ำตาของเธอได้ เธอไม่สามารถขยับร่างกายส่วนใดส่วนหนึ่งที่ต่ำลงไปจากศีรษะ ทำได้แค่ส่ายศีรษะหรือพยักหน้าเท่านั้น เธอส่ายศีรษะกล่าวว่า “ไม่ เราทำอะไรไม่ได้ ตราบใดที่แม่เป็นลูกสาวพวกเขา เราจะไม่สามารถก้าวต่อไปข้างหน้าได้ หนูจะถูกพวกเขารังควานไปตลอดชีวิต แม่ขอโทษ แม่ใช้ไม่ได้จริงๆ แม่ทำให้หนูต้องโดนรังแก”
ถังซีนั่งลงข้างเตียงหลินหรู เอื้อมมือออกไปเช็ดน้ำตาบนใบหน้าหลินหรูและกระซิบว่า “ทุกอย่างกำลังจะจบค่ะแม่ ไม่ใช่ความผิดของแม่ แต่เป็นความผิดของพวกเขา พวกเขาทำสิ่งเลวร้ายกับแม่ ทุกอย่างจะจบลงด้วยดีค่ะ”
หยางจิ้งเสียนพยักหน้ากล่าวว่า “ใช่จ้ะ โหรวโหรวตกลงยอมรับเธอเป็นแม่แล้ว ตอนนี้เธอควรจะมีความสุขสิ อย่าร้องไห้เลยนะ”
เป็นครั้งแรกที่เซียวหงอี้เห็นหลินหรูร้องไห้ด้วยความเศร้าเสียใจอย่างหนักในรอบยี่สิบกว่าปี เขายืนอยู่ข้างๆ โดยไม่รู้จะพูดอะไร สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือยืนนิ่งงัน เมื่อได้ยินคำพูดของหยางจิ้งเสียนเขาก็รีบกล่าวว่า “ใช่ เราจะไม่เกี่ยวข้องกับคนพวกนั้นอีกต่อไป” จบคำพูดเขาก็รีบให้หลินหรูดูรายงานการตรวจพิสูจน์ความเป็นบิดามารดา “นี่คือรายงานผลการตรวจพิสูจน์ความเป็นพ่อแม่ เมื่อวานนี้โหรวโหรวถามพวกเขาว่าคุณเป็นลูกพวกเขาจริงๆ หรือ พวกเขาหลุดปากออกมา เราจึงรีบทำการตรวจพิสูจน์ทันที อาหรู คุณไม่ใช่ลูกของพวกเขา นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเขาปฏิบัติต่อคุณแบบนี้ ไม่ใช่ว่าคุณไม่ดีพอ แต่เพราะคุณไม่ใช่ลูก พวกเขาถึงทารุณกรรมคุณอย่างโหดเ**้ยมอย่างนั้น”
หลินหรูตัวแข็ง มองหน้าเซียวหงอี้อย่างไม่อยากเชื่อ เซียวหงอี้พยักหน้าให้เธอ จากนั้นเธอก็หันไปหาถังซีซึ่งพยักหน้าให้เธอเช่นกันและกล่าวว่า “ใช่ค่ะ พวกเขาไม่ใช่พ่อแม่ของแม่ หนูกำลังให้คนรวบรวมหลักฐานอยู่ตอนนี้ หลังจากได้หลักฐานแล้ว เราสามารถนำพวกเขาไปขึ้นศาล และปฏิเสธพวกเขาได้ แล้วจากนั้นเราจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับปลิงดูดเลือดพวกนั้นอีก”
หลินหรูกัดริมฝีปากแน่น เป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร เธอไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ ของพ่อกับแม่ เธอเป็นลูกสาวตระกูลหลินมาเกือบ 50 ปี แต่ตอนนี้เธอได้รับรู้ว่าเธอไม่ใช่ลูกสาวของพ่อแม่ ดวงตาเธอเริ่มแดงเรื่อ เป็นไปได้อย่างไรกัน!
เมื่อเห็นหลินหรูตะลึงงันไปเหมือนคนไร้สติ ถังซีก็นั่งลงพยายามปลอบโยนเธอ “อย่าร้องไห้เลยนะคะ แม่ควรมีความสุขมากกว่า แม่ไม่ใช่ลูกของปลิงสองตัวนั้น และลูกสาวของแม่ก็ไม่จำเป็นต้องได้รับการยอมรับจากพวกเขา เพราะฉะนั้นแม่ควรจะมีความสุข”
“ถ้าแม่ไม่ใช่ลูกของพวกเขา แล้วทำไมพวกเขาถึงปฏิบัติกับเซียวจิ้นหนิงดีมากขนาดนั้น ถึงแม้ว่าแม่จะไม่ใช่ลูกของพวกเขา แต่แม่ก็ดูแลรับใช้พวกเขาด้วยความกตัญญูมานานหลายปี!” หลินหรูร้องไห้อย่างขมขื่น
ถังซีเม้มริมฝีปากขณะครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบอย่างเคร่งขรึม “เซียวจิ้นหนิงอาจเป็นหลานสาวแท้ๆ ของพวกเขา นั่นคือเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงปฏิบัติต่อเธอดีขนาดนั้นค่ะ”
ทั้งเซียวหงอี้และหลินหรูมองหน้าถังซีอย่างตกตะลึง เซียวหงอี้จ้องมองถังซีด้วยความประหลาดใจ ส่วนหลินหรูเบิกตากว้าง “ลูกพูดว่าอะไรนะ”
ถังซีถอนหายใจ มองเซียวหงอี้กับหลินหรูและกล่าวว่า “หนูจะจัดการเรื่องนี้เองค่ะ ไม่ว่าก่อนหน้านี้ จะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างก็ตาม แต่ตอนนี้เราควรมีความสุข แทนที่จะเสียใจ เพราะพวกเราได้อยู่ด้วยกัน และได้รู้ความจริงทั้งหมดแล้ว จริงไหมคะ”
หลินหรูมองถังซีอย่างใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะถามว่า “เซียวจิ้นหนิงเป็นลูกสาวหลินเจียวหรือ เพื่อให้ลูกสาวหลินเจียวได้มีชีวิตที่ดี พวกเขาจึงขโมยลูกของแม่ไป แล้วเอาลูกสาวหลินเจียวมาไว้ข้างๆ แม่แทนใช่ไหม”
ถังซีเม้มริมฝีปาก เงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะพยักหน้า “ใช่ค่ะ”
หลินหรูหัวเราะออกมาอย่างสมเพชตัวเอง “ฮ่าๆ หมายความว่าพวกเขาแค่อยากใช้ประโยชน์จากฉัน! พวกเขาหาประโยชน์จากฉันมาหลายสิบปีแล้ว พวกเขาข่มเหงฉันแบบนี้ได้อย่างไร ทำไมพวกเขาถึงทำแบบนี้กับฉัน!”
หลินหรูจำได้ว่าเมื่อเธอยังเป็นเด็ก เธอได้กินแต่อาหารที่เหลือจากเถาเยี่ยนและหลินรั่วจื้อเท่านั้น บางครั้งเธอไม่มีอะไรกินเลยและต้องอดทนกับความหิว เธอได้สวมเสื้อผ้าแต่ที่เถาเยี่ยนทิ้งแล้ว การต้องสวมเสื้อผ้าตัวใหญ่เกินไปทำให้เธอดูเหมือนตัวตลก
จากนั้นหลินเจียวก็โตขึ้น ในที่สุดเธอก็ได้ใส่เสื้อผ้าเก่าของหลินเจียว แต่เธอสูงกว่าหลินเจียว เสื้อผ้าเธอจึงตัวเล็กเกินไป หลังจากกลับจากโรงเรียน… เธอต้องไปเก็บขยะ หรือไม่ก็ไปช่วยพวกหญิงชราในตลาดขายผัก เพื่อหาเงินเรียนหนังสือ
เมื่อเป็นเด็กเธอต้องใส่แต่เสื้อผ้าตัวใหญ่ เมื่อโตขึ้นเธอได้ใส่แต่เสื้อผ้าตัวเล็กๆ และหลังจากกลับจากโรงเรียนเธอต้องรีบทำการบ้าน แล้วทำอาหารเย็น ก่อนจะออกไปทำงาน…
เธอหาทุกอย่างมาด้วยตัวเอง เธอมีความหวังอยากบอกพ่อกับแม่ว่า หลินหรูที่พวกเขาเกลียดชังมาตั้งแต่วัยเด็กได้ประสบความสำเร็จแล้ว อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่เคยชื่นชมยินดีกับเธอ มีแต่ให้ความสำคัญแก่หลินเจียวผู้ไม่เคยเชื่อฟังพวกเขา และดื้อรั้นออกนอกลู่นอกทางมากขึ้นเรื่อยๆ …
พวกเขาเปลี่ยนความคิดที่มีต่อเธอ หลังจากเธอเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยแห่งเมือง A และเลิกปฏิบัติต่อเธอเหมือนสมัยก่อน แต่เปลี่ยนมาเป็นรีดไถเงินจากเธอแทน…
“บางทีเถาเยี่ยนอาจเกลียดครอบครัวของแม่ค่ะ” ถังซีกล่าวด้วยความรู้สึกสงสารเห็นใจ ขณะมองดูหลินหรู “หนูนึกหาเหตุผลไม่ออก ว่าทำไมเถาเยี่ยนถึงเลี้ยงแม่แบบไม่ให้คลาดสายตา และทรมานแม่วันแล้ววันเล่า นอกเสียจากว่าเธอเกลียดพ่อแม่ที่แท้จริงของแม่มากๆ”
“แม่จะถามเธอว่าทำไม!” หลินหรูพยายามลุกขึ้น แต่ถังซีจับตัวเธอไว้ไม่ให้ลุกขึ้น และกล่าวอย่างจริงจัง “หนูบอกแล้วไงคะ ว่าหนูจะจัดการเรื่องนี้เอง สิ่งที่แม่ควรทำตอนนี้คือฟื้นร่างกายให้ได้เร็วที่สุด สู้ๆ นะคะ อย่าเศร้า อย่าเสียใจ!”