ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง - ตอนที่ 261 เหมาะสมกับตำแหน่ง
เสียงอื่นๆ ดังขึ้นทันที “โอ พระเจ้า นี่ฉันกำลังดูหนังอยู่เหรอ”
เฉินจื่อเยียนหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเปิดวิดีโอดูบ้าง ถังซีโน้มตัวลงดูหน้าจอโทรศัพท์ของเฉินจื่อเยียน วิดีโอถ่ายจากระยะไกลจึงมองเห็นใบหน้าผู้คนในนั้นไม่ชัด แต่ถังซีก็ยังจำได้ เป็นภาพฉากการช่วยชีวิตเธอเมื่อคืนนี้! เสียงทั้งสองเป็นเสียงของเซียวเหยากับเฉียวเหลียง!
เมื่อเห็นอย่างนั้นถังซีก็หยิบโทรศัพท์ของเธอออกมาโทรหาเฉียวเหลียง ขณะที่เฉินจื่อเยียนร้องอุทาน และนักเรียนคนอื่นๆ ต่างก็ร้องตะโกนออกมาด้วยเช่นกัน
“ทำไมอยู่ดีๆ ฉันก็ดูวิดีโอนี้ไม่ได้ล่ะ”
“ทำไมฉันเปิดวิดีโอไม่ได้”
“บ้าเอ๊ย นี่เราดูวิดีโอที่ไม่ควรดูงั้นเหรอ”
“โอ เราจะถูกฆ่าหรือเปล่า พวกเขาจะพยายามปิดปากเราไหม!”
หางตาถังซีหรี่ลงเมื่อเธอได้ยินคำพูดของพวกเขา เธอกล่าวเสียงดังว่า “ได้เวลาเรียนแล้ว เตรียมตัวสำหรับวิชาต่อไปกันดีกว่า”
…
ในห้องทำงานของท่านประธานเฉียวอินเตอร์แนชันนัลกรุป เซียวจิ่งลืมตาขึ้นอย่างง่วงงุน เพราะได้ยินเสียงใครคนหนึ่งเรียกชื่อเขา เมื่อเห็นใบหน้าอาห้าปรากฏตรงหน้าเขาก็ถอนหายใจ เม้มริมฝีปากแล้วถามว่า “นายจัดการได้หรือยัง”
อาห้าพยักหน้า ส่งคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปให้เซียวจิ่ง “ได้แล้วครับ ผมจัดการเรียบร้อยแล้ว และได้วิดีโอจากกล้องวงจรปิดใกล้ๆ บริเวณนั้นหมดแล้วครับ ตอนนี้เราคอยเฝ้าระวังถ้ามีคนอัปโหลดวิดีโอที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ทางอินเทอร์เน็ต เราจะลบทิ้งทันที คุณเซียวลองตรวจสอบดูสิครับ”
เซียวจิ่งหาว โบกมือให้อาห้า แล้วหลับตาลงอีกครั้ง “ไม่ต้อง ไม่จำเป็น ฉันเชื่อมั่นในความสามารถนาย” พูดจบเขาก็หันกลับมา ถามทั้งๆ ที่ยังหลับตา “ตอนนี้มีกี่บริษัทที่คิดจะสู้กับเฉียวกรุป”
อาห้าดูข้อมูลที่ผู้ช่วยส่งมาให้ และกล่าวอย่างใจเย็น “มีบริษัทสิบห้าแห่งที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับหงคุน แอบรวมตัวกันอย่างลับๆ เพราะพวกเขาเป็นเป้าโจมตีอย่างหนักในมรสุมครั้งนี้ พวกเขาวางแผนจะกู้เงินจากธนาคาร และสู้กับเฉียวกรุปสุดชีวิต”
เซียวจิ่งตอบรับในลำคอ หาวอีกครั้ง แล้วกล่าวโดยไม่ลืมตา “ทำตามที่นายเห็นสมควร ไม่ต้องรายงานอะไรฉันอีกในเรื่องนี้ จนกว่าจำนวนบริษัทจะเพิ่มขึ้นถึงยี่สิบห้าบริษัท แต่ยังไงก็ตาม ขายหุ้นบริษัทพวกนี้ที่เราซื้อไว้…ในราคาต่ำ”
อาห้าเข้าใจความหมายในสิ่งที่เซียวจิ่งพูดทันที เขายิ้ม กล่าวว่า “ผมเข้าใจแล้วครับ” ก่อนจะหันหลังจากไป แต่เดินไปได้สองก้าวเขาก็หันกลับไปมองเซียวจิ่ง และกล่าวด้วยรอยยิ้ม “คุณเซียวครับ คุณนี่เหมาะที่จะนั่งในห้องนี้มากกว่านายน้อยของเราเสียอีก คุณไม่สนใจเรื่องอื่นเลย คิดถึงแต่เรื่องการพัฒนาเฉียวกรุป”
เซียวจิ่งซึ่งกำลังนอนอยู่บนโซฟา ลืมตาขึ้นมองอาห้าทันที ดวงตาเขาหรี่แคบลง “นายหมายความว่านายน้อยของนาย ไม่เคยคิดพัฒนาเฉียวกรุปอย่างนั้นหรือ”
อาห้าส่ายศีรษะ “ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นครับ แต่จุดประสงค์ของนายน้อยมีเพียงแค่ทำลายคนที่เกลียดเขา” อาห้ากล่าวด้วยรอยยิ้ม “นายน้อยเคยบอกว่าเขาอาจเพิกเฉยต่อคนที่เกลียดเขาได้ แต่ถ้าคนพวกนั้นคิดจะทำอะไรเขา เขาจะทำลายคนพวกนั้น ก่อนที่คนพวกนั้นจะได้เริ่มแผนการ”
เซียวจิ่งเลิกคิ้ว “ฉันไม่ได้คิดเหมือนเขาหรอกเหรอ คนพวกนั้นต้องการทำลายเฉียวกรุป เพราะฉะนั้นฉันจะทำลายพวกมัน ก่อนที่พวกมันจะมีโอกาสทำอะไรพวกเรา”
“ไม่เหมือนครับ” อาห้ามองหน้าเซียวจิ่งแล้วกล่าวว่า “คุณแตกต่าง นายน้อยถึงได้คิดว่าคุณเหมาะสมที่จะบริหารจัดการเฉียวกรุปมากกว่าเขา นั่นคือสาเหตุที่เขาขอให้คุณสั่งการในภารกิจห้ำหั่นกับศัตรูครั้งนี้แทนเขา”
เซียวจิ่งขมวดคิ้ว อาห้ายิ้ม “ผมต้องไปก่อน แล้วเจอกันครับ”
แม้เซียวจิ่งจะสับสนกับคำพูดของอาห้า แต่เขาไม่อยากคิดอะไรอีกต่อไปแล้ว เขานอนลงบนโซฟาและพึมพำก่อนจะหลับไปอีกครั้ง “เฉียวเหลียงขอให้ฉันทำงานในหน้าที่ของเขา ไม่ใช่เพราะเขาชื่นชมความสามารถของฉันหรอก แต่เป็นเพราะเขาขี้เกียจ”
ขณะที่ดวงตากำลังจะปิด เขาทำปากยื่น พยายามทำจิตใจให้ผ่อนคลาย “ไม่ว่ายังไงก็ตาม ฉันถือหุ้นเฉียวจำนวนมาก จะมานั่งเฉยๆ ดูบริษัทอื่นฉกเงินฉันไปง่ายๆ ไม่ได้หรอก!”
ทันใดนั้นก็มีคนมาเคาะประตู เซียวจิ่งต้องตื่นขึ้นจากการนอนหลับอีกครั้ง สีหน้าเขาขมวดบึ้งด้วยความโกรธ เขาลุกขึ้นนั่ง น้ำเสียงเขาเย็นชาขณะกล่าวว่า “เข้ามา”
อันเห่ากวาดตามองเข้าไปในห้องทำงาน แล้วรีบเดินเข้าไปเมื่อเห็นเซียวจิ่งนั่งอยู่ที่โซฟา เธอยืนตัวตรงและกล่าวด้วยความเคารพ “ท่านประธานเซียวคะ ผู้อำนวยการวิเวียน มาขอพบคุณคะ”
เซียวจิ่งตอบรับในลำคอและพยักหน้าอย่างไร้อารมณ์ “ให้เธอเข้ามา”
วิเวียนเข้ามาในห้องทำงาน ยิ้มให้เซียวจิ่งแล้วถามเบาๆ ว่า “ท่านประธานเซียวยุ่งอยู่หรือเปล่าคะ”
ดูเหมือนว่าท่านประธานเซียวจะรับหน้าที่บริหารจัดการบริษัทไปแล้ว เธอคิด ตอนนี้เขาย้ายมาทำงานที่ห้องทำงานท่านประธานแล้ว
เซียวจิ่งเลิกคิ้วมองวิเวียน “ว่ายังไง”
วิเวียนยิ้ม กล่าวอย่างลังเล “ดิฉันมีบางอย่างจะถามค่ะ แต่ถ้าคุณไม่ว่างดิฉันกลับมาถามทีหลังก็ได้…”
เซียวจิ่งกวักมือเรียกวิเวียนให้มานั่งลง “บอกผมมาว่ามีเรื่องอะไร”
วิเวียนนั่งลงบนโซฟาหนังสีดำ เซียวจิ่งบอกให้อันเห่าชงกาแฟมาให้เขากับวิเวียน พร้อมกับพูดติดตลกว่า “ตอนนี้ในแผนกเลขานุการมีแต่ชายหนุ่ม มีแค่อันเห่าคนเดียวเท่านั้นที่เป็นหญิงสาว เหมือนกับพล็อตละครยอดนิยมไม่มีผิด”
เซียวจิ่งเลิกคิ้วหลิ่วตาให้วิเวียน ซึ่งก็พยายามตอบสนองด้วยการสร้างบรรยากาศให้มีชีวิตชีวาไปด้วย “อ้อ เหรอคะ”
วิเวียนยิ้มเงอะงะ ขยายความว่า “กลุ่มชายหนุ่มผู้เก่งกาจ อยู่รายล้อมซินเดอเรลลา”
เซียวจิ่งเลิกคิ้ว ถามยิ้มๆ ว่า “และตามพล็อต ชายหนุ่มในห้องนี้คือคนที่ซินเดอเรลลารักอย่างแท้จริง ใช่ไหม และผมก็จะขอซินเดอเรลลาคนนี้แต่งงาน อย่างนั้นหรือเปล่า”
รอยยิ้มบนใบหน้าวิเวียนนิ่งขึงทันที เธอรีบกล่าวขอโทษ “ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ ดิฉันขอโทษ ดิฉันไม่ควรพูดแบบนั้น”
เซียวจิ่งยักไหล่ เอนพิงโซฟามองวิเวียน และถามอีกครั้งว่า “มีอะไรหรือ”
วิเวียนลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวว่า “เอ้อ ท่านประธานเซียว จำได้ไหมคะว่าเราได้จ้างนักออกแบบพิเศษมาเมื่อไม่นานนี้ นักออกแบบที่มีฝีมือชื่อฉินซินหยิ่ง เธอตกลงว่าจะออกแบบเสื้อผ้าห้าชุดให้เราสำหรับงานแฟชั่นวีกครั้งนี้ แต่เธอได้รับอุบัติเหตุบาดเจ็บที่มือ หลังจากออกแบบได้เพียงชุดเดียว เธอคุ้นเคยกับการสเก็ตช์ด้วยมือ เธอจึงไม่สามารถทำงานต่อให้เสร็จได้ ตอนนี้เรายังต้องการเสื้อผ้าอีกสี่ชุด สำหรับการแสดงชุดโอร์กูตูร์ค่ะ”
“มือเธอบาดเจ็บเหรอ” เซียวจิ่งเลิกคิ้วมองหน้าวิเวียน ดวงตาเขาเปล่งประกายเยือกเย็น “เป็นข้อแก้ตัวหรือเปล่า เธอไม่มีงานออกแบบอื่นๆ สำรองไว้เลยเหรอ”
วิเวียนส่ายศีรษะ “ดูเหมือนอาการบาดเจ็บที่มือของเธอจะค่อนข้างร้ายแรงค่ะ เธอบอกว่ากระดูกแขนเธอร้าว ต้องใส่เฝือกไปอีกหลายเดือน เราจะให้นักออกแบบคนอื่นมาออกแบบเสื้อผ้าสำหรับงานแฟชั่นวีกแทนเธอไหมคะ”
“ผมไม่มีปัญหาอะไร แล้วแต่คุณ” แล้วจู่ๆ เซียวจิ่งก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เขาลุกขึ้น “โทรหานักออกแบบพิเศษคนนั้น แล้วคุณพาเธอไปโรงพยาบาล”
วิเวียนมองเซียวจิ่งด้วยความตกใจ “อะไรนะคะ ท่านประธานเซียว”