ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง - ตอนที่ 194 ช่างไม่รู้อะไรเสียเลย
หลังจากมานั่งยองๆ กันอยู่หน้าประตู แอบฟังเสียงในห้องทำงานเซียวจิ่ง เหล่าเลขานุการก็ยกมือปิดปากแล้วแอบวิ่งหนีไป ลินดายิ้ม กล่าวว่า “คุณเซียวจิ่งช่างน่ารักมากมาย ตลกจังเลยที่เขาพยายามแสดงท่าทางเคร่งขรึมต่อหน้าพวกเรา เขาคิดว่าเราไม่รู้จริงๆ เหรอว่าเขาเป็นคนยังไง”
แคเธอรินหัวเราะ “แต่ตลกมากเลยเวลาที่เห็นคุณเซียวแสดงท่าทางแบบนั้น จริงไหม ฉันอยากให้คุณเซียวจิ่งน่ารักแบบนี้ตลอดไป!”
เลขานุการที่เคยถูกเซียวจิ่งดุด่าทำคอหด มองดูกลุ่มสาวๆ ก่อนจะก้าวถอยหลังและรีบเดินกลับไปที่ห้องทำงานของเธอ พร้อมกับพึมพำขณะเดินไป “พวกเธอนี่ช่างไม่รู้อะไรเสียเลย”
“เย่ว์เย่ว์ เมื่อกี้ฉันสังเกตเห็นว่าเธอดูไม่ค่อยพอใจ มีอะไรหรือ” ลินดาถามขณะเดินตามมาทัน
เย่ว์เย่ว์เบ้ปาก มองไปที่ห้องทำงานเซียวจิ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลและตอบว่า “เพราะฉันโชคร้ายพอที่จะได้เห็นใบหน้าอันแท้จริงของท่านประธานเซียวจิ่งน่ะสิ เขาไม่ใช่คนน่ารักและนิสัยดีอย่างที่เธอพรรณนาหรอก แต่เป็นหมาป่าในเสื้อคลุมของลูกแกะ เธออย่าได้มีปัญหากับท่านประธานเซียวในเวลาอย่างนี้เชียว ไม่อย่างนั้นเธอจะต้องเสียใจ”
เมื่อนึกถึงว่าเธอถูกดุด่าอย่างไรในวันนั้น เย่ว์เย่ว์ก็กลืนน้ำลายและกล่าวต่อไป “แล้วที่ท่านประธานเซียวขอให้เธอตรวจสอบเอกสารก่อนส่งให้ท่านประธานเฉียว เธอตรวจสอบอย่างรอบคอบดีหรือยัง”
เลขานุการคนหนึ่งกล่าวว่า “เอกสารพวกนั้นจะไม่ไปถึงมือท่านประธานเฉียวหรอก ไม่ต้องห่วง นอกจากนี้ฉันแน่ใจว่าคุณเซียวจิ่งจะอ่านเอกสารพวกนี้ไม่หมดหรอกวันนี้ และ… บางทีเอกสารอาจได้รับการตรวจสอบมาแล้ว ก่อนจะส่งมาที่แผนกเรา ไม่จำเป็นต้องจริงจังมากหรอกน่า ถ้าเอกสารของแผนกไหนได้รับการอนุมัติ นั่นก็เป็นเพราะพวกเขาทำได้ดีมาก และถ้าพวกเขาไม่ได้รับอนุมัตินั่นก็เพราะพวกเขาโชคร้าย ทำไมต้องมารบกวนให้แผนกเรายุ่งยากด้วยล่ะ”
เย่ว์เย่ว์ยิ้มอย่างอ่อนใจ ขณะมองหน้าเลขานุการคนนั้นพร้อมกับถอนหายใจ “เราทำงานอยู่ในส่วนสำนักงานของท่านประธานนะ แม้แต่ผู้จัดการแผนกก็ยังต้องให้เกียรติเรา เราเป็นเหมือนแม่บ้านในวังสมัยโบราณผู้เป็นที่ไว้วางใจของจักรพรรดิ และทุกคนหวังความช่วยเหลือจากพวกเรา เพราะฉะนั้นเราต้องคอยรองรับความยุ่งยากจากพนักงานที่อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของเรา แต่ต้องไม่ให้เป็นที่รบกวนเจ้านาย เราสามารถทำให้พนักงานภายใต้การควบคุมดูแลตกงานได้ด้วยคำพูดของเรา และในขณะเดียวกันเจ้านายก็สามารถทำให้เราตกงานได้ด้วยคำพูดของเราเหมือนกัน!”
ลินดาจำได้ว่าเมื่อสองวันก่อนเย่ว์เย่ว์จริงจังกับการตรวจสอบเอกสารมาก เธอชวนเย่ว์เย่ว์ไปดื่มกาแฟด้วยกันหลายครั้ง แต่เย่ว์เย่ว์ปฏิเสธ และจดจ่ออยู่แต่กับงาน คุณเซียวจิ่งน่ากลัวขนาดนั้นจริงหรือ เมื่อคิดอย่างนี้ลินดาก็เอ่ยขึ้นด้วยความสงสัย “เย่ว์เย่ว์ ฉันคิดว่าไม่น่าต้องจริงจังอย่างที่เธอพูดหรอกนะ คุณเซียวจิ่งใจดีจะตาย ฉันเจอเขาตอนไปซื้อกาแฟนอกบริษัทเมื่อสัปดาห์ก่อน เขาเลี้ยงกาแฟฉันแก้วหนึ่งด้วย”
ทุกคนหัวเราะเธอ ลินดายิ้มแล้วเสริมว่า “เป็นเรื่องบังเอิญน่ะ คุณเซียวจิ่งจ่ายค่ากาแฟให้ฉัน”
เย่ว์เย่ว์ยักไหล่ “เดี๋ยวเธอก็รู้ จริงๆ แล้วคุณเซียวจิ่งเป็นคนใจดีมาก ตราบใดที่เธอไม่ยั่วโมโหเขา ไม่อย่างนั้นเขาจะน่ากลัวมาก”
เมื่อจบคำพูดเธอก็ตรวจสอบเอกสารบนโต๊ะต่อไป เลขานุการหลายคนมองแฟ้มบนโต๊ะเธอด้วยความประหลาดใจ “เธอยังไม่ได้ส่งแฟ้มพวกนี้ไปขออนุมัติจากคุณเซียวจิ่งอีกหรือ”
เย่ว์เย่ว์ส่ายศีรษะ มองดูเอกสารบนโต๊ะ “ฉันยังตรวจไม่เสร็จ ฉันจะส่งทั้งหมดนี้ไปให้ท่านประธานเซียวเซ็นอนุมัติ ก็ต่อเมื่อฉันคิดว่าเอกสารไม่มีปัญหาอะไร”
ลินดาเม้มริมฝีปาก “ฉันส่งเอกสารที่ไม่ได้ตรวจสอบไปให้ประธานเซียวเพราะไม่อยากให้ล่าช้า แต่ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้เขาจะมาทำงานหรือเปล่า…” เธอประหลาดใจว่าทำไมเฉียวอินเตอร์แนชันนัลกรุปจึงดำเนินงานไปได้อย่างดียิ่ง ในเมื่อประธานเฉียวเข้าบริษัทเพียงห้าหรือหกวันต่อเดือนเท่านั้น ส่วนประธานเซียว… ในฐานะผู้มีอำนาจตัดสินใจคนสำคัญของบริษัท เขาก็ไม่ได้ให้ความสนใจในงานของตัวเองมากเท่าไร และสำหรับรองประธาน… แม้แต่เลขานุการทั้งหลายก็รู้ว่ารองประธานไม่ได้ยืนอยู่ข้างท่านประธานเฉียว แต่เฉียวอินเตอร์แนชันนัลกรุปก็ยังคงดำเนินงานไปได้อย่างดียิ่ง… แปลกไหมล่ะ
สิบนาทีต่อมาพนักงานในแผนกเลขานุการก็เสร็จจากการพักดื่มน้ำชายามบ่าย แต่เย่ว์เย่ว์ยังคงตรวจสอบเอกสารบนโต๊ะและจดบันทึกต่อไป เลขานุการคนอื่นๆ นอกจากเลขานุการกลาง ทุกคนมาที่โต๊ะทำงานของเย่ว์เย่ว์ และยิ้มขณะกล่าวกับเธอ “เฮ้…เย่ว์เย่ว์ เธอเดาผิด ประธานเซียวอ่านเอกสารไปยี่สิบนาทีแล้ว แต่ยังน่าจะอ่านได้ไม่ถึงสองฉบับ และเธอเองก็ยังตรวจเอกสารพวกนี้ไม่เสร็จ ดูเหมือนว่าเธอกับคุณเซียวจิ่งจะต้องทำงานล่วงเวลาด้วยกันแล้วล่ะคืนนี้ โชคดีนะ…”
เย่ว์เย่ว์เงยหน้าขึ้นมองและยิ้มให้พวกเธอ “ไม่รู้จะทำยังไงนี่ ฉันไม่อยากถูกประธานเซียวดุ เขาน่ากลัวมากจริงๆ เวลาเขาดุ ฉันยอมทำงานล่วงเวลาดีกว่าจะโดนดุ”
ลินดาเดินเข้ามาหาเย่ว์เย่ว์ ยืนกอดอกมองเย่ว์เย่ว์ด้วยรอยยิ้ม “เย่ว์เย่ว์เธอคิดผิดแล้วล่ะ ประธานเซียวอ่านเอกสารอย่างละเอียดจริงๆ เหรอ ฉันไม่เชื่อหรอก… บางทีตอนนี้…” เธอเหลือบดูนาฬิกาบนข้อมือแล้วยิ้ม “บางทีท่านประธานอาจเซ็นเอกสารเสร็จแล้วก็ได้”
คนอื่นๆ สนับสนุนเธอ บางคนเย้ยหยันเย่ว์เย่ว์ “เย่ว์เย่ว์เธอพยายามดึงดูดความสนใจจากท่านประธานเซียวใช่ไหม เธอคิดว่าจะสามารถดึงดูดความสนใจจากเขาได้ ด้วยการทำงานล่วงเวลาอย่างนั้นหรือ”
เย่ว์เย่ว์ไม่พูดอะไร ใครคนหนึ่งถามว่า “หรือเธอทำอะไรน่ารำคาญ ทำให้ประธานเซียวโกรธเมื่อคราวก่อน เป็นเหตุให้เขาดุเธอ”
ใบหน้าเย่ว์เย่ว์เริ่มซีดลง เมื่อนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นคราวที่แล้ว เธอกล่าวว่า “ฉันต้องทำงานอย่ารบกวนฉัน”
“โอ้ เธอโกรธ…”
ทันใดนั้นขณะที่พวกเลขานุการกำลังจะเยาะเย้ยเย่ว์เย่ว์อีก ประตูห้องทำงานเซียวจิ่งก็เปิดออก เซียวจิ่งออกมายืนพิงขอบประตูมองมาทางพวกเธอ เย่ว์เย่ว์กระแอม ทุกคนหันกลับไปมอง และเห็นเซียวจิ่งยืนอยู่ตรงนั้น เขาดูหล่อเหลือเกิน พวกเธอบางคนแทบหลงเสน่ห์เขา เซียวจิ่งยิ้มให้ เลขานุการทั้งหลายเกือบกรีดร้องด้วยความตื่นเต้น เลขานุการคนหนึ่งหันมาจ้องหน้าเย่ว์เย่ว์ และกล่าวเสียงเบา “ดูสิ อย่างที่ฉันบอก คุณเซียวจิ่งไม่สนใจหรอก เธอรู้สึกไปเอง เย่ว์เย่ว์”
ลินดายังคงมองไปในทิศทางของเซียวจิ่งด้วยดวงตาเป็นประกาย พร้อมกับกล่าวว่า “ใช่ เย่ว์เย่ว์ คุณเซียวจิ่งเป็นคนใจดี เขาไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เธอพูด…”
เมื่อเซียวจิ่งเห็นปฏิกิริยาของพวกเธอ ประกายเยือกเย็นก็วาววับในดวงตา เขายิ้ม ขณะยกมือขึ้นกระดิกนิ้วมาที่พวกเธอ ลินดาเห็นว่าเซียวจิ่งมองตรงมาที่เธอก็หน้าแดงขึ้นมาทันที เธอชี้ที่ตัวเอง แต่เซียวจิ่งส่ายศีรษะด้วยรอยยิ้ม ชี้ไปที่พวกเธอทั้งหมดและกวักมือเรียกให้มาหาเขา เย่ว์เย่ว์ก็ลุกขึ้นยืนด้วยเช่นกัน แต่ด้วยท่าทางหวาดกลัว เมื่อเห็นเธอลุกขึ้นเซียวจิ่งก็ขมวดคิ้ว หยุดคิดนิดหนึ่ง ก่อนจะกระดิกนิ้วแสดงท่าให้เย่ว์เย่ว์นั่งลง
เย่ว์เย่ว์ชี้ที่ตัวเองด้วยความไม่แน่ใจ เขาหมายความว่าให้เธออยู่ตรงนี้ใช่ไหม เซียวจิ่งพยักหน้า เมื่อเห็นอย่างนั้นเย่ว์เย่ว์ก็รู้สึกเหมือนได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง เธอรีบก้มศีรษะลงและอ่านเอกสารต่อไป ดูเหมือนเธอจะรอดพ้นจากลูกกระสุนอย่างหวุดหวิด