ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง - ตอนที่ 242 เจ้าหญิงน้อยผู้ภาคภูมิ
ถังซีวางสายโทรศัพท์และหันไปหาเฉินจื้อเยี่ยนอย่างรีบเร่ง เธอกำลังจะขอให้เฉินจื้อเยี่ยนช่วยขอลาหยุดเรียนกับคุณครูให้เธอ เมื่อเธอเห็นคุณครูเหอกับครูประจำชั้นรีบเดินเข้ามา ถังซีเดินไปหาพวกเขา คุณครูเหอกล่าวว่า “เซียวโหรว เธออยากจะขอลาหรือเปล่า ไม่เป็นไรนะ ไปทำธุระของเธอเถอะ ครูอนุญาต”
ถังซีอึ้ง “…” คุณครูเหอ คุณช่างเป็นคนมีน้ำใจจริงๆ!
คุณครูประจำชั้นมองหน้าถังซี เม้มปากแล้วกล่าวว่า “บ้านครูอยู่ใกล้โรงเรียนมาก เธออยากให้ครูไปส่งไหม”
ถังซีส่ายศีรษะ มองไปที่ลู่เสี่ยวจิงซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเธอ แล้วกล่าวว่า “พี่ชายหนูจะมารับค่ะ หนูต้องไปแล้ว ลาก่อนนะคะ”
เมื่อเห็นถังซีจากไปอย่างเร่งรีบ ลู่เสี่ยวจิงก็ตะโกนว่า “ใช่ เขาคือเจ้าชายเฉียวเจ้าเสน่ห์ แล้วไงล่ะ ถ้าเขาซ้อมคนอื่น เขาก็ทำผิดกฎหมาย!”
เมื่อเห็นลู่เสี่ยวจิงเริ่มส่งเสียงดังทันทีที่ถังซีจากไป เฉินจื้อเยี่ยนก็ยิ้มเยาะ “ชิ เฉียวเหลียงทำถูกต้องและยุติธรรมดีแล้วที่ซ้อมพี่ชายเลวๆ ของเธอ ที่ฆ่าคนบริสุทธิ์มามากมาย! ฉันคิดว่าตำรวจควรมอบรางวัลให้เจ้าชายเฉียวเจ้าเสน่ห์สำหรับการกระทำของเขา!”
พ่อของเฉินจื้อเยี่ยนเป็นหนึ่งในบุคคลผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกใต้ดิน เขามักเล่าความลับบางอย่างให้แม่เธอฟังที่บ้าน บางครั้งเธอก็แอบได้ยิน และเธอได้ยินมามากมายเกี่ยวกับความเลวทรามที่ลู่หงคุนเคยกระทำ!
ขณะนั้นนั่นเองก็มีบางอย่างเกิดขึ้นในความคิดของเฉินจื้อเยี่ยน เธอจึงโทรหาพ่อเดี๋ยวนั้น ทันทีที่โทรศัพท์เชื่อมต่อ น้ำเสียงรักใคร่เอ็นดูของพ่อเธอก็ดังขึ้น “เอ ทำไมหนอสาวน้อยถึงโทรหาพ่อได้ ให้พ่อเดานะว่าหนูมีเรื่องไม่สบายใจที่โรงเรียน และอยากกลับบ้าน แต่ไม่กล้าบอกแม่ ใช่ไหม”
เฉินจื้อเยี่ยนทำตาหยีเมื่อได้ยินเสียงหวานของพ่อ “พ่อคะ หนูจริงจังค่ะ”
“ว่าไงจ๊ะ เจ้าหญิงของพ่อ!” เสียงหวานๆ ดังขึ้นอีกทันที
เฉินจื้อเยี่ยนยิ้มและกล่าวว่า “พ่อคะ ช่วยส่งรายละเอียดเรื่องการกระทำชั่วๆ ของลู่หงคุนมาให้หนูได้ไหมคะ หนูอยากเอามาเปิดเผยกับสื่อ!”
นักเรียนที่รายล้อมเฉินจื้อเยี่ยนหันมามองเธอด้วยดวงตาเป็นประกายแวววาว มีเพียงลู่เสี่ยวจิงที่ตะโกนใส่เฉินจื้อเยี่ยน “เฉินจื้อเยี่ยน เธอบ้าไปแล้วเหรอ เธอรู้ไหมว่าจุดจบของเธอจะเป็นยังไง ถ้ามายุ่งกับครอบครัวฉัน”
เฉินจื้อเยี่ยนขมวดคิ้วมองลู่เสี่ยวจิงอย่างเย็นชา และถามว่า “แล้วเธอรู้ไหมว่าจุดจบของเธอจะเป็นยังไง ถ้าเธอมายุ่งกับฉัน ถ้าเธอทำให้ฉันขุ่นเคือง ฉันไม่มีวันปล่อยเธอ”
เฉินจื้อเยี่ยนไปกับพ่อเสมอในการเจรจาธุรกิจตั้งแต่ยังเด็ก เธอมีประสบการณ์มากมายที่คนรอบข้างไม่สามารถจินตนาการได้ จริงๆ แล้วเธอเป็นผู้หญิงแกร่ง แต่เธอแกล้งทำเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ไร้พิษสงเวลาอยู่ในโรงเรียน สำหรับเซียวโหรว… เธอคิดว่าเซียวโหรวเหมือนราชินีมากกว่าเธอ เธอจึงควรจะเป็นเจ้าหญิงน้อยมากกว่า เมื่ออยู่กับเซียวโหรว
แต่นั่นไม่ใช่กรณีความสัมพันธ์กับลู่เสี่ยวจิง ลู่เสี่ยวจิงไม่อยู่ในสายตาเธอ แล้วยังจะกล้าพูดกับเธอแบบนี้ได้อย่างไร ครอบครัวหล่อนมีแค่กิจการเล็กๆ กล้าขู่เธอแบบนี้ได้อย่างไร
เมื่อพ่อเฉินจื้อเยี่ยนได้ยินการสนทนาดังเข้ามาในโทรศัพท์ เขาก็เอ่ยขึ้นอย่างเยือกเย็นทันที “หนูน้อยของพ่อ รอพ่อนะ พ่อจะไปที่โรงเรียนหนูเดี๋ยวนี้ จะได้สั่งสอนเด็กผู้หญิงโง่ๆ คนนั้น!”
เฉินจื้อเยี่ยนรีบห้ามพ่อทันที ถ้าพ่อเธอมาที่โรงเรียน จะเกิดเหตุโกลาหลขึ้นที่โรงเรียนอย่างแน่นอน … “พ่อคะ พ่อแค่ส่งข้อมูลที่หนูต้องการมาก็พอค่ะ หรือพ่อจะลงเผยแพร่โดยตรงบนอินเทอร์เน็ตเองก็ได้ เพราะว่าจริงๆ แล้ว…” เฉินจื้อเยี่ยนเหลือบมองลู่เสี่ยวจิงแล้วยิ้มเยาะ “เพราะว่าจริงๆ แล้วหนูไม่ได้อยากอ่านเลย! เสียเวลาของหนูค่ะ!”
เฉินจื้อเยี่ยนวางสายโทรศัพท์ หัวเราะเย้ยหยัน แล้วหันหลังเดินไปทางห้องเรียน “พวกเรา ถึงเวลาเข้าชั้นเรียนแล้ว!”
ลู่เสี่ยวจิงยืนอยู่บนทางเดิน แทบกระโจนใส่เฉินจื้อเยี่ยนด้วยความโกรธ เธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรหาพ่อกับแม่ แต่สัญญาณไม่สามารถเชื่อมต่อได้เลย ลู่เสี่ยวจิงจึงเดินไปทางด้านนอกโรงเรียน
…
ทางด้านถังซี เธอไม่รู้ว่าเฉินจื้อเยี่ยนทำอะไร เมื่อเธอมาถึงประตูโรงเรียนเซียวจิ่งก็รออยู่ที่นั่นแล้ว แม้เซียวจิ่งจะไม่ได้เจอน้องสาวมาเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ แต่เขาก็ไม่มีเวลาได้กอดเธอ เขารีบเปิดประตูรถให้ถังซีพร้อมกับกล่าวว่า “เขาต้องบ้าแน่ๆ! พี่อุตส่าห์แก้ข่าวกับนักข่าวพวกนั้นแล้ว แต่เขากลับยอมรับว่าเขาซ้อมลู่หงคุน! ถ้าไม่ใช่เพราะคลิปวิดีโอนั้น เขาต้องถูกสาธารณชนประณามแน่ คลิปนั้นช่วยกู้ชื่อเสียงเขาคืนมา แต่เขาก็ยังจะไปมอบตัวกับตำรวจอีก! เขาจะทำอะไรของเขา!”
เมื่อเห็นท่าทางวิตกกังวลของเซียวจิ่ง ถังซีก็รู้สึกทันทีว่าเธอไม่ห่วงเฉียวเหลียง เธอยิ้ม “พี่จิ่ง ทำไมพี่วิตกจริตจัง ในเมื่อเขาตัดสินใจยอมมอบตัวกับตำรวจ ก็แสดงว่าเขามีทางออก พี่ไม่ต้องกังวลกับเขาเลย”
เซียวจิ่งโกรธเมื่อเห็นถังซีหัวเราะ “นี่เธอยังจะมีอารมณ์หัวเราะอยู่ได้ยังไง! เธอไม่รู้หรือว่าเขาอยู่ที่สถานีตำรวจ! เขาถูกขังอยู่ในห้องขัง!”
“ไม่ใช่พี่ซักหน่อยที่ถูกขังอยู่ในห้องขัง ทำไมพี่ถึงวิตกกังวลมากขนาดนี้” ถังซีล้อเล่นอย่างใจเย็น เธอรู้ดีว่าเฉียวเหลียงรู้แน่นอนว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ เพราะเขาเลือกที่จะทำแบบนี้ เขาต้องมีจุดประสงค์ เมื่อคิดเช่นนี้ถังซีก็ถามเซียวจิ่งว่า “ว่าแต่เฉียวเหลียงสั่งว่ายังไงคะ ก่อนที่เขาจะไปหาตำรวจ”
“เขาแค่บอกว่าพี่ต้องเป็นผู้รับผิดชอบงานที่บริษัท ก่อนที่เขาจะไปสถานีตำรวจ แต่พี่รับผิดชอบบริษัทในตำแหน่งเขาไม่ไหวหรอก!” เซียวจิ่งกล่าวอย่างโมโห “พี่เพิ่งได้กลับไปนอนพักที่บ้านวันนี้ แต่เขาก็ฟาดสายฟ้ามาใส่พี่ จะไม่ให้พี่หยุดพักบ้างเลยหรือไง”
ถังซีมองหน้าเซียวจิ่งผู้เกือบจะสิ้นหวัง แล้วยิ้ม “พี่จิ่ง ฉันรู้ว่าไม่ง่ายสำหรับพี่”
เซียวจิ่งจ้องหน้าเธอ และถามอย่างเกรี้ยวกราด “แล้วเธอล่ะ ทำไมถึง…”
ถังซีขัดจังหวะเซียวจิ่ง เธอกล่าวด้วยรอยยิ้ม” ฉันแค่ไปอยู่ที่นั่นชั่วคราวค่ะ ฉันรู้วิธีฝังเข็ม ฉันเลยจะไปรักษาให้…แม่ ด้วยการฝังเข็ม ฉันจะกลับบ้านเมื่อเธอหายดี ครอบครัวของฉันคือครอบครัวพี่เท่านั้น พี่ก็รู้”
เซียวจิ่งมองถังซีด้วยสายตาลึกซึ้งอยู่ค่อนข้างนาน ก่อนจะกล่าวว่า “เธอเป็นผู้หญิงที่จิตใจดีจริงๆ”
ถังซียิ้ม “ใจจริงฉันก็อยากเป็นตัวเองที่แท้จริงเท่านั้น แต่ถ้าฉันไม่สนใจเธอ ฉันคงไม่สามารถอธิบายกับเซียวโหรวได้”
เซียวจิ่งถอนหายใจ “ถ้าพี่เหยารู้ว่าเธอไม่อยู่เมื่อเขากลับมา เขาคงจะเศร้ามาก!”
“พี่เหยาเหรอคะ” ถังซียิ้ม “เขากลับมาแล้ว เขามาส่งฉันไปโรงเรียนวันนี้ แต่ตอนนี้เขาไปทำงานที่ต่างประเทศแล้ว”
“ไปทำงานที่ต่างประเทศ” เซียวจิ่งตกใจนิดหน่อยเมื่อได้ยินข่าวพี่ชาย “ไปทำอะไร”