ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง - ตอนที่ 181 หลงเซี่ยว
ณ อาคารสำนักงานในเขตชานเมือง A ซึ่งครอบคลุมพื้นที่หลายพันหมู่ [1] ที่ทางออกฉุกเฉินบนชั้นสาม อาห้าคว้าโทรศัพท์มือถือจากมือชายคนหนึ่ง ขณะมองดูบันทึกการโทรประกายความเดือดดาลก็วาววับในดวงตาเขา เขาโยนโทรศัพท์ให้อาหก แล้วหันกลับไปมองชายคนนั้น ถามว่า “ลัวเทียน แกติดต่อกับคุณฉินทำไม”
ลัวเทียนคิดไม่ถึงว่าจะมีใครมาเห็นเขาแอบพูดโทรศัพท์ที่บันไดหนีไฟ เขากลืนน้ำลายขณะมองดูอาห้าที่โกรธมาก และตอบเสียงสั่น “คุณห้า ผม… ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำอย่างนั้น ผมแค่… คือแค่คุณฉินขอให้พวกเราบอกเธอทันทีที่เราพบคุณถังซี แต่เรายังไม่พบคุณถังซี ผมก็เลยไม่ได้บอกอะไรเธอเลย เมื่อกี้เธอโทรมาหาผม ผมไม่ได้เป็นคนโทรหาเธอ และผมก็ไม่ได้บอกอะไรเธอ…”
“ใช่สิ แกยังไม่ได้บอกอะไร เพราะฉันยึดโทรศัพท์แกมาไง ไม่อย่างนั้นแกคงจะบอกเธอทุกอย่างที่แกรู้ ใช่ไหม” อาห้าจ้องหน้าลัวเทียนเขม็งด้วยสีหน้าดุดัน เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าคนทรยศที่ไร้ความซื่อสัตย์คนนี้ จะเป็นคนในหลงเซี่ยวกรุป
ลัวเทียนส่ายศีรษะอย่างแรงและปฏิเสธ “ไม่ใช่ครับ ไม่ใช่ ไม่ใช่เลยครับคุณห้า ผมตั้งใจว่าจะบอกคุณฉินว่าผมไม่รู้อะไรเลย! ผมไม่รู้จริงๆ …”
อาห้าหรี่ตาลง แน่นอนสิ เขาไม่รู้! เพราะพวกเขาไม่พบคุณถังซีจริงๆ! เขาจึงไม่รู้ และไม่ได้บอกอะไรฉินซินหยิ่ง แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าพวกเขาพบคุณถังซี และ… อาห้าเอื้อมมือไปคว้าคอลัวเทียน เขาหรี่ตาซึ่งเต็มไปด้วยประกายดุดัน ถามอย่างเยือกเย็น “บอกฉันมา แกคือคนที่เปิดเผยตำแหน่งที่พักของนายน้อยให้ฉินซินหยิ่งรู้ใช่ไหม”
ลัวเทียนส่ายศีรษะ หน้าซีดเผือด “ไม่ครับ ไม่ใช่ผม”
เมื่อเห็นว่าลัวเทียนไม่ยอมสารภาพ อาห้าก็ปล่อยเขาแล้วหัวเราะเย้ยหยัน “ดูเหมือนแกนี่จะไม่หลั่งน้ำตาจนกว่าจะเห็นโลงศพใช่ไหม อยากลิ้มลองรสการลงโทษของหลงเซี่ยวหรือ”
ทันทีที่ลัวเทียนได้ยินคำว่าการทำโทษของหลงเซี่ยว ร่างเขาก็ทรุด เขาคุกเข่าขอร้อง “คุณห้า โปรดไว้ชีวิตผมด้วย!”
อาห้ายิ้มอย่างเย็นชา “แกจะสารภาพไหม”
ลัวเทียนก้มศีรษะลง กล่าวเสียงต่ำ “ผมแค่บอกคุณฉินว่าเราอยู่บนเกาะไหนในทะเลแปซิฟิก และ…”
“งั้นหรือ” อาห้าหรี่ตาลงถาม “แล้วนายน้อยก็ไปที่ลองบีช จากนั้นก็ไปเมืองหลวง โดยมีผู้หญิงคนนั้นสะกดรอยตามไปตลอด แล้วแกบอกฉันว่าแกไม่รู้อะไรเลยงั้นหรือ”
“ผมไม่ได้ให้ข้อมูลพวกนั้นกับคุณเฉียวเลยครับ คุณห้า ผมสาบาน!” ลัวเทียนร้องออกมา ขณะกอดขาอาห้าไว้แล้วกล่าวต่อไป “ผมอยู่หลงเซี่ยวมาห้าหกปีแล้ว ผมจะทรยศนายน้อยได้ยังไงครับ คุณฉินคนนั้นมาขอความช่วยเหลือจากผม เพราะเธอเป็นห่วงคุณถัง แล้วก็ไม่ได้มีผลร้ายอะไรต่อนายน้อยเลยนี่ครับ ถ้าผมบอกตำแหน่งที่พักของนายน้อยคุณกับฉิน”
“ไอ้โง่! ไม่มีผลร้ายอะไรเลยอย่างนั้นหรือ” อาห้าคว้าปกเสื้อลัวเทียน ดึงเขาขึ้นมาจากพื้นแล้วถามอย่างดุดัน “จะเกิดอะไรขึ้นถ้าตำแหน่งที่พักของนายน้อยถูกเปิดเผยกับ ‘พวกมัน’ โดยฉินซินหยิ่ง หรือถ้าพวกมันรู้ว่ามีคนแบบฉินซินหยิ่งอยู่ จับเธอไปทรมาน และรู้จากเธอว่าคุณถังคือจุดอ่อนของนายน้อย ยิ่งไปกว่านั้น แกก็รู้ว่าสภาพนายน้อยเป็นอย่างไรในช่วงเวลานั้น ถ้าพวกมันตามหานายน้อยจนเจอด้วยการตามรอยฉินซินหยิ่งมา แล้วฆ่านายน้อยล่ะ แกจะทำยังไง ทำไมแกถึงโง่บัดซบอย่างนี้”
เมื่อถูกอาห้าดุด่าอย่างแรงลัวเทียนก็อึ้ง เขาทำได้แค่ก้มหน้านิ่ง ยอมรับความผิดของตนเอง ทันใดนั้นอาหกก็เอ่ยขึ้น “โอ…ไม่ โทรศัพท์ของฉินซินหยิ่งกับลัวเทียนถูกดักฟัง น่าจะเป็นแก๊งลาสเวกัส”
อาห้าชกหน้าลัวเทียนอย่างแรง “บัดซบ! ไอ้อัปรีย์เอ๊ย ฉันไม่เคยเตือนแกหรือว่าไม่ให้ใช้โทรศัพท์ที่ใช้ติดต่องานโทรหาใคร!” เมื่อกล่าวจบเขาก็มองหน้าอาหกด้วยความวิตกกังวล และถามอย่างเคร่งเครียด “พวกมันจะตามหาที่นี่เจอไหม”
อาหกขมวดคิ้ว ขณะเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือเข้ากับคอมพิวเตอร์พกพาขนาดเล็ก ในไม่ช้าก็สามารถเข้าสู่ระบบที่เขาคิดขึ้นเองและทำการตรวจสอบ หลังจากเห็นการแสดงผลของระบบ เขาก็ส่ายศีรษะอย่างโล่งอก ตอบว่า “ไม่เป็นไร นายตัดสายและปิดโทรศัพท์ทันเวลา พวกมันหาพิกัดเราไม่ได้”
แม้จะเป็นเพียงสัญญาณเตือนภัยที่ยังไม่นำพาไปสู่หายนะ แต่เหงื่อที่หน้าผากของทั้งสามก็ไหลโชก หัวใจอาห้ายังคงเต้นแรง หากเขาช้ากว่านี้เพียงก้าวเดียว พวกแก๊งลาสเวกัสก็จะรู้พิกัดของสถานที่แห่งนี้ใช่ไหม
ทันทีที่เกิดความคิดเช่นนี้ เขาก็ลากตัวลัวเทียนขึ้นจากพื้น แล้วตะคอกใส่อย่างเยือกเย็น “แกไม่ต้องมาทำงานบนชั้นสามอีกต่อไป ไปอยู่ที่คุกใต้ดินชั้นหนึ่ง และทบทวนความผิดที่แกทำ!”
“คุณห้าครับ คุณห้า ให้โอกาสผมอีกสักครั้งเถอะครับ ผมสาบานว่าจะไม่ติดต่อคุณฉินอีกเลย ผมจะไม่ทำผิดอีก!” ทันทีที่ลัวเทียนได้ยินคำว่า ‘คุกใต้ดินชั้นหนึ่ง’ เขาก็ตกอยู่ในความสะพรึงกลัว ที่นั่นคือก้นบึ้งของนรกอย่างแท้จริง! อาชญากรหลายคนที่ถูกโยนลงไป ตายภายในสิบวัน และคนที่ถูกส่งลงไปนั้นคือบรรดาศัตรูของหลงเซี่ยว หรือไม่ก็อาชญากรที่เป็นที่ต้องการตัวมากที่สุด ผู้ก่ออาชญากรรมร้ายแรง หรือที่รัฐบาลไม่สามารถจัดการได้ แม้จะดูเหมือนว่าคนเหล่านั้นหายไปจากโลก แต่เขารู้ดีว่าแท้จริงแล้วพวกเขาถูกนำไปขังที่นั่น!
หลงเซี่ยวเป็นองค์กรที่ไม่เป็นทางการ ก่อตั้งโดยผู้ชายสามคน คนธรรมดาทั่วไปอาจไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับองค์กรนี้ แต่คนสำคัญ คนใหญ่คนโตทุกคนในโลก ล้วนเคยได้ยินชื่อหลงเซี่ยวกรุป องค์กรอันดับหนึ่งของโลก องค์กรนี้ไม่เพียงผลิตกระสุนปืน แต่ยังขายกระสุนปืนที่ผลิตได้ไปทั่วโลกในจำนวนมหาศาลอีกด้วย หลงเซี่ยวกรุปเป็นองค์กรที่ทั้งน่ากลัวและเป็นที่นับถือยำเกรงจากทุกประเทศ
ทั้งอาวุธแบบจุดระเบิดและไม่จุดระเบิดของหลงเซี่ยวกรุปรวมกัน เพียงพอที่จะทำลายล้างโลกได้ทั้งโลก… และอาวุธของเกือบทุกประเทศส่งไปจากหลงเซี่ยว ดังนั้นหลงเซี่ยวจึงแทบจะผูกขาดการค้าอาวุธระดับโลก…
คนส่วนใหญ่คิดว่าผู้นำสูงสุดของหลงเซี่ยวกรุป คือผู้บริหารสองคนที่พำนักอยู่ในบริเวณหลงเซี่ยวกรุป นั่นคือ วิลสันกับเจสซ์ ชายหนุ่มสองคนที่มีใบหน้าแบบชาวตะวันออก แต่มีชื่อเป็นภาษาต่างประเทศ… อย่างไรก็ตามมีเพียงสมาชิกของหลงเซี่ยวเท่านั้นที่รู้ว่า ผู้มีอำนาจตัดสินใจสูงสุดของหลงเซี่ยวกรุปเป็นชายหนุ่มสามคน เฉียวเหลียงผู้มีอำนาจชี้ขาดสูงสุด ถัดมาเป็นวิลสันและเจสซ์…
วิลสันกับเจสซ์จะมาปรึกษาเฉียวเหลียง และขอให้เขาเป็นคนตัดสินใจเมื่อเป็นเรื่องสำคัญ
ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้เฉียวเหลียงสามารถนำเฉียวอินเตอร์แนชันนัลกรุปซึ่งซวนเซใกล้จะล้ม กลับมาผงาดได้อีกครั้งในระยะเวลาอันสั้น ในความเป็นจริงไม่ใช่เพราะเขาเป็นอัจฉริยะ หรือปาฏิหาริย์ทางธุรกิจ ที่สามารถรักษาเฉียวอินเตอร์แนชันนัลกรุปไว้ได้เพียงลำพัง แต่เป็นเพราะเขาได้เตรียมการมานานแล้ว และหลงเซี่ยวกรุปที่อยู่เบื้องหลัง ก็อัดฉีดเงินทุนจำนวนมากเข้าไปยังเฉียวอินเตอร์แนชันนัลกรุป
มีคนเพียงไม่กี่คนที่รู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของเฉียวเหลียง และคนที่รู้เหล่านั้นก็พยายามจะสังหารชายหนุ่ม เพราะไม่เช่นนั้นคนที่รู้จะต้องถูกเขาตามล่า
นี่คือเหตุผลว่าทำไม ไม่ว่าจะมีความกล้าได้กล้าเสียเพียงใด เขาจึงไม่กล้าทรยศเฉียวเหลียง…
ลัวเทียนเงยหน้าขึ้นมองอาห้า และเกือบจะร้องไห้ออกมาขณะเอ่ยวิงวอน “คุณห้า ได้โปรดเถอะ ผมไม่อยากไปอยู่คุกใต้ดินชั้นหนึ่งเลยครับ”
——
[1] หมู่ – มาตราวัดพื้นที่ของจีน 1 หมู่ = 166.5 ตารางวา หรือ 666.67 ตารางเมตร