ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง - ตอนที่ 217 หลงใหลในความหล่อเหลาของเขา
หลี่ม่านหยางยิ้มด้วยความยินดี ลุกขึ้นยืนและกำลังจะจับมือกับถังซีเมื่อจินฮั่นห้ามเธอ ถังซีมองจินฮั่นด้วยความประหลาดใจ จินฮั่นมองหน้าถังซีแล้วยิ้ม “ขอโทษนะครับ คุณรู้จักเราแล้ว ตอนนี้เราต้องการทราบเกี่ยวกับเดอะควีนครับ”
ถังซีเลิกคิ้ว ยิ้มแล้วหดมือกลับ จากนั้นก็นั่งลงบนโซฟาด้วยท่าทางเป็นกันเอง เงยหน้าขึ้นมองจินฮั่น “คุณจินฮั่นก็สมัครตำแหน่งนักออกแบบและนักออกแบบศิลป์ของเดอะควีนด้วยใช่ไหม”
ทันใดนั้นหลี่ม่านหยางก็หันขวับไปมองจินฮั่น และผุดลุกขึ้นด้วยความประหลาดใจ หลังจากนิ่งขึงไปสองวินาที “จินฮั่น นี่เธอก็สมัครงานนี้ด้วยเหรอ เธอบอกไม่ใช่เหรอว่าเธอไม่สนใจ ทำไมอยู่ๆ ก็มาสัมภาษณ์” ขณะพูดอย่างนี้หลี่ม่านหยางก็มองจินฮั่นด้วยสายตาขัดเคือง “โอ…”
สีหน้าจินฮั่นสลดลง เขาขมวดคิ้ว “ฉันมาที่นี่ด้วยก็เพราะฉันกลัวเธอจะหลงทาง และสร้างความวุ่นวาย”
ถังซีมองดูคู่รักหนุ่มสาว รอยยิ้มเปล่งประกายบนใบหน้าเธอ ทั้งคู่ชอบตามติดกันเหมือนที่เธอกับเฉียวเหลียงเคยเป็น ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าช่างเป็นพฤติกรรมคู่รักที่แสนหวาน… ถังซีมองหน้าหลี่ม่านหยางแล้วยิ้ม แต่ถ้าเป็นแบบนี้โดยทั่วไปผู้หญิงจะยิ่งทรมานใจและรู้สึกหวั่นไหวมากขึ้น
ถังซีตื่นจากภวังค์และยิ้มให้จินฮั่น “จินฮั่น ขอดูประวัติกับภาพสเก็ตช์งานออกแบบของคุณหน่อยสิ คุณมีโน๊ตบุ๊คมาด้วยหรือเปล่า ออกแบบเว็บเพจให้ฉันดูหน่อยได้ไหม” ถังซียิ้มน้อยๆ “เดอะควีนจะทำเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ หลังจากเริ่มดำเนินงานไปได้สักระยะ และคุณอาจเป็นผู้รับผิดชอบ”
“ได้เลยครับ” จินฮั่นนำประวัติส่วนตัวและภาพสเก็ตช์งานออกแบบออกมา แล้วหยิบแล็ปท็อปออกมาจากกระเป๋าเป้และเปิดเครื่องทันที “ผมมีคำถามครับ ทำไมบริษัทไม่แยกนักออกแบบศิลป์ออกจากนักออกแบบล่ะครับ”
ถังซีเลิกคิ้ว “ฉันก็เคยมีความคิดจะทำอย่างนั้นเหมือนกัน แต่ตอนนี้ฉันยังมีเงินทุนไม่พอ…”
“ท่าทางคุณดูไม่เหมือนคนขาดแคลนเงินทุนเลยนะครับ” จินฮั่นเงยหน้ามองถังซี จากนั้นก็ก้มลงเปิดโปรแกรม และเริ่มสร้างหน้าเว็บไซต์
ถังซียิ้ม “บริษัทของเราเพิ่งเริ่มต้น ถ้าไม่จำเป็นก็ยังไม่ควรใช้เงินลงทุนมากนัก เดี๋ยววันนี้ฉันจะไปดูสำนักงานของเรา” เธอวางประวัติส่วนตัวและภาพสเก็ตช์งานออกแบบลงบนโต๊ะน้ำชา แล้วมองพวกเขา “ไม่ทราบว่าพวกคุณมีเวลาไหม ไปดูสำนักงานของเรากับฉันได้ไหม”
จินฮั่นยักไหล่ด้วยท่าทางสุดเท่ “ผมไปได้”
หลี่ม่านหยางพยักหน้า “ได้สิคะ ได้เลย เราไปกันเลยค่ะ”
ถังซียิ้ม “ดีค่ะ ถ้าอย่างนั้นพวกคุณลงไปรอฉันที่ชั้นล่าง ขอเวลาแป๊บหนึ่ง เดี๋ยวฉัน…”
“ผมขับรถมาครับ คุณบอกผมก็ได้ว่าสำนักงานอยู่ที่ไหน ผมจะขับรถไปกับหลี่ม่านหยางเอง”
ถังซีก้มดูนาฬิกาแล้วกล่าวว่า “ตกลง บางทีพวกคุณอาจยังไม่ได้ทานข้าวกลางวัน เพราะจะรีบมาให้ทันเวลา ทำไมพวกคุณไม่ไปทานอาหารกลางวันก่อนล่ะ”
หลี่ม่านหยางมองหน้าถังซีด้วยความประหลาดใจ “คุณรู้ได้ยังไงคะ ว่าเรารีบมาที่นี่โดยยังไม่ได้ทานอาหารกลางวัน”
ถังซีรู้สึกว่าหลี่ม่านหยางผู้มีพรสวรรค์ด้านการออกแบบแต่ดูโก๊ะกังมากนี่ช่างน่ารักจริงๆ เธอยิ้ม “เมื่อกี้เขาบอกว่าคุณอาจสร้างความวุ่นวาย ทำให้เขาไม่สบายใจ เขาจึงตามคุณมาที่นี่ นั่นหมายความว่าคุณสองคนไม่ได้นัดมาที่นี่ด้วยกัน และ…” ถังซียิ้ม เมื่อมองหลี่ม่านหยางที่ดูท่าทางจะร้อน ทั้งๆ ที่สวมแค่เสื้อเชิ้ตขาวกับกางเกงยีนสีขาว “ท้องคุณร้อง”
หลี่ม่านหยางหัวเราะอย่างขวยเขิน จินฮั่นลุกขึ้นทันที แล้วจ้องมองหลี่ม่านหยาง จากนั้นก็ดึงหลี่ม่านหยางให้ลุกขึ้นแล้วบอกถังซีว่า “ในประวัติส่วนตัวผมมีหมายเลขโทรศัพท์อยู่ครับ กรุณาโทรหาผมตามเบอร์นั้นเมื่อคุณพร้อม หรือส่งที่อยู่สำนักงานมาที่โทรศัพท์ผมก็ได้”
ถังซียิ้ม “ตกลง พวกคุณไปทานอาหารกลางวันกันก่อนเถอะ”
หลี่ม่านหยางโบกมือให้ถังซี ขณะที่จินฮั่นลากเธอออกไป หลังจากประตูปิดลงถังซีก็ได้ยินเสียงจินฮั่นเรียกหลี่ม่านหยาง “เธอนี้ไร้สาระจริงๆ ปกติกินอาหารวันละห้ามื้อ ทำไมวันนี้ถึงไม่กินข้าวเที่ยงมาก่อน”
“เธอก็น่าจะรู้ว่าฉันไม่ได้ทานข้าวกลางวัน ตอนที่เธอได้ยินเสียงกระเพาะฉันคำราม… และ… ฉันไม่อยากมาสาย…”
“ใช่ ฉันได้ยินแล้ว แต่ฉันคิดว่า…” จินฮั่นทำน้ำเสียงอ่อนใจ “ฉันคิดว่าเธอหิวอีกทั้งๆ ที่ทานข้าวเที่ยงมาแล้วน่ะสิ!”
ถังซีเงี่ยหูฟังเสียงพวกเขาที่ค่อยๆ เบาลงและยิ้มออกมา แฟนคุณมักคิดเสมอว่าคุณหิว
ถังซีหยิบประวัติส่วนตัวของทั้งสองขึ้นมาและเริ่มอ่าน หลี่ม่านหยางสำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยการออกแบบของมหาวิทยาลัยแห่งเมือง A และจินฮั่นก็จบการศึกษาจากวิทยาลัยการออกแบบเช่นกัน และกำลังศึกษาต่อระดับปริญญาโทสาขาบริหารธุรกิจ
“ฉันอิจฉาพวกเขาจัง! เห็นพวกเขาทะเลาะกัน ฉันรู้สึกเหมือนได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง…” ถังซีเอนหลังพิงพนักโซฟา เงยหน้าขึ้นมองเพดานสีขาวแล้วถอนหายใจ เธอกับเฉียวเหลียงไม่เหมือนพวกเขาเลย คู่เธอเหมือนคู่รักที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่พระเจ้ารู้ดีว่าเธออายุแค่ยี่สิบสามเท่านั้น
“ถ้าอย่างนั้นคุณก็คิดว่าคุณแก่แล้วน่ะสิ” เสียงทุ้มต่ำมีเสน่ห์ของเฉียวเหลียงดังขึ้นที่ประตู ถังซีตกใจรีบหันหลังไปมอง เห็นเฉียวเหลียงยืนพิงประตูมองมาที่เธอ ดวงตาเขาเปี่ยมด้วยความเสน่หา ถังซีอดยิ้มไม่ได้ แล้วเธอก็ส่ายศีรษะ “ไม่ใช่สักหน่อย ฉันแค่เสียใจที่เราไม่ได้ร่าเริงสดใสแบบนี้ในวันเวลาเหล่านั้น เราเอาแต่ทะเลาะกัน แล้วในช่วงเวลาที่ดีที่สุดเราก็อยู่ในสงครามเย็น… ไม่ใช่สิ ในช่วงเวลาที่ดีที่สุด เราไม่ได้อยู่ในชีวิตของกันและกัน”
จู่ๆ เฉียวเหลียงก็ล็อกประตูแล้วเดินเข้ามาหาถังซี ถังซีตื่นตกใจขึ้นมาทันที เธอผุดลุกขึ้นจากที่นั่งก้าวถอยหลัง เอ่ยตะกุกตะกัก “คุณ… เอ้อ… คุณจะทำอะไร”
เฉียวเหลียงมองหน้าถังซีด้วยรอยยิ้มน้อยๆ บนริมฝีปาก ขณะที่แผ่นหลังถังซีกำลังจะสัมผัสโต๊ะทำงานเขา เฉียวเหลียงก็โยนแฟ้มในมือลงบนโต๊ะน้ำชา คว้าร่างถังซี ดึงเธอเข้าไปในอ้อมแขน จากนั้นก็ยกเอวเธอขึ้นแล้ววางเธอลงบนโต๊ะเขา…
ถังซีตกตะลึง “…เอ้อ ท่านประธานเฉียว… ไม่นะ… ท่านประธานเฉียว… คุณต้องควบคุมตัวเอง!”
เฉียวเหลียงแนบศีรษะลงที่ต้นคอถังซี สูดลมหายใจเข้าลึกๆ กล่าวว่า “ผมควบคุมตัวเองไม่ได้ ซีซี เมื่อไหร่คุณจะแต่งงานกับผม”
ถังซีกลืนน้ำลาย แล้วดันเฉียวเหลียงออกเบาๆ “นี่ไม่ใช่เวลา…”
เฉียวเหลียงมองถังซีด้วยประกายตาลึกซึ้ง แล้วทันใดนั้นเขาก็ดึงเธอเข้ามาแนบชิด ถังซีกลืนน้ำลายอีก และร่ำร้องในใจอย่างบ้าคลั่ง บ้าชะมัด! นี่เขากำลังใช้เสน่ห์บนใบหน้าเย้ายวนเธอ! น่าอายที่สุด!
เฉียวเหลียงโน้มศีรษะลง… โน้มลงไปเรื่อยๆ … ขณะเขากำลังจะจุมพิตริมฝีปากเธอ ถังซีก็หลับตาลงทันที แต่เมื่อถึงตอนนี้จู่ๆ ก็มีใครบางคนมาเคาะประตูห้อง…