ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง - ตอนที่ 214 สั่งสอนสาวใช้ผู้อวดดี
ริมฝีปากเธอแย้มออกเป็นรอยยิ้มเล็กน้อย ดูราวกับกำลังยิ้มด้วยความเมตตา แต่ดวงตาเธอเยือกเย็น เต็มไปด้วยถ้อยคำเย้ยหยัน เธอมองหน้าเซียงเอ๋อที่พูดไม่ออก แล้วรอยยิ้มบนใบหน้าเธอก็หายไป เธอถามอย่างเย็นชา “ฉันถามเธอว่า แล้วตอนนี้ล่ะ!”
เซียงเอ๋อสงบสติอารมณ์และมองหน้าถังซี เธอทำงานกับตระกูลเซียวมานานหลายปีแล้ว เธอคิดเสมอว่าตัวเองเป็นสาวใช้คนโปรดของเซียวเจี่ยน และเซียวเจี่ยนคุยกับเธอบ้างเป็นบางครั้ง ก่อนหน้านี้แม้แต่เซียวจิ้นหนิงก็ยังเคยติดสินบนเธอ เพื่อจะเรียนรู้อารมณ์ของเซียวเจี่ยน เธอจึงสงบลงได้อย่างรวดเร็ว แล้วมองหน้าถังซีด้วยสีหน้างุนงง ถามเบาๆ ว่า “คุณหนู ฉันทำอะไรให้คุณหนูขุ่นเคืองหรือคะ ทำไมคุณถึงลงโทษฉันคนเดียวแบบนี้”
เมื่อได้ยินคำถามนี้ถังซีก็ยิ้มให้อย่างเย็นชา จ้องหน้าเซียงเอ๋อ “เธอพูดเหมือนว่าฉันจงใจเลือกเธอ” เซียงเอ๋อแอบยิ้มและกำลังจะอ้าปากพูด เมื่อถังซีกล่าวขึ้นก่อนทันทีว่า “ฮื่อ แล้วไงล่ะ เธอจะทำความสะอาดพื้นนี้ไหม”
“ทำค่ะ” เซียงเอ๋อฝืนยิ้มให้ถังซี และกล่าวอย่างน่าสงสารว่า “ในเมื่อคุณหนูสั่งให้ทำ ฉันก็ต้องทำสิคะ”
ถังซียิ้มเยาะ เลิกคิ้วขึ้น “ดีมาก ฉันอยากให้เธอจำไว้นะ ไม่ว่าเธอจะอยู่บ้านนี้มานานแค่ไหน เธอเป็นแค่สาวใช้ที่ฉันจ้างมา อย่าแอบนินทาเจ้านายลับหลัง ถ้าเธออยากนินทาว่าร้ายฉัน เอาไว้เธอมีสิทธิ์นั่งกินอาหารบนโต๊ะเดียวกับฉันก่อน!”
ด้วยความตกตะลึงเมื่อได้ยินคำพูดของเธอ เซียงเอ๋อมองหน้าถังซีด้วยความประหลาดใจ และรีบอธิบาย “คุณหนูคะ ฉันไม่ได้พูดจาให้ร้ายคุณหนูลับหลังเลยนะคะ!”
“ฮ่าๆๆ …” ถังซีกอดอกจ้องหน้าเซียงเอ๋อด้วยสายตาเย็นยะเยือก และหัวเราะเยาะ “เธอไม่ได้ทะเลาะกับลิลลี่ตอนฉันอยู่ในห้องเหรอ”
สาวใช้คนอื่นๆ มองหน้ากันอย่างประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้น ตอนนั้นคุณหนูอยู่ในห้องนี่ จะได้ยินพวกเธอได้อย่างไร
ถังซีไปหันมองสาวใช้คนอื่นที่อยู่รอบๆ แล้วกล่าวอย่างเยือกเย็น “ฉันจะให้เวลาเธอคิดสักสองสามชั่วโมง ถ้าเธอคิดว่าจะอยู่ในบ้านนี้โดยไม่นินทาอีกต่อไป เธอก็อยู่ที่นี่ได้ หรือไม่อย่างนั้นฉันอยากเห็นจดหมายลาออกของเธอ เข้าใจไหม”
“คุณหนู…”
“คุณหนูคะ ทำไม…”
“คุณหนู คุณไม่ได้เป็นคนจ้างพวกเรา คุณไล่พวกเราออกไม่ได้นะคะ!” เซียงเอ๋อมองถังซีด้วยท่าทางน่าสงสาร แต่ในใจเธอคิดด้วยความหยิ่งผยอง นังเด็กบ้านนอกคนนี้กล้าดียังไงมาวางท่าเป็นเจ้านายใส่พวกเธอ! เธออยู่ที่นี่มาก่อน จะมาไล่พวกเธอออกได้อย่างไร!
ถังซียิ้มเยือกเย็น “ถ้าอย่างนั้น เธอจะลองดูก็ได้ ว่าสิ่งที่ฉันพูดจะเป็นจริงได้ไหม” เมื่อจบคำพูดถังซีก็มองไปบนพื้นที่เปรอะเปื้อนเต็มไปหมด “คิดให้ออกก่อนที่ฉันจะกลับมา อ้อ… อีกอย่าง เธอควรทำความสะอาดตรงนี้ให้เสร็จก่อนที่ฉันจะกลับมาด้วย”
จากนั้นเธอก็เดินไปเคาะประตูห้องทำงาน เซียวหงอี้เปิดประตูออกมา และยิ้มให้เมื่อเห็นว่าเป็นถังซี “หนูจะออกไปข้างนอกหรือ”
ถังซีพยักหน้า “ใช่ค่ะ” เธอกำลังจะหันกลับเมื่อจู่ๆ ก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เธอเหลือบมองบรรดาสาวใช้ เม้มริมฝีปากก่อนจะกล่าวว่า “พ่อคะ มีใครบางคนเรียกหนูว่านังเด็กบ้านนอกค่ะ ดูเหมือนว่าหนูจะไม่ได้รับการต้อนรับที่นี่ เมื่อเป็นแบบนี้ ก็ไม่ต้องให้ใครมาเสแสร้งแกล้งทำเป็นยินดีต้อนรับหนูก็ได้นะคะ”
เซียงเอ๋อคิดไม่ถึงว่าถังซีจะพูดเรื่องนี้กับเซียวหงอี้ต่อหน้าพวกเธอ! ผู้หญิงคนนี้ไม่สนใจเลยว่าพวกเธอจะคิดอย่างไร! เธอเข้ามายุ่งกับกิจการภายในครอบครัวตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร สุภาพสตรีชั้นสูงไม่เคยมีใครทำแบบนี้!
อย่างไรก็ตามถังซีไม่สนใจใคร ไม่มีใครรังแกเธอได้ตั้งแต่เธอยังเด็กแล้ว ในเมื่อมีใครบางคนกล้าเชิดจมูกใส่เธอ เธอควรจะโค้งคำนับให้คนพวกนั้นหรือ เสียใจ เธอไม่ใช่คนใจดีอย่างนั้น
เมื่อได้ยินคำพูดของเธอเซียวหงอี้ก็ตกตะลึงทันที ดวงตาเขาเปลี่ยนเป็นเย็นชาและคมกริบ เขามองไปยังกลุ่มสาวใช้อย่างดุดัน และกล่าวอย่างเยือกเย็น “พวกเธอไม่ต้องมาที่นี่อีกวันพรุ่งนี้ เราไม่ต้องการคนรับใช้ที่นินทาว่าร้ายเจ้านายลับหลังอย่างพวกเธอ”
บรรดาสาวใช้ตกตะลึง งานนี้เป็นงานที่ดีมากในเมือง A ค่าจ้างดีกว่าคนทำงานนั่งโต๊ะเสียอีก และงานก็ไม่หนัก พวกเธอแค่ต้องทำความสะอาด ดูแลสวน หรือส่งเสื้อผ้าไปที่ร้านซักแห้ง… ถ้าพวกเธอตกงาน จะหางานอื่นที่ไหนได้ดีเท่างานนี้!
สาวใช้เริ่มร้องขอให้เธอให้อภัย ลิลลี่เองก็ตะลึงงันเช่นกัน เธอตกงานเพียงเพราะโต้เถียงกับเซียงเอ๋อ!
ถังซีไม่คิดว่าเซียวหงอี้จะโกรธขนาดนี้และไล่คนรับใช้ออกหมด เธอเลิกคิ้วมองเซียวหงอี้ “หนูแค่ไม่อยากได้ยินอะไรที่ไม่ควรได้ยินค่ะ สาวใช้คนนั้นที่ชื่อลิลลี่อยู่ต่อไปได้ค่ะ หนูอยากให้เธอทำความสะอาดห้องหนู ส่วนที่เหลือขึ้นอยู่กับพ่อ”
ในเมื่อเธอเลือกที่จะบอกเรื่องนี้กับเซียวหงอี้ เธอจะไม่เข้าไปยุ่งกับการตัดสินใจของเขา..
เซียวหงอี้เลิกคิ้วมองถังซี หลังจากแน่ใจว่าเธอหมายความอย่างนั้นจริงๆ เขาก็กล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “ลิลลี่อยู่ได้ ส่วนที่เหลือไปรับเงินจากพ่อบ้าน พวกเธอถูกไล่ออก”
“คุณหนูคะ เราไม่ได้…”
“เธอไม่ได้อะไร” ถังซีเลิกคิ้ว “ไม่ใช่มั๊ง ฉันไม่เคยคิดใส่ร้ายใครถึงจะมีอำนาจให้ทำได้ และฉันไม่ชอบเป็นเป้าให้ใครมานินทา ถ้าเธอมีปัญหากับฉัน บอกฉันได้ แต่นี่เธอเลือกที่จะพูดไม่ดีให้ร้ายฉันลับหลัง แล้วบังเอิญเธอถูกฉันจับได้”
“คุณหนู ฉันจะไม่ทำอีกแล้วค่ะ…” ในท้ายที่สุดเซียงเอ๋อก็ตื่นตระหนก ถ้านายท่านยืนกรานจะไล่เธอออกก่อนที่นายน้อยจะกลับมา เธอก็ต้องไป!
ถังซียิ้ม มองกลับไปที่เซียวหงอี้ เขาบอกว่า “ไปทำธุระของหนูเถอะ หนูจะไม่เห็นเธออีกเมื่อหนูกลับมา ไม่มีใครเปลี่ยนความจริงได้หรอกว่า หนูคือคุณหนูแห่งตระกูลเซียว พ่อจะดูซิว่าใครจะกล้านินทาหนูอีก!”
ถังซียิ้มอย่างสบายใจ “หนูต้องการคนขับรถค่ะ หนูจะไปหาพี่จิ่งที่เฉียวอินเตอร์แนชันนัลกรุป”
ทันใดนั้นถังซีก็รู้สึกขึ้นมาว่าเป็นการดีที่มีพี่ชายทำงานที่เฉียวอินเตอร์แนชันนัลกรุป นั่นจะเป็นข้ออ้างที่ไร้ข้อกังขาสำหรับเธอ ที่จะไปที่เฉียวอินเตอร์แนชันนัลกรุป!
เซียวหงอี้หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา โทรเรียกคนขับรถ “เหลาจังจะขับรถไปส่งหนูที่นั่น และรอรับหนูกลับ แล้วหนูอยากให้พ่อไปซื้อของใช้ที่จำเป็นให้ หรือหนูอยากไปซื้อเอง”